ฮาร์วีย์ ยอร์ก หรี่ตาเล็กน้อยในขณะที่มองไปที่ไอเดน บาวเออร์ซึ่งยังคงอ้อนวอนไม่ยอมหยุดเขาไม่คิดว่าลูกเศรษฐีจอมเสเพลคนนี้จะสามารถวางแผนสร้างสรรค์เช่นนี้ได้‘ความคิดนี้ไม่เลวเลย ฉันจะสามารถจัดการกับทุกสิ่งได้ในคราวเดียวด้วยสิ่งนี้’'ฉันจะจัดการพวกระดับสูงก่อน ถ้าฉันจัดการกับพวกเขาได้ก่อน ลูกน้องของพวกเขาจะต้องเชื่อฟังฉันเป็นธรรมดา'“นายน้อยบาวเออร์ นั่นเป็นความคิดที่ดีทีเดียว”ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ และจ้องไปที่ไอเดน“แต่นายพูดเองว่านายจะฆ่าล้างตระกูลฉัน นายคิดว่าฉันจะเชื่อใจนายจริง ๆ เหรอ?”ไอเดนกระโจนไปข้างหน้าและกอดขาของฮาร์วีย์เอาไว้ จากนั้นพูดพร้อมกับร้องไห้ว่า “หัวหน้าสาขายอร์ก ทุกสิ่งก่อนหน้านี้มันเป็นความผิดของผม! ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร! ผมไม่กล้าสร้างปัญหาให้คุณอีกแล้ว! ผมคงไม่กล้าจะคิดแค้นคุณเหมือนกัน!“ได้โปรดให้โอกาสผม!”“ผมยินดีเป็นขี้ข้าของคุณ! ไม่ ไม่ ไม่สิ ฉันจะยอมเป็นหมาของคุณด้วยซ้ำ!“ผมจะกัดใครก็ตามที่คุณสั่ง! ผมสัญญาว่าผมจะเชื่อฟังคุณยิ่งกว่าราเชลเป็นร้อยเท่า ไม่สิ เชื่อฟังมากกว่าพันเท่า!”ในขณะนี้ ไอเดนไม่มีท่าทีที่ไร้ยางอายและดื้อรั้นเหมือนเมื่อก
ในขั้นต้นฮาร์วีย์วางแผนที่จะให้ราเชลฆ่าไอเดนเพื่อเป็นการซื้อความไว้ใจแต่ไม่คิดเลยว่าไอเดนยังมีสมองและวิสัยทัศน์เช่นนี้ถึงกระนั้นไอเดนก็พูดถูกแม้ว่าราเชลจะยอมจำนนต่อฮาร์วีย์โดยสิ้นเชิง แต่การตายของโอลิเวอร์ก็ยังคงเป็นหนามยอกอกระหว่างเขากับเธอในสถานการณ์ปกติ เธออาจจะไม่ทำอะไร แต่เธออาจสูญเสียการควบคุมในช่วงเวลาวิกฤตทางออกที่ดีที่สุดคือการมีคนคอยประกบเธออีกหนึ่งคน ตัวอย่างเช่นไอเดน บาวเออร์ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะสามารถตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันได้แถมราเชลเกือบถูกไอเดนข่มขืน ฮาร์วีย์เชื่ออย่างแน่วแน่ว่าทั้งสองคนไม่มีวันร่วมมือกันได้"น่าสนใจ"รอยยิ้มที่มีความหมายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮาร์วีย์ขณะที่เขานึกถึงสิ่งนี้เขาหยิบเม็ดยาออกมาจากร่างกายและโยนลงบนพื้นอย่างไม่ตั้งใจ และพูดอย่างเฉยเมยว่า “ฉันจะให้โอกาสนายเป็นลูกน้องของฉัน”“ฉันจะสนับสนุนนายในฐานะหัวหน้าตระกูลบาวเออร์ นายจะจัดการกลุ่มไคเซ็นให้ฉันและช่วยฉันควบคุมอำนาจของพวกเขาในมอร์ดู”“แม้ว่าฉันหวังว่าอีกฝ่ายจะภักดีอย่างแท้จริงก็เถอะ”“ฉันได้รับยาเม็ดนี้จากซินเจียงตอนใต้ในช่วงไม่กี่ปีก่อน หลังจากกินเข้าไป หัวใจของนายจะถูก
ที่อยู่ผู้โทรของหมายเลขที่สวยงามนี้คือมอร์ดู เป็นจำนวนที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับมือได้ในตอนแรกฮาร์วีย์สันนิษฐานว่าผู้ที่โทรมาคือโยนาดังนั้นเขาจึงรอจนกระทั่งอีกฝ่ายโทรมาสองหรือสามครั้งก่อนที่จะรับโทรศัพท์ในที่สุดทันใดนั้น เสียงที่ร้อนรนก็ตะโกนมาจากอีกฟากหนึ่ง “คุณคือฮาร์วีย์ใช่ไหม?!”อีกฝ่ายไม่ใช่โยนา แต่จากน้ำเสียงของเธอ เธอน่าจะเป็นเด็กผู้หญิงอายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น“ผมเอง” ฮาร์วีย์พูดด้วยความสนใจอย่างมาก "คุณคือใคร?"อีกฝ่ายพูดตะกุกตะกัก “ฮาร์วีย์ เจ้าชายยอร์ก! คุณนี่มันบ้าบิ่นมาก ๆ เลย!“มอร์ดูไม่เหมือนบัควู๊ด คุณมาที่มอร์ดูเพื่อสนับสนุนพวกเราทุกคน แต่คุณไม่มีทางรู้ว่าคุณจะสะดุดล้มเมื่อไหร่หรอก!”หลังจากอีกฝ่ายพูดถากถางอีกสองสามที ในที่สุดเธอก็เปิดเผยว่า “ฉันเฮลีย์ สมิธ ลูกพี่ลูกน้องของอีวอนน์”ฮาร์วีย์ผงะไปครู่หนึ่ง เสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็โพล่งออกมา “เธอเป็นยังไงบ้าง? เธอสบายดีไหม? ผมอยากเจอเธอ!”เฮลีย์ เยาะเย้ยถากถาง “เธอสุขสบายดี แต่เธอกำลังอยู่ท่ามกลางสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่สะดวกที่จะติดต่อกับโลกภายนอก“หลังจากได้รับข้อความของคุณวันนี้ เธอขอให้ฉันโทรหา
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากตื่นนอน ฮาร์วีย์ก็แต่งตัวและมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารตะวันตกบนชั้นดาดฟ้าทันทีโรงแรมปรากเป็นสถานที่ที่เขาพัก แต่หากจะพูดกันตามตรงแล้ว ทิวทัศน์ของร้านอาหารตะวันตกที่เรียกได้ว่า “มีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ต” แห่งนี้ไม่ได้ดีเท่ากับห้องอาหารของห้องเพรสซิเดนเชียล สวีทที่เขาพักอยู่เป็นเวลาเกือบสิบโมงครึ่งในตอนที่เขาเข้าไปในร้านอาหารตะวันตกฮาร์วีย์มองไปรอบ ๆ ร้านและเห็นเฮลีย์นั่งอยู่กับเพื่อนของเธออย่างรวดเร็วแต่นี่ไม่ใช่เพราะฮาร์วีย์รู้จักเฮลีย์เฮลีย์และเพื่อนของเธอนั่งในจุดชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของร้านอาหารตะวันตกแห่งนี้ เมื่อรวมกับรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและรูปร่างที่น่าดึงดูดแล้ว ทั้งสองจึงกลายเป็นจุดสนใจของทั้งร้านได้อย่างง่ายดายผู้หญิงคนแรกสวมกระโปรงสั้นสีดำที่เผยให้เห็นขาอ่อนขาวเนียน เธอมีคางแหลมและใบหน้าเล็กสวยได้รูปใบหน้าของเธอค่อนข้างคล้ายกับอีวอนน์ เธอน่าจะเป็นเฮลีย์ สมิธส่วนอีกคนที่มากับเฮลีย์นั้น สวมชุดกี่เพ้าแบบสั้น เธอมีรูปลักษณ์ที่สวยงามแบบดั้งเดิม ชุดกี่เพ้าของเธอเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบแอนนา วินทัวร์ เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเฮล
ฮาร์วีย์ยังคงนิ่ง เขาหันไปหาเฮลีย์และพูดว่า “คุณคือลูกพี่ลูกน้องของอีวอนน์ คุณสมิธใช่ไหม?”"ใช่ ฉันเฮลีย์ สมิธ” เฮลีย์ขมวดคิ้ว “คุณคือฮาร์วีย์เหรอ?”เธอหวังว่าชายตรงหน้าจะไม่ใช่ฮาร์วีย์การพูดคุยกับผู้ชายแบบเขาน่าอายเกินไปสำหรับเธอ!'อีวอนน์ต้องเสียสติไปแล้วแหง เธอไปเป็นเลขาของผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร? เธอทำให้ตระกูลสมิธเสียเกียรติอย่างที่สุด!'“ใช่ ผมชื่อฮาร์วีย์”ฮาร์วีย์นั่งลง ไม่ใส่ใจกับรัศมีทมิฬที่เล็ดลอดออกมาจากหญิงสาวสองคนนี้และปฏิบัติต่อพวกเธอราวกับพวกเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ๆ“ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีวอนน์ ทำไมเธอถึงออกมาพบผมด้วยตัวเองไม่ได้?”"คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?" แอนนาหัวเราะเยาะ “ในแวดวงสังคมของเราอีวอนน์เปรียบดั่งเจ้าหญิง เธอไม่ใช่คนบ้านนอกอย่างที่คุณเข้าใจหรอกนะ!”“คุณควรรู้สึกเป็นเกียรติที่เรายินดีออกมาพบคุณ!”“เลิกทำตัวไร้ยางอายแบบนี้สักทีได้ไหม?!”“ไม่มีใครขอให้คุณมาที่นี่! คนบ้านนอกอย่างคุณมาทำอะไรในมอร์ดู?”“ที่นี่เป็นเมืองชั้นนำ มันไม่เหมือนเมืองเล็ก ๆ ที่คุณจากมาหรอกนะ!”“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอีวอนน์ถึงไปเป็นเลขาของคุณได้?”“เธอกำลังลองหา‘ประสบการณ์
แอนนาหัวเราะเยาะ “ถ้าไม่มีเงิน ก็ยอมรับมาเถอะ หยุดเล่นแง่ได้แล้ว!”“อย่าบอกนะว่าสั่งของถูก ๆ ราคาไม่กี่ดอลลาร์ แล้วบอกว่าเป็นเกี๊ยวจากวัดเฉิงหวง?”“เราเคยกินเกี๊ยวนั่นในงานเลี้ยงมาก่อน คุณอาจจะหลอกคนที่ไม่รู้จักเกี๊ยวนั่นมาก่อนได้ แต่จะมาหลอกเราได้ยังไง?”แอนนามองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย้ยหยัน ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนบ้านนอกโง่เง่าอีกด้วย!เขาไม่มีอะไรเลย แต่ก็ยังอวดอ้างว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นเขาคิดอะไรอยู่?เฮลีย์ก็ดูเย้ยหยันเขาไม่ต่างกัน เธอไม่อยากเสวนากับฮาร์วีย์แล้วแค่นั่งตรงข้ามกับฮาร์วีย์ก็น่าอับอายพอแล้ว!ในทางกลับกัน ฮาร์วีย์จ้องมองที่สองสาวและกิริยาเจ้าเล่ห์แสนกลของพวกเธอ นึกอยากจะตบหน้าพวกเธอเพียงเท่านั้นเมื่อเขานึกถึงอีวอนน์ เขาก็ข่มความรำคาญและสงบสติอารมณ์ “มาเริ่มคุยเรื่องของเรากันเถอะ”“ตอนนี้อีวอนน์เป็นยังไงบ้าง?”“เธอถูกจำกัดเสรีภาพหรือเปล่า?”“การที่ผมไม่ได้พบเธอก็ไม่เป็นไร แต่เธอโทรหาผมด้วยตัวเองสักหน่อยไม่ได้เหรอ?”เฮลีย์โน้มตัวไปข้างหน้าและพูดอย่างไม่แยแสว่า “ลูกพี่ลูกน้องฉันสบายดี สบายดีมากด้วยว้ำ แต่คนอย่างคุณไม่ม
เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้เฮลีย์กล่าวว่า “ลูกพี่ลูกน้องอีวอนน์ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”“เธอแค่ไม่อยากเจอคุณ คุณฟังมาตั้งนานแล้วยังไม่เข้าใจที่ฉันพูดงั้นเหรอ?”“ฉันต้องพูดตรง ๆ กับคุณด้วยเหรอ?”“ยังไงก็เถอะ เธอสบายดี คุณกลับไปที่ที่คุณจากมาและอย่ามาที่นี่อีก แล้วทุกอย่างจะดีเอง!”“รับเงินแล้วออกไปซะ! ถ้านี่ยังไม่พอ ฉันจะให้มากกว่านี้!”บนใบหน้าของเฮลีย์ฉาบไปด้วยความจริงใจ แต่น้ำเสียงประชดประชันในคำพูดยังคงไม่ลดลงดวงตาของฮาร์วีย์เริ่มเย็นชา เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำ คุณจะบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีวอนน์และเธอมีปัญหาอะไร…”“หรือจะให้ผมจะไปตระกูลสมิธเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเอง?”“คุณ…” เมื่อเห็นว่าหลังจากที่เธอพูดจนปากเปียกปากแฉะแล้วฮาร์วีย์ยังคงมีท่าทีเช่นนี้ เฮลีย์ก็โกรธจัดจนกินอะไรไม่ลงแอนนาเย้ยหยันอีกครั้ง “คุณอยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของอีวอนน์เหรอ อยากจะไปเยี่ยมตระกูลสมิธ?”“คุณคู่ควรเหรอ?”“ถ้าได้คำตอบแล้วจะยังไงล่ะ?”“ลูกเขยแต่งเข้าบ้านอย่างคุณจะแก้ปัญหาของเธอได้หรือไง?”“คุณไปแก้ปัญหาของตัวเองก่อนเถอะ!”“รีบกลับบัควู้ดไปพร้อมกับเงินนี่ซะ ไม่ต้องอาย!”“ถ้าคุณต้องกา
นายน้อยยอร์ก?!เกี๊ยวซ่า?!ฝูงชนต่างผงะเล็กน้อยหลังจากได้ยินเช่นนั้น พวกเขาตกตะลึงทุกคนมองตามสาวสวยผมสั้นที่เข็นรถเข็นมาอย่างระมัดระวัง เธอหยิบหม้อนึ่งออกมาและวางไว้ตรงหน้าฮาร์วีย์ในหม้อนึ่งมีเกี๊ยวเพียงสี่ชิ้น แม้จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่พวกมันก็ส่งกลิ่นหอมที่ไม่อาจบรรยายได้ออกมาคนเคยได้กลิ่นมันจะรู้ในทันทีว่านี่คือเกี๊ยวซ่าในตำนาน!ปกติแล้วคนที่อยากจะกินจะต้องรอคิวอย่างน้อยสามถึงห้าปี!แม้ว่าพวกเขาจะมาจากตระกูลเศรษฐี พวกเขาก็ไม่สามารถกินมันได้ในทุกเมื่อที่ต้องการ!ความจริงที่ว่าชายคนนี้มีคนนำเกี๊ยวซ่ามามาพร้อมกับหม้อนึ่งเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายตัวตนของเขาได้แล้ว!ฮาร์วีย์ชำเลืองมองผู้หญิงที่เข็นรถเข็นมา เธอคือโยนาเขาเพิ่งส่งข้อความไปเมื่อคืนโดยไม่ได้คิดอะไร เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะนำเกี๊ยวซ่ามาให้เขาจริง ๆ“นี่! นายน้อยยอร์ก คุณไปเจอสาวรับจ้างคนนี้มาจากไหน!”“ดูเหมือนจริงมาก! แม้แต่เกี๊ยวซ่าก็ด้วย!”“คุณนี่น่าทึ่งจริง ๆ!”แอนนาเย้ยหยันอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่เพียงแต่คุณจะเสแสร้งเก่งเท่านั้น แต่คุณยังหานักแสดงล่วงหน้าไว้ด้วย!”"ฉันจะบอกคุณเอาไว้เลย ฉันรังเกียจคนจ