แอนนาหัวเราะเยาะ “ถ้าไม่มีเงิน ก็ยอมรับมาเถอะ หยุดเล่นแง่ได้แล้ว!”“อย่าบอกนะว่าสั่งของถูก ๆ ราคาไม่กี่ดอลลาร์ แล้วบอกว่าเป็นเกี๊ยวจากวัดเฉิงหวง?”“เราเคยกินเกี๊ยวนั่นในงานเลี้ยงมาก่อน คุณอาจจะหลอกคนที่ไม่รู้จักเกี๊ยวนั่นมาก่อนได้ แต่จะมาหลอกเราได้ยังไง?”แอนนามองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย้ยหยัน ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนบ้านนอกโง่เง่าอีกด้วย!เขาไม่มีอะไรเลย แต่ก็ยังอวดอ้างว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นเขาคิดอะไรอยู่?เฮลีย์ก็ดูเย้ยหยันเขาไม่ต่างกัน เธอไม่อยากเสวนากับฮาร์วีย์แล้วแค่นั่งตรงข้ามกับฮาร์วีย์ก็น่าอับอายพอแล้ว!ในทางกลับกัน ฮาร์วีย์จ้องมองที่สองสาวและกิริยาเจ้าเล่ห์แสนกลของพวกเธอ นึกอยากจะตบหน้าพวกเธอเพียงเท่านั้นเมื่อเขานึกถึงอีวอนน์ เขาก็ข่มความรำคาญและสงบสติอารมณ์ “มาเริ่มคุยเรื่องของเรากันเถอะ”“ตอนนี้อีวอนน์เป็นยังไงบ้าง?”“เธอถูกจำกัดเสรีภาพหรือเปล่า?”“การที่ผมไม่ได้พบเธอก็ไม่เป็นไร แต่เธอโทรหาผมด้วยตัวเองสักหน่อยไม่ได้เหรอ?”เฮลีย์โน้มตัวไปข้างหน้าและพูดอย่างไม่แยแสว่า “ลูกพี่ลูกน้องฉันสบายดี สบายดีมากด้วยว้ำ แต่คนอย่างคุณไม่ม
เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้เฮลีย์กล่าวว่า “ลูกพี่ลูกน้องอีวอนน์ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”“เธอแค่ไม่อยากเจอคุณ คุณฟังมาตั้งนานแล้วยังไม่เข้าใจที่ฉันพูดงั้นเหรอ?”“ฉันต้องพูดตรง ๆ กับคุณด้วยเหรอ?”“ยังไงก็เถอะ เธอสบายดี คุณกลับไปที่ที่คุณจากมาและอย่ามาที่นี่อีก แล้วทุกอย่างจะดีเอง!”“รับเงินแล้วออกไปซะ! ถ้านี่ยังไม่พอ ฉันจะให้มากกว่านี้!”บนใบหน้าของเฮลีย์ฉาบไปด้วยความจริงใจ แต่น้ำเสียงประชดประชันในคำพูดยังคงไม่ลดลงดวงตาของฮาร์วีย์เริ่มเย็นชา เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำ คุณจะบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีวอนน์และเธอมีปัญหาอะไร…”“หรือจะให้ผมจะไปตระกูลสมิธเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเอง?”“คุณ…” เมื่อเห็นว่าหลังจากที่เธอพูดจนปากเปียกปากแฉะแล้วฮาร์วีย์ยังคงมีท่าทีเช่นนี้ เฮลีย์ก็โกรธจัดจนกินอะไรไม่ลงแอนนาเย้ยหยันอีกครั้ง “คุณอยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของอีวอนน์เหรอ อยากจะไปเยี่ยมตระกูลสมิธ?”“คุณคู่ควรเหรอ?”“ถ้าได้คำตอบแล้วจะยังไงล่ะ?”“ลูกเขยแต่งเข้าบ้านอย่างคุณจะแก้ปัญหาของเธอได้หรือไง?”“คุณไปแก้ปัญหาของตัวเองก่อนเถอะ!”“รีบกลับบัควู้ดไปพร้อมกับเงินนี่ซะ ไม่ต้องอาย!”“ถ้าคุณต้องกา
นายน้อยยอร์ก?!เกี๊ยวซ่า?!ฝูงชนต่างผงะเล็กน้อยหลังจากได้ยินเช่นนั้น พวกเขาตกตะลึงทุกคนมองตามสาวสวยผมสั้นที่เข็นรถเข็นมาอย่างระมัดระวัง เธอหยิบหม้อนึ่งออกมาและวางไว้ตรงหน้าฮาร์วีย์ในหม้อนึ่งมีเกี๊ยวเพียงสี่ชิ้น แม้จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่พวกมันก็ส่งกลิ่นหอมที่ไม่อาจบรรยายได้ออกมาคนเคยได้กลิ่นมันจะรู้ในทันทีว่านี่คือเกี๊ยวซ่าในตำนาน!ปกติแล้วคนที่อยากจะกินจะต้องรอคิวอย่างน้อยสามถึงห้าปี!แม้ว่าพวกเขาจะมาจากตระกูลเศรษฐี พวกเขาก็ไม่สามารถกินมันได้ในทุกเมื่อที่ต้องการ!ความจริงที่ว่าชายคนนี้มีคนนำเกี๊ยวซ่ามามาพร้อมกับหม้อนึ่งเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายตัวตนของเขาได้แล้ว!ฮาร์วีย์ชำเลืองมองผู้หญิงที่เข็นรถเข็นมา เธอคือโยนาเขาเพิ่งส่งข้อความไปเมื่อคืนโดยไม่ได้คิดอะไร เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะนำเกี๊ยวซ่ามาให้เขาจริง ๆ“นี่! นายน้อยยอร์ก คุณไปเจอสาวรับจ้างคนนี้มาจากไหน!”“ดูเหมือนจริงมาก! แม้แต่เกี๊ยวซ่าก็ด้วย!”“คุณนี่น่าทึ่งจริง ๆ!”แอนนาเย้ยหยันอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่เพียงแต่คุณจะเสแสร้งเก่งเท่านั้น แต่คุณยังหานักแสดงล่วงหน้าไว้ด้วย!”"ฉันจะบอกคุณเอาไว้เลย ฉันรังเกียจคนจ
โยนาพยักหน้าเบา ๆ เป็นการทักทายทุกคน สายตาเฉยเมยของเธอจับจ้องไปที่เฮลีย์และแอนนา"ทำไม? ฉันดูเหมือนสาวรับจ้างงั้นสินะ?”เสียงของเธอไม่ได้ดังนัก แต่เฮลีย์และแอนนาก็ห่อเหี่ยวลงเพราะความกลัวในทันที พวกเธอเกือบจะทรุดลงไปกับพื้น“ม…ไม่ ไม่ ไม่...”“เราต่างหากที่เป็นอย่างนั้น! เราเอง!"เฮลีย์ตอบด้วยสีหน้าลำบากใจแอนนาตัวสั่น “คุณลินช์ มันเป็นความผิดของเราเอง เราทำให้คุณไม่พอใจ ได้โปรดยกโทษให้เราด้วย!”โยนาเสมองเธอผ่าน ๆ และไม่สนใจเธอ จากนั้นก็หันกลับมาและวางตะเกียบให้ฮาร์วีย์ เธอยิ้มและพูดว่า “นายน้อยยอร์ก เกี๊ยวซ่าเหล่านี้เข้ากันได้ดีที่สุดกับถั่วเหลืองจากเซาท์เทิร์น ซิตี้ ฉันเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ”“ลองดูนะคะว่าคุณชอบมันรึเปล่า หากไม่ถูกปาก เราจะเปลี่ยนให้”หลังจากนั้นโยนาก็จัดการรินนมถั่วเหลืองให้ฮาร์วีย์อย่างยำเกรง"นี่มัน…"ดวงตาของทุกคนกระตุกเมื่อเห็นภาพที่ปรากฎต่อหน้าพวกเขาในตอนนี้โยนาไม่เคยเป็นแบบนี้ ทว่าตอนนี้เธอกลับกำลังรับใช้ไอ้บ้านนอกนี่ด้วยความเคารพอย่างสูง นี่มัน…คนบ้านนอกนี่มีอะไรดี? แม้แต่คนอย่างคุณลินช์ยังต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเช่นนี้?!“นี่ เป็นไปไม่
หลังจากที่ฮาร์วีย์ส่งสัญญาณออกไป หญิงสาวผู้หยิ่งยโสทั้งสองก็จากไปอย่างรวดเร็วความกดดันที่ฮาร์วีย์มอบให้พวกเธอเป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการ พวกเธอต้องแยกแยะก่อนที่จะส่งต่อคำพูดของเขาไปให้อีวอนน์เฮลีย์ตัดสินใจว่าจะไม่รายงานเรื่องในวันนี้ให้ตระกูลสมิธทราบ เธอต้องเก็บมันเป็นความลับเพื่อที่จะได้เป็นเพื่อนกับฮาร์วีย์ ด้วยวิธีนี้เธอจะมีโอกาสที่จะใช้ฮาร์วีย์เพื่อเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นในอนาคตในชั่วพริบตา เธอก็คิดหาวิธีให้ฮาร์วีย์และอีวอนน์มาพบกันได้หลายวิธีแล้วหลังจากที่หญิงสาวสองคนออกไปแล้ว โยนาก็ส่งสัญญาณออกไปบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งรีบเก็บของในร้านอาหารมีคนนำกล่องไม้มาให้โยนาและฮาร์วีย์ ข้างในกล่องมีดาบยาววางอยู่เมื่อเห็นดวงตาที่งงงวยของฮาร์วีย์ โยนาก็ยิ้มและพูดขึ้น “ดาบเล่มนี้เป็นของขวัญสำหรับผู้พิทักษ์ เป็นวัตถุโบราณที่มีอายุหลายร้อยปีแล้ว พ่อบุญธรรมของฉันครอบครองมันมาหลายปีแล้ว กรุณายอมรับมัน ไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความยกย่องของเรา”“ก็ได้ ขอบคุณ”ฮาร์วีย์รับมันในทันที ดาบยาวเล่มนี้บอบบางกว่าเล่มที่เขาเคยพกมาก่อนเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงดึงดูดความสนใจของฮาร์วีย์ตั้งแต่แรกเห็นเขาวา
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับภรรยาของเบนจามินโยนาไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เธอจากไปหลังจากขอโทษฮาร์วีย์แล้วหลังจากคิดเรื่องนี้ ฮาร์วีย์ตัดสินใจติดตามเธอไปดูสถานการณ์อย่างไรเสียเขาก็ได้รับของขวัญที่น่าประทับใจจากพวกเขาถึงสองชิ้น และสถานการณ์ก่อนหน้านี้ของเบนจามินเองก็เกี่ยวข้องกับองเมียวจิจากประเทศหมู่เกาะด้วยเขาสงสัยว่าอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกันเกิดขึ้นกับภรรยาของเบนจามินโยนาไม่คัดค้านที่ฮาร์วีย์เต็มใจช่วย สำหรับเธอแล้วฮาร์วีย์เองก็เป็นคนที่มีอำนาจทุกอย่างอยู่ในมืออยู่แล้วหนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขามาก็ถึงคฤหาสน์ที่ภูเขาเพอร์ดูคฤหาสน์หลังนี้มีภูเขาและทะเลเป็นฉากหลัง ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม แค่ได้มองผู้คนก็จะรู้สึกสบายใจและสดชื่นขึ้นมาแล้ว“คฤหาสน์หลังนี้เป็นที่อยู่ของเจ้าชายองค์ก่อนซึ่งมีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี”“พ่อบุญธรรมและแม่บุญธรรมชอบความสงบ พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่มาถึงมอร์ดู”“ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานทูตของประเทศหมู่เกาะ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ หากในอนาคตคุณสนใจและพอมีเวลา ฉันจะเล่าเรื่องบางอย่างให้คุณฟัง”ดวงตาของฮาร์วีย์เป็นประกายแวบหนึ่ง “สถานทูตของประเทศหมู่
ฮาร์วีย์ไม่พูดอะไรอีก เขาหรี่ตาลงและสำรวจดูทั้งคฤหาสน์แทนตามการนำทางของโยนา ฮาร์วีย์และผู้ติดตามก็มาถึงด้านหน้าโถงของคฤหาสน์มีรถซีดาน เอช 9 ป้ายทะเบียนมอร์ดู 00001 จอดอยู่ที่ด้านหน้าห้องโถง ซึ่งเพียงพอที่จะอธิบายตัวตนของเบนจามินได้แล้วฮาร์วีย์เดาออกมานานแล้ว แต่หลังจากยืนยันตัวตนของเบนจามิน เขาก็ยังโอดครวญเรื่องที่โลกใบนี้ช่างเล็กเหลือเกินโยนาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นรถคันดังกล่าว “พ่อบุญธรรมกลับมาแล้วเช่นกัน”“ตอนแรกเขาไปที่โวลซิ่ง แต่ดูเหมือนว่าหลังจากได้รับข่าวเขาก็รีบกลับมาโดยเร็วที่สุด”ฮาร์วีย์พยักหน้าไม่พูดอะไรสถานที่นี้ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา มีผู้คุมกันที่พกกระสุนจริงแยู่หลายคน และมีหลายคนที่เป็นส่วนหนึ่งของราชาแห่งอาวุธจากกองทัพด้วยตัวตนและสถานะพิเศษของเบนจามินในมอร์ดู และในประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่นี้ ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย“สงสัยจังว่ามีคนของกองกำลังการ์ดมังกรแฝงตัวอยู่ด้วยหรือเปล่า?”ฮาร์วีย์พึมพำมีองค์กรใต้ดินที่เป็นทางการสามองค์กรในประเทศ H อันยิ่งใหญ่ได้แก่กองกำลังการ์ดมังกร หลงเหมินและหน่วยมังกรลับจากทั้งสามองค์กรณ์ หน้าที่ของกองกำลังการ์ดมังกรคื
เบนจามินยิ้มอย่างเสียไม่ได้กับท่าทีของโยนา จากนั้นเขาก็มองไปที่ทิโมธีและพูดว่า “คุณก็เหมือนกัน โยนาเป็นห่วงแม่บุญธรรมของเธอ และบังเอิญเสียงดังไปหน่อยก็เท่านั้น ทำไมคุณถึงต้องเข้มงวดกับเธอขนาดนี้?”เปลือกตาของทิโมธีกระตุก จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูดว่า “ผมผิดเอง พี่เขย”“งั้นคืนนี้ผมจะชวนโยนาไปดินเนอร์เพื่อไถ่โทษกับเธอดีไหม?”โยนาปฏิเสธอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็น”“คืนนี้ฉันจะทานอาหารเย็นกับนายน้อยยอร์ก”“นายน้อยยอร์ก?” ทิโมธีจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์หลังจากที่โยนาพูดจบ ประกายประหลาดฉายวับในดวงตาของเขาครู่หนึ่งก่อนที่ทิโมธีจะทันพูดอะไร โยนามองไปที่เบนจามินแล้วพูดว่า “คุณพ่อ วันนี้ฉันบังเอิญเจอนายน้อยยอร์ก ฉันเลยพาเขามาที่นี่เพื่อดูสถานการณ์ของเรา”“นายน้อยยอร์กเคยช่วยเราแก้ปัญหามาก่อนแล้ว ฉันจึงคิดว่าเขาน่าจะมีทางออก”เบนจามินพยักหน้าให้ฮาร์วีย์ เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “นายน้อยยอร์ก คุณช่างใจดีเหลือเกิน”เขายังคงรู้สึกขอบคุณที่ฮาร์วีย์ช่วยชีวิตเขาไว้ฮาร์วีย์ยิ้มตอบ “คุณพูดเกินไป นายท่านลินช์ ผมเพิ่งบังเอิญเจอโยนาพอดี ถึงกระนั้นผมก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก”"ช่วยเหรอ?! เพ่ย