“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ของตระกูลซิมเมอร์ในเมืองนิอัมมี่ ที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยแสงไฟมากมายคืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดอายุครบเจ็ดสิบปีของผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ ภายในงานเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติมากหน้าหลายตา ลูกๆ หลานๆ ทุกคนมอบของขวัญให้กับเขาและอวยพรท่านอย่างพร้อมเพรียงว่า “พวกเราขออวยพรให้คุณปู่มีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาวนะคะ/ครับ” ท่านซิมเมอร์ก็เผยใบหน้าที่มีเลือดฝาดเหมือนกลีบกุหลาบและดูมีพลังขึ้นมาขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมเอ่ยขึ้นมาว่า “ดีจัง พวกเธอช่างเป็นคนที่นอบน้อมเสียจริงๆ ปู่รู้สึกมีความสุขมากๆ ดังนั้นวันนี้ปู่จะยอมให้ในสิ่งที่พวกเธออยากได้ทีละคนเลย! แค่บอกมาว่าพวกเธออยากได้อะไร” “คุณปู่คะ หนูอยากได้อพาร์ทเมนต์ใกล้ทะเลค่ะ มันไม่แพงเลย แค่ล้านดอลลาร์กว่าเท่านั้นเอง…” “คุณปู่คะ หนูอยากได้กระเป๋าชาแนลรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นค่ะ…” “คุณปู่ครับ ผมอยากได้รถสปอร์ต BMW …” “คุณปู่ครับ ผมอยากได้นาฬิกาโรเล็กซ์…” “...” "โอเคๆ ปู่จะให้ทุกอย่างที่พวกเธอขอมา!” ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ให้สัญญากับพวกเขาโดยไม่มีความลังเลใดๆ เด็กหนุ่มและเด็กสาว เมื่อได้ในสิ่งที่ต
"เป็นข้อความจากคนของตระกูลยอร์ก" ฮาร์วี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยตระกูลยอร์กเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเซาธ์ไลท์ ในตอนแรกนั้นฮาร์วี่ย์เป็นทายาทที่ถูกต้องโดยชอบธรรมแต่เมื่อสามปีก่อน มีคนในครอบครัวกล่าวหาเขาอย่างผิดๆ และใส่ร้ายเขาว่ายักยอกเงินของ บริษัท ดังนั้นเขาจึงถูกตัดออกไปจากตระกูลทันทีคนในตระกูลยอร์กทั้งหมดจึงลงความเห็นเหมือนกันและฮาร์วีย์ก็ถูกปฏิเสธทันที นอกจากนี้พ่อแม่ของเขายังถูกส่งไปต่างประเทศทันที ซึ่งตัวเขาเองนั้นก็ไม่เคยได้พบพวกท่านอีกเลยเมื่อเขาออกจากตระกูลยอร์กเมื่อสามปีก่อน เขาไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่สตางค์เดียว มรสุมชีวิตครั้งใหญ่นี้ทำให้เขาบอบช้ำและป่วยหนัก โชคดีที่คุณย่าใหญ่ของตระกูลซิมเมอร์ใจดีพอที่จะพาเขาเข้าไปอยู่ชายคาเดียวกันในคฤหาสน์ซิมเมอร์ เธอยอมให้เขาได้เป็นหลานเขยของเธอด้วยซ้ำ นั่นทำให้เขาจึงไม่ต้องตายอย่างน่าอนาถอย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะแต่งงานกับแมนดี้มาสามปีแล้ว แต่ทั้งคู่แต่งงานกันในนามเท่านั้นไม่ใช่ใช้ชีวิตเฉกเฉ่นสามีภรรยากันจริงๆหากคนในตระกูลซิมเมอร์ไม่พยายามปกป้องชื่อเสียงของพวกเขาแล้วละก็ ฮาร์วีย์อาจไม่มีที่ซุกหัวนอนไปแล้วก็ได้ตอนนี้เป็นเวลา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฮาร์วี่ย์ก็มาถึงบริษัทของแมนดี้ แต่เขากลับไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ในขณะที่เขากำลังจะเดินผ่านประตูเข้าไป รปภ. คนหนึ่งก็หยุดเขาด้วยกระบองเอาไว้ มันทำให้เขารู้สึกมึนงง ทันใดนั้น รปภ. คนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ออกไปซะ! เราไม่อนุญาตให้คนขอทานเข้าไปในบริษัทได้”ฮาร์วี่ย์ที่เพิ่งตื่นนอนและเขายังไม่ได้อาบน้ำอาบท่า นอกจากนี้เขายังสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่มีรอยปะ ซึ่งดูแล้วเขาเหมือนขอทานข้างถนนซะจริงๆนั่นแหละอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ก็เคยชินกับเรื่องแบบนั้นไปเสียแล้ว เขายิ้มและพูดว่า “คุณครับ ผมเอาเอกสารมาส่งให้กับภรรยาของผมครับ” “คุณมองไปรอบๆสิ มีภรรยาของคุณหรือเปล่า? รปภ. รู้สึกสงสัย “หรือจะเป็น ซาร่า แม่บ้านทำความสะอาดละ หรือจะเป็นผู้หญิงที่ทำความสะอาดอยู่ในครัวข้างหลัง ลิลลี่หรือเปล่า? “ภรรยาของผมชื่อแมนดี้ครับ” ฮาร์วี่ย์บอกออกไป รปภ. ตกตะลึงในทันที แต่ในไม่ช้าเขาก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน "ผมเข้าใจแล้วละ คุณเป็นลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์งั้นหรอ” แต่เขาไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ฮาร์วี่ย์ส่ายหัวไปมา มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยเนื่องด้วยว่าเขามีชื่อเสียงมาก "เอาเถอะ
"คำอธิบาย? ทำไมฉันต้องให้คำอธิบายกับนาย” ฮาร์วี่ย์กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “อย่างแรกแมนดี้เป็นภรรยาของฉัน โปรดอยู่ให้ห่างจากเธอด้วย ถ้าอยากสร้างภาพก็ไปทำที่อื่น!” “อย่างที่สองถ้าภรรยาของฉันชอบดอกกุหลาบล่ะก็ ฉันจะเป็นคนที่จะซื้อให้เธอเอง! เธอสวยสง่างดงามมาก ของธรรมดาและราคาถูกแบบนี้นะหรอจะเหมาะสมกับเธอ? คืนนี้ฉันจะส่งดอกกุหลาบจากปรากให้เธอเอง!” “อะไรวะเนี่ย! นี่แกเป็นคนปัญญาอ่อนหรือโง่กันแน่เนี่ย? กุหลาบหนึ่งดอกสั่งตรงจากปรากมันมีราคามากกว่าหนึ่งพันดอลลาร์ ฉันได้ยินมาว่าแกกำลังขอสกู๊ตเตอร์จากผู้อาวุโสซิมเมอร์เมื่อวานนี้เองไม่ใช่เหรอ แกนี่มันพวกไม่ได้เรื่องอะไรเลยจริงๆ ถึงแกจะขายไตออกไปข้างหนึ่งมันยังซื้อดอกกุหลาบนั้นไม่ได้แม้สักดอกเดียวด้วยซ้ำ ทำไมแกยังกล้ามาทำอะไรโง่ๆที่นี่?” ดอนดูเย็นชา เขาเป็นคนที่มีสิทธิพิเศษใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เชียวนะ ‘ลูกเขยอย่างแกกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้?’มิหนำซ้ำ ยังมีอีกเรื่องที่ทำให้เขาเดือดดาลมากที่สุดคือฮาร์วี่ย์กล้าโยนดอกไม้เขาลงพื้นและยังลากแมนดี้เข้าไปในลิฟต์อีก ‘ไอ้เ*วนั่นมันต้องการจะทำอะไร’เมื่อนึกอะไรออกดอนก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ในทันที ดูเหมือนเ
“ครับท่าน ผมจะรีบรายงานให้ท่านประธานทราบทันที ท่าน…" “อย่าพยายามต่อรองกับฉัน ไม่งั้นฉันจะทำลาย ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้พินาศทั้งหมด!” ก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ฮาร์วี่ย์ก็ตัดสายไปทันที...ในอาณาเขตคฤหาสน์โกลด์โคสต์ คฤหาสน์ทุกหลังของที่นี่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะประเภทของกระเบื้องเซรามิกจนถึงประเภทของต้นไม้ พวกเขาได้คัดสรรมันมาอย่างดี มันไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะซื้อได้แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ตามในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์กำลังนั่งสบายๆ บนโซฟาที่ระเบียง ตรงข้ามเขาคือ โยนาธาน ยอร์ก ผู้บริหารคนปัจจุบันของธุรกิจทั้งหมดในเครือของตระกูลยอร์ก เขามีศักดิ์เป็นลุงของฮาร์วี่ย์และก็เป็นเขาเองที่ให้คนขับรถของเขาไปรับฮาร์วี่ย์มายังคฤหาสน์แห่งนี้ เมื่อมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ทำตัวสบายๆ โยนาธานยิ้มและพูดว่า “ฮาร์ฟ นี่เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยสินะ นายดูหล่อและกำยำมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ…” “คุณลุง เราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม วกไปวนมาหรอกครับ เข้าประเด็นกันเลยเถอะ บอกผมมาเถอะครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร คุณลุงต้องการให้ผมเข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดงั้นหรอครับ?” ฮาร์วี่ย์ถ