เบนจามินยิ้มอย่างเสียไม่ได้กับท่าทีของโยนา จากนั้นเขาก็มองไปที่ทิโมธีและพูดว่า “คุณก็เหมือนกัน โยนาเป็นห่วงแม่บุญธรรมของเธอ และบังเอิญเสียงดังไปหน่อยก็เท่านั้น ทำไมคุณถึงต้องเข้มงวดกับเธอขนาดนี้?”เปลือกตาของทิโมธีกระตุก จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูดว่า “ผมผิดเอง พี่เขย”“งั้นคืนนี้ผมจะชวนโยนาไปดินเนอร์เพื่อไถ่โทษกับเธอดีไหม?”โยนาปฏิเสธอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็น”“คืนนี้ฉันจะทานอาหารเย็นกับนายน้อยยอร์ก”“นายน้อยยอร์ก?” ทิโมธีจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์หลังจากที่โยนาพูดจบ ประกายประหลาดฉายวับในดวงตาของเขาครู่หนึ่งก่อนที่ทิโมธีจะทันพูดอะไร โยนามองไปที่เบนจามินแล้วพูดว่า “คุณพ่อ วันนี้ฉันบังเอิญเจอนายน้อยยอร์ก ฉันเลยพาเขามาที่นี่เพื่อดูสถานการณ์ของเรา”“นายน้อยยอร์กเคยช่วยเราแก้ปัญหามาก่อนแล้ว ฉันจึงคิดว่าเขาน่าจะมีทางออก”เบนจามินพยักหน้าให้ฮาร์วีย์ เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “นายน้อยยอร์ก คุณช่างใจดีเหลือเกิน”เขายังคงรู้สึกขอบคุณที่ฮาร์วีย์ช่วยชีวิตเขาไว้ฮาร์วีย์ยิ้มตอบ “คุณพูดเกินไป นายท่านลินช์ ผมเพิ่งบังเอิญเจอโยนาพอดี ถึงกระนั้นผมก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก”"ช่วยเหรอ?! เพ่ย
“ช่างไร้ยางอาย! คุณมันรนหาที่ตาย! คิดว่าคนบ้านนอกอย่างแกมีสิทธิ์มาสัมผัสมือพี่สาวฉันได้หรือ?!”ทิโมธีระเบิดความโกรธและตบเข้าที่มือของฮาร์วีย์ก่อนที่เขาจะตรวจสอบคุณนายลินช์อย่างละเอียดเบนจามินขมวดคิ้ว เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบอยู่อย่างนั้นในทางกลับกัน ท่านอาจารย์กระแอมเบา ๆ และพูดว่า “สหาย คุณนายลินช์ถูกสาป ผมเพิ่งกำจัดพลังชั่วร้ายในร่างกายของเธอไป แต่คุณดันสัมผัสเธออย่างกะทันหันเสียอย่างนั้น ผมรู้ว่าคุณมีเจตนาดีและต้องการดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ แต่ผมก็จนปัญญา หากพลังงานชั่วร้ายจากโลกภายนอกเข้าสู่ร่างกายของเธออีกครั้ง”ทุกคนชะงักกับคำพูดของท่านอาจารย์ฮาร์วีย์หันกลับมาและจ้องมองนักบวชจากภูเขาหลงหูด้วยสายตาที่หรี่ลง เขาถามอย่างใจเย็น “คุณคือท่านอาจารย์ซิกเลอร์จากภูเขาหลงหูใช่ไหม?”“คุณแน่ใจหรือว่าคุณนายลินช์ถูกสาปไม่ใช่ถูกวางยาพิษหรืออะไรทำนองนั้น?”ท่านอาจารย์ซิกเลอร์กอดอก ใบหน้าของเขาดูสูงส่งและทรงพลัง ในคำพูดของเขามีน้ำเสียงที่สงบและสง่างาม “ผมไล่สิ่งชั่วร้ายพวกนี้เป็นอาชีพ ผมจะเข้าใจผิดได้อย่างไร?”ฮาร์วีย์ไม่พูดอะไรและหัวเราะเบา ๆเมื
ท่านอาจารย์ซิกเลอร์นับนิ้วของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่“ไม่แปลกใจเลย นายท่านลินช์ ผมไม่รู้ว่าคฤหาสน์ของคุณเคยถูกใช้ทำอะไรหรือมีประวัติศาสตร์อะไรอยู่เบื้องหลัง…”“แต่ผมรู้สึกได้ว่ามีจิตวิญญาณที่ขุ่นเคืองอยู่ในพื้นที่แถบนี้ ต้องมีคนตายอยู่ที่นี่”“คุณนายลินช์เป็นผู้หญิง ร่างกายของเธออ่อนแอและเต็มไปด้วยพลังหยิน เธอต้องสัมผัสกับที่สิ่งสู่ของวิญญาณชั่วร้ายเข้าโดยบังเอิญ หรือไม่ก็เข้าใกล้มันมากเกินไป เป็นผลให้เธอต้องคำสาปและถูกผีสิง ”ท่านอาจารย์ซิกเลอร์พูดด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าเขารู้ทุกอย่างอย่างแท้จริง“อย่างนั้นเหรอ?”เบนจามินเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง“ถ้าอย่างนั้นท่านอาจารย์ซิกเลอร์พอมีวิธีไหนที่เราจะใช้กำจัดความชั่วร้ายนี้ไปได้หรือไม่?”"แน่นอน! กรุณารอสักครู่ นายท่านลินช์”ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ปิดตาของเขา ร่างกายของเขาเริ่มเซไปมาอย่างช้า ๆ และเขาสวดมนต์ลึกลับบางอย่างเขาเริ่มกวัดแกว่งดาบไม้ท้อของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ชี้ไปที่มุมเปลี่ยวที่สวนหลังบ้าน“นั่นไง นายท่านลินช์! ถ้าผมจำไม่ผิด ที่นั่นน่าจะมีบ่อน้ำที่แห้งเหือดถูกปิดตายอยู่ตรงนั้น”“มีกองกระดูกอยู
ยอมจำนนนซะ!เห็นได้ชัดว่าท่านอาจารย์ซิกเลอร์ บังคับให้ฮาร์วีย์ต้องยอมจำนนแม้ว่าเบนจามินจะนับถือฮาร์วีย์ แต่เขาก็เป็นห่วงภรรยามากกว่าอะไรเบนจามินได้แต่ถอนหายใจ“คุณยอร์ก คุณคงเห็นอาการของภรรยาผม เธอถูกสาปจริง ๆ”“เราจะปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของท่านอาจารย์ซิกเลอร์ ได้โปรดเห็นแก่ผมแล้วอย่าพูดอะไรอีก”“ได้ยินไหม?!”ทิโมธีเกลียดฮาร์วีย์ เขาทำตามคำพูดของเบนจามินอย่างรวดเร็วและจงใจโจมตีฮาร์วีย์ด้วยวาจา“ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้นที่จะรู้วิธีจัดการกับอภิปรัชญาและพยากรศาสตร์ คนนอกอย่างคุณก็เลิกยุ่งได้แล้ว! หากคุณไล่ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ออกไป คุณคงไม่อาจรับผลที่ตามมาได้!”ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น “แต่คุณนายลินช์ไม่ได้ถูกสาปเสียหน่อย ร่างกายของเธอตกอยู่ภายใต้คาถาอาคม”“การที่เธอนอนหลับสนิทได้นี้ไม่ได้เกิดจากความพยายามของท่านอาจารย์ซิกเลอร์เลย แต่เป็นเพราะคาถาเหล่านี้มีพลังมากที่สุดในตอนเย็น ใครก็ตามที่ทำสิ่งนี้มักจะสะสมพลังเพื่อใช้ในการลอบสังหารนายท่านลินช์ในตอนเย็นโดยใช้ภรรยาของเขา”“เมื่อถึงเวลานั้น คุณนายลินช์จะทรงพลังอย่างมากจนถึงจุดที่กระสุนก็ทำอะไรเธอไม่ได้”“ถ้ายังไม่ถอนคาถาเสีย
ฮาร์วีย์พยักหน้า จากนั้นก็หันกลับและจากไปโดยไม่พูดอะไรอีกเมื่อเห็นเขาออกไป โยนาก็รีบตามเขาไปทิโมธีมองเธอด้วยสีหน้าผิดหวังเขามีความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้กับโยนา เขาไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้โยนา โดยเฉพาะ ฮาร์วีย์...…ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลลินช์ ฮาร์วีย์เรียกรถแท็กซี่และกำลังจะจากไปโยนารีบวิ่งไปขอโทษเงียบ ๆ“ฉันขอโทษคุณยอร์ก พ่อบุญธรรมของฉันมัวแต่ห่วงพะวงเรื่องนี้ ฉันก็ไม่ค่อยเชื่อท่านอาจารย์ซิกเลอร์เหมือนกัน แต่ว่า…”"มีอีกอย่างหนึ่ง…"ฮาร์วีย์ส่ายหัวเพื่อห้ามไม่ให้โยนาขอโทษ “ท่านอาจารย์ซิกเลอร์อาจมีพรสวรรค์อยู่บ้าง แต่การร่ายมนตร์เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ผมไม่เข้าใจได้ว่าทำไมบางคนถึงทำสิ่งนี้ แต่ไม่ว่าผู้ร้ายจะเป็นใคร เขาหรือเธอคนนั้นวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ผมกำลังสงสัยว่าพวกเขากำลังมุ่งเป้าไปที่แม่บุญธรรมของคุณเพียงคนเดียว”“ผู้ร้ายคงจะใช้แม่บุญธรรมของคุณเพื่อฆ่าพ่อบุญธรรมของคุณ ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมโดยเร็วที่สุด”หลังจากนั้น ฮาร์วีย์ก็หันหลังกลับและเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลลินช์ไปเมื่อเห็นว่าแม้ทุกอย่างจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ แต่ฮาร์วีย์ก็ยังคงกังวลเรื่องเบนจ
ฮาร์วีย์มองดูทิโมธีอย่างใจเย็น ไม่กระวนกระวายแม้แต่น้อย “ผมไม่สู้กับคุณแค่เพราะผู้หญิงคนเดียวหรอก”ทิโมธีเย้ยหยันใส่ฮาร์วีย์ด้วยความภาคภูมิใจกับคำพูดของอีกฝ่าย เขาคิดว่าคำพูดของฮาร์วีย์เป็นสัญญาณของการยอมจำนน และตอนนี้ฮาร์วีย์ก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้วแน่นอน ทว่าก่อนที่เขาจะได้ตอบโต้ ฮาร์วีย์ก็พูดต่อ“คุณไม่มีสิทธิ์มาต่อสู้กับผม และคุณก็ไม่คู่ควรด้วย”“ผมม่คู่ควร?!”ทิโมธีตัวแข็งทื่อ วินาทีต่อมา เขาก็คำรามด้วยเสียงหัวเราะที่ดูถูกดูแคลน“ฮาร์วีย์ ยอร์ก คุณคิดว่ายิ่งใหญ่มากนักหรือ?”“คุณคิดว่าการหลอกพี่เขยของผมให้ชอบคุณได้ จะทำให้คุณได้รับอำนาจบางอย่างที่นี่งั้นสิ? คุณคิดว่าคุณจะดูถูกผมเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?”“ใช่ พี่เขยของผมชอบคุณ เขายังอนุญาตให้โยนามาดูแลคุณด้วยซ้ำ แต่หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้คุณคิดว่าคุณจะยังมีค่าในสายตาของเขาอยู่อีกหรือ?”“ผมจะบอกให้เอาบุญ! ถึงผมะหักแขนหักขาของคุณจนหมด เขาก็ไม่สนใจด้วยซ้ำ!”“สำหรับผม คุณมันก็แค่ขยะโสโครกที่มาเกาะตระกูลลินช์ก็เท่านั้น!”ขณะที่เขาพูด ทิโมธีก็พ่นควันออกมา ความเย่อหยิ่งถูกเขียนทั่วใบหน้าทิโมธีก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแ
เสียงดังตูมดังตามมาทิโมธีถูกส่งตัวให้ลอยขึ้นไป ก่อนร่วงใส่รถคันหนึ่งที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ไฟหน้าของรถแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในขณะที่ร่างของเขากระแทกเข้ากับรถหน้าผากของทิโมธีมีเลือดไหลออกมา ซิการ์ที่เขากำลังคีบอยู่ระหว่างนิ้วตกลงบนพื้นจี่!ฮาร์วีย์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาหยิบซิการ์ขึ้นมาจากพื้น แล้วกดมันลงบนหน้าผากที่มีเลือดไหลของทิโมธี“อ๊ากกกกกกก!”ทิโมธีกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงของเขาดังราวกับหมูถูกเชือดซิการ์นั้นร้อนมาก อาจร้อนได้ถึงสองร้อยองศา ถ้าทิโมธีไม่กรีดร้อง เขาคงไม่ใช่มนุษย์ร่างของทิโมธีกระตุกด้วยความทรมาน เขาเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว พยายามขยับออกห่างจากปลายซิการ์สีแดงสดแต่ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้น ฮาร์วีย์ก็ยัดซิการ์เข้าไปในปากของเขาทันทีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของทิโมธีดังกว่าที่เคยฝูงชนทั้งหมดตกตะลึงพลึงเพลิดทุกคนตกตะลึง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะกล้าทรมานทิโมธีถึงขนาดนี้ผู้ติดตามของทิโมธีตกอยู่ในภวังค์ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนที่กล้าปฏิบัติต่อทิโมธีเช่นนี้ในมอร์ดูแม้แต่พวกบ้าไร้ยางอายจากโลกใต้ดินก็ยังจากไปด้วยความยำเกรงหลัง
ทิโมธีไม่ใช่เจ้าชายหรือแม้แต่นายท่านที่ไหน แต่พี่สาวของเขาใจดีกับเขาเกินไปและทำให้เขาเสียนิสัยนั่นเป็นเหตุผลที่เขากล้าใช้ชื่อของเบนจามินโอ้อวดอำนาจของเขาไปทุกที่และทุกอย่างที่เขาต้องการอย่างโจ่งแจ้ง เขาอยากจะทำให้โยนาเป็นของเขาด้วยซ้ำเมื่อคนนอกพยายามที่จะปรากฏตัวในมอร์ดู ทิโมธีจะไม่ปรานีพวกเขาและบดขยี้พวกเขาทุกคนเมื่อไม่นานมานี้ นายน้อยผู้เย่อหยิ่งจากตระกูลร่ำรวยในโวลซิ่งต้องการต่อกรกับทิโมธีเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แต่พวกเขาล้วนจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างอัปยศทิโมธีเป็นใคร?เขาไม่จำเป็นต้องกลัวใคร!ถึงกระนั้น คนบ้านนอกตัวเหม็นฉึ่งกลับเตะเขาลงไปกองกับพื้นและทุบตีเขาอีกด้วยทิโมธีเดือดดาลด้วยความโกรธไอ้บ้านนอกนี่ทำร้ายเขาอย่างหนักโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเอ่ยปากอย่างหยิ่งยโสว่าทิโมธีได้รับอนุญาตให้โทรหาใครก็ตามที่เป็นเพื่อนของเขาทิโมธีโกรธมาก เขามองข้ามความเจ็บปวดในร่างกายของเขาเขาและผู้ติดตามรีบโทรศัพท์ในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ก็เริ่มเล่นโทรศัพท์รออย่างไม่ไยดีเขาไม่คิดจะโทรหาใคร เขาจึงยืนรออยู่อย่างไม่สนใจโลกท่าทางสาบย ๆ ของเขาทำให้ทิโมธียิ่งโกรธมากยิ่ง