ที่อยู่ผู้โทรของหมายเลขที่สวยงามนี้คือมอร์ดู เป็นจำนวนที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับมือได้ในตอนแรกฮาร์วีย์สันนิษฐานว่าผู้ที่โทรมาคือโยนาดังนั้นเขาจึงรอจนกระทั่งอีกฝ่ายโทรมาสองหรือสามครั้งก่อนที่จะรับโทรศัพท์ในที่สุดทันใดนั้น เสียงที่ร้อนรนก็ตะโกนมาจากอีกฟากหนึ่ง “คุณคือฮาร์วีย์ใช่ไหม?!”อีกฝ่ายไม่ใช่โยนา แต่จากน้ำเสียงของเธอ เธอน่าจะเป็นเด็กผู้หญิงอายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น“ผมเอง” ฮาร์วีย์พูดด้วยความสนใจอย่างมาก "คุณคือใคร?"อีกฝ่ายพูดตะกุกตะกัก “ฮาร์วีย์ เจ้าชายยอร์ก! คุณนี่มันบ้าบิ่นมาก ๆ เลย!“มอร์ดูไม่เหมือนบัควู๊ด คุณมาที่มอร์ดูเพื่อสนับสนุนพวกเราทุกคน แต่คุณไม่มีทางรู้ว่าคุณจะสะดุดล้มเมื่อไหร่หรอก!”หลังจากอีกฝ่ายพูดถากถางอีกสองสามที ในที่สุดเธอก็เปิดเผยว่า “ฉันเฮลีย์ สมิธ ลูกพี่ลูกน้องของอีวอนน์”ฮาร์วีย์ผงะไปครู่หนึ่ง เสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็โพล่งออกมา “เธอเป็นยังไงบ้าง? เธอสบายดีไหม? ผมอยากเจอเธอ!”เฮลีย์ เยาะเย้ยถากถาง “เธอสุขสบายดี แต่เธอกำลังอยู่ท่ามกลางสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่สะดวกที่จะติดต่อกับโลกภายนอก“หลังจากได้รับข้อความของคุณวันนี้ เธอขอให้ฉันโทรหา
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากตื่นนอน ฮาร์วีย์ก็แต่งตัวและมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารตะวันตกบนชั้นดาดฟ้าทันทีโรงแรมปรากเป็นสถานที่ที่เขาพัก แต่หากจะพูดกันตามตรงแล้ว ทิวทัศน์ของร้านอาหารตะวันตกที่เรียกได้ว่า “มีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ต” แห่งนี้ไม่ได้ดีเท่ากับห้องอาหารของห้องเพรสซิเดนเชียล สวีทที่เขาพักอยู่เป็นเวลาเกือบสิบโมงครึ่งในตอนที่เขาเข้าไปในร้านอาหารตะวันตกฮาร์วีย์มองไปรอบ ๆ ร้านและเห็นเฮลีย์นั่งอยู่กับเพื่อนของเธออย่างรวดเร็วแต่นี่ไม่ใช่เพราะฮาร์วีย์รู้จักเฮลีย์เฮลีย์และเพื่อนของเธอนั่งในจุดชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของร้านอาหารตะวันตกแห่งนี้ เมื่อรวมกับรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและรูปร่างที่น่าดึงดูดแล้ว ทั้งสองจึงกลายเป็นจุดสนใจของทั้งร้านได้อย่างง่ายดายผู้หญิงคนแรกสวมกระโปรงสั้นสีดำที่เผยให้เห็นขาอ่อนขาวเนียน เธอมีคางแหลมและใบหน้าเล็กสวยได้รูปใบหน้าของเธอค่อนข้างคล้ายกับอีวอนน์ เธอน่าจะเป็นเฮลีย์ สมิธส่วนอีกคนที่มากับเฮลีย์นั้น สวมชุดกี่เพ้าแบบสั้น เธอมีรูปลักษณ์ที่สวยงามแบบดั้งเดิม ชุดกี่เพ้าของเธอเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบแอนนา วินทัวร์ เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเฮล
ฮาร์วีย์ยังคงนิ่ง เขาหันไปหาเฮลีย์และพูดว่า “คุณคือลูกพี่ลูกน้องของอีวอนน์ คุณสมิธใช่ไหม?”"ใช่ ฉันเฮลีย์ สมิธ” เฮลีย์ขมวดคิ้ว “คุณคือฮาร์วีย์เหรอ?”เธอหวังว่าชายตรงหน้าจะไม่ใช่ฮาร์วีย์การพูดคุยกับผู้ชายแบบเขาน่าอายเกินไปสำหรับเธอ!'อีวอนน์ต้องเสียสติไปแล้วแหง เธอไปเป็นเลขาของผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร? เธอทำให้ตระกูลสมิธเสียเกียรติอย่างที่สุด!'“ใช่ ผมชื่อฮาร์วีย์”ฮาร์วีย์นั่งลง ไม่ใส่ใจกับรัศมีทมิฬที่เล็ดลอดออกมาจากหญิงสาวสองคนนี้และปฏิบัติต่อพวกเธอราวกับพวกเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ๆ“ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีวอนน์ ทำไมเธอถึงออกมาพบผมด้วยตัวเองไม่ได้?”"คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?" แอนนาหัวเราะเยาะ “ในแวดวงสังคมของเราอีวอนน์เปรียบดั่งเจ้าหญิง เธอไม่ใช่คนบ้านนอกอย่างที่คุณเข้าใจหรอกนะ!”“คุณควรรู้สึกเป็นเกียรติที่เรายินดีออกมาพบคุณ!”“เลิกทำตัวไร้ยางอายแบบนี้สักทีได้ไหม?!”“ไม่มีใครขอให้คุณมาที่นี่! คนบ้านนอกอย่างคุณมาทำอะไรในมอร์ดู?”“ที่นี่เป็นเมืองชั้นนำ มันไม่เหมือนเมืองเล็ก ๆ ที่คุณจากมาหรอกนะ!”“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอีวอนน์ถึงไปเป็นเลขาของคุณได้?”“เธอกำลังลองหา‘ประสบการณ์
แอนนาหัวเราะเยาะ “ถ้าไม่มีเงิน ก็ยอมรับมาเถอะ หยุดเล่นแง่ได้แล้ว!”“อย่าบอกนะว่าสั่งของถูก ๆ ราคาไม่กี่ดอลลาร์ แล้วบอกว่าเป็นเกี๊ยวจากวัดเฉิงหวง?”“เราเคยกินเกี๊ยวนั่นในงานเลี้ยงมาก่อน คุณอาจจะหลอกคนที่ไม่รู้จักเกี๊ยวนั่นมาก่อนได้ แต่จะมาหลอกเราได้ยังไง?”แอนนามองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย้ยหยัน ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนบ้านนอกโง่เง่าอีกด้วย!เขาไม่มีอะไรเลย แต่ก็ยังอวดอ้างว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นเขาคิดอะไรอยู่?เฮลีย์ก็ดูเย้ยหยันเขาไม่ต่างกัน เธอไม่อยากเสวนากับฮาร์วีย์แล้วแค่นั่งตรงข้ามกับฮาร์วีย์ก็น่าอับอายพอแล้ว!ในทางกลับกัน ฮาร์วีย์จ้องมองที่สองสาวและกิริยาเจ้าเล่ห์แสนกลของพวกเธอ นึกอยากจะตบหน้าพวกเธอเพียงเท่านั้นเมื่อเขานึกถึงอีวอนน์ เขาก็ข่มความรำคาญและสงบสติอารมณ์ “มาเริ่มคุยเรื่องของเรากันเถอะ”“ตอนนี้อีวอนน์เป็นยังไงบ้าง?”“เธอถูกจำกัดเสรีภาพหรือเปล่า?”“การที่ผมไม่ได้พบเธอก็ไม่เป็นไร แต่เธอโทรหาผมด้วยตัวเองสักหน่อยไม่ได้เหรอ?”เฮลีย์โน้มตัวไปข้างหน้าและพูดอย่างไม่แยแสว่า “ลูกพี่ลูกน้องฉันสบายดี สบายดีมากด้วยว้ำ แต่คนอย่างคุณไม่ม
เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้เฮลีย์กล่าวว่า “ลูกพี่ลูกน้องอีวอนน์ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”“เธอแค่ไม่อยากเจอคุณ คุณฟังมาตั้งนานแล้วยังไม่เข้าใจที่ฉันพูดงั้นเหรอ?”“ฉันต้องพูดตรง ๆ กับคุณด้วยเหรอ?”“ยังไงก็เถอะ เธอสบายดี คุณกลับไปที่ที่คุณจากมาและอย่ามาที่นี่อีก แล้วทุกอย่างจะดีเอง!”“รับเงินแล้วออกไปซะ! ถ้านี่ยังไม่พอ ฉันจะให้มากกว่านี้!”บนใบหน้าของเฮลีย์ฉาบไปด้วยความจริงใจ แต่น้ำเสียงประชดประชันในคำพูดยังคงไม่ลดลงดวงตาของฮาร์วีย์เริ่มเย็นชา เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำ คุณจะบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีวอนน์และเธอมีปัญหาอะไร…”“หรือจะให้ผมจะไปตระกูลสมิธเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเอง?”“คุณ…” เมื่อเห็นว่าหลังจากที่เธอพูดจนปากเปียกปากแฉะแล้วฮาร์วีย์ยังคงมีท่าทีเช่นนี้ เฮลีย์ก็โกรธจัดจนกินอะไรไม่ลงแอนนาเย้ยหยันอีกครั้ง “คุณอยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของอีวอนน์เหรอ อยากจะไปเยี่ยมตระกูลสมิธ?”“คุณคู่ควรเหรอ?”“ถ้าได้คำตอบแล้วจะยังไงล่ะ?”“ลูกเขยแต่งเข้าบ้านอย่างคุณจะแก้ปัญหาของเธอได้หรือไง?”“คุณไปแก้ปัญหาของตัวเองก่อนเถอะ!”“รีบกลับบัควู้ดไปพร้อมกับเงินนี่ซะ ไม่ต้องอาย!”“ถ้าคุณต้องกา
นายน้อยยอร์ก?!เกี๊ยวซ่า?!ฝูงชนต่างผงะเล็กน้อยหลังจากได้ยินเช่นนั้น พวกเขาตกตะลึงทุกคนมองตามสาวสวยผมสั้นที่เข็นรถเข็นมาอย่างระมัดระวัง เธอหยิบหม้อนึ่งออกมาและวางไว้ตรงหน้าฮาร์วีย์ในหม้อนึ่งมีเกี๊ยวเพียงสี่ชิ้น แม้จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่พวกมันก็ส่งกลิ่นหอมที่ไม่อาจบรรยายได้ออกมาคนเคยได้กลิ่นมันจะรู้ในทันทีว่านี่คือเกี๊ยวซ่าในตำนาน!ปกติแล้วคนที่อยากจะกินจะต้องรอคิวอย่างน้อยสามถึงห้าปี!แม้ว่าพวกเขาจะมาจากตระกูลเศรษฐี พวกเขาก็ไม่สามารถกินมันได้ในทุกเมื่อที่ต้องการ!ความจริงที่ว่าชายคนนี้มีคนนำเกี๊ยวซ่ามามาพร้อมกับหม้อนึ่งเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายตัวตนของเขาได้แล้ว!ฮาร์วีย์ชำเลืองมองผู้หญิงที่เข็นรถเข็นมา เธอคือโยนาเขาเพิ่งส่งข้อความไปเมื่อคืนโดยไม่ได้คิดอะไร เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะนำเกี๊ยวซ่ามาให้เขาจริง ๆ“นี่! นายน้อยยอร์ก คุณไปเจอสาวรับจ้างคนนี้มาจากไหน!”“ดูเหมือนจริงมาก! แม้แต่เกี๊ยวซ่าก็ด้วย!”“คุณนี่น่าทึ่งจริง ๆ!”แอนนาเย้ยหยันอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่เพียงแต่คุณจะเสแสร้งเก่งเท่านั้น แต่คุณยังหานักแสดงล่วงหน้าไว้ด้วย!”"ฉันจะบอกคุณเอาไว้เลย ฉันรังเกียจคนจ
โยนาพยักหน้าเบา ๆ เป็นการทักทายทุกคน สายตาเฉยเมยของเธอจับจ้องไปที่เฮลีย์และแอนนา"ทำไม? ฉันดูเหมือนสาวรับจ้างงั้นสินะ?”เสียงของเธอไม่ได้ดังนัก แต่เฮลีย์และแอนนาก็ห่อเหี่ยวลงเพราะความกลัวในทันที พวกเธอเกือบจะทรุดลงไปกับพื้น“ม…ไม่ ไม่ ไม่...”“เราต่างหากที่เป็นอย่างนั้น! เราเอง!"เฮลีย์ตอบด้วยสีหน้าลำบากใจแอนนาตัวสั่น “คุณลินช์ มันเป็นความผิดของเราเอง เราทำให้คุณไม่พอใจ ได้โปรดยกโทษให้เราด้วย!”โยนาเสมองเธอผ่าน ๆ และไม่สนใจเธอ จากนั้นก็หันกลับมาและวางตะเกียบให้ฮาร์วีย์ เธอยิ้มและพูดว่า “นายน้อยยอร์ก เกี๊ยวซ่าเหล่านี้เข้ากันได้ดีที่สุดกับถั่วเหลืองจากเซาท์เทิร์น ซิตี้ ฉันเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ”“ลองดูนะคะว่าคุณชอบมันรึเปล่า หากไม่ถูกปาก เราจะเปลี่ยนให้”หลังจากนั้นโยนาก็จัดการรินนมถั่วเหลืองให้ฮาร์วีย์อย่างยำเกรง"นี่มัน…"ดวงตาของทุกคนกระตุกเมื่อเห็นภาพที่ปรากฎต่อหน้าพวกเขาในตอนนี้โยนาไม่เคยเป็นแบบนี้ ทว่าตอนนี้เธอกลับกำลังรับใช้ไอ้บ้านนอกนี่ด้วยความเคารพอย่างสูง นี่มัน…คนบ้านนอกนี่มีอะไรดี? แม้แต่คนอย่างคุณลินช์ยังต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเช่นนี้?!“นี่ เป็นไปไม่
หลังจากที่ฮาร์วีย์ส่งสัญญาณออกไป หญิงสาวผู้หยิ่งยโสทั้งสองก็จากไปอย่างรวดเร็วความกดดันที่ฮาร์วีย์มอบให้พวกเธอเป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการ พวกเธอต้องแยกแยะก่อนที่จะส่งต่อคำพูดของเขาไปให้อีวอนน์เฮลีย์ตัดสินใจว่าจะไม่รายงานเรื่องในวันนี้ให้ตระกูลสมิธทราบ เธอต้องเก็บมันเป็นความลับเพื่อที่จะได้เป็นเพื่อนกับฮาร์วีย์ ด้วยวิธีนี้เธอจะมีโอกาสที่จะใช้ฮาร์วีย์เพื่อเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นในอนาคตในชั่วพริบตา เธอก็คิดหาวิธีให้ฮาร์วีย์และอีวอนน์มาพบกันได้หลายวิธีแล้วหลังจากที่หญิงสาวสองคนออกไปแล้ว โยนาก็ส่งสัญญาณออกไปบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งรีบเก็บของในร้านอาหารมีคนนำกล่องไม้มาให้โยนาและฮาร์วีย์ ข้างในกล่องมีดาบยาววางอยู่เมื่อเห็นดวงตาที่งงงวยของฮาร์วีย์ โยนาก็ยิ้มและพูดขึ้น “ดาบเล่มนี้เป็นของขวัญสำหรับผู้พิทักษ์ เป็นวัตถุโบราณที่มีอายุหลายร้อยปีแล้ว พ่อบุญธรรมของฉันครอบครองมันมาหลายปีแล้ว กรุณายอมรับมัน ไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความยกย่องของเรา”“ก็ได้ ขอบคุณ”ฮาร์วีย์รับมันในทันที ดาบยาวเล่มนี้บอบบางกว่าเล่มที่เขาเคยพกมาก่อนเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงดึงดูดความสนใจของฮาร์วีย์ตั้งแต่แรกเห็นเขาวา