'เพล้ง!'ฮาร์วีย์กระทืบตราที่คล้ายจะทำจากหยก ก่อนขยี้มันด้วยเท้าของเขาจนแหลกเป็นผุยผง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดเบา ๆ ว่า “เธอมีสิทธิ์อะไรมาสู้กับฉัน?”“โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ น่ะเหรอ?”ความโกรธของมาวิสปะทุขึ้นเมื่อเธอเห็นว่าฮาร์วีย์กล้าที่จะทำลายตราส่วนตัวของเธอ ใบหน้าของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“นายมันเลี้ยงไม่เชื่อง ฮาร์วีย์! นายคงอยากตายมากสินะ!”มาวิสดึงมีดพร้าออกมาจากเอวของเธอในขณะที่เธอพูดจบ เธอขยับตัวกระโจนเข้าหาฮาร์วีย์เธอเร็วมาก ใบมีดของเธอสั่นไหวอย่างอันตรายจัสตินร้อง “หัวหน้าสาขา ระวัง!”'เพี๊ยะ!'เสียงท่าอากาศดังฟังชัดขณะที่ฮาร์วีย์ตบหน้ามาวิส รอยฝ่ามือน่าเกลียดสลักบนใบหน้างดงามได้รูปของเธอ เธอถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศและกระแทกเข้ากับโต๊ะไวน์โต๊ะพังทันทีที่ร่างของเธอหล่นใส่ อาหารและไวน์ที่อยู่บนนั้นกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง มันทำให้เสื้อผ้าสีขาวของมาวิสเปรอะเปื้อน สายตาของเธอดูผิดหวังมาวิสเองทั้งดูตกใจและหวาดกลัว มีหยดเลือดไหลออกจากมุมปากของเธอทุกคนในฝูงชนอ้าปากค้าง พากันสับสนสาวกของหลงเหมินต่างก็มองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อย ๆสิ่ง
มาวิสรู้สึกเศร้าโศกอย่างมากเธอเป็นคนหาเรื่องฮาร์วีย์อย่างดุดัน เธออยากให้เขาหักแขนขาตัวเองและลากเขากลับไปเพื่อต้องการคำอธิบายจากเขาด้วยซ้ำแต่ก่อนที่เธอจะทันได้แตะชายเสื้อของฮาร์วีย์ เขาก็เล่นงานเธอและเตะเธอไปรอบ ๆ ราวกับตุ๊กตาไร้ชีวิตไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่ไม่เชื่อ จูปิเตอร์ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดอย่างยิ่ง ทั้งยังแฝงไปด้วยความหวาดกลัวที่เพิ่มมากขึ้นความแข็งแกร่งของมาวิสไม่อาจเทียบได้กับเขา แต่เธอก็ยังถือเป็นยอดฝีมือแต่ในขณะที่เผชิญหน้ากับฮาร์วีย์ทำไมเธอถึงดูอ่อนแอ?“นายเป็นปรมาจารย์ของทหารชั้นสูงงั้นเหรอ!”จูปิเตอร์เงียบต่อไปไม่ไหว เขาก้าวไปข้างหน้าและจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ใบหน้าของเขาดูบูดบึ้งตามข้อมูลที่จูปิเตอร์ได้รับจากเฮกเตอร์ ฮาร์วีย์นั้นถือว่าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่ทักษะของเขาน่าจะอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะผลประโยชน์อย่างงาม จูปิเตอร์คงไม่รับงานนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งขนาดนี้!ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับสูงของกองทหารชั้นสูงสมาชิกของกองบังคับคดีคนอื่น ๆ ที่ติดตามจูปิเตอร์มาแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดได้เป็นปรมาจ
สมาชิกกองบังคับคดีทุกคนตื่นเต้นเมื่อเห็นอาวุธดังกล่าวมาวิสส่งยิ้มชั่วร้ายไปยังฮาร์วีย์ “ฮาร์วีย์ นายเสร็จแน่! เสร็จแน่!“อาวุธนี้เป็นตัวแทนของเจตจำนงอันแน่วแน่ของนายท่านหัวหน้ากองบังคับคดีของหลงเหมิน!“ถ้านายกล้าต่อต้าน สมาชิกหลงเหมินหลายล้านคนจะตามล่านาย!”ฮาร์วีย์อาจทรงพลัง แต่จูปิเตอร์ได้มาถึงระดับของเทพแห่งสงครามแล้วยิ่งกว่านั้น อาวุธนี้ยังเป็นตัวแทนของเจตจำนงอันแน่วแน่ของหัวหน้ากองบังคับคดีด้วย เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว ฮาร์วีย์ยังจะกล้าต่อต้านอีกหรือ?ถ้าเขาทำเช่นนั้น เขาจะต้องพบกับความตายอย่างแน่นอนใบหน้าของจัสตินดูน่าเกลียดมาก เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “หัวหน้าสาขา อาวุธนั่นน่าจะเป็นของจริง ต่อให้เป็นคุณก็เถอะ คุณก็ยังต้องคุกเข่าต่อหน้ามัน”แต่ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นว่า “ซามูเอล บาวเออร์ยังไม่ดีพอที่จะให้ผมคุกเข่าต่อหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วไอ้อาวุธบ้านี่จะทำอะไรผมได้”"นี่คุณพูดเล่นหรือเปล่า?"จัสตินอึ้งไปชั่วขณะ ความตกใจอย่างไม่น่าเชื่อถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของเขาเขาเคยเผชิญหน้ากับฮาร์วีย์มาก่อน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้ได้อย่างแจ่มชัดว่าหัวหน้าสาขาหนุ่มคนนี้ไม่เค
แต่ฮาร์วีย์พูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ไม่จำเป็นหรอก“คืนนี้พวกเขามาหาฉัน“แค่ดูให้สนุกก็พอ”“ฮาร์วีย์ ถึงขนาดนี้ที่ยังทำตัวอวดดีได้อีกเหรอ? นายคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์ที่มีทักษะอย่างนั้นสินะ?!“ในความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ตายในเงื้อมมือของเทพแห่งสงครามในวันนี้!”เมื่อจูปิเตอร์พูดจบ เขาก็พุ่งไปข้างหน้า เขาเหวี่ยงอาวุธในมือออกไปและมันเริ่มเคลื่อนไปทุกทิศทุกทาง ซึ่งนั่นสร้างความหวาดกลัวให้กับฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่ในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงโหยหวนดังมาจากอาวุธดังกล่าวราวกับวิญญาณของคนที่ตายเพราะมันกำลังร้องโหยหวนฝูงชนตกใจกลัว สมาชิกของหลงเหมินรู้สึกหวาดกลัวอย่างหนัก เนื่องจากพวกเขานึกไปถึงข่าวลือทุกประเภทเกี่ยวกับอาวุธนี้พวกเขากลัวอย่างไร้สติหลังจากนั้นพวกเขามองไปที่ฮาร์วีย์ทันที เขากำลังยืนนิ่งดูราวกับว่าพลังชีวิตของเขาถูกปัดเป่าโดยผ้าขี้ริ้วใบหน้าของราเชลและไอเดนเปลี่ยนไปทันที พวกเขาต้องการก้าวไปข้างหน้าและช่วยเหลือฮาร์วีย์ แต่กลับตระหนักได้ว่ามีบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังกดทับพวกเขาเอาไว้สมาชิกคนอื่น ๆ ของหลงเหมินก็รู้สึกเช่นเดียวกันและพบว่าพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ราวกับว่าพวกเ
จูปิเตอร์คิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะฮาร์วีย์ได้อย่างง่ายดายหากเขาพยายามมากพออย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้อาวุโสในหน่วยงานการบังคับใช้กฎหมายของหลงเหมิน เขามีความมั่นใจและความแข็งแกร่งพอที่จะทำเช่นนั้นเพี๊ยะ! เพีย๊ะ!อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและตบจูปิเตอร์อีกครั้ง“ถ้าฉันจะตบนาย แล้วจะทำไม?”จูปิเตอร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“แก…!” เขาตะโกนลั่นและใกล้จะระเบิดด้วยความโกรธ“ทำไม? ไม่พอใจเหรอ? คิดว่าฉันเล่นทีเผลอเหรอ?”ฮาร์วีย์ยกมือขึ้นอย่างเย้ยหยันพลางยิ้มบาง ๆ ให้จูปิเตอร์“มา! ฉันจะให้โอกาสนาย ไหนดูสิว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว!”ตาของจูปิเตอร์กระตุกอย่างรุนแรงหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์วินาทีต่อมาเขาก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา“ฉันจะทำให้แกได้เห็นว่าฉันไม่ใช่คนที่แกจะกลั่นแกล้งได้ง่าย ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”เขาพุ่งไปข้างหน้า ไม้ในมือของเขาเปล่งแสงสีเขียวที่น่าขนลุกทันใดนั้นเงาประหลาดสีเขียวก็พุ่งเข้าหาฮาร์วีย์ มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัว“หัวหน้าสาขา! ระวัง!” ราเชลตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณปัง!ก่อนที่ไม้จะทันได้โดนตัวฮาร์วีย์ เขาก็ส่งลูกเตะเข้าท้องของจูปิเต
“ฆ่าฉันสิ! ถ้าแน่จริงก็ฆ่าฉันเลย!”จูปิเตอร์ตะโกนลั่นอย่างน่าสมเพชหลังจากที่รู้ว่าตัวเองพิการสำหรับคนอย่างเขา นี่เป็นชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ฆ่านายหรอก” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นและไร้กังวล“วันนี้เป็นวันสำคัญของฉัน ถ้าฉันฆ่าคนของตัวเอง ฉันก็จะดูแย่สิ“แม้นายจะรอดตาย แต่นายจะไม่อาจหนีรอดจากบาปของนาย”ฮาร์วีย์ตบมือแล้วหันกลับไปสั่งลูกน้องของเขา“หักแขนขาพวกเขาทุกคน”ไอเดนก้าวออกมาอย่างเชื่อฟัง ริมฝีปากของเขามีรอยยิ้มที่น่ากลัวและสยดสยองในขณะที่เขาเดินไปหาสาวกผู้บังคับใช้กฎหมายที่เหลือเขาถนัดเตะคนที่ล้มไปแล้วมากที่สุด ราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อที่จะทำสิ่งนั้น“อย่า! ได้โปรด!”มาวิสกลัวจนเสียสติ ความกล้าที่เธอมีเมื่อก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง“ฮ-ฮาร์วีย์! หัวหน้าสาขายอร์ก ฉันแค่มาส่งข้อความให้อาจารย์ของฉัน!“อาจารย์ของฉันเป็นนายใหญ่ของกองบังคับคดีของหลงเหมิน! คุณไม่อยากรู้เหรอว่าคำสั่งของเขาคืออะไร?!”ฮาร์วีย์หันกลับไป“ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย” ฮาร์วีย์พูดอย่างตรงไปตรงมามาวิสคลำไปรอบ ๆ และหยิบจดหมายออกมา เธอรีบฉีกมันออกแล้วอ่านออกเสียง“อาจารย์ข
“มีใครมีคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ในวันนี้ไหม? ผมพร้อมรับฟังทุกอย่าง” ฮาร์วีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งไอเดนและราเชลสบตากันแต่ไม่ได้พูดอะไรพวกเขาเป็นรุ่นน้องในหลงเหมิน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับผู้ดูแลหลงเหมิน แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่สามารถคิดอะไรที่มันเหมาะสมได้จัสตินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดเบา ๆ ว่า “มีอยู่สองอย่างที่เราสามารถทำได้ หัวหน้าสาขา“หนึ่ง คุณจะต้องไปฟลัตเวลล์และขออภัยจากกลุ่มผู้อาวุโส ดูจากความภาคภูมิใจของพวกเขาแล้ว พวกเขาจะต้องปล่อยคุณไปตราบใดที่คุณยอมพวกเขา”ฮาร์วีย์พยักหน้าโดยไม่ขัดจังหวะจัสตินก่อนที่จะส่งสัญญาณให้เขาพูดต่อ“สอง คุณจะต้องทำให้นายใหญ่ของหลงเหมินมาช่วยหนุนหลังคุณให้ได้ เขาและสี่ผู้เฒ่าแห่งหลงเหมินเป็นคู่แข่งกัน พวกเขาไม่ได้แสดงออกในภายนอก แต่พวกเขามักจะแทงข้างหลังกันอย่างไม่ใยดีอยู่ตลอดเวลา“หากคุณได้รับการสนับสนุนจากนายใหญ่ของหลงเหมิน สี่ผู้เฒ่าแห่งหลงเหมินก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณได้”“เดี๋ยวก่อน หลงเหมินถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเหรอ?” ฮาร์วีย์ถาม ความอยากรู้ของเขาพลุ่งพล่าน“นายใหญ่ของหลงเหมินข
วันต่อมา คำพูดของฮาร์วีย์ได้แพร่กระจายไปทั่วหลงเหมินการประกาศของเขาทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่นอกเหนือจากสาขาที่อยู่ในสังกัดของหลงเหมินสาขามอร์ดูอยู่แล้ว อีก 35 สาขาต่างก็คิดว่าฮาร์วีย์เสียสติไปแล้วเขาโอ้อวดทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสาขาใหม่ ๆ...เห็นได้ชัดว่าเขากำลังต่อต้านสี่ผู้เฒ่าและหน่วยการบังคับใช้กฎหมายของหลงเหมิน!นี่ไม่ใช่เรื่องของความกล้าหาญ ฮาร์วีย์กำลังรนหาที่ตายชัด ๆ!ข่าวจากฟลัตเวลล์อ้างว่าหนึ่งในสี่ผู้เฒ่าแห่งหลงเหมินโกรธมากจนเขาทุบหม้อดินสีม่วงที่ประเมินค่าไม่ได้เป็นชิ้น ๆ ด้วยความโกรธในขณะเดียวกัน หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกำลังเตรียมกองกำลังเพื่อจับกุมหัวหน้าสาขาที่กำลังต่อต้านผู้บังคับบัญชาของเขาในขณะที่โลกกำลังปั่นป่วนวุ่นวาย ฮาร์วีย์ก็กลับไปที่วิลล่าหมายเลข 1เมื่อเขาเดินเข้าไป เขาก็ถูกต้อนรับด้วยสายตาของแมนดี้และซีนเธียร์ที่เดินไปมาในห้องนั่งเล่นอย่างกระวนกระวายไซมอนกำลังถือจดหมายฉบับหนึ่ง ใบหน้าของเขาซีดเซียวไร้สีสัน ไม่มีใครสามารถอ่านความคิดเขาได้“เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรเหรอ?” ฮาร์วีย์รีบถาม เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะจิบน้ำแม้แต่หยดเ