“แลกเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ?”อีวอนน์ชะงักด้วยความตกใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเฮกเตอร์มีเจตนาร้าย แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองอเพื่อฮาร์วีย์ได้เฮกเตอร์จุดบุหรี่มวนยาวแบบสบาย ๆ แล้วสูบมัน“ท้ายที่สุดคุณมิวะก็เป็นชาวเกาะ“การตายของเธออาจจะสำคัญหรือไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับว่าพวกชาวเกาะต้องการให้มันเป็นอย่างไร“คุณก็รู้ว่าผมมีความเชื่อมโยงกับชาวเกาะนิดหน่อย ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ผมจะสามารถทำให้พวกเขาปล่อยเรื่องการตายของมิวะได้ ด้วยวิธีนี้คุณจะได้มีโอกาสที่จะทำให้สถานการณ์นี้เป็นโมฆะ“นอกจากนี้ผมยังรู้จักบางคนในสถานีตำรวจแห่งมอร์ดู ถ้าคุณให้เวลาผมครึ่งชั่วโมง ผมจะสามารถสร้างคำให้การใหม่แก่พยานทุกคนได้“ผมสามารถทำให้หลักฐานบางอย่างหายไปในอากาศได้ด้วยซ้ำ“ข่าวบนสื่อจะหายไปภายในครึ่งชั่วโมงเช่นกัน“ในระยะเวลาสั้น ๆ คุณยอร์กผู้ยิ่งใหญ่ของเราจะเดินออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บและสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออย่างหรูหราได้ต่อไป“คุณคิดว่าไง?”จูน เฮเซล และคนอื่น ๆ ตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินเฮกเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและมั่นใจพวกเขามองไปที่เฮกเตอร์ด้วยความเหลือเชื่อไอเดน ราเชล และลูกน้องรู้ดีถึงความขัดแย้งระ
อากาศภายในสถานีตำรวจมอร์ดูสาขาแรกเย็นลง ในขณะที่ห้องโถงใหญ่ตกอยู่ในความโกลาหลภายในห้องสอบสวน ฮาร์วีย์กำลังแสร้งทำเป็นนอนกอดอกอยู่บนเก้าอี้ เขาถูกขังอยู่ที่นั่นทั้งวัน หลังจากที่เขาถูกเตะส่งเข้ามาในห้องและได้รับอาหารและน้ำในเวลาที่กำหนด ก็ไม่มีใครมาคุยอะไรกับเขาเลยฮาร์วีย์เดาว่าตำรวจมุ่งความสนใจไปที่ประจักษ์พยานและหลักฐานเพื่อเอาผิดเขาอย่างหนัก บางคนพยายามค้นหาร่องรอยที่ฮาร์วีย์ออกคำสั่งขึ้นบัญชีดำมิวะแม้ว่าเขาจะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจที่จะสอบปากคำเขาไม่รู้ว่านี่เป็นกลวิธีทางจิตวิทยาหรือเพียงเพราะว่าตำรวจกำลังพยายามปะติดปะต่อหลักฐานเข้าด้วยกัน...แม้เวลาจะผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีใครมาหาฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่สนใจ ชีวิตของเขาผ่านอะไรมามาก หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่ฮาร์วีย์ก็เริ่มอนุมานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาสงสัยว่าการตายของมิวะถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วทั้งหมายสั่งตายของเธอในบ้านของเฮเซล ทั้งการเข้าหาฮาร์วีย์ไหนจะสิ่งที่เรียกว่า "คำข่มขู่" อีก... เหตุการณ์ทั้งหมดนำพาให้ทุกสิ่งเป็นเช่นในตอนนี้มิวะจะถูกสังเวย หากจำเป็นการตาย
เฮกเตอร์ช่างเป็นคนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆอย่างน้อยในสายตาของฮาร์วีย์ เฮคเตอร์ก็มีสิทธิ์ที่จะท้าทายเขาได้แกร๊ง!ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังพยายามคิดแก้ปัญหา จู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกผู้ตรวจการในเครื่องแบบทางการสามคนเดินเข้ามาด้วยความองอาจผู้ตรวจการที่เดินนำเข้ามาเป็นคนเดียวกับที่เข้าจับกุมฮาร์วีย์ เขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่หรี่ลงและถามอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์ ยอร์ก พร้อมที่จะสารภาพหรือยัง?“อายุแค่นี้สร้างแต่เรื่องเดือดร้อน… คนอย่างนายนี่มันหนักแผ่นดินจริง ๆ!“จริงสิ ฉันลืมแนะนำตัว ฉันชื่อคริสตัน ดันเคน ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของแกรี่ แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน! ฉันเป็นหัวหน้าหน่วยของสถานีตำรวจมอร์ดูสาขาแรกแห่งนี้!“ตอนที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันมาหา เขากำชับให้ฉันดูแลนายเป็นอย่างดี“แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องสุภาพกับคนอย่างนาย!“ลูกพี่ลูกน้องของฉันเกลียดนายเข้าไส้ แต่เพราะเห็นแก่คุณซาเวียร์ เขาถึงกับขอให้ฉันปกป้องนายด้วยอำนาจทั้งหมดที่ฉันมี!“นายนี่มันไม่เอาไหนเลยจริง ๆ!คิดดูสิ นายต้องให้ศัตรูหัวใจมาคอยช่วยเหลือแบบนี้!“ถ้าพอมีสมองอยู่บ้าง นายก็ควรเริ่มสารภาพความผิดของ
"อะไรกันน่ะ? คุณจะไม่ยิงเหรอ?”ฮาร์วีย์เหวี่ยงเท้าไปรอบ ๆ และไขว่ห้าง ใบหน้าของเขายังคงว่างเปล่าและไร้ความรู้สึกผู้จัดการคนดังกล่าวทั้งหวาดกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจนั่งลงผู้ตรวจการอีกคนซึ่งมีผมสั้นจุดบุหรี่และดูอารมณ์เสีย เขาพ่นควันใส่หน้าฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ ใช่ไหม?” เขาถามอย่างเย็นชา“เรารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น“นายข่มขู่เหยื่อในงานเลี้ยงอาหารค่ำของครอบครัวมาโลน โดยการบอกว่านายจะขึ้นบัญชีดำเธอ!“มีคนอย่างน้อยยี่สิบคนจากที่เกิดเหตุที่เป็นพยานได้ว่านายพูดเช่นนั้น ไม่มีทางที่นายจะปฏิเสธข้อเท็จจริงนั้นได้”ฮาร์วีย์ยักไหล่“หัวหน้าหน่วยของคุณไม่ได้บอกว่าคุณควรดูแลผมงั้นเหรอ? ดูแลผมดีแล้วเหรอ?” ฮาร์วีย์แกล้งอย่างใจเย็น“ถ้าการพูดไปเรื่อยสามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ คดีต่าง ๆ ทั่วโลกคงจะง่ายขึ้นมากใช่ไหม?”“นายกำลังบอกว่าจะไม่สารภาพงั้นเหรอ?!” ผู้ตรวจการตะคอกอย่างรุนแรงฮาร์วีย์ยิ้มและตอบอย่างสง่าพาเผยว่า “ผมไม่ได้ฆ่าใครและไม่ได้ทำร้ายใคร ในเมื่อผมรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดหรือทำอะไรให้ตัวเองต้องขายขี้หน้า แล้วผมจะสารภาพทำไม?”“นายไม่ได้ทำอะไรผิดหรือทำ
“เหยื่อไม่เชื่อว่าคุณจะทำอย่างที่ข่มขู่ไว้ได้จริง ๆ ดังนั้นคุณให้เธอดูวิลล่าของคุณเพื่อพิสูจน์ความมีอิทธิพลของคุณ“การใช้คฤหาสน์มูลค่าร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ของคุณสามารถสร้างความเสียหายทางจิตใจอย่างใหญ่หลวงให้กับเหยื่อได้“หลังจากกลับไปที่วิลล่าของครอบครัวมาโลน คุณขู่ให้เหยื่อเข้าไปในห้องของคุณเพื่อฉวยโอกาสเธอในห้องอาบน้ำ“จากการกระทำของคุณ เหยื่อจึงรู้สึกอับอายขายหน้ามากและตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง”“นี่แหละเรื่องที่เกิดขึ้น!”“เรามีทั้งพยานและหลักฐานที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้!”“นายยังไม่สารภาพอีกหรือ? ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”คริสตันทำตัวชอบธรรมมาก ราวกับว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างที่เขาพูดฮาร์วีย์ตบมือด้วยความประหลาดใจ"ฉลาดหลักแหลม! ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด!” ฮาร์วีย์พูดด้วยความประหลาดใจอย่างมาก“ผมเคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมีแต่ในละครเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าคุณจะมีบทละครที่ยอดเยี่ยมกว่า หัวหน้าหน่วยดันเคน!“แต่จะเป็นไปได้ไหมถ้าผมจะขอโต้แย้งในการสันนิษฐานของคุณสักหน่อย”ดวงตาของคริสตันกระตุก ใบหน้าของเขาเย็นชา เขาไม่ตอบกลับฮาร์วีย์หัวเราะอีกครั้ง“เนื่องจากผมสามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าหมายเลข 1 ได
“ถ้าคุณบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น ผมเชื่อว่าในไม่ช้าคุณจะได้รับเอกสารทางกฎหมายจากผมแน่นอน“เพราะนี่ถือว่าคุณกำลังจำกัดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอยู่”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ จากนั้นก็ยกถ้วยกระดาษบนโต๊ะขึ้นจิบอย่างไม่ไยดีคริสตันพิเคราะห์ฮาร์วีย์และกัดฟันพูด “ไม่แปลกใจเลยสำหรับอาชญากรเจ้าปัญญา นายรู้เรื่องกฎหมายของประเทศนี้ดีทีเดียว!“แต่ในเมื่อนายรู้กฎหมายดีขนาดนี้ แล้วทำไปทำไม?!“ฉันจะขอบอกนายไว้เลยนะ ว่าหลักฐานที่มีชัดเจนพอที่จะมัดตัวนายได้! นายไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้หรอก ต่อให้รู้กฎหมายมากขนาดไหน!“อย่าคิดว่าฉันจะปกป้องนายเพราะเห็นแก่หน้าลูกพี่ลูกน้องของฉัน!“นอกจากจะไม่ปกป้องนายแล้ว ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้นายได้รับโทษอย่างสาสม!“วิธีนี้เท่านั้นที่ฉันจะใช้สำหรับการแสดงความเคารพต่อกฎหมาย!”คริสตันทำตัวสูงส่งและทรงพลังเพียงเพื่อหยุดไม่ให้ฮาร์วีย์มาพึ่งพาเขาแต่ทุกอย่างก็เหมือนก่อนหน้านี้ ฮาร์วีย์ทำเพียงแค่หัวเราะ“ไม่ใช่ว่าผมจะหยามเกียรติคุณหรอกนะ หัวหน้าหน่วยคริสตัน แต่คุณปกป้องผมไม่ได้หรอก“ผมบอกแล้วไงว่าผมจะโทรศัพท์”“เฮ้ เฮ้ เฮ้ นายคิดว่าฉันปกป้องนายไม่ได้งั้นเ
“เท่าที่ฉันรู้ บุคคลเพียงผู้เดียวในมอร์ดูที่ชื่อลินช์คือผู้บังคับบัญชาสูงสุด เบนจามิน ลินช์! นายคงไม่ได้จะบอกฉันว่าเมื่อกี้นายเป็นคนโทรหานายท่านลินช์หรอกใช่ไหม?”คริสตันพินิจพิเคราะห์ฮาร์วีย์ด้วยในตาที่เย็นยะเยือก พยายามจับโกหกฮาร์วีย์“ถ้านายท่านลินช์เป็นคนรับสายนายจริง ๆ ฉันจะกินโทรศัพท์ทั้งเครื่องเลย!”หลังจากถูกคริสตันเย้ยหยัน ผู้ตรวจการอีกสองคนก็มองฮาร์วีย์ด้วยความขยะแขยง'ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมพยายามแสร้งทำเป็นว่าตัวเองยิ่งใหญ่งั้นหรือ?''เขาคิดว่าแค่โทรหาใครสักคนแล้วจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไง?''ตลกอะไรอย่างนี้!'ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ ไม่ใส่ใจที่จะตอบตรง ๆ“ผมโทรหานายท่านลินช์แล้ว“เขาบอกว่าจะส่งลูกน้องที่ไว้ใจที่สุดมาแก้ปัญหานี้”“ไอ้โง่เอ๊ย! นี่นายกล้าโกหกพวกเรางั้นหรอ!”คริสตันส่งสายตาไปยังฮาร์วีย์ด้วยความชิงชังอย่างที่สุด“นายท่านลินช์เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมอร์ดู แต่เขาไม่เคยยุ่งเรื่องของตำรวจเลย!“ถ้านายกำลังมองหาใครสักคนที่จะมีอำนาจในกรมตำรวจ นายก็ควรจะโทรหาโอทิส ไค ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสถานีตำรวจกลางมอร์ดู!“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได
ภายในห้องสอบสวน…ฮาร์วีย์กำลังดื่มชาเขียวชั้นเลิศตรงหน้าเขาอย่างใจเย็น เขาระวังไม่ให้ตัวเองแสดงอารมณ์มากเกินไปหัวหน้าผู้ตรวจการกรมตำรวจกลางมอร์ดูยืนอยู่ข้างหน้าเขาด้วยความเคารพ“คุณยอร์ก นายท่านลินช์ขอให้ผมมาที่นี่“เขากำลังติดประชุมอยู่ที่โวลซิ่งซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมาไม่ได้ในตอนนี้ โปรดอย่าได้ถือสาเลยนะครับ“ก็บอกผมว่าปัญหาของคุณก็คือปัญหาของเขา ผมจะต้องหาคำอธิบายที่เหมาะสมให้กับคุณสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างแน่นอน”ทัศนคติของโอทิสค่อนข้างดูเข้าท่า ในฐานะบุคคลที่มีชื่อเสียงที่รับใช้เบนจามิน โอทิสเคยได้ยินชื่อฮาร์วีย์มาก่อน เขายังรู้ด้วยว่าเบนจามินและภรรยาติดหนี้บุญคุณฮาร์วีย์ค่อนข้างมากแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีอำนาจมหาศาลในรัฐบาลของมอร์ดู แต่โอทิสก็ไม่อาจแสดงท่าทีหยิ่งผยองได้คริสตันและผู้ตรวจการคนอื่น ๆ เฝ้าดูจากระยะไกล เพราะเขาเกือบจะลงไปกองกับพื้น ถ้าพวกเขารู้ว่าฮาร์วีย์มีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ พวกเขาคงไม่กล้าอวดดีต่อหน้าเขาฮาร์วีย์ยิ้มและส่งสัญญาณให้โอทิสปิดอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้อง จากนั้นเขาก็พูดอย่างใจเย็นว่า “หัวหน้าผู้ตรวจการไคเนื่องจากเราอยู่ข้างเดีย