“ฮาร์วีย์ ถ้าคุณเจอบางสิ่งจริง ๆ…“คุณก็เอามันออกมาเถอะ“คุณเอโบนี่ก็จะขอบคุณคุณเหมือนกัน”ไคท์ วอล์คเกอร์ที่เงียบมาตลอดจู่ ๆ ก็พูดขึ้นฮาร์วีย์เป็นแค่แฟนชั่วคราวของเธอก็จริง แต่เธอก็ยังต้องการช่วยเขาฮาร์วีย์ยังคงไม่แยแสเช่นเคย “ผมไม่เจออะไรทั้งนั้นผมจะเอามันออกมาได้ยังไง?”ไคท์ขมวดคิ้ว “ฮาร์วีย์ คุณไม่เข้าใจว่านี่มันร้ายแรงแค่ไหน”“สถานที่แห่งนี้เป็นของตระกูลฌองแห่งมอร์ดู ฉันได้ยินมาว่าชาวประเทศหมู่เกาะเองก็มีหุ้นอยู่ที่นี่ด้วย หากคุณสร้างปัญหาที่นี่ คุณจะจบไม่สวย”“ถ้าคุณเอาเพชรออกมาเสียตั้งแต่ตอนนี้ ฉันจะขอโทษคุณเอโบนี่แทนคุณ และเราจะถือว่าจบปัญหาลง ดีไหม?""ขอโทษเหรอ?" ฮาร์วีย์ไม่แสดงความกังวลแต่อย่างใด “ทำไมผมต้องขอโทษในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ”“แน่ใจนะว่าคุณไม่ได้หยิบอะไรมาเลย” ไคท์ขมวดคิ้วหนักขึ้น ดูเหมือนฮาร์วีย์จะไม่เห็นค่าความปรารถนาดีของเธอเลยตอนนี้เขาไม่รู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของเธอแม้แต่น้อยฮาร์วีย์ยังคงนิ่งเฉย เขาขี้เกียจเกินไปที่จะพูดอะไรออกมาอีกไบรอันตะคอก “คุณวอล์คเกอร์ เขาหลอกให้คุณเป็นแฟนเขา! ทำไมคุณยังช่วยเขาอีก“ทุกคนรู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณเป็นเรื่องห
ถุงเท้าและรองเท้าของฮาร์วีย์ถูกถอด เข็มขัดของเขาก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน แต่พวกเขาไม่พบอะไรเลยความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของไบรอันค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความไม่เชื่อ เขาเอ่ยอย่างแหย ๆ “เป็นไปไม่ได้! เพชรต้องอยู่กับเขาสิ!”เลนนี่ขมวดคิ้ว เขาไล่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกไปและค้นตัวฮาร์วีย์ด้วยตัวเองจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ ก็เข้าไปสำรวจทุกซอกทุกมุมในห้องโถงทั้งหมด ทว่าพวกเขากลับไม่พบอะไรเลยหลังจากการค้นหาอย่างแข็งขันกว่าสิบนาที พวกเขาก็ดูเศร้าหมองและกลับกลายเป็นดูสลดลงอีกหากพวกเขาพบเพชรที่มุมหนึ่งของห้อง พวกเขาก็ยังคงโบ้ยความผิดไปให้ฮาร์วีย์ได้แต่ตอนนี้มันกลับไม่มีอะไรเลย พวกเขาจะทำอะไรได้อีก?สายตาของเลนนี่จับจ้องไปที่ไบรอันเมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ ไบรอันขมวดคิ้วและพยักหน้าเลนนี่หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสองสามคนในนั้นมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงด้วย"ค้นให้ทั่ว!"“ผู้ต้องสงสัยอาจซ่อนมันไว้ในร่างของคนอื่น ทุกคนต้องถูกค้นตัว!”“ถ้าเขาขโมยเพชรไป รอยนิ้วมือของเขาจะต้องอยู่บนนั้น!”ในไม่ช้าสถานการณ์ก็วุ่นวายขึ้นไบรอัน สตีเว่น และคนอื่น ๆ ก็ถ
“เอาล่ะ ทีนี้คุณมีอะไรจะพูดไหมครับคุณผู้จัดการทอมป์สัน?” ฮาร์วีย์ถามด้วยความใจเย็นเลนนี่ที่กำลังจะเดินจากไปชะงักในฝีก้าวของเขาและหันไปมองทามารา ผู้สมรู้ร่วมคิดที่ไร้ประโยชน์ของเขาก่อนที่จะหายใจเข้าลึก ๆ และถามด้วยความเย็นชาว่า “คุณหมายความว่ายังไงเหรอฮาร์วีย์?“ก็เธอเพิ่งจะยอมรับเองว่าเธอเป็นคนเอาเพชรมาใส่กระเป๋าผมด้วยความตั้งใจว่าจะใส่ร้ายผม“คุณไม่มีอะไรจะอธิบายจริง ๆ เหรอ?”ฮาร์วีย์พูดต่อด้วยร้อยยิ้มที่เย้ยหยัน“เหรอ? คุณเอโบนี่พูดอย่างนั้นเหรอ?” เลนนี่แสร้งทำเป็นตกใจ “พวกคุณได้ยินเหมือนกันไหม?”ไบรอันเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นและออกความคิดเห็น “ก็ไม่นะ!”“ใช่ คุณเอโบนี่คือเหยื่อ เธอจะเป็นคนเอาเพชรไปใส่กระเป๋าคุณได้ยังไง?“ในกระเป๋าคุณก็ไม่ได้มีของกลางสักหน่อย คุณพูดมาได้ยังไงว่าเธอตั้งใจจะใส่ร้ายคุณ?”สตีเว่นตอบโต้อย่างฉะฉานทามาราใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองและตะโกนด้วยความโกรธว่า “หยุดเหลิงได้แล้วยอร์ก! ฉันแค่หลุดปากพูดไปเฉย ๆ!”“เหตุผลเดียวที่คุณเข้ามาในพาราเมาท์ได้เป็นเพราะฉัน ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันจะให้คนมาไล่คุณออกไปเดี๋ยวนี้!”เลนนี่ส่งเสียงเยาะเย้ย “ใช่แล้วคุณเ
“ฮาร์วีย์! พอได้แล้ว!”ในที่สุดไคท์ก็พูดขึ้น“นี่มันงานเลี้ยงวันเกิดของฉันนะ ฉันไม่ต้องการเห็นการนองเลือด”“ก็ได้ เห็นแก่แฟนของผม ผมจะไม่ฆ่าคุณ”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและตบเขาอีกครั้งราวกับว่าต้องการเน้นย้ำความเจ็บปวดของคำพูดอันโหดร้ายของเขาหลังจากนั้นเขาก็มองเลนนี่ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ “เมื่อกี้เหมือนคุณจะพูดอะไรใช่ไหม?”“ทีนี้คุณจะพูดอะไรได้อีก?“ผมจะไม่ยืดเยื้อนะ คุณทำตามกฏของพาราเมาท์ที่คุณย้ำแล้วย้ำเล่าด้วยความภาคภูมิใจได้เลยเลนนี่ที่กลัวฮาร์วีย์ขึ้นมาแล้วพูดโพล่งออกมาว่า “ตามกฏแล้ว ขโมยจะต้องถูกตัดนิ้วหนึ่งนิ้ว และคนที่มีส่วนร่วมในการใส่ร้ายก็จะต้องได้รับบทลงโทษเดียวกันฮาร์วีย์ตบหน้าของเลนนี่เบา ๆ และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามกฏซะ ผมจะรอดูการตัดสินของคุณ”ใบหน้าของไบรอันและทามาราถอดสีไบรอันกุมหน้าตัวเองและตะโกนว่า “นายกล้าดียังไงถึงได้ตบผม ยอร์ก! รอดูนะ ฉันจะฆ่านาย!“นายคงไม่รู้สินะว่าพี่ชายของฉันเป็นเจ้าของพาราเมาท์! นายกล้าตบฉันในที่ของเขา! นายตายแน่!”ฮาร์วีย์ไม่สนใจคำเหน็บแนมของไบรอันและเพียงแต่จ้องเลนนี่ต่อไปแทนสีหน้าของเลนนี่น่าอึดอัดมากหากเป็นนิ้วของฮาร์วี
ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที…บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้องโถง พวกเขาต่างดูแข็งแกร่งและดูเหมือนพวกที่สามารถต่อยได้หลายร้อยปอนด์ฮาร์วีย์จิบน้ำผลไม้ในขณะที่หรี่ตาสำรวจเหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลาย เขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าผู้คนเหล่านี้เป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมจากท้องถนนเลนนี่กุมศีรษะของตนเองหลังจากที่เห็นพวกเขากำลังเดินเข้ามา สายตาอาฆาตแค้นของเขาจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ชายหัวโล้นคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้า เขาดูเหมือนว่าจะสูงมากกว่าหกฟุต เขาไม่มีขนคิ้ว ผิวของเขาซีดมากและเขาเปล่งความดุร้ายอย่างประหลาดเขาก้าวไปข้างหน้าและมองฮาร์วีย์นิ่ง ๆ ก่อนที่จะหยิบไวน์แดงหนึ่งขวดและกระดกดื่มมันหลังจากที่เขากระดกไปมากกว่าครึ่งขวด เขาก็หรี่ตามองฮาร์วีย์แล้วเย้ยหยัน “ไอ้หนุ่ม ได้ยินว่าคุณกล้าตีหัวผู้จัดการทอมป์สันที่พาราเมาท์ของเราอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่คือถิ่นของเรา คุณก็น่าจะรู้ คุณนี่ช่างกล้าจริง ๆ!”ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”ชายหัวโล้นหรี่ตาเป็นการขู่ “ไอ้หนุ่มนี่ไม่เลวแฮะ แต่คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?”ฮาร์วีย์ยังคงเฉยเมย “ทำไมคุณไม่บอกผมล่ะว่าคุณเป็นใคร?”ชายหัวโล้นแสยะยิ้ม
ชายในชุดสูทสีขาวที่ดูโอ่อ่าหาที่เปรียบมิได้โผล่ออกมาจากฝูงชนและเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ทันทีเขาเป็นมืออาชีพที่แท้จริง เขาเป็นบอดี้การ์ดของบิ๊กฟลายและได้ช่วยบิ๊กฟลายต่อสู้ในสมรภูมินองเลือดในมอร์ดูมาหลายครั้งแล้วเขาดึงมีดสั้นออกมาแล้วเหวี่ยงมันไปที่คอของฮาร์วีย์“อ๊า!”เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้จะบานปลายมาถึงจุดนี้คืนนี้ฮาร์วีย์อาจตายที่นี่เลยก็ได้!ซินเธียร์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “พี่เขย ระวัง!”น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ยินคำพูดของเธอ“อ่อน!”ขณะที่มีดสั้นกำลังจะถึงตัวฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ก็ยิ้มอ่อน ๆ ขณะที่ยื่นสองนิ้วออกไปจับมีดไว้อย่างง่ายดายแกร๊ง!เสียงที่คมชัดชายในชุดสูทสีขาวที่โอ่อ่าชะงักไปชั่วขณะพร้อมกับเจตนาฆ่าบนใบหน้าของเขาที่ค่อย ๆ จางหายไป“เป็นไปได้ยังไง?!”ฮาร์วีย์จับมีดสั้นของเขาได้อย่างง่ายดาย การจับของฮาร์วีย์นั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้เขาไม่สามารถก้าวไปได้แม้แต่ก้าวเดียวหลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงของแตกดังตามมา ใบมีดที่คมกริบหักและชายชุดขาวก็เคลื่อนไปข้าง“อ๊าก!”ใบมีดที่หักปลิวไปแทงเขาทันทีเขา ผู้ที่ฆ่าค
บิ๊กฟลายไม่คิดว่าไพ่ตายของเขา ซึ่งเป็นนักสู้ที่เก่งกาจที่เขาพามาในคืนนี้ จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยเมื่อเจอกับชายหนุ่มคนนี้ทักษะของเขาน่ากลัวมาก!น้อยครั้งนักที่บิ๊กฟลายจะได้เห็นชายผู้มีความสามารถเช่นนี้ แม้จะอยู่บนถนนของมอร์ดูมานานหลายปีแล้วก็ตามอย่างไรก็ตาม เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าใหญ่ของท้องถนน หลังจากที่พ่ายแพ้แล้วเขาจึงไม่ได้คิดที่จะระดมใครมาเพิ่มเขารู้ดีว่าในขณะนี้คนของเขาไม่สามารถเอาชนะฮาร์วีย์ได้อยู่แล้วเว้นแต่ว่าเขาจะโทรขอความช่วยเหลือจากเดนเซล วอชิงตันหรือลูคัส ฌองอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องอับอายอย่างยิ่งหากเขาขอให้คนใหญ่คนโตสองคนนั้นช่วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เมื่อคิดได้ดังนั้น บิ๊กฟลายก็ระงับความโกรธของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ผมจะทำเป็นไม่รู้เห็นเรื่องของคืนนี้ แต่ผมรับรองไว้เลยว่าเราจะได้เจอกันอีกแน่”ฮาร์วีย์ไม่สนใจเรื่องนั้นแต่อย่างใด “ขอโทษผมและให้การรตัดสินที่น่าพึงพอใจกับผมก่อน”“ผมขอโทษครับ คืนนี้ผมสะเพร่าเอง!”เมื่อพูดจบบิ๊กฟลายก็เริ่มตัดนิ้วหัวแม่มือของเลนนี่ ไบรอัน และทามาราด้วยตัวของเขาเองนิ้วที่ขาดสามนิ้วถูกวางลงตรงหน้าฮาร์วีย์ บิ
ถึงอย่านั้นไบรอันและทามาร่าก็ยังคงเงียบ เดนเซล วอชิงตันแห่งมอร์ดูไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนเขาสามารถอยู่รอดท่ามกลางผู้คนที่มีอำนาจสูงสุดได้ และการบริหารพาราเมาท์ของเขาก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงความกล้าหาญของเขา“พี่เดนเซล!”เมื่อไบรอันเห็นเดนเซลวางคันธนูและลูกธนูลง เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและรินชาร้อนให้เดนเซลทันที“ผมได้ยินมาว่าพี่ไปแข่งกับปรมาจารย์ยิงธนูของประเทศหมู่เกาะมา ดูจากฝีมือพี่เมื่อกี่แล้ว พี่คงจะชนะผู้ที่เรียกกันว่าปรมาจารย์ยิงธนูแล้วใช่ไหมครับ?“ผมว่าไม่มีใครในมอร์ดูสู้พี่ได้หรอก!เดนเซลไม่แยแส “คำแนะนำจากผู้อื่นอาจช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของตนได้ แม้ว่าความเป็นมาของพวกชาวเกาะจะไม่ดีเท่าประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ แต่ทักษะการฆ่าของพวกเขาไปถึงจุดสูงสุดหลังจากที่พัฒนามานับพันปีแล้ว“แม้ว่าคู่แข็งยิงธนูของฉันจะเป็นถึงปรมาจารย์กันทั้งหมด ฉันก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ“เขาลือกันว่าที่ประเทศหมู่เกาะมีนักดาบด้วย หวังว่าสักวันฉันจะมีโอกาสได้ประลองฝีมือกับเขาบ้าง!”จากนั้นเดนเซลก็ถามไบรอันว่า “แล้วมีอะไรเหรอ? ทำไมถึงมาหาฉันแต่เช้าเลย?”“พี่เดนเซล เมื่อคืนผมอยู่ที่พาราเมาท์และมีคนสั่งให้ตัดนิ้วผม!