“เอาล่ะ ทีนี้คุณมีอะไรจะพูดไหมครับคุณผู้จัดการทอมป์สัน?” ฮาร์วีย์ถามด้วยความใจเย็นเลนนี่ที่กำลังจะเดินจากไปชะงักในฝีก้าวของเขาและหันไปมองทามารา ผู้สมรู้ร่วมคิดที่ไร้ประโยชน์ของเขาก่อนที่จะหายใจเข้าลึก ๆ และถามด้วยความเย็นชาว่า “คุณหมายความว่ายังไงเหรอฮาร์วีย์?“ก็เธอเพิ่งจะยอมรับเองว่าเธอเป็นคนเอาเพชรมาใส่กระเป๋าผมด้วยความตั้งใจว่าจะใส่ร้ายผม“คุณไม่มีอะไรจะอธิบายจริง ๆ เหรอ?”ฮาร์วีย์พูดต่อด้วยร้อยยิ้มที่เย้ยหยัน“เหรอ? คุณเอโบนี่พูดอย่างนั้นเหรอ?” เลนนี่แสร้งทำเป็นตกใจ “พวกคุณได้ยินเหมือนกันไหม?”ไบรอันเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นและออกความคิดเห็น “ก็ไม่นะ!”“ใช่ คุณเอโบนี่คือเหยื่อ เธอจะเป็นคนเอาเพชรไปใส่กระเป๋าคุณได้ยังไง?“ในกระเป๋าคุณก็ไม่ได้มีของกลางสักหน่อย คุณพูดมาได้ยังไงว่าเธอตั้งใจจะใส่ร้ายคุณ?”สตีเว่นตอบโต้อย่างฉะฉานทามาราใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองและตะโกนด้วยความโกรธว่า “หยุดเหลิงได้แล้วยอร์ก! ฉันแค่หลุดปากพูดไปเฉย ๆ!”“เหตุผลเดียวที่คุณเข้ามาในพาราเมาท์ได้เป็นเพราะฉัน ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันจะให้คนมาไล่คุณออกไปเดี๋ยวนี้!”เลนนี่ส่งเสียงเยาะเย้ย “ใช่แล้วคุณเ
“ฮาร์วีย์! พอได้แล้ว!”ในที่สุดไคท์ก็พูดขึ้น“นี่มันงานเลี้ยงวันเกิดของฉันนะ ฉันไม่ต้องการเห็นการนองเลือด”“ก็ได้ เห็นแก่แฟนของผม ผมจะไม่ฆ่าคุณ”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและตบเขาอีกครั้งราวกับว่าต้องการเน้นย้ำความเจ็บปวดของคำพูดอันโหดร้ายของเขาหลังจากนั้นเขาก็มองเลนนี่ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ “เมื่อกี้เหมือนคุณจะพูดอะไรใช่ไหม?”“ทีนี้คุณจะพูดอะไรได้อีก?“ผมจะไม่ยืดเยื้อนะ คุณทำตามกฏของพาราเมาท์ที่คุณย้ำแล้วย้ำเล่าด้วยความภาคภูมิใจได้เลยเลนนี่ที่กลัวฮาร์วีย์ขึ้นมาแล้วพูดโพล่งออกมาว่า “ตามกฏแล้ว ขโมยจะต้องถูกตัดนิ้วหนึ่งนิ้ว และคนที่มีส่วนร่วมในการใส่ร้ายก็จะต้องได้รับบทลงโทษเดียวกันฮาร์วีย์ตบหน้าของเลนนี่เบา ๆ และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามกฏซะ ผมจะรอดูการตัดสินของคุณ”ใบหน้าของไบรอันและทามาราถอดสีไบรอันกุมหน้าตัวเองและตะโกนว่า “นายกล้าดียังไงถึงได้ตบผม ยอร์ก! รอดูนะ ฉันจะฆ่านาย!“นายคงไม่รู้สินะว่าพี่ชายของฉันเป็นเจ้าของพาราเมาท์! นายกล้าตบฉันในที่ของเขา! นายตายแน่!”ฮาร์วีย์ไม่สนใจคำเหน็บแนมของไบรอันและเพียงแต่จ้องเลนนี่ต่อไปแทนสีหน้าของเลนนี่น่าอึดอัดมากหากเป็นนิ้วของฮาร์วี
ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที…บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้องโถง พวกเขาต่างดูแข็งแกร่งและดูเหมือนพวกที่สามารถต่อยได้หลายร้อยปอนด์ฮาร์วีย์จิบน้ำผลไม้ในขณะที่หรี่ตาสำรวจเหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลาย เขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าผู้คนเหล่านี้เป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมจากท้องถนนเลนนี่กุมศีรษะของตนเองหลังจากที่เห็นพวกเขากำลังเดินเข้ามา สายตาอาฆาตแค้นของเขาจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ชายหัวโล้นคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้า เขาดูเหมือนว่าจะสูงมากกว่าหกฟุต เขาไม่มีขนคิ้ว ผิวของเขาซีดมากและเขาเปล่งความดุร้ายอย่างประหลาดเขาก้าวไปข้างหน้าและมองฮาร์วีย์นิ่ง ๆ ก่อนที่จะหยิบไวน์แดงหนึ่งขวดและกระดกดื่มมันหลังจากที่เขากระดกไปมากกว่าครึ่งขวด เขาก็หรี่ตามองฮาร์วีย์แล้วเย้ยหยัน “ไอ้หนุ่ม ได้ยินว่าคุณกล้าตีหัวผู้จัดการทอมป์สันที่พาราเมาท์ของเราอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่คือถิ่นของเรา คุณก็น่าจะรู้ คุณนี่ช่างกล้าจริง ๆ!”ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”ชายหัวโล้นหรี่ตาเป็นการขู่ “ไอ้หนุ่มนี่ไม่เลวแฮะ แต่คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?”ฮาร์วีย์ยังคงเฉยเมย “ทำไมคุณไม่บอกผมล่ะว่าคุณเป็นใคร?”ชายหัวโล้นแสยะยิ้ม
ชายในชุดสูทสีขาวที่ดูโอ่อ่าหาที่เปรียบมิได้โผล่ออกมาจากฝูงชนและเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ทันทีเขาเป็นมืออาชีพที่แท้จริง เขาเป็นบอดี้การ์ดของบิ๊กฟลายและได้ช่วยบิ๊กฟลายต่อสู้ในสมรภูมินองเลือดในมอร์ดูมาหลายครั้งแล้วเขาดึงมีดสั้นออกมาแล้วเหวี่ยงมันไปที่คอของฮาร์วีย์“อ๊า!”เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้จะบานปลายมาถึงจุดนี้คืนนี้ฮาร์วีย์อาจตายที่นี่เลยก็ได้!ซินเธียร์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “พี่เขย ระวัง!”น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ยินคำพูดของเธอ“อ่อน!”ขณะที่มีดสั้นกำลังจะถึงตัวฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ก็ยิ้มอ่อน ๆ ขณะที่ยื่นสองนิ้วออกไปจับมีดไว้อย่างง่ายดายแกร๊ง!เสียงที่คมชัดชายในชุดสูทสีขาวที่โอ่อ่าชะงักไปชั่วขณะพร้อมกับเจตนาฆ่าบนใบหน้าของเขาที่ค่อย ๆ จางหายไป“เป็นไปได้ยังไง?!”ฮาร์วีย์จับมีดสั้นของเขาได้อย่างง่ายดาย การจับของฮาร์วีย์นั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้เขาไม่สามารถก้าวไปได้แม้แต่ก้าวเดียวหลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงของแตกดังตามมา ใบมีดที่คมกริบหักและชายชุดขาวก็เคลื่อนไปข้าง“อ๊าก!”ใบมีดที่หักปลิวไปแทงเขาทันทีเขา ผู้ที่ฆ่าค
บิ๊กฟลายไม่คิดว่าไพ่ตายของเขา ซึ่งเป็นนักสู้ที่เก่งกาจที่เขาพามาในคืนนี้ จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยเมื่อเจอกับชายหนุ่มคนนี้ทักษะของเขาน่ากลัวมาก!น้อยครั้งนักที่บิ๊กฟลายจะได้เห็นชายผู้มีความสามารถเช่นนี้ แม้จะอยู่บนถนนของมอร์ดูมานานหลายปีแล้วก็ตามอย่างไรก็ตาม เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าใหญ่ของท้องถนน หลังจากที่พ่ายแพ้แล้วเขาจึงไม่ได้คิดที่จะระดมใครมาเพิ่มเขารู้ดีว่าในขณะนี้คนของเขาไม่สามารถเอาชนะฮาร์วีย์ได้อยู่แล้วเว้นแต่ว่าเขาจะโทรขอความช่วยเหลือจากเดนเซล วอชิงตันหรือลูคัส ฌองอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องอับอายอย่างยิ่งหากเขาขอให้คนใหญ่คนโตสองคนนั้นช่วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เมื่อคิดได้ดังนั้น บิ๊กฟลายก็ระงับความโกรธของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ผมจะทำเป็นไม่รู้เห็นเรื่องของคืนนี้ แต่ผมรับรองไว้เลยว่าเราจะได้เจอกันอีกแน่”ฮาร์วีย์ไม่สนใจเรื่องนั้นแต่อย่างใด “ขอโทษผมและให้การรตัดสินที่น่าพึงพอใจกับผมก่อน”“ผมขอโทษครับ คืนนี้ผมสะเพร่าเอง!”เมื่อพูดจบบิ๊กฟลายก็เริ่มตัดนิ้วหัวแม่มือของเลนนี่ ไบรอัน และทามาราด้วยตัวของเขาเองนิ้วที่ขาดสามนิ้วถูกวางลงตรงหน้าฮาร์วีย์ บิ
ถึงอย่านั้นไบรอันและทามาร่าก็ยังคงเงียบ เดนเซล วอชิงตันแห่งมอร์ดูไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนเขาสามารถอยู่รอดท่ามกลางผู้คนที่มีอำนาจสูงสุดได้ และการบริหารพาราเมาท์ของเขาก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงความกล้าหาญของเขา“พี่เดนเซล!”เมื่อไบรอันเห็นเดนเซลวางคันธนูและลูกธนูลง เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและรินชาร้อนให้เดนเซลทันที“ผมได้ยินมาว่าพี่ไปแข่งกับปรมาจารย์ยิงธนูของประเทศหมู่เกาะมา ดูจากฝีมือพี่เมื่อกี่แล้ว พี่คงจะชนะผู้ที่เรียกกันว่าปรมาจารย์ยิงธนูแล้วใช่ไหมครับ?“ผมว่าไม่มีใครในมอร์ดูสู้พี่ได้หรอก!เดนเซลไม่แยแส “คำแนะนำจากผู้อื่นอาจช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของตนได้ แม้ว่าความเป็นมาของพวกชาวเกาะจะไม่ดีเท่าประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ แต่ทักษะการฆ่าของพวกเขาไปถึงจุดสูงสุดหลังจากที่พัฒนามานับพันปีแล้ว“แม้ว่าคู่แข็งยิงธนูของฉันจะเป็นถึงปรมาจารย์กันทั้งหมด ฉันก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ“เขาลือกันว่าที่ประเทศหมู่เกาะมีนักดาบด้วย หวังว่าสักวันฉันจะมีโอกาสได้ประลองฝีมือกับเขาบ้าง!”จากนั้นเดนเซลก็ถามไบรอันว่า “แล้วมีอะไรเหรอ? ทำไมถึงมาหาฉันแต่เช้าเลย?”“พี่เดนเซล เมื่อคืนผมอยู่ที่พาราเมาท์และมีคนสั่งให้ตัดนิ้วผม!
ไบรอันหายใจเข้าลึก ๆ และเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว “พี่เดนเซล เรื่องมันเป็นอย่างนี้!”เขาเล่าเหตุการณ์ที่โชคร้ายเมื่อคืนนี้ให้เดนเซลฟังและจบด้วยข้อความเศร้าใจว่า “พี่เดนเซล ไม่ใช่ว่าผมทำอะไรไม่ได้นะ แต่ไอ้สารเลวนั่นต้องมีของดีแน่นอน!“แม้แต่บิ๊กฟลาย ที่เป็นถึงลูกน้องหมายเลขหนึ่งของพี่ ก็เกือบจะถูกเขาฆ่าแล้ว!“จนสุดท้าย เขาทำให้บิ๊กฟลายตัดนิ้วผมด้วย!“พี่เดนเซล เขาไม่ให้เกียรติพี่เลย พี่ต้องคืนความยุติธรรมให้ผมนะ!”“เขามาจากไหน?” เดนเซลจ้องไบรอันที่รู้สึกอายอย่างมาก “ในเมื่อเขากล้าที่จะสร้างปัญหาในพาราเมาท์ เขาคงจะมีแบ็คอัพ ถูกไหม?”เปลือกตาของไบรอันกระตุก “นายน้อยวอชิงตัน ผมสืบเรื่องนี้เมื่อคืนแล้ว เขาไม่มีแบ็คอัพเลย เขาเป็นเพียงบอดี้การ์ดที่มีทักษะที่ดี“เมื่อคืนนี้รุ่นน้องของพี่บิ๊กฟลายต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ผมกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลาย ผมจึงไม่ได้บอกให้คนของเราลงมือ“นอกจากนี้ ตอนนั้นคุณวอล์คเกอร์ก็อยู่ที่เกิดเหตุด้วย เราไม่สามารถใช้อาวุธปืนอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ไอ้สารเลวนั้นจึงได้กล้าอวดดี!”เดนเซลนั่งลงบนเก้าอี้ทรงกลมที่มีที่เท้าแขนก่อนที่จะจิบชาและพูดว่า “คุณต้องการให้ฉัน
“ฮะ?”ไบรอันผงะไปครู่หนึ่งโดยไม่เข้าใจว่าเดนเซลหมายถึงอะไรเดนเซลกล่าวต่อว่า “คุณวอล์คเกอร์คือผู้หญิงที่เจ้าชายฌองชอบ ดังนั้นเราจึงต้องใช้วิธีพิเศษในการจัดการกับผู้คนรอบตัวเธอ“ไอ้สารเลวนั่นเหยียบย่ำคุณต่อหน้าคนอื่น ๆ และคุณก็คิดแต่ว่าจะฆ่าเขาอย่างเดียว แผนของคุณมันง่ายเกินไป!“ถ้าไคท์รู้เข้า เธอจะต้องไม่พอใจเจ้าชายฌองมากกว่าเดิม“ไคท์มาจากหลงเหมิน หลงเหมินเป็นเบื้องหน้าของรัฐบาลในยุคของนักดาบ พวกเขาเน้นความยุติธรรมและความภักดีมากที่สุด!“หนึ่งในสาเหตุที่ไคท์ปฏิเสธเจ้าชายฌองก็เพราะว่าเธอรู้สึกว่าเจ้าชายฌองเป็นคนไม่ดีที่ประพฤติตัวเลวทรามต่ำช้า“ดังนั้นหากเราจะทำเรื่องนี้ เราไม่สามารถที่จะทำมันได้ลับ ๆ ไม่ การทำลายเขาในที่สาธารณะจะดีที่สุด…”เดนเซลคิดก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไอ้สารเลวนั่นต่อสู้เก่งไม่ใช่เหรอ?”“เมื่อเร็ว ๆ นี้ไอเดน บาวเออร์และราเชล ฮาร์ดี้ร่วมมือกันเพื่อจะต่อสู้กับรองหัวหน้าวอล์คเกอร์ไม่ใช่เหรอ?”“หาโอกาสให้ฮาร์วีย์ได้เป็นนักสู้ของรองหัวหน้าวอล์คเกอร์!”“ถ้าฮาร์วีย์ถูกสังหารในขณะที่ต่อสู้กับราเชลจะดีกว่า แบบนั้นจะไม่น่าสนใจกว่าเหรอ?”“ใช่ ใช่ ใช พวกเราเข้