เมื่อเห็นว่าท่านอาจารย์ซิกเลอร์กำลังจะถูกลากออกไปข้างนอก...จู่ ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์กก็กระซิบว่า “นายท่านลินช์ ทักษะของท่านอาจารย์ซิกเลอร์อาจจะไม่ได้น่าทึ่งอะไรนัก แต่เขาพยายามช่วยจริง ๆ”“ช่วยผมหน่อย ให้เขามีชีวิตรอดต่อไปเถอะ อย่างไรเสียนายหญิงลินช์ก็เพิ่งจะฟื้นตัว เธอต้องทำบุญทำทานเสียหน่อย”“ก็ได้ เอาตามที่คุณว่า น้องยอร์ก!” แม้ว่าเบนจามิน ลินช์จะไม่รู้ว่าเหตุใดฮาร์วีย์จึงช่วยเหลืออาจารย์ซีกเลอร์ แต่เขาก็ไม่สนใจคนไม่สำคัญเช่นเขา“ส่งเขาไปรักษาตัวโรงพยาบาล แล้วอย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก!”“ขอบคุณนายท่านลินช์ ขอบคุณนายน้อยยอร์ก!”ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นและวิงวอนต่อฮาร์วีย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังและยังมีลมหายใจต่อไปได้สำหรับฮาร์วีย์แล้วนั่นอาจเป็นเพียงโยคสั้น ๆ แต่สำหรับเขาแล้ว คำพูดเหล่านั้นได้ช่วยชีวิตเขาไว้“นายน้อยยอร์ก คุณช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะไม่มีวันลืมเลย”หลังจากพูดจบ เขาก็ถูกผู้คุ้มกันพาตัวออกไป พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เขาอยู่เป็นหนามยอกอกที่นี่อีกต่อไปหลังจากที่ท่านอาจารย์ซิกเลอร์หายไป เบนจามินก็เหลือบไปมองทิโมธี เ
“ดูเหมือนว่านายท่านลินช์จะรู้ว่าตระกูลสึจิมิคาโดะหมายถึงอะไร” ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตาเล็กน้อยเบนจามิน ลินช์สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดช้า ๆ ว่า “ตระกูลสึจิมิคาโดะ เป็นหนึ่งในห้าตระกูลราชวงศ์ของประเทศหมู่เกาะ เป็นห้าตระกูลราชวงศ์ในตำนาน“ทุกวันนี้ตระกูลทั้งห้านี้แทบไม่ปรากฏตัวในโลกนี้ พวกเขาจะปรากฏตัวเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาที่มีปัญหาเท่านั้น ในบรรดาห้าตระกูลนี้ ตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือตระกูลสึจิมิคาโดะ“นี่เป็นเพราะองเมียวจิที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์จากประเทศหมู่เกาะมาจากตระกูลสึจิมิคาโดะ อาเบะ โนะ เซเม”“แต่เรามักจะเดินกันทางใครทางมัน ทำไมพวกเขาถึงมาลงมือกับภรรยาของผม?”ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “นายท่านลินช์ อย่าลืมวิชาหยินหยางที่ผมกำจัดให้คุณไปเมื่อสองสามวันก่อนสิ ตระกูลสึจิมิคาโดะไม่เพียงแต่โจมตีภรรยาของคุณเท่านั้น แต่พวกเขายังวางแผนที่จะฆ่าคุณมาตั้งหลายครั้งอีกด้วย“ชาวประเทศหมู่เกาะจะไม่ทำอะไรโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย พวกเขาจะไม่ทำข้อตกลงที่ขาดทุน ดังนั้นคุณควรคิดให้ดี ๆ ว่าคุณทำให้ชาวประเทศหมู่เกาะขุ่นเคืองเรื่องใดมาก่อนหรือเปล่า?”เบนจามินขมวดคิ้ว และเขาพูดช้า ๆ
เบนจามิน ลินช์ส่งคนไปจัดการกับศพในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเขายังจัดทีมก่อสร้างในวันรุ่งขึ้นและนำรถขุดและรถเจาะกำแพงเข้ามาหลายคันหลังจากฮาร์วีย์ ยอร์กกินอาหารเช้าเสร็จ เขาก็พาเบนจามินและโยนา ลินช์ไปที่ห้องเก็บไวน์ห้องเก็บไวน์นี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมและมีซากสลักหักพังมากมาย มันดูอึมครึมเล็กน้อยแม้ในเวลากลางวันหลังจากตรวจสอบแผนผังสักพัก ฮาร์วีย์ก็ชี้ไปที่ทิศทางบนกำแพงแล้วพูดว่า “ทำลายมันซะ!”แม้ว่าเบนจามินจะสับสนเล็กน้อย แต่เขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของฮาร์วีย์ในไม่ช้า กำแพงหนาครึ่งเมตรถูกทำลายทิ้ง เผยให้เห็นประตูเหล็กสีเข้มด้านใน ซึ่งเป็นผลิตผลของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ฮาร์วีย์ดูเฉยชาหลังจากเห็นฉากนี้ ทว่าเบนจามินกลับรู้สึกตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคาดคิดว่าโครงสร้างดังกล่าวจะถูกซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินนี้“น้องยอร์ก นี่คือ…”ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย “ถ้าผมจำไม่ผิด นี่คือห้องปฏิบัติการทางชีวเคมีที่ประเทศหมู่เกาะจัดตั้งขึ้นที่นี่ในช่วงสงครามตะวันออก”“ข่าวลือท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเท็จ”“เพียงเพราะประเทศหมู่เกาะพ่ายแพ้ในสงครามและออกจากที่นี่ไปอย่างเร่งรีบ ดังนั้นพวกเขาจึงจัด
“น้องยอร์ก นี่มันอะไรกัน…?”สีหน้าของเบนจามิน ลินช์แย่ลงอีก เขารู้สึกได้ด้วยจิตใต้สำนึกเลยว่าว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดาบเล่มนั้น แต่เขาไม่อาจบอกได้ว่าเพราะอะไรฮาร์วีย์ ยอร์กขมวดคิ้ว จากนั้นก็เหล่ตาไปชั่วขณะ จากนั้น เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด นี่ต้องเป็นศิลปวัตถุของตระกูลสึจิมิคาโดะที่สูญหายไปเป็นเวลานาน อย่างดาบปีศาจที่เรียกว่ามุรามาสะ”“แต่ตัวดาบนั้นก็สูญหายไปนานแล้ว มันไม่ควรจะอยู่ที่นี่”“นั่นหมายความว่าตระกูลสึจิมิคาโดะในตอนนั้นกำลังทำการทดลองสร้างดาบมุรามาสะเล่มใหม่โดยใช้เลือดและความกระหายสงคราม“แต่วิธีการหลอมดาบนี้ต้องล้มเหลวเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นดาบเล่มนี้คงถูกพรากไปแล้ว ไม่มีทางที่มันจะยังอยู่ที่นี่”“เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้คนจำนวนมากพากันเข้าหาตระกูลลินช์ มีโอกาสสูงที่พวกเขาพยายามจะมาชิงดาบไป”เบนจามินและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะเชื่อเรื่องปรัมปราเช่นนี้ดวงตาของเบนจามินกระตุกอย่างต่อเนื่อง เขาอุทานเบา ๆ ว่า “น้องยอร์ก เราจะจัดการกับสิ่งนี้อย่างไรดี?”ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ถ้าคนจากประเทศหมู่เกาะรู้เรื่องนี้ ไ
“จัสติน วอล์คเกอร์ประกาศต่อสาธารณะว่าราเชล ฮาร์ดี้ทำเรื่องเหลวไหล และไม่มีสิทธิ์ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดู เขาจะสู้กับราเชลจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง…”“ขุนพลที่ดีที่สุดของจัสติน วอล์คเกอร์จะมุ่งหน้ากลับจากโวลซิ่งมาที่มอร์ดู…”ข่าวสารทุกประเภทกระจายไปทั่ว เห็นได้ชัดว่าหลงเหมินสาขามอร์ดูได้รับการจัดระเบียบใหม่แล้วหลังจากที่ไอเดน บาวเออร์และราเชลผนวกกำลังกันเหลือเพียงจัสตินเท่านั้นที่ต้องมาเก็บกวาดกันในภายหลัง การจะจัดการกับเขามันคงไม่ยากเกินไปเมื่อมีโอกาสที่จะจัดการกับจัสตินลงได้ ทั้งหลงเหมินสาขามอร์ดูคงจะไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านกับฮาร์วีย์ ยอร์กฮาร์วีย์ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดีหลงเหมินที่แสนสูงส่งและทรงพลังในดินแดนอันยิ่งใหญ่อย่างมอร์ดูกลับตกต่ำลงเพียงนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างแท้จริงฮาร์วีย์เชื่อว่าจัสตินจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรขนาดนั้น เขาน่าจะถูกจัดการได้ง่าย ๆหลังจากได้พักผ่อนครู่หนึ่งฮาร์วีย์ก็รู้สึกหิวเล็กน้อย เขาเตรียมจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกแต่เมื่อเขาก้าวออกจากประตูหน้า โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียงของซีนเธียร์ ซิมเมอร์ดังก้องมาจากอีก
ทามารา เอโบนี่ ตัวแข็งเมื่อได้ยินคำพูดของซีนเธียร์ ซิมเมอร์ จากนั้นจึงเลิกแว่นกันแดดขึ้น“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ ในเมื่อเจ้าหญิงต้องการคู่ควงไปกับเธอ งั้นก็พาเขาขึ้นรถมาเถอะ”“แต่ฉันต้องเตือนเธอไว้ก่อนเลยนะว่า เรากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานบันเทิงที่ดังที่สุดในมอร์ดู ถ้าเขาก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นที่นั่น ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้”อันที่จริงแล้ว ทามาราไม่อยากให้ฮาร์วีย์ไปแม้แต่น้อย แต่เนื่องจากเธอกลัวว่าซีนเธียร์ ซิมเมอร์จะตามฮาร์วีย์ ยอร์กไป เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาเขาไปด้วยหลังจากได้ยินทามารารับปากว่าจะพาฮาร์วีย์ไปด้วย ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ก็ไปที่ท้ายรถคู่กับฮาร์วีย์ทามาราขมวดคิ้วหลังจากเห็นภาพนั้นแต่หลังจากคิดว่าชายที่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ เฟรเกรนท์ ฮิลล์ ติดตามซีนเธียร์ ซิมเมอร์ไปงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อหาอะไรทาน หลังจากพบเธอเข้าด้วยความบังเอิญ ทามาราก็สงบลงกว่าเดิม'เขาเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การพาเขาไปด้วยก็คงไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร เขาไม่สามารถขวางดาวเด่นของคืนนี้ไปได้”ทามาราเหยียบคันเร่งโดยไม่คิดอะไรอีก และรถก็ขับออกไปพร้อมกับเร่งเครื่องเสียง
“ที่ฉันไม่ปริปาก ก็เพราะซีนเธียร์ ซิมเมอร์อยากพาคุณออกมาดูโลก แต่อย่าสร้างปัญหาก็แล้วกัน!”“หลังจากที่คุณเข้าไปในห้องโถงแล้วก็หาที่นั่งทานอาหารซะนะ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์กับฉันคงจะมีคนเข้าหามากมาย เราคงไม่มีเวลาให้คุณหรอก!”“และโปรดรักษากริยาไว้สักหน่อย! ถ้าคุณกินเหมือนหมาล่าเนื้อ คุณจะถูกหัวเราะเยาะเอา!”“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันคงอายแย่!”หลังจากได้ยินคำขู่แสนอวดดีของทามาราเอโบนี่ ฮาร์วีย์ก็กรีดยิ้มไม่เปิดปาก และมีสีหน้าเฉยเมยถ้าไม่ใช่เพราะซีนเธียร์ เขาคงไม่คิดจะมาที่นี่“อ้อ อีกอย่างหนึ่ง นายน้อยโฮลท์อาจจะอยู่ที่นี่ในไม่กี่นาทีนี้แล้ว”“คุณเห็นเขาเข้ามา โปรดรักษาระยะห่างจากซีนเธียร์เอาไว้ด้วย!”“เขาตกหลุมรักซีนเธียร์ตั้งแต่แรกเห็น นั่นเป็นเหตุผลว่าถ้าคุณเข้าใกล้ซีนเธียร์ ซิมเมอร์มากเกินไป เขาอาจจะคลุ้มคลั่งและตวาดใส่คุณเอาได้”“นายน้อยโฮลท์?” ฮาร์วีย์ถามโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็มองไปที่ซีนเธียร์ซีนเธียร์แลบลิ้นเล็ก ๆ น่ารักของเธอ จากนั้นเอ่ยเบา ๆ ว่า “พี่เขย อย่าโกรธฉันเลย นายน้อยคนนั้นชื่อไบรอัน โฮลท์เขามาจากตระกูลชั้นสูงในมอร์ดูเชียวนะ”“เขาบอกฉันว่าเขาตกหลุมรักฉันตั้งแต่แรกเห็น
ทั้งห้องโถงดูค่อนข้างหรูหราแต่ก็ดูทันสมัยไปพร้อม ๆ กัน นี่เป็นสถานที่โปรดสำหรับคนมีชื่อเสียงทั้งหลายจากมอร์ดูสำหรับการเข้าสังคมแต่ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่สนใจคนเหล่านั้นเลย เมื่อเห็นคนดังที่เขาคุ้นหน้าเขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองซ้ำเป็นครั้งที่สอง จากนั้นเขาก็คว้าจานของเขาและเริ่มกินฮาร์วีย์อดอาหารมาทั้งวัน ถือเป็นเรื่องดีที่มีอาหารมื้อใหญ่ที่นี่อยู่ดี นั่นจะช่วยประหยัดเวลาในการออกไปหาอาหารข้างนอกทานได้เยอะเลย"ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?"ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังเคี้ยวสเต็กสามชิ้นอยู่ น้ำเสียงแปลก ๆ ของใครบางคนก็ดังก้องอยู่ข้างหลังฮาร์วีย์ฮาร์วีย์หันกลับมาและเห็นชายหนุ่มเจ้าสำอางค์สวมสูทลายตารางหมากรุกและแว่นตาขอบทองกำลังจ้อฮาร์วีย์อยู่ฮาร์วีย์ โยนสเต็กที-โบนกลับไปบนจาน จากนั้นก็เช็ดปาก"คุณคือใคร? เรารู้จักกันหรือ?"“คุณกำลังแสร้งทำเป็นไม่รู้หรือ หนุ่มน้อย?”“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่ได้ หลังจากเกาะตระกูลมาโลนกินแล้ว!”อีกฝ่ายเอ่ยปากออกมาอย่างเย็นชา"โอ้ โอ้ โอ้ คุณคือนายน้อยวอล์คเกอร์!”ฮาร์วีย์จำได้แล้วว่าคนหน้านี้คือใคร ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสตีเว่น วอล์คเกอร์นี่เองฮาร์