ซีนเธียร์พูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ความจริงแล้วเธอคิดสิ่งอื่นอยู่นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับเธอที่จะเธอจะได้อยู่ใกล้กับพี่เขยของเธอฮาร์วีย์รู้สึกว่าคำพูดของซีนเธียร์มีบางอย่างผิดแปลกไป แต่ในเมื่อเธอบอกว่าทำไปเพื่อการเรียนของเธอ อย่างนั้นเขาก็ต้องช่วยเธอเขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้น้องสะใภ้ของเขาเรียนหนักเมื่อเห็นทั้งคู่จับมือและพิงซบไหล่กัน…คนมากมายที่แอบชอบซีนเธียร์เห็นภาพดังกล่าว ทำให้พวกเขาโกรธมากจนแทบจะกระอักเลือด!“ซีนเธียร์ที่ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสา จริง ๆ แล้วเธอกำลังคบกับตาลุงแก่อยู่อบ่างนั้นเหรอ?!”“ไม่จริง ฉันรับไม่ได้!”“เอาน่า นายมีสิทธิ์อะไรถึงพูดอย่างนั้นได้? นายคิดว่านายเป็นใคร?!”ชายหนุ่มหลายคนรู้สึกเกรี้ยวกราดแต่พวกเขาทำได้เพียงแค่สาปแช่งจากไกล ๆ และไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาอีกไม่นาน ซีนเธียร์ก็พาฮาร์วีย์มาถึงที่โรงอาหารพวกเขาทั้งสองนั่งทานอาหารอยู่ที่มุมของโรงอาหาร พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะยังได้ยังความสนใจมากมายทั้ง ๆ ที่ทำอย่างนี้และหลาย ๆ คนก็ยังต้องมองพวกเขาอยู่ฮาร์วีย์พูดไม่ออก “ซีนเธียร์ ต่อไปคุณหยุดแต่งตัวดูดีมาได้ไหม? เห็นไหมว่าค
ฮาร์วีย์มองเมสันกลับ จากนั้นรอยยิ้มจาง ๆ ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาไม่แปลกใจว่าทำไมซีนเธียร์ถึงอยากแสดงภาพเหล่านั้นกับเขา เพราะว่าแถวนี้ค่อนข้างมีสิ่งน่ารำคาญอยู่เต็มไปหมดและทัศนคติของสิ่งที่น่ารำคาญที่อยู่หน้าพวกเขาตอนนี้ ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป อย่างมากฮาร์วีย์ก็แค่มองดูอยู่ด้านข้างและถ้าเขามองและชื่นชมคน ๆ นั้นเขาอาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยแต่เด็กเวรนี่แสดงท่าทีคนเจ้าชู้ที่ก้าวร้าวออกมาและฮาร์วีย์ก็คงไม่ยอมให้น้องสะใภ้ของเขาตกไปอยู่ในน้ำมือของคนแบบนี้แน่นอนฮาร์วีย์ยังไม่ทันพูดจบแต่แล้วซีนเธียร์ที่กำลังกราดเกรี้ยวตะโกนแทรกขึ้น “เมสัน วอร์เนอร์! ฉันบอกนายไปชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอว่าเราไม่เหมาะสม!”“นายมีสิทธิ์อะไรถึงได้เข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน?!”“สิทธิ์เหรอ?”เมสันหัวเราะ“ฉันแสดงทุกอย่างให้เห็นหมดแล้วในมหาวิทยาลัยบัควู้ด ว่าใครที่ฉันต้องการให้เป็นแฟนของฉันจะต้องเป็นแฟนของฉัน!”“มันเป็นกฎในมหาวิทยาลัยบัควู้ด เธอไม่เข้าใจเหรอ?”“นักศึกษาที่นี่รู้หมดแล้ว ใครที่แย่งผู้หญิงของฉันไป แขนและขาของเขาจะต้องหัก!” เมสันป่าวประกาศอย่างหยิ่งผยองเขาเป็นท
“รุ่นพี่ดเวย์น!”เมื่อเห็นร่างของคน ๆ หนึ่งปรากฏขึ้น ซีนเธียร์ก็ทักทายเขาอย่างสุภาพดเวย์น ฮาริสเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลับบัควู้ดเช่นเดียวกัน ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสี่และนาน ๆ ครั้งถึงจะมาที่มหาวิทยาลัยเขายังเป็นอีกคนที่ชื่นชอบซีนเธียร์ ถึงแม้ว่าเขาจะดูสง่างามกว่าก็ตาม“เมสันทำให้เธอลำบากอีกแล้วเหรอ?”ดเวย์นไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนที่เกิดเรื่องขึ้น แต่เขารีบเข้าหาซีนเธียร์ด้วยรอยยิ้มทันทีสำหรับเขา ยิ่งเมสันสร้างปัญหาให้กับซีนเธียร์มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีโอกาสช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังลำบากมากเท่านั้นดวเย์นจ้องมองเมสอนและขมวดคิ้วพร้อมกับพูด “มิสเตอร์วอร์เนอร์ ฉันเตือนนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าให้หยุดก่อกวนซีนเธียร์สักที!”“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนาย!”เมสันตะโกน ถึงแม้ว่าท่าทางของเขาดูค่อย ๆ แย่ลงกว่าเดิมเขารู้ดีว่าดเวย์นเป็นใคร ถึงแม้ว่าครอบครัวของดเวย์นจะไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น แต่พ่อของดเวย์นทำงานให้กับรัฐบาลบัควู้ด ทำให้สถานะของเขาค่อนข้างสูงหากเมสันไม่จำเป็นจริง ๆ เขาไม่ได้อยากยั่วยุดเวย์นเลย“เมื่อกี้ว่าไงนะ?”ใบหน้าของดเวย์นค่อย ๆ มืดหมองลง เมื่อเทียบกับเมสันเขามีบุคลิกที่ดี
ดเวย์น ฮาริสและเมสัน วอร์เนอร์ทั้งคู่ต่างเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากในมหาวิทยาลัยบัควู้ด คำกล่าวที่เกี่ยวกับการสู้กับของพวกเขาไปแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและดึงดูดนักศึกษาที่อยากรู้อยากเห็นมามากมายเมสันมีสีหน้าลำบากใจ แต่ต่างจากดเวย์นที่เมินเฉย แถมยังมีเวลาโบกมือทักทายสาว ๆ รอบตัวเขาอย่างเป็นมิตรอีกด้วยเขาเป็นประธานของสมาคมเทควันโดในมหาวิทยาลัยบัควู้ดและยังมีสายดำภายใต้ชื่อของเขาอีกด้วย ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เขาจึงมีแฟนคลับสาว ๆ ค่อนข้างมากดเวย์นรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากกับท่าทางของเมสันในวันนี้เขาเชื่อว่าถ้าเขาจัดการกับเมสันได้ ซีนเธียร์ก็จะได้รู้ว่าเธอควรเลือกผู้ชายคนไหนดเวย์นยืดแขนของเขาออกและกวักนิ้วชี้ของเขาด้วยท่าทางเยาะเย้ย ท้าให้เมสันเขาหาเขาเมสันหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นก่อนที่จะโยนลูกบาสใส่ดเวย์นอย่างเกรี้ยวกราดแต่ดเวย์นกลับยกขาของเขาและเตะลูกบาสออกไปแต่ทันทีที่เขาเตะ เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้าหาเขาและโจมตีเขาด้วยการตบเข้าที่หน้าอย่างแรงเพียะ!การตบครั้งนี้แรงพอที่ทำให้ดเวย์นกระเด็นออกไป นาทีที่เขาล้มลงกับพื้น เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้ามาเตะเข้าท้องของเขา“อ๊าก!”ดเว
ฮาร์วีย์ไม่ได้ตั้งใจอยากที่จะทะเลาะกับเด็กแต่เมสันกำลังทำตัวราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกทั้งใบ แต่ในสายตาของฮาร์วีย์เขาเป็นเพียงแค่เด็กเหลือขอเท่านั้นฮาร์วีย์จะสนใจสักนิดได้อย่างไร?เขายอมคุยด้วยเพียงเพราะเขาหวังว่าเมสันจะหยุดรังควานซีนเธียร์สักทีพูดอย่างปกติ ลืมทายาทร่ำรวยแห่งรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ไปได้เลย แม้แต่คณบดีของมหาวิทยาลัยบัควู้ดยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับเขาแต่เมสันพบว่าคำพูดของฮาร์วีย์เป็นการหยามเกียรติอย่างมากเขาชี้ตรงไปที่ฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดและตะโกน “นายคิดว่านายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้ฉันขอโทษ?!”“ฉันขอเตือนนาย! ว่าฉันรู้ทันนาย!”“ฉันต้องการซีนเธียร์และคืนนี้ฉันก็จะนอนกับเธอด้วย! ไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันจะทำให้นายคุกเข่าและมองดูทุกอย่างข้าง ๆ !”สมุนของเมสันเผยการแสดงออกที่เลวร้ายและในทิศทางที่ผิดของคำพูดของเขาโดยปกติแล้วครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำอย่างนี้แต่คำพูดของเมสันทำให้ฮาร์วีย์โกรธอย่างมากเขายังแทบไม่กล้าที่จะแกล้งน้องสะใภ้ของเขาอย่างนี้เลยแต่คนพวกนี้ยังกล้าที่จะพูดแบบนี้เหรอ?ฮาร์วีย์ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างคอแข็งเมื่อเห็นท่าทางของฮาร์วีย์
“เกิดอะไรขึ้น?”“เขาถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินเหรอ?!”เริ่มแรกท่าทีเรียบง่ายและนิ่งสงบของเจคอบก็เปลี่ยนไปทันที เขายืนขึ้นด้วยความโกรธ“ประธานวอร์เนอร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” แมนดี้ถามเจคอบตอบกลับด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “ประธานซิมเมอร์ ผมเกรงว่าเราคงต้องเลื่อนการเจรจาของเราออกไปอีกสองสามวันนะครับ”“ลูกชายของผมถูกทำร้ายอย่างหนักที่มหาวิทยาลัยและถูกส่งเข้าโรงพยาบาลครับ แล้วยังไม่พบคนที่ทำผิดอีกครับ ผมต้องไปตรวจสอบดูสักหน่อย”“เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายของผมจะถูกทำร้ายโดยไม่หวังอะไร ใช่ไหม?”แมนดี้จัดการร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทด้วยความเคารพอย่างสูง เมื่อฟังเจคอบ เธอพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องไปเยี่ยมกับประธานวอร์เนอร์ด้วยเหมือนกันค่ะ”“ได้ครับ”ไม่นานทั้งสองคนได้เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลเจคอบหน้าเสียทันทีเมื่อเขาเห็นเมสันที่มีผ้าพันแผลอยู่เต็มไปหมดถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉิน “ใครทำให้ลูกอย่างนี้?! ไม่ได้บอกพวกเขาเหรอว่าลูกเป็นทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์?!”ใบหน้าของเจคอบเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น“พ่อครับ ผมบอกเขาแล้ว! แต่เขาไม่ได้สนใจเลย!”“เขายังบอกด้วยว่าเขาจะหักขาของพ่อด้วย
“ทำร้ายเหรอ?”อีกด้านหนึ่งของสาย ฮาร์วีย์ได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับเมสันไปแล้ว แต่เมื่อแมนดี้ถามเขา เขาก็นึกขึ้นได้ทันที“ผมไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะ ผมแค่สั่งสอนเด็กเอง”“สั่งสอนเหรอ?”แมนดี้ไม่อยากจะเชื่อ“คุณจะบอกว่าคุณแค่สั่งสอนด้วยการทำให้ทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เข้าโรงพยาบาลเหรอ?!”“ฉันจะบอกคุณไว้เลยนะ! คุณกำลังเจอปัญหาใหญ่แน่!”แมนดี้วางสายอย่างเกรี้ยวกราดเธอสูดหายใจเข้าเพื่อให้ใจเย็นลง ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็โค้งให้เจคอบ “ประธานวอร์เนอร์คะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเราค่ะ!”“ฉันจะมอบเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อเป็นการชดเชยที่ทำร้ายจิตใจลูกชายของคุณค่ะ พร้อมกับค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดค่ะ”“แล้วเรื่องความร่วมมือของเขา บริษัทของเราจะมอบหุ้นส่วนของเราให้สิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการขอโทษจากฉันค่ะ”แต่คำพูดของแมนดี้กลับทำให้เจคอบหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นเท่านั้น “เงินเหรอ? คุณคิดว่ารีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ต้องการเงินเหรอ?”แมนดี้ขมวดคิ้ว“แล้วสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรคะ ประธานวอร์เนอร์? เราจะทำทุกอย่างด้วยอำนาจของเราค่ะ ตราบใดที่คุณเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์เจคอบแวะมาเยี่ยมพร้อมกับของติดไม้ติดมือเขามาด้วย ใบหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก “คุณเยตส์ บรรยากาศธุรกิจในเซาท์ไลท์แย่ขนาดนี้แล้วเหรอ?”“ผู้คนสามารถไปทำร้ายลูกของอีกฝ่ายเพื่อชนะการเจรจาเหรอครับ?”ด้วยสิ่งนี้ทำให้ท่าทีของคีธ เยตส์เปลี่ยนไป “ใครกันที่ทำพฤติกรรมเกินคนอย่างนี้?!”“วงการธุรกิจของเซาท์ไลท์มีความยุติธรรมและอยู่ในกรอบมาโดยตลอด! ใครที่สร้างความวุ่นวายอย่างนี่มีแต่จะทำให้ชีวิตของเขาอยู่ยากขึ้น!”“คุณไม่ได้บอกอีกฝ่ายเหรอครับว่าผมเป็นคนที่คอยสนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลัง?”เจคอยถอนหายใจและตอบกลับ “คุณเยตส์ อาจเป็นเพราะอำนาจของคุณคงจะไม่ยิ่งใหญ่อีกต่อไปแล้ว”“เมสัน ลูกชายของผมได้กล่าวชื่อของคุณไปแล้ว แต่ใครบางคนยังคงกล้าที่จะหักซี่โครงของเขาอยู่ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลครับ แทบจะทนไม่ไหวครับ!”“อะไรนะ?!”คีธยืนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ท่าทีของเขาย่ำแย่มากเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทำให้สายสัมพันธ์มี่เป็นของตระกูลเยตส์ได้ลดลงไปสามสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อครอบคลุมการสูญเสียของพวกเขา ตระกูลเยตส์พยายามตั้งใจที่จะเอาใจรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์แต่ตอนนี้ ลูกน้อง