เจคอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นความไม่สบายใจของตระกูลเยตส์ก่อนหน้านี้ เขาได้สืบและค้นพบมาแล้วส่าแมนดี้ ซิมเมอร์เป็นหลานสาวของตระกูลเยตส์แต่เขายังไม่มั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลเยตส์เป็นอย่างไร เขาจึงต้องพูดทั้งหมดออกมาเพื่อได้รับข้อมูลจากตระกูลเยตส์ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าตระกูลเยตส์ไม่ต้อนรับแมนดี้ ซิมเมอร์และฮาร์วีย์ ยอร์ก พูดได้ว่าพวกเราจงเกลียดจงชังทั้งคู่!ในเมื่อเป็นเพราะเรื่องนี้ เจคอบก็สามารถดำเนินธุรกิจของเขาต่อได้อย่างไร้ยางอายเขายังสามารถใช้ตระกูลเยตส์เพื่อต่อต้านแมนดี้ ซิมเมอร์ ในเมื่อพวกเขาสนับสนุนเขาอยู่แล้วเขาสามารถบีบบังคับให้แมนดี้ยอมเขาได้!คีธครุ่นคิด“บอกให้ฟินน์กลับมาบ้าน”ไม่นานฟินน์ เยตส์ก็เดินทางกลับมาเขาเป็นผู้บัญชาการลำดับสามของสถานีตำรวจบัควู้ด ตำแหน่งปัจจุบันของเขาตอนนี้คือรองสารวัตรนับได้ว่าเขาเป็นชายที่โดดเด่นแม้ว่าอายุของเขาจะยังหนุ่มก็ตาม“ฟินน์ ไปตามหาฮาร์วีย์ ยอร์กกับประธานวอร์เนอร์และบอกเขาว่าเขาต้องทำอะไร!”“ตลอดเวลาเขาเอาเปรียบคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล ถ้าประธานวอร์เนอร์ไม่ได้ต้องการที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้อย่างส่วนตัว อย่างนั้นก
ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างใจเย็น “บางคนก็แค่ต่ำเกินไป คุณทำให้พวกเขาเห็นไม่ได้หรอกถ้าไม่จัดการเรียกสติพวกเขา”“ถ้าผมไม่ทำอย่างนั้น เด็กผู้ชายคนนั้นคอยรังควานซีนเธียร์ต่อไปเรื่อย ๆ จากนั้นมีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”“อีกอย่าง ผมไม่ได้อยู่กับซีนเธียร์ตลอดเวลาเหมือนกัน”“ใช่! พี่เขยแค่พยายามจะปกป้องฉันเอง หยุดโทษเขาได้แล้ว”ซีนเธียร์ดึงมือของแมนดี้มาพร้อมกับทำสายตาน่าสงสารแมนดี้ถอนหายใจและไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อแต่ปัญหาก็คือเมสันถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและเหตุผลทุกอย่างก็อยู่ข้างเขาเธอจะรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?แมนดี้ไม่คิดที่จะยอมรับเงื่อนไขที่อีกฝ่ายได้ตั้งขึ้นหรอกแต่พวกเขาคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่เรื่องนี้มันชวนปวดหัวสุด ๆ !ในตอนนั้นเองเสียงออดประตูก็ดังขึ้นเจคอบ วอร์เนอร์และฟินน์ เยตส์ อยู่ที่ประตูและพากลุ่มสารวัตรมาพร้อมกันกับพวกเขาใบหน้าของเจคอบเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งฟินน์จับไปที่อาวุธที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขาและประกาศอย่างเคร่งขรึม “ฮาร์วีย์ ยอร์กและแมนดี้ ซิมเมอร์! ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของสถานีตำรวจบัควู้ด”“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายได้ก่อเหตุทำร้
“ใช่! โดยปกติประธานสภานักศึกษาเป็นราชาแห่งมหาวิทยาลัยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันปกตินะ เพราะเมสันก็มีคุณสมบัติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ!”“เธอต่างหากที่ไร้ยางอาย! เธอแสดงความรักกับพี่เขยของเธออย่างเปิดเผย เธอถูกทำให้อับอายจนโกรธตอนที่ทุกอย่างเปิดเผยและทำร้ายเมสัน!”ซีนเธียร์หน้าเสีย เธอหันไปหาดเวย์น “รุ่นพี่ฮาริสเต็มใจที่จะยืนหยัดเพื่อเมสันแม้ว่าเขาจะเป็นคนทำร้ายรุ่นพี่เหรอคะ?”ดเวย์นตอบกลับด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง “ซีนเธียร์ เธอหยุดบิดเบือนความจริงสักทีได้ไหม? คนที่ทำร้ายฉันคือฮาร์วีย์ ยอร์ก พี่เขยของเธอนะ!”“ฉันไม่อยากจะทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เธอพูดขึ้นมาเองนะ!”ซีนเธียร์ชะงักเพราะคำสารภาพของดเวย์นเธอไม่เคยคาดคิดว่าดเวย์นจะโยนความผิดไปให้ฮาร์วีย์อย่างนี้ตอนนี้ทำให้ฮาร์วีย์เข้าใจทุกอย่างดีการร่วมมือกันระหว่างเจคอบและตระกูลเยตส์ได้ถูกเตรียมไว้หมดแล้วถึงแม้ว่าพ่อของดเวย์นจะทำงานให้กับรัฐบาลของบัควู้ด แต่เขาเป็นเพียงแค่ลูกน้องที่ไม่มีความสำคัญในสายตาของตระกูลเยตส์เขาจะกล้าขัดคำสั่งเหรอ?นักศึกษาเหล่านี้จะกล้าขัดคำสั่งตระกูลเยตส์และรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เหรอ?
คำพูดของฟินน์นั้นทำให้ไซม่อนและครอบครัวของเขาหน้าถอดสีแลดูหวาดกลัวตำแหน่งของฟินน์ในฐานะเจ้าชายของตระกูลเยตส์ไม่ได้มีไว้เพื่อประดับบารมี ว่ากันว่าเขาเคยเรียนในมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งโดยกรมตำรวจเซาท์ไลท์ และเป็นแชมป์การแข่งขันการต่อสู้ของกองกำลังตำรวจสองสามสมัยในสมัยที่เขาอยู่ที่นั่นแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนประเภทที่จะออกตัว แต่หากเขาได้เริมจัดการแล้ว เขาจะทำลายล้างหรือแม้กระทั่งฆ่าคู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอนตระกูลเยตส์ส่งฟินน์ไปช่วยเหลือรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์และออกตัวในครั้งนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่าฮาร์วีย์แพ้แน่นอน!การที่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนเป็นจะต้องการแสดงชัยฮาร์วีย์อาจถูกจัดการจนต้องพิการไปตลอดบั้นท้ายชีวิต ชะตากรรมเลวร้ายยิ่งกว่าความตายมองดูท่าทีเย็นชาของฮาร์วีย์ ฟินน์ตีความไปว่าฮาร์วีย์คงจะตกใจฟินน์เดินเข้าหาฮาร์วีย์ ตบลงที่แก้มฮาร์วีย์เบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย“เพราะเราเป็นญาติกัน นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายของฉัน”“นายต้องไปที่สำนักงานใหญ่ของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ และแก้ไขปัญหานี้กับท่านประธานวอร์เนอร์ก่อนเที่ยงคืน”“ถ้าไม่อย่างนั้น นายจะได้เห็นเองว่าจะเกิด
ช่วงเวลาเที่ยงคืน ณ เอ็มเพอเรอร์ คลับเฮาส์ที่นี่เป็นทรัพย์สินของรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ และพวกเขาปิดให้บริการในคืนนี้ฟินน์ได้ทิ้งผลประโยชน์ที่ได้มาจากเจคอบเอาไว้พวกเขาเพียงแค่ทำให้พวกซิมเมอร์กลัวเพื่อจัดการกับพวกเขาได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องให้ฟินน์มาปรากฏตัวขึ้นจริง ๆไม่นานฮาร์วีย์ก็มาถึง“อะไรกัน? มีแค่ลูกเขยไร้ประโยชน์ที่มางั้นเหรอ?”“ไม่เป็นไร ฉันจะได้นอนกับผู้หญิงของมันหลังจากบดขยี้แขนขามันเรียบร้อยแล้ว!”เจคอบพูดอย่างไร้ความปราณี เขารู้วิธีทรมานจิตใจของคนและผลักให้คน ๆ นั้นตกลงไปสู่ชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายเมื่อฮาร์วีย์เข้ามา รปภ. นับสิบยืนล้อมเขาไว้ทันทีมีคนล็อกหน้าต่างและประตูทุกบานในอาคารอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหนึไปได้ และต้องมั่นใจว่าจะไม่มีเสียงตะโกนเล็ดลอดออกไปไม่มีใครคิดว่าฮาร์วีย์จะกล้าก้าวเข้ามาโดยไม่สนใจโลกแถมยังนั่งลงต่อหน้าเจคอบ แล้วรินไวน์แดงให้ตัวเองท่าทีที่สงบของเขาทำให้เจคอบชะงักเจคอบเคยเห็นแต่ท่าทีแบบนี้จากพวกคนรวยเท่านั้นลูกเขยไร้ประโยชน์นี่มีสิทธิ์อะไรมาทำตัวแบบนี้?“ตระกูลเยตส์เป็นคนคอยให้การสนับสนุนรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ใ
ทันทีที่ฮาร์วีย์พูดจบ เขาเอื้อมมือไปกระชากผมของเจคอบ แล้วโขกเข้ากับโต๊ะหินอ่อนโต๊ะหินอ่อนแตกร้าว เลือดไหลหยดย้อยเต็มหน้าของเจคอบก่อนจะสลบไปฮาร์วีย์สั่งด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ปลุกมันขึ้นมา แล้วจัดการหักแขนหักขามันให้หมด อย่าให้มันช่วยเหลือตัวเองได้อีกตลอดชีวิต”“รับทราบครับ!”ไทสันโค้งคำนับรับคำสั่ง พวกลูกน้องหยิบหม้อชาร้อน ๆ แล้วเทลงบนตัวของเจคอบทันที“อ๊าาาากกก!”เจคอบฟื้นขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนเกลือกกลิ้งไปบนพื้นตัวของเขาถูกจับแขนขาแล้วถูกหักแขนหักขาไปทีละข้างเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เจคอบก็หมดสติไปอีกครั้ง กลิ่นเหม็นของฉี่ลอยคลุ้งไปรอบตัวฮาร์วีย์ใช้ชุดสูททำความสะอาดรองเท้าของเขา เผยรอยความรังเกียจไปทั่วใบหน้า จากนั้นเขาก็หันหลังเดินจากไปและแน่นอนเมื่อฮาร์วีย์กลับมาถึงเดอะการ์เดนส์เรสซิเดนส์ พวกซิมเมอร์ที่กระวนกระวายใจอยู่ต่างยืนขึ้นด้วยความตกใจลิเลียนถามทันทีว่า “ฮาร์วีย์ แกยังไม่ไปอีกเหรอ?”“ผมไปแล้ว และจัดการแก้ปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วางใจเถอะครับ เจคอบจะไม่สร้างปัญหาให้เราอีกต่อไป” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นฮาร์วีย์ไม่ได้พูดบอกเล่าเรื่องอื่น เจคอบจะมา
ฟินน์ยังคงนิ่งสงบและพูดว่า “พ่อครับ แม้ว่าพวก รปภ. ของท่านประธานวอร์เนอร์จะไม่ได้เก่งกาจอะไรขนาดนั้น แต่ฮาร์วีย์ยังเอาชนะคนจำนวนมากกว่าได้ เขามีความสามารถถึงขนาดนี้ได้ยังไง? เขามีคนคอยสนับสนุนช่วยอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?”คีธหัวเราะ“ฉันถามข้อมูลนี้มาแล้ว เขาเป็นเพียงคนขับรถของคนใหญ่คนโตคนหนึ่งเท่านั้น”“มีคนเห็นพวกนักเลงอยู่ที่คลับเฮาส์นั่น!”“ฮาร์วีย์น่าจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะสู้เจคอบได้ยังไง?”“ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว? ดีจริง ๆ !”ดวงตาของฟินน์เป็นประกายขึ้นทันที“ตระกูลเยตส์คือความหายนะของพวกอันธพาล! เคยส่งพวกมันเข้าคุกมาก่อน แต่ตอนนี้มันกลับสามารถส่งพวกอันธพาลมาได้ตามคำสั่งของมัน!”“พ่อครับ ให้ผมจัดการเอง ผมจะทำให้มันเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้!”คีธตอบอย่างเย็นชาว่า “จำไว้ว่านายต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด อย่าแสดงความเมตตาใด ๆ ถ้าไม่อย่างนั้น ศักดิ์ศรีของเราคงไม่หลงเหลืออยู่!”ไม่นานข่าวนี้ก็ถึงแมนดี้และครอบครัวของเธอทุกคนตกใจจนไม่อยากจะเชื่อ‘นั่นคือวิธีการพูดคุยอย่างป็นมิตรของฮาร์วีย์งั้นหรือ?’‘เขาทำร้ายทุบตีถึงขั้นนี้แล้วยังเรียกว่าพูดคุยอย่างเ
”คุณคิดว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?” ยานนิคถามพร้อมขมวดคิ้วเขารู้ว่าฟินน์เป็นใคร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่กล้าทำขึงขังกับฟินน์มากนักฟินน์ตอบอย่างสุภาพว่า “สารวัตรใหญ่ มีคนสร้างความวุ่นวายที่เอ็มเพอเรอร์ คลับเฮาส์ เขาทำให้ท่านประธานวอร์เนอร์ พิการตั้งแต่เอวลงไป ผมกำลังเตรียมคนของผมไปจับเขามาที่นี่และจัดการตามกระบวนการ!”ยานนิคขมวดคิ้วถามว่า “ทำไมคุณถึงพาคนของเราไปจำนวนมากขนาดนี้ ก็แค่เรื่อง? เพียงแค่ไม่กี่คนไปกับคุณก็พอ ผมต้องใช้คนส่วนที่เหลือ”ฟินน์ชะงักแล้วพูดว่า “สารวัตรครับ พ่อผมสั่งให้ผม”ยานนิคถอนหายใจ“ฟินน์ ไม่ใช่ว่าผมไม่ให้เกียรติคุณนะ”“แต่วันนี้มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในบัควู้ด”“คุณทราบถึงการเปลี่ยนกองกำลังทหารของเซาท์ไลท์ใช่ไหม? ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังทหารคนต่อไปกำลังจะมาถึงที่สนามบิน คนของเราต้องไปที่นั่นเพื่อดูแลด้านความปลอดภัย”“อะไรนะครับ? เขาจะมาวันเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นคุณควรเอาคนไป ทิ้งบางคนให้ผม”ฟินน์ชะงักเขาไม่กล้าหยุดยานนิคเมื่อยานนิคไปกับพวกลูกน้องพวกนั้น ฟินน์ก็รีบโทรหาคีธทันที“พ่อครับ ผมเพิ่งได้รับข่าวว่าผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเซาท์ไลท์กำลังจะ