“รุ่นพี่ดเวย์น!”เมื่อเห็นร่างของคน ๆ หนึ่งปรากฏขึ้น ซีนเธียร์ก็ทักทายเขาอย่างสุภาพดเวย์น ฮาริสเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลับบัควู้ดเช่นเดียวกัน ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสี่และนาน ๆ ครั้งถึงจะมาที่มหาวิทยาลัยเขายังเป็นอีกคนที่ชื่นชอบซีนเธียร์ ถึงแม้ว่าเขาจะดูสง่างามกว่าก็ตาม“เมสันทำให้เธอลำบากอีกแล้วเหรอ?”ดเวย์นไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนที่เกิดเรื่องขึ้น แต่เขารีบเข้าหาซีนเธียร์ด้วยรอยยิ้มทันทีสำหรับเขา ยิ่งเมสันสร้างปัญหาให้กับซีนเธียร์มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีโอกาสช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังลำบากมากเท่านั้นดวเย์นจ้องมองเมสอนและขมวดคิ้วพร้อมกับพูด “มิสเตอร์วอร์เนอร์ ฉันเตือนนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าให้หยุดก่อกวนซีนเธียร์สักที!”“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนาย!”เมสันตะโกน ถึงแม้ว่าท่าทางของเขาดูค่อย ๆ แย่ลงกว่าเดิมเขารู้ดีว่าดเวย์นเป็นใคร ถึงแม้ว่าครอบครัวของดเวย์นจะไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น แต่พ่อของดเวย์นทำงานให้กับรัฐบาลบัควู้ด ทำให้สถานะของเขาค่อนข้างสูงหากเมสันไม่จำเป็นจริง ๆ เขาไม่ได้อยากยั่วยุดเวย์นเลย“เมื่อกี้ว่าไงนะ?”ใบหน้าของดเวย์นค่อย ๆ มืดหมองลง เมื่อเทียบกับเมสันเขามีบุคลิกที่ดี
ดเวย์น ฮาริสและเมสัน วอร์เนอร์ทั้งคู่ต่างเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากในมหาวิทยาลัยบัควู้ด คำกล่าวที่เกี่ยวกับการสู้กับของพวกเขาไปแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและดึงดูดนักศึกษาที่อยากรู้อยากเห็นมามากมายเมสันมีสีหน้าลำบากใจ แต่ต่างจากดเวย์นที่เมินเฉย แถมยังมีเวลาโบกมือทักทายสาว ๆ รอบตัวเขาอย่างเป็นมิตรอีกด้วยเขาเป็นประธานของสมาคมเทควันโดในมหาวิทยาลัยบัควู้ดและยังมีสายดำภายใต้ชื่อของเขาอีกด้วย ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เขาจึงมีแฟนคลับสาว ๆ ค่อนข้างมากดเวย์นรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากกับท่าทางของเมสันในวันนี้เขาเชื่อว่าถ้าเขาจัดการกับเมสันได้ ซีนเธียร์ก็จะได้รู้ว่าเธอควรเลือกผู้ชายคนไหนดเวย์นยืดแขนของเขาออกและกวักนิ้วชี้ของเขาด้วยท่าทางเยาะเย้ย ท้าให้เมสันเขาหาเขาเมสันหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นก่อนที่จะโยนลูกบาสใส่ดเวย์นอย่างเกรี้ยวกราดแต่ดเวย์นกลับยกขาของเขาและเตะลูกบาสออกไปแต่ทันทีที่เขาเตะ เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้าหาเขาและโจมตีเขาด้วยการตบเข้าที่หน้าอย่างแรงเพียะ!การตบครั้งนี้แรงพอที่ทำให้ดเวย์นกระเด็นออกไป นาทีที่เขาล้มลงกับพื้น เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้ามาเตะเข้าท้องของเขา“อ๊าก!”ดเว
ฮาร์วีย์ไม่ได้ตั้งใจอยากที่จะทะเลาะกับเด็กแต่เมสันกำลังทำตัวราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกทั้งใบ แต่ในสายตาของฮาร์วีย์เขาเป็นเพียงแค่เด็กเหลือขอเท่านั้นฮาร์วีย์จะสนใจสักนิดได้อย่างไร?เขายอมคุยด้วยเพียงเพราะเขาหวังว่าเมสันจะหยุดรังควานซีนเธียร์สักทีพูดอย่างปกติ ลืมทายาทร่ำรวยแห่งรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ไปได้เลย แม้แต่คณบดีของมหาวิทยาลัยบัควู้ดยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับเขาแต่เมสันพบว่าคำพูดของฮาร์วีย์เป็นการหยามเกียรติอย่างมากเขาชี้ตรงไปที่ฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดและตะโกน “นายคิดว่านายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้ฉันขอโทษ?!”“ฉันขอเตือนนาย! ว่าฉันรู้ทันนาย!”“ฉันต้องการซีนเธียร์และคืนนี้ฉันก็จะนอนกับเธอด้วย! ไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันจะทำให้นายคุกเข่าและมองดูทุกอย่างข้าง ๆ !”สมุนของเมสันเผยการแสดงออกที่เลวร้ายและในทิศทางที่ผิดของคำพูดของเขาโดยปกติแล้วครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำอย่างนี้แต่คำพูดของเมสันทำให้ฮาร์วีย์โกรธอย่างมากเขายังแทบไม่กล้าที่จะแกล้งน้องสะใภ้ของเขาอย่างนี้เลยแต่คนพวกนี้ยังกล้าที่จะพูดแบบนี้เหรอ?ฮาร์วีย์ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างคอแข็งเมื่อเห็นท่าทางของฮาร์วีย์
“เกิดอะไรขึ้น?”“เขาถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินเหรอ?!”เริ่มแรกท่าทีเรียบง่ายและนิ่งสงบของเจคอบก็เปลี่ยนไปทันที เขายืนขึ้นด้วยความโกรธ“ประธานวอร์เนอร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” แมนดี้ถามเจคอบตอบกลับด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “ประธานซิมเมอร์ ผมเกรงว่าเราคงต้องเลื่อนการเจรจาของเราออกไปอีกสองสามวันนะครับ”“ลูกชายของผมถูกทำร้ายอย่างหนักที่มหาวิทยาลัยและถูกส่งเข้าโรงพยาบาลครับ แล้วยังไม่พบคนที่ทำผิดอีกครับ ผมต้องไปตรวจสอบดูสักหน่อย”“เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายของผมจะถูกทำร้ายโดยไม่หวังอะไร ใช่ไหม?”แมนดี้จัดการร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทด้วยความเคารพอย่างสูง เมื่อฟังเจคอบ เธอพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องไปเยี่ยมกับประธานวอร์เนอร์ด้วยเหมือนกันค่ะ”“ได้ครับ”ไม่นานทั้งสองคนได้เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลเจคอบหน้าเสียทันทีเมื่อเขาเห็นเมสันที่มีผ้าพันแผลอยู่เต็มไปหมดถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉิน “ใครทำให้ลูกอย่างนี้?! ไม่ได้บอกพวกเขาเหรอว่าลูกเป็นทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์?!”ใบหน้าของเจคอบเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น“พ่อครับ ผมบอกเขาแล้ว! แต่เขาไม่ได้สนใจเลย!”“เขายังบอกด้วยว่าเขาจะหักขาของพ่อด้วย
“ทำร้ายเหรอ?”อีกด้านหนึ่งของสาย ฮาร์วีย์ได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับเมสันไปแล้ว แต่เมื่อแมนดี้ถามเขา เขาก็นึกขึ้นได้ทันที“ผมไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะ ผมแค่สั่งสอนเด็กเอง”“สั่งสอนเหรอ?”แมนดี้ไม่อยากจะเชื่อ“คุณจะบอกว่าคุณแค่สั่งสอนด้วยการทำให้ทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เข้าโรงพยาบาลเหรอ?!”“ฉันจะบอกคุณไว้เลยนะ! คุณกำลังเจอปัญหาใหญ่แน่!”แมนดี้วางสายอย่างเกรี้ยวกราดเธอสูดหายใจเข้าเพื่อให้ใจเย็นลง ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็โค้งให้เจคอบ “ประธานวอร์เนอร์คะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเราค่ะ!”“ฉันจะมอบเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อเป็นการชดเชยที่ทำร้ายจิตใจลูกชายของคุณค่ะ พร้อมกับค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดค่ะ”“แล้วเรื่องความร่วมมือของเขา บริษัทของเราจะมอบหุ้นส่วนของเราให้สิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการขอโทษจากฉันค่ะ”แต่คำพูดของแมนดี้กลับทำให้เจคอบหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นเท่านั้น “เงินเหรอ? คุณคิดว่ารีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ต้องการเงินเหรอ?”แมนดี้ขมวดคิ้ว“แล้วสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรคะ ประธานวอร์เนอร์? เราจะทำทุกอย่างด้วยอำนาจของเราค่ะ ตราบใดที่คุณเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์เจคอบแวะมาเยี่ยมพร้อมกับของติดไม้ติดมือเขามาด้วย ใบหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก “คุณเยตส์ บรรยากาศธุรกิจในเซาท์ไลท์แย่ขนาดนี้แล้วเหรอ?”“ผู้คนสามารถไปทำร้ายลูกของอีกฝ่ายเพื่อชนะการเจรจาเหรอครับ?”ด้วยสิ่งนี้ทำให้ท่าทีของคีธ เยตส์เปลี่ยนไป “ใครกันที่ทำพฤติกรรมเกินคนอย่างนี้?!”“วงการธุรกิจของเซาท์ไลท์มีความยุติธรรมและอยู่ในกรอบมาโดยตลอด! ใครที่สร้างความวุ่นวายอย่างนี่มีแต่จะทำให้ชีวิตของเขาอยู่ยากขึ้น!”“คุณไม่ได้บอกอีกฝ่ายเหรอครับว่าผมเป็นคนที่คอยสนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลัง?”เจคอยถอนหายใจและตอบกลับ “คุณเยตส์ อาจเป็นเพราะอำนาจของคุณคงจะไม่ยิ่งใหญ่อีกต่อไปแล้ว”“เมสัน ลูกชายของผมได้กล่าวชื่อของคุณไปแล้ว แต่ใครบางคนยังคงกล้าที่จะหักซี่โครงของเขาอยู่ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลครับ แทบจะทนไม่ไหวครับ!”“อะไรนะ?!”คีธยืนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ท่าทีของเขาย่ำแย่มากเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทำให้สายสัมพันธ์มี่เป็นของตระกูลเยตส์ได้ลดลงไปสามสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อครอบคลุมการสูญเสียของพวกเขา ตระกูลเยตส์พยายามตั้งใจที่จะเอาใจรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์แต่ตอนนี้ ลูกน้อง
เจคอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นความไม่สบายใจของตระกูลเยตส์ก่อนหน้านี้ เขาได้สืบและค้นพบมาแล้วส่าแมนดี้ ซิมเมอร์เป็นหลานสาวของตระกูลเยตส์แต่เขายังไม่มั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลเยตส์เป็นอย่างไร เขาจึงต้องพูดทั้งหมดออกมาเพื่อได้รับข้อมูลจากตระกูลเยตส์ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าตระกูลเยตส์ไม่ต้อนรับแมนดี้ ซิมเมอร์และฮาร์วีย์ ยอร์ก พูดได้ว่าพวกเราจงเกลียดจงชังทั้งคู่!ในเมื่อเป็นเพราะเรื่องนี้ เจคอบก็สามารถดำเนินธุรกิจของเขาต่อได้อย่างไร้ยางอายเขายังสามารถใช้ตระกูลเยตส์เพื่อต่อต้านแมนดี้ ซิมเมอร์ ในเมื่อพวกเขาสนับสนุนเขาอยู่แล้วเขาสามารถบีบบังคับให้แมนดี้ยอมเขาได้!คีธครุ่นคิด“บอกให้ฟินน์กลับมาบ้าน”ไม่นานฟินน์ เยตส์ก็เดินทางกลับมาเขาเป็นผู้บัญชาการลำดับสามของสถานีตำรวจบัควู้ด ตำแหน่งปัจจุบันของเขาตอนนี้คือรองสารวัตรนับได้ว่าเขาเป็นชายที่โดดเด่นแม้ว่าอายุของเขาจะยังหนุ่มก็ตาม“ฟินน์ ไปตามหาฮาร์วีย์ ยอร์กกับประธานวอร์เนอร์และบอกเขาว่าเขาต้องทำอะไร!”“ตลอดเวลาเขาเอาเปรียบคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล ถ้าประธานวอร์เนอร์ไม่ได้ต้องการที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้อย่างส่วนตัว อย่างนั้นก
ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างใจเย็น “บางคนก็แค่ต่ำเกินไป คุณทำให้พวกเขาเห็นไม่ได้หรอกถ้าไม่จัดการเรียกสติพวกเขา”“ถ้าผมไม่ทำอย่างนั้น เด็กผู้ชายคนนั้นคอยรังควานซีนเธียร์ต่อไปเรื่อย ๆ จากนั้นมีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”“อีกอย่าง ผมไม่ได้อยู่กับซีนเธียร์ตลอดเวลาเหมือนกัน”“ใช่! พี่เขยแค่พยายามจะปกป้องฉันเอง หยุดโทษเขาได้แล้ว”ซีนเธียร์ดึงมือของแมนดี้มาพร้อมกับทำสายตาน่าสงสารแมนดี้ถอนหายใจและไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อแต่ปัญหาก็คือเมสันถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและเหตุผลทุกอย่างก็อยู่ข้างเขาเธอจะรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?แมนดี้ไม่คิดที่จะยอมรับเงื่อนไขที่อีกฝ่ายได้ตั้งขึ้นหรอกแต่พวกเขาคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่เรื่องนี้มันชวนปวดหัวสุด ๆ !ในตอนนั้นเองเสียงออดประตูก็ดังขึ้นเจคอบ วอร์เนอร์และฟินน์ เยตส์ อยู่ที่ประตูและพากลุ่มสารวัตรมาพร้อมกันกับพวกเขาใบหน้าของเจคอบเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งฟินน์จับไปที่อาวุธที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขาและประกาศอย่างเคร่งขรึม “ฮาร์วีย์ ยอร์กและแมนดี้ ซิมเมอร์! ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของสถานีตำรวจบัควู้ด”“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายได้ก่อเหตุทำร้