เกรย์ ฌองปล่อยเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ออกมาอย่างชั่วร้ายก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “ถ้าฉันอยู่ที่นี่แล้วซะอย่าง มันจะมีโอกาสรอดไปได้อย่างไร?” ตระกูลฌองจากมอร์ดูเป็นหนึ่งในสิบตระกูลระดับแนวหน้าของประเทศ H แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในอันดับที่เก้า แต่เกรย์ก็เชื่อว่าในกลุ่มคนที่ไร้ประโยชน์ในที่นี้ไม่มีใครแล้วที่จะมีสถานะที่สูงไปกว่าเขา แซ็ครีบเอ่ยถามด้วยท่าทางอันสุดร้ายกาจว่า “ท่านฌอง คุณต้องการให้ผมพาคนไปจับผู้ชายคนนั้นมาไหมครับ?' “ไม่ต้องรีบร้อนไป ถึงเวลาที่ต้องจัดการเรื่องหลัก ๆ ของเราก่อนแล้ว เรื่องผู้หญิงไว้จัดการทีหลัง” เกรย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขารู้วิธีการแยกแยะระหว่างเรื่องไหนที่มันสำคัญกว่า ไม่ไกลจากเกรย์คือคาร์สัน คลาวด์, คัลลัม ร็อบบินส์, และคีธ เยตส์ พวกเขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ข้าง ๆ กัน เมื่อพวกเขาเห็นฮาร์วีย์เดินเข้ามา คีธก็ขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “ทำไมเศษขยะถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ช่างน่าอับอายเสียนี่กระไร!” ฮาร์วีย์เป็นหลานเขยของตระกูลเยตส์ ถ้าเขาดันทำอะไรที่น่าขายหน้าที่นี่ มันจะสะท้อนถึงตระกูลเยตส์ในทางที่ไม่ดีได้ คัลลัมยิ้ม “อย่าตกใจไปเลยเยตส์ หลานเขยของคุณคนนี้มักจะทำ
ฝูงชนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์ได้พูด สนามบินซึ่งในตอนแรกมีเสียงดังจอแจ แต่ในตอนนี้นั้นกลับตกมาอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ทั้งตกตะลึงและตกใจ 'เกิดอะไรขึ้น?' 'เขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่านะ?' ใครบ้าที่ไหนกล้าไปยั่วยุตระกูลลีโอจากฮ่องกงต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้? ยิ่งไปกว่านั้นชายผู้นี้กระทำมันต่อหน้าของเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอ! ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าชนชั้นสูงของบัควู้ดส่วนใหญ่ต่างก็พากันมาต้อนรับคริส ลีโอเมื่อตอนที่เขามาที่บัควู้ดเป็นครั้งแรก! อะไรคือตัวตนของบุคคลดังกล่าว? ผู้ชายคนนี้มีสถานะอะไรหรือ? ใครกันที่กล้าขู่พวกตระกูลลีโอโดยการบอกว่าตระกูลของพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องมีในฮ่องกงอีกต่อไป? แม้แต่เชลดอน ซาเวียร์และคนอื่น ๆ ที่รู้จักตัวตนของฮาร์วีย์ก็ยังตกตะลึง ตระกูลลีโอเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลชั้นนำในฮ่องกงและร่ำรวยมาก ๆ แม้แต่ตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ทื่อยากจะยุ่งกับพวกเขา พวกเขายังอาจที่จะต้องจ่ายในราคาที่มหาศาลเพื่อการกระทำเช่นนั้น กระนั้น ก็ยังมีชายผู้หนึ่งพูดคำดูถูกตระกูลลีโอออกมาจริง ๆ หลายคนจำฮาร
ในเวลาเดียวกัน… ที่ประตูของสนามบินบัควู้ด ในที่สุดรถปอร์เช่สุดหรูก็หาที่จอดรถได้ แมนดี้ก้าวลงจากรถ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยขณะที่สำรวจสถานการณ์เบื้องหน้าของเธอ “คุณพ่อ คุณแม่… เราจะมาเชิญผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจริง ๆ เหรอคะ?” แมนดี้ลังเลเล็กน้อย ลิเลียนและไซม่อน ทั้งสองได้เซ้าซี้ให้เธอมาที่สนามบินหลังจากที่เห็นข่าวที่ระบุว่าอาวุโสออสการ์กำลังจะมาที่บัควู้ดเมื่อเช้านี้ ลิเลียนยิ้ม “ลูกสาวสุดที่รักของแม่ บริษัทของลูกกำลังสร้างซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ต จากที่เห็นความคืบหน้าแล้ว คิดว่าน่าจะขายได้ภายในหนึ่งหรือสองเดือนใช่ไหม?” แมนดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ” ลิเลียนปรบมือและพูดว่า “นั่นเป็นเหตุผล! ลูกไม่คิดว่าลูกควรเริ่มคิดเกี่ยวกับการขายมันในตอนนี้หรือ? ก่อนหน้านี้แม่เคยคิดว่าจะหาตัวแทนโปรโมทให้ลูกได้ที่ไหนสักที่ แต่ว่าตอนนี้มีบุคคลที่น่าสนใจกว่าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?” "คุณแม่กำลังหมายถึงอะไรคะ?" แมนดี้ไม่เข้าใจ “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง! ถ้าเขาสามารถมาดูสถานที่ก่อสร้างของซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ตได้ เราสามารถประชา
ในขณะเดียวกัน… ผู้คนเกือบพันคนมารวมตัวกันนอกทางเดินโซนVIPของสนามบินบัควู้ด และจำนวนผู้คนยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งหมดอัดแน่นเข้าไปยังพื้นที่ทางออก ไม่ว่าพวกเขาจะมีคุณสมบัติหรือไม่ก็ตาม ทุกคนต่างก็กำลังวางแผนที่จะลองเสี่ยงโชคดู ในที่สุดก็มีการประกาศจากพนักงานภายในสนามบิน เครื่องบินส่วนตัวของออสการ์ อาร์มสตรองได้ลงจอดแล้ว และเขากำลังที่จะออกมาอีกในไม่ช้า คริส ลีโอและคนอื่น ๆ เคร่งขรึมและมุ่งมั่น พวกเขาจ้องมองไปที่ทางออกด้วยความคาดหวัง ฮาร์วีย์เดินไปที่ขอบ ๆ ของฝูงทีมารวมตัวกันอย่างท่วมท้น ปฏิเสธที่จะเบียดเสียดกับคนอื่น ๆ เมื่อเห็นแบบนี้หลาย ๆ คนต่างก็เย้ยหยันเขา ดูเหมือนว่าลูกเขยที่ไม่เอาไหนของบ้านซิเมอรืคนนี้เขาจะยังรู้ตัวเองว่าเขาควรยืนอยู่ตรงไหน เขาคงรู้ว่าเขานั้นไม่สามารถเชิญผู้อาวุโสออสการ์ได้ อย่างไรก็ตาม คริส ลีโอนั้นเขาได้ตกเป็นที่คาดหมาย ใครในนี้บ้างที่จะมีสิทธิ์ไปเทียบเคียงกับเขาได้? ประมาณสามนาทีต่อมา ก็มีบุคคลจำนวณหนึ่งเดินออกมาจากทางออกของโซน VIP คนแรกที่ปรากฏตัวไม่ใช่ใครอื่นผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองนั่นเอง แม้ว่าชายผู้นี้จะมีอายุเกือบเจ็ด
ออสการ์ปฏิเสธคริสและดูเหมือนไม่ได้กังวลมากนักเกี่ยวกับการถูกแบล็กเมลทางด้านศีลธรรม คริสหน้าซีด เขารู้ว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะพูดอะไรอีก ออสการ์มีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีต่อตระกูลลีโอเนื่องจากการใช้เรื่องศีลธรรมมาบีบบังคับอย่างที่คริสได้กระทำ “ผู้อาวุโสอาร์มสตรอง ดิฉันเป็นเลขานุการของทางการเซาท์ไลท์ ท่านผู้อาวุโสซาเวียร์ค่ะ ท่านผู้อาวุโสอยากที่จะเชิญท่านไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเขาและร่วมพูดคุยหารือคำแนะนำเกี่ยวกับระบบการแพทย์ของเซาท์ไลท์ค่ะ” ผู้อาวุโสไม่ได้มาเชิญด้วยตัวของเขาเอง เขาจึงส่งตัวแทนเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของเขามาต้อนรับและเชิญชวนออสการ์แทน “ถ้างั้นผมก็ต้องขอรบกวนฝากคำขอบคุณไปถึงท่านผู้อาวุโสซาเวียร์ด้วยก็แล้วกัน แต่ว่าผมมีนักเรียนอยู่จำนวณหนึ่งที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลเซาท์ไลท์ ผมเกรงว่าจะมีข้อพิพาทเรื่องการปฏิบัติโดยใช้ตำแหน่งของทางราชการเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ถ้าผมไปร่วมรับประทานอาหารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐผมเกรงว่ามันจะดูไม่งามนัก และผมก็หวังว่าท่านซาเวียร์จะเข้าใจนะครับ” ออสการ์หัวเราะคิกคักและปฏิเสธคำเชิญของเชลดอน ต่อจากนั้น ตัวแทนทั้งหมดจากตระกูลใหญ่ ๆ ก็ก้าวไปข้า
เมื่อเห็นแมนดี้กำลังถูกทำร้ายด้วยวาจาจนหน้าซีดเผือดและร่างกายของเธอก็สั่นเทิ้ม... ลิเลียนทนไม่ไหวอีกต่อไปไหน ๆ คนก็มองว่าเธอเป็นคนที่ไร้ซึ่งยางอาย ดังนั้นเธอจึงกระทืบเท้าชี้ไปรอบ ๆ และด่ากราด “พวกคุณคิดว่าพวกคุณกำลังตะโกนใส่ใคร?” “ถึงครอบครัวของเราจะเชิญผู้อาวุโสอาร์มสตรอง แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพวกคุณ!" “พวกคุณลืมตัวตนของลูกสาวฉันไปแล้วเหรอ? เธอเป็นผู้หญิงที่กล้าปฏิเสธเจ้าชายยอร์กนะ!” “ใครในพวกคุณที่นี่บ้างที่จะสามารถมีสิทธิ์ปฏิเสธเจ้าชายยอร์กได้?” “ลูกสาวของฉันออกมาเชิญชวนผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปที่โครงการก่อสร้างของเธอนั้น มันคือวิธีการให้เกียรติกับท่าน! ไม่เข้าใจเหรอไง?” ลิเลียนกอดอก จากนั้นเธอก็มองไปที่ผู้อาวุโสออสการ์และพูดขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโสอาร์มสตรอง ท่านน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้าชายยอร์กมาบ้างใช่ไหมคะ? ลูกสาวของดิฉันถือได้ว่าเป็นว่าที่ภรรยาของเขาในอนาคต ต่อให้ท่านไม่ให้เกียรติลูกสาวของดิฉัน แต่อย่างน้อยท่านก็จะช่วยแสดงความเคารพต่อเจ้าชายยอร์กบ้างใช่ไหมคะ?” มีเสียงหัวเราะเยาะดังมาจากทั่วทุกมุมหลังจากที่ลิเลียนพูดคำเหล่านั้นออกมา ออสการ์เองก็มีท่าทีแปลก
สายตาของทุกคนเยือกเย็นไปหมดครอบครัวนี้หน้าด้านจริง ๆ ผู้ชายกล้าพูดข่มขู่ตระกูลลีโอผู้ที่มาจากฮ่องกงส่วนผู้หญิงก็กล้ามาขวางทางออสการ์ อาร์มสตรองแล้วตอนนี้ลูกเขยเกาะเมียกินที่ไม่รู้จุดยืนของตัวเองกำลังขวางทางผู้อาวุโสอาร์มสตรองอยู่ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?คีธทนต่อไม่ไหวแล้ว เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์พร้อมทั้งดุด่าและสาปแช่ง “ฮาร์วีย์ ไอ้โง่! นายกำลังจะทำอะไรน่ะ? รปภ.อยู่ไหน? เอาตัวเขาออกไปเร็ว ๆ อย่าให้เขามาราวีผู้อาวุโสอาร์มสตรองอีก!”คนอื่น ๆ พูดขึ้นด้วยเช่นกัน“พอกันที ทั้งคู่เลย! เวลาของผู้อาวุโสอาร์มสตรองมีค่ามากนะ ถ้าทุกคนทำเหมือนที่นายทำและกล้ามาขวางทางผู้อาวุโสอาร์มสตรอง แล้วเขาจะรู้สึกยังไง?”“รีบออกไปได้แล้ว! ถ้ายังกล้ามาหยุดผู้อาวุโสอาร์มสตรองอีกล่ะก็ อย่ามาโทษพวกเราแล้วกันที่ต้องใช้ความรุนแรงกับนาย!”ฮาร์วีย์เมินคำพูดของพวกเขาและหันมายิ้มให้กับผู้อาวุโสอาร์มสตรองแทนพร้อมกับพูด “คุณคือผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองใช่ไหมครับ?”“ผมเป็นคนขับรถแท็กซี่ที่คุณเรียกมา รถจอดอยู่ด้านนอกแล้วครับ”ออสการ์สบตาของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดขึ้น “ราคาสองดอลลาร์ใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ยิ้ม
แมนดี้ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรก่อนที่เธอตอบสนอง เธอพูดตะกุกตะกัก “ฮาร์วีย์ อย่าทำเป็นเล่นนะ! การส่งชายชราคนนี้ไปยังจุดหมายปลายทางของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะ ถ้าธุระของเขาต้องล่าช้าออกไปเพราะคุณ คุณรับผลที่จะตามมาได้หรือเปล่า?”ฮาร์วีย์ยิ้ม “ที่รักไม่ต้องกังวลหรอก ผมบอกเขาไปแล้วตอนที่เขาโทรมาเรียกรถว่าผมจะไปส่งเขาให้ถึงปลายทางภายในวันนี้ ยังไงก็ตาม เขาจ่ายมาแค่สองดอลลาร์เอง เขาคาดหวังให้ถึงที่นั่นเร็วแค่ไหนกันเชียว?”แมนดี้พูดไม่ออก แต่สิ่งที่ฮาร์วีย์พูดก็ถูกมีที่ไหนบ้างที่ผู้อาวุโสอาร์มสตรองจะไป?ผู้คนโดยรอบจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ แม้แต่คริส ลีโอยังออกมาและตะโกนต่อว่า “ฮาร์วีย์ เลิกทำให้ผู้อาวุโสอาร์มสตรองเสียเวลาสักที! ฉันจะไปส่งเขาเอง!”“ไม่” ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่แยแส“ทำไม?!” คริสแทบสำลัก“ถ้าผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปแล้วใครจะเป็นคนจ่ายค่าเรียกรถ? นายคิดว่าฉันไม่ต้องใช้น้ำมันที่จะขับรถมาที่สนามบินเหรอ?” ฮาร์วีย์พูดอย่างตรงไปตรงมา“ก็ได้นายแค่ต้องการเงินสินะ! เงินนี่คงพอสำหรับค่าน้ำมันของนาย! ตอนนี้ก็ออกไปได้แล้ว!”คริสหยิบเงินดอลลาร์ฮ่องกงออกมาจำนวนก้อนหนึ่งและโยนลงพื้นต่อหน้าฮาร์ว