“เจ้าชายเซอร์เรย์ มีคนพูดต่อ ๆ กันมาว่าคุณนั้นหยิ่งผยองมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ดูเหมือนว่าคุณจะมีเสน่ห์ที่เหนือกว่าเจ้าชายยอร์กเสียอีก!” “คุณนี่ช่างเกิดผิดยุคเสียจริงเชียว! หากคุณก้าวเข้าสู่สังคมตั้งแต่เมื่อสมัยสามปีก่อน เจ้าชายยอร์กก็คงไม่ได้ผุดได้เกิดมามีชื่อเสียงในบัควู้ดตราบเท่าทุกวันนี้หรอก!” "ใช่! ดูเหมือนว่าโลกภายนอกจะเกินความสามารถของเจ้าชายยอร์กอยู่มากโข อีกอย่างคุณคือคนที่อายุยังน้อยแต่ประสบความสำเร็จมามากมาย!” ฝูงชนรอบ ๆ ต่างก็เริ่มสรรเสริญให้กับลุค หลังจากนั้น ลุคก็ได้แสดงท่าทีน้อมรับความเคารพด้วยท่าทางที่นอบน้อม ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าฝูงชนต้องตอบแทนเขาด้วยความโปรดปรานอยู่แล้ว ถ้าการเอาไปเปรียบเทียบกับเจ้าชายยอร์กนี่ก็คงจะเป็นเรื่องที่ปกติ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เจ้าชายยอร์กเขาก็คือบุรุษอันดับหนึ่งในเซาท์ไลท์ทั้งหมด เมื่อฟังคนเหล่านี้เปรียบเทียบตัวเองกับเจ้าชายยอร์กในตำนาน ลุคก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก การถูกนำไปเปรียบเทียบกับเจ้าชายยอร์กถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดในเซาท์ไลท์ “ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายหยุดยกยอปอปั้นผมจนมากเกินงามเถอะ ผมรู้ตัวเองดีว่าผมมีความสา
โรวัน ฮวนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ เขามองว่าสิ่งทั้งหมดนี้มันช่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก เธอไม่คาดคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะมาถึงจุดนี้ คนรักของของยูนากล้าไปกระตุกหนวดเสืออย่างลุค เซอร์เรย์ได้อย่างไร? เขาคงกำลังร้องขอความตายอยู่อย่างแน่นอน! ตอนนี้สถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นมามาก ไม่เพียงแต่ชายผู้นี้จะต้องตาย แต่ยูนาเองก็จะต้องจบลงอย่างเลวร้ายด้วยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุด ลุคก็คงไม่ปราณีพวกเขาหรอก "แกคือใคร? กล้าดียังไงมาตบเจ้าชายเซอร์เรย์!” โรวันวิ่งไปที่ด้านข้างของลุคด้วยท่าทางที่กังวล เธอชี้ไปที่ฮาร์วีย์อย่างโกรธจัดและด่าสาปแช่ง “แกรู้บ้างไหมว่าเขาเป็นใคร? แกรู้สถานะของเขาหรือเปล่า?” เธอแอบหวังให้สิ่งต่าง ๆ แย่ลงไปกว่านี้อีก ดวงตาของลุคนั้นแข็งกร้าว สำหรับเขา สายตาของผู้คนรอบ ๆ ตัวเขาล้วนแต่เป็นการเย้ยหยัน พวกเขาทั้งหมดเยาะเย้ยเขา! เขาเริ่มไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น เขาแทบจะอดรนทนรอไม่ไหวที่จะสังหารฮาร์วีย์ รปภ.ก็อยู่ในอาการงุนงง พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าฮาร์วีย์จะกล้าตบหน้าของลุค อีกทั้งการแสดงออกและท่าทีของเขามันก็ยิ่งทำให้เรื่องเลยเถิดไปไกล ไม่ใช่แค่ว่าเขาตบลุคเพียงเท่า
“ท่านโยเอล ผมไม่สนว่าคำเชิญของพวกเขาจะเป็นจริงหรืออย่างอื่น หรือสถานะของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เนื่องจากพวกเขากล้าที่จะตบหน้าผม พวกเขาจึงติดค้างกับผมอยู่!” ลุคพูดออกมาเสียงดังพร้อม ๆ กับความโกรธที่กำลังเดือดพล่าน โยเอลหรี่ตาไปมองที่ลุคและตอบด้วยท่าทางที่เฉยเมยว่า “เจ้าชายเซอร์เรย์ ฉันเกรงว่าคุณจะยังไม่รู้ว่าใครที่ยืนอยู่ข้างหน้าของคุณ” "ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ เขาเป็นคนมีเกียรติที่แม้กระทั่งฉัน โยเอล เกรแฮมคนนี้ก็ยังต้องเคารพเขา!” “ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณเป็นคนเริ่มต้นความยุ่งเหยิงทั้งหมดนี้ คุณก็สมควรที่จะโดนแล้ว!” “ฉันขอให้คุณรีบคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ แล้วขอโทษมิสเตอร์ยอร์กเสีย มิเช่นนั้นคุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน!” โยเอลพยักหน้าด้วยความเคารพไปที่ฮาร์วีย์และเข้าไปทักทายฮาร์วีย์ทันทีหลังจากนั้น สายตาของทุก ๆ คนภายในงานต่างก็แสดงออกถึงความประหลาดใจและความตกตะลึง แม้แต่คนอย่างโยเอล เกรแฮมเองก็ยังเคารพฮาร์วีย์มาก ๆ ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่? “โยเอล เกรฮัม! นี่คุณกำลังหมายความว่าอะไร?!" “คุณคิดว่าคุณสามารถวิ่งเหยียบย่ำไปทั่วหรืออยู่เหนือตระกูลเซอร์เรย์ได้เพียงเพราะว่าคุณเป็นผ
ภายในงานประชุมวิชาการ โยเอลวางสายโทรศัพท์ เขามองไปที่ลุค เซอร์เรย์และพูดด้วยใบหน้าอันเรียบเฉยว่า “ผู้นำตตระกูลของคุณคงจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้ และฉันหวังว่าเมื่อนั้นคุณจะยังทำตัวดื้อรั้นเหมือนเช่นในตอนนี้” ลุคมองด้วยสายตาและท่าทางที่เย้ยหยัน ตระกูลเซอร์เรย์ไม่ได้เป็นเพียงตระกูลตระกูลชนชั้นหนึ่งในบัควู้ดเพียงเท่านั้น แต่พวกเขายังมีสายสัมพันธ์อันดีงามกับตระกูลชนชั้นหนึ่งอีกสามตระกูลด้วย ใครจะไม่กลัวตระกูลที่มีอำนาจมากเช่นนี้? เขาจะรอจนกว่าผู้นำของตระกูลจะมาถึง จากนั้นเขาก็จะทำให้ฮาร์วีย์คุกเข่าและคลานมาแทบเท้าของเขา นอกจากนี้เขายังจะทำให้แน่ใจว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่โยเอลจะยังคงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดแห่งบัควู้ด! แขกในงานที่เฝ้าดูเหตุการณ์นี้อยู่ห่าง ๆ พวกเขาต่างสบตากันไปมาและแสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็น อีกทั้งเจมส์ เซอร์เรย์ผู้นำของตระกูลเซอร์เรย์ก็จะมาที่นี่ด้วยเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ดูเหมือนว่างานวันนี้จะถูกลิขิตให้เป็นวันแห่งการทะลวงท้องฟ้า! หลังจากที่โยเอลจัดการเรื่องก่อนหน้านี้เสร็จแล้ว เขาก็เดินไปหาฮาณ์วีย์ก่อนที่จะโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “มิสเต
"ผู้นำ! เขาเป็นคนทีตบผม อีกทั้งยังต้องการให้ผมคุกเข่าและขอโทษอีกด้วยซ้ำ!” “โยเอล เกรฮัมก็อยู่ข้างเขาด้วย!” “นี่มันคือการท้าทายชัด ๆ!” “เราต้องฆ่าพวกเขาทิ้งทั้งหมดและทำให้พวกเขาเสียใจที่พวกเขาเกิดมาในโลกใบนี้!” ทันทีที่ลุคเห็นเจมส์เดินเข้ามา เขาก็รีบวิ่งไปข้างหน้าและเริ่มตะโกนโหวกเหวกด้วยความไม่พอใจ เขาเป็นหลานชายสุดที่รักของเจมส์ ถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะได้สวมมงกุฎเป็นเจ้าชายแห่งเซอร์เรย์ได้อย่างไร? ในอดีต เจมส์มักจะช่วยลุคลงโทษใครก็ตามตราบใดที่ลุคต้องการ เจมส์จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ที่ยังคงยืนสงบนิ่งอยู่ เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตบหน้าลุค เขาตะโกนว่า “เจ้าโง่! ฉันสอนให้แกอ่อนน้อมถ่อมตนทุกวัน แต่แกมักจะสร้างแต่ปัญหาข้างนอกอยู่เสมอเลย!” “แกต้องการให้ตระกูลเซอร์เรย์ประสบพบเจอกับปัญหาใหญ่หรืออย่างไร?” ลุคไม่คาดคิดว่าเจมส์จะตบเขาทันทีที่เจมส์มาถึง ไม่ใช่เพียงแค่ลุคคนเดียว คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าตระกูลเซอร์เรย์ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และทำงานในอุตสาหกรรมการศึกษา ซึ่งทั้งสองธุรกิจมีผลกำไรที่สูงมาก ในบรรดาตระกูลชนชั้นหนึ่งท
“เจ้าชายเซอร์เรย์ของคุณยั่วยุฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทำให้ฉันรู้สึกไม่สะดวกสบาย คุณคิดว่าฉันก้าวข้ามไปผ่านไปง่าย ๆ ได้ไหม?” ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยขณะที่สำรวจเจมส์ เซอร์เรย์ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเขา เจมส์สูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง เขารู้แล้วว่าฮาร์วีย์มาจากไหน แม้ว่าเขาจะกลัวฮาร์วีย์อยู่บ้าง แต่ก็เป็นความกลัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เจมส์ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ผมรู้ว่าคุณเป็นใครและใครอยู่เบื้องหลังคุณ” “พวกเราเซอร์เรย์ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนที่อยู่ข้างหลังคุณขุ่นเคือง เราต้องขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้” “แต่ได้โปรด อย่าใช้ความโชคดีของคุณมากจนเกินงามไปเลย” ลุคจับที่แก้มและคำราม “คุณปู่! ถังขยะนี้จะไปสามารถมีสถานะอะไรได้บ้าง? เขาเป็นแค่ลูกเขยที่เกาะชายกระโปรงอาศัยอยู่กับภรรยาไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเราตระกูลเซอร์เรย์ต้องไปกลัวเขาด้วย?” “ทำไมตระกูลเซอร์เรย์จะต้องขอโทษด้วย? แม้ว่าคุณปู่จะยอมรับความอัปยศเช่นนี้ได้ แต่ตระกูลของเราไม่สามารถรับได้!” "หุบปาก!" เจมส์จ้องไปที่ลุค เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของวันนี้ แต่ลุคก็พยายามที่จะแทรกแซงและทำให้มันยิ่งแย่ลงไ
"คุณกำลังหมายถึงอะไร?" ฮาร์วีย์ถามอย่างไม่ใส่ใจ โยเอลกระซิบว่า “เด็กคนนั้น ลุค เขามีความสามารถไม่มาก แต่เขายังสามารถเป็นเจ้าชายของตระกูลเซอร์เรย์ได้ เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดก็คือเขามีพ่อทูนหัวที่ดี” "ใคร?" “ราชาแห่งท้องถนนในเซาท์ไลท์ จอห์น ก็อตติ” โยเอลพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นพร้อม ๆ กับสีหน้าอันเคร่งขรึม สถานะของจอห์นสูงมาก ๆ เขาเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งในท้องถนนของเซาท์ไลท์ ถึงแม้ว่าโยเอลจะเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดแห่งบัควู้ด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถกล้าที่จะยั่วยุจอห์น ก็อตติได้ ฮาร์วีย์หัวเราะ “คุณกำลังจะบอกว่าลุคจะไปขอให้จอห์นมาจัดการฉันเหรอ?” “น่าจะเป็นเช่นนั้น” โยเอลดูเคร่งเครียด “ผมรู้ว่าคุณแข็งแกร่งและทรงพลังมาก แต่ว่าตระกูลเซอร์เรย์นั้นรวยมากและจอห์นก็มีคนของเขามากมายมหาศาล ถ้าหากพวกเขารวมพลังเข้าด้วยกัน ผลกระทบจะยิ่งใหญ่มาก” “ยังไงก็ตาม โปรดระมัดวังตัวไว้ด้วยนะครับมิสเตอร์ยอร์ก” ฮาร์วีย์หันกลับมามองและเริ่มสำรวจไปที่โยเอลอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็พูดด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยว่า “คุณหวังว่าจะมีความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างลุคกับฉันหรือ? ทั้งสองฝ่ายจะย่อยยับ ใช่ไห
“คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? คุณยังวางแผนที่จะหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่ออีกเหรอ?” แมนดี้มีความสุขที่เห็นว่าฮาร์วีย์เริ่มมีแรงกระตุ้น ถ้าสามีของเธอตั้งใจเรียนจริง ๆ เธอก็ยินดีที่จะจ่ายเงินให้เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ฮาร์วีย์ส่ายหัวพร้อมกับท่าทางเคร่งขรึมและพูดว่า “ไม่ใช่สำหรับผมหรอก แต่เป็นสำหรับซีนเธียร์” “เธออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่ใช่เหรอ? เธอกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยเร็ว ๆ นี้” “ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยในบัควู้ดนั้นไม่ค่อยดีนัก ผมเกรงว่าซีนเธียร์อาจจะต้องไปโวลซิ่ง, มอร์ดู, หรืออาจจะซานฟรานซิสโกสำหรับการเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย” แมนดี้หัวเราะและพูดว่า “ฮาร์วีย์ คุณปล่อยให้คุณพ่อกับคุณแม่จัดการเองเถอะ คุณเป็นแค่พี่เขยของเธอ คุณไม่ต้องกังวลมากนักหรอก” ฮาร์วีย์ถูขมับของเขา เขาไม่สามารถบอกแมนดี้ได้ว่าเขาได้เห็นด้านที่แท้จริงของผู้คนในระบอบการศึกษาของบัควู้ดที่งานประชุมวิชาการวันนี้ “ดูเหมือนว่าผมต้องเร่งเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก ผมจะช่วยซีนเธียร์และไปดูมหาวิทยาลัยของที่นั่น” ฮาร์วีย์พึมพำออกมา ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาไม่ต้องรีบเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก แต่ตอนนี้ดูเหมือ