หลังจากตัดสินใจที่จะไปซานฟรานซิสโกและช่วยซีนเธียร์หามหาวิทยาลัยดี ๆ เพื่อเข้าเรียน ฮาร์วีย์ก็ขอให้อีวอนน์เตรียมการเบื้องต้นสำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ตัวอย่างเช่น บริษัทสาขาในซานฟรานซิสโกต้องการคนในท้องถิ่นที่มีความสามารถพึ่งพาได้เพื่อรับผิดชอบการดำเนินงาน แมนดี้แปลกใจมากหลังจากที่ฮาร์วีย์บอกเธอว่าเขาจะไปซานฟรานซิสโก “คุณจะไปที่นั่นเพื่อช่วยซีนเธียร์ค้นหามหาวิทยาลัยดี ๆ จริงหรือ? แล้วคุณจะอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน?” “สามหรือไม่เกินห้าวัน ประมาณนั้น” ฮาร์วีย์คิดเรื่องนี้ในใจ หากผลออกมาดี เขาจะสามารถจัดการเรื่องในสาขานี้ได้ภายในหนึ่งถึงสองวัน จากนั้นเขาก็จะสามารถไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในซานฟรานซิสโกได้ อันที่จริง ลึกลงไปในหัวใจของฮาร์วีย์ เขาหวังว่าแมนดี้จะไปกับเขาด้วย น่าเสียดายที่ช่วงนี้แมนดี้ยุ่งมาก ๆ เธอจะมีเวลาไปกับเขาได้อย่างไร? แมนดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณอยากไปก็ไปได้ แต่ในเมื่อคุณจะไปที่นั่นแล้วก็ได้โปรดช่วยทำอะไรให้ฉันสักอย่างนะ” "มันคืออะไร?" ฮาร์วีย์ไม่ได้พิจารณาด้วยซ้ำว่าจะตกลงหรือปฏิเสธ เนื่องจากเป็นคำขอของภรรยาสุดที่รัก เขา
ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงควินตันและควินนี่ ยอร์กเดินอยู่เคียงข้างกัน มันยังคงเป็นภาพที่โดดเด่นอย่างมากเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะอยู่มหานครนานาชาติระดับโลกเช่นนี้ก็ตามภายในโซนบอร์ดดิ้งทางขึ้นเครื่องของผู้โดยสารระดับวีไอพี ควินตันหยุดเดินและพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “ฉันจัดการทุกอย่างที่ซานฟรานซิสโกไว้หมดแล้ว สิ่งที่เธอจะต้องทำคือแค่นั่งนิ่ง ๆ ก็พอ อย่าทำอะไรที่ไม่จำเป็น”ควินนี่ส่งรอยยิ้มที่สามารถพังตึกลงได้ให้กับเขา“กลัวเหรอ?”ควินตันไม่ได้ตอบกลับแต่รีบหันหลังทันทีพร้อมกับส่งสายตาน่าขนลุกกลับไปหลังจากที่เห็นหลังของเขาควินนี่ค่อย ๆ เอียงหัวของเธอพร้อมกับถอนหายใจและถาม “อุบายเล็ก ๆ พวกนี้จะมีประโยชน์จริง ๆ เหรอ?”“ถ้าพี่พลาดอีกครั้งล่ะก็ ฉันไม่คิดว่าคุณย่ายอร์กจะปล่อยไปง่าย ๆ แน่”...ณ ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกฮาร์วีย์รู้สึกเบื่อที่จะรอเมื่อเครื่องบินของควินนี่ได้มาถึงและลงจอดหลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ฮาลซีย์ โลว์ก็ปรากฏตัวขึ้นเธอสูงประมาณ 5.5 ฟุต สัดส่วนร่างกายของเธอมีความเข้ากันดีกับใบหน้ารูปหัวใจของเธอหรือพูดได้ง่าย ๆ ว่ามาตรฐานความสวยของเธออยู่ท
เป็นอย่างที่คาดคิดว่าฮาลซีย์ผู้ที่เพิ่งกลับมาจากการเรียนต่อที่ต่างประเทศ เธอจึงมีฝีปากที่น่าประทับใจถ้าเป็นคนอื่นคงโดนเธอด่าจนอับอายไปแล้วแต่ฮาร์วีย์ ผู้ที่รู้สึกชินกับคำพูดเหล่านี้แล้ว ทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรเลยฮาร์วีย์จ้องมองไปที่ฮาลซีย์ผ่านกระจกมองหลังและถามเธอด้วยความสงสัย “ถ้าผมชอบการถูกเก็บไว้ล่ะครับ?”“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะจัดการนายด้วยตัวของฉันเอง” ฮาลซีย์ตอบกลับอย่างเย็นชาหลังจากได้ยินฮาร์วีย์ยักไหล่ของเขา “คุณผู้หญิง คุณเรียนศิลปะการฆ่าจากต่างประเทศเหรอครับ? สิ่งแรกที่คุณคิดคือการฆ่าผมอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่มันสหรัฐนะครับ!”“ไม่ต้องมาตีเนียนคุยกับฉัน อีกไม่นานฉันจะหาเงินก้อนใหญ่มาให้เพื่อให้นายเลิกยุ่งกับแมนดี้”“สบายใจเถอะ เงินก้อนนั้นคงมากพอที่นายจะใช้จนนายตายไปอย่างมีความสุข!”“ถ้านายยอมทิ้งแมนดี้ เราก็ตกลงกันเรื่องราคาได้นะ” ฮาลซีย์พูดอย่างเยือกเย็นต่อฮาร์วีย์พูดไม่ออก“คุณครับ ทำไมเอาแต่พูดเรื่องการหย่าของผมกับแมนดี้ล่ะ? คุณสงบและเป็นมิตรกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?”“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพ่อตากับแม่ยายของผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้แล้ว”“การที่คนนอกอย่างคุณยังพูดเรื
รถที่มีความเงียบเข้าปกคลุมขับไปท้องถนนของซาฟรานซิสโกอย่างรวดเร็ว ไม่นานทั้งสองก็เดินได้ทางมาถึงห้างสรรพสินค้าและหยุดลงตรงหน้าของอาคารสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกสถานที่ที่ฮาลซีย์อยากจะไปไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นที่นี่เอง“ฉันจะทิ้งกระเป๋าของฉันไว้กับนายแล้วฉันจะติดต่อนายอีกครั้งตอนกลางคืน”“และอีกอย่างหนึ่งรีบไปคืนรถได้แล้ว ค่าใช้จ่ายวันนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เธอพูดพร้อมกับเงินก้อนหนึ่งจากกระเป๋าถือของเธอให้กับฮาร์วีย์เธอคิดว่าฮาร์วีย์เช่ารถเบนท์ลีย์มา เพราะอย่างนี้เธอจึงจะจ่ายเงินให้เขาเธอยังมีน้ำใจให้เงินมากกว่าค่าเช่ารถอีกเล็กน้อยเพื่อการทำงานหนักของฮาร์วีย์พูดได้เต็มปากว่าแม้ว่าเธอจะมีความหยิ่งและทะนงตัวแต่ฮาลซีย์ก็ยังมีความเห็นอกเห็นใจอยู่แต่น่าเสียใจที่เธอปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เหมือนกับคนใช้คนหนึ่งเท่านั้นด้วยความนับถือที่เธอชื่นชมเจ้าชายยอร์ก ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจที่จะเป็นผู้ชายที่ดีกว่าเดิมและปล่อยให้เธอเป็นเช่นนี้ต่อไปในตอนนี้ได้มาสายโทรเข้าจากเรย์ ฮาท“คุณยอร์กครับ คุณมาถึงสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกหรือยังครับ? คนที่มาสมัครในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทได
พวกเขาจะต้องยอมรับว่าฮาลซีย์ โลว์ค่อนข้างมีศักยภาพแม้กระทั่งคำถามที่ค่อนข้างลึกซึ้งของฮาร์วีย์ที่เรย์ถามเธอ ฮาลซีย์ก็สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ทุกข้อพูดได้เต็มปากว่าเธอได้เตรียมตัวมาดีก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าเธอต้องการที่จะเป็นผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกและเมื่อการสัมภาษณ์ได้จบลง ฮาร์วีย์ได้เคาะโต๊ะและรีบโทรหาเรย์“บอกเธอว่าเธอได้งานแล้ว”เรย์ค้างแต่ไม่นานเขาก็ตอบกลับ “ได้ครับ!”เขาไม่มีจุดยืนของตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ เขาเพียงแค่รับใช้ฮาร์วีย์เท่านั้นหลังจากที่วางสาย เรย์ยิ้มให้กับฮาลซีย์“ยินดีด้วยนะครับ มิสโลว์ ผมเพิ่งได้รับสายจากท่านประธาน”“เขาบอกว่าคุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกของเราอย่างมาก วันนี้คุณสามารถรับมือกับขั้นตอนได้และคุณสามารถควบคุมดูแลธุรกิจทั้งหมดภายในบริษัทได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”“ผมหวังว่าเราจะได้ร่วมงานด้วยกันนะครับ”“อะไรนะ?!”ผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกต่างตกใจ‘ท่านประธานกำลังดูการสัมภาษณ์อยู่เหรอ?’‘หมายความว่าเขากำลังมองดูผู้หญิงคนนี้อยู่เหรอ
ฮาร์วีย์ค่อนข้างแน่ใจกับบุคลิกของฮาลซีย์เขาไม่ได้สนใจเลยในตอนนั้นและโยนเงินใส่เข้าไปในกล่องที่วางของภายในรถฮาลซีย์อดไม่ได้ที่จะแสดงสายตาเหยียดหยามหลังจากเห็นภาพดังกล่าวเธอคิดถูกแล้วที่ตัดสินฮาร์วีย์เช่นนี้เธอคิดว่าคนหยาบคายคนนี้สามารถหาเงินจากเธอได้มากกว่านี้อีก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาใส่ใจอย่างไม่มีเหตุผล!ผู้ชายอย่างนี้จะคู่ควรกับแมนดี้ ซิมเมอร์ได้อย่างไร?ฮาร์วีย์ไม่ลืมที่จะแกล้งฮาลซีย์อย่างสนุกสนานพร้อมกับถามขึ้น “คุณมาที่นี่เพื่อคุยธุรกิจเหรอ? เป็นไปได้ดีไหม? คุณรวยแล้วอย่าลืมผมนะ!”ฮาลซีย์กลอกตาหลังจากที่เธอได้ยินคำถามที่เฉยเมยของเขา“นายรู้หรือเปล่าว่าที่นี่คือที่ไหน?”“มันก็เขียนไว้บนอาคารไม่ใช่เหรอ? ที่นี่คือสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกไงครับ” ฮาร์วีย์ตอบกลับ“เป็นเรื่องดีที่นายรู้เพราะนายควรที่จะรู้ หลังจากที่ทรัพย์สินของตระกูลยอร์กทั้งหมดได้มารวมกัน บริษัทแห่งนี้ก็กลายเป็นบริษัทชั้นนำที่สุดในเซาท์ไลท์ ในอนาคตบริษัทแห่งนี้มีการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างมาก มันอาจจะยังมีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ระดับสากลอีกด้วย!”“และฉันก็เพิ่งได้เป็นผู้จัดการทั่วไปของสกาย ค
ท้ายที่สุดแล้วฮาลซีย์ก็ยอมแพ้ในการกิน เธอได้แต่สั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและเริ่มดื่มมัน“คุณอิ่มแล้วเหรอ?”ฮาร์วีย์สงสัยฮาลซีย์พยักหน้าที่มืดมนของเธอเธอเห็นฮาร์วีย์ทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าของเขาและเคี้ยวอย่างหยาบคายเมื่อฮาร์วีย์กำลังจะทานอาหารเสร็จ ฮาลซีย์ก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์ บรรพบุรุษของเราได้กล่าวไว้ว่า มารยาทบนโต๊ะอาหารสามารถบ่งบอกบุคลิกของคน ๆ นั้นได้”“ฉันไม่ต้องเห็นการกระทำอื่น ๆ ของนายก็รู้แล้วว่านายเป็นคนเห็นแก่ตัวและนายมันไม่มียางอายแน่นอน!”“ถ้าฉันเดา แมนดี้จ่ายค่าเช่าบ้านที่พวกนายสองคนกำลังอยู่ด้วยใช่ไหม?”ฮาลซีย์รู้เกี่ยวกับเรื่องที่แมนดี้อาศัยอยู่ที่เดอะ การ์เด้น เรสซิเด้นท์อยู่แล้วฮาร์วีย์พยักหน้า“ใช่ เธอจ่ายค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินด้วย!”“นาย! ผู้ชายอย่างนายจะหน้าด้านได้ขนาดนี้เลยเหรอ?! คนอย่างนายเหมาะสมกับแมนดี้ได้ยังไง?!”ตอนนี้ร่างกายของฮาลซีย์กำลังสั่นด้วยความโกรธ“งั้น คุณคิดว่าผู้ชายแบบไหนที่คู่ควรกับเธอล่ะ?” ฮาร์วีย์ถามฮาลซียเปล่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจตอนที่ฮาร์วีย์ถามคำถามสำคัญกับเธอ“เขาก็ต้องมีที่ดินราคาอย่างน้อยร้อยล้าน ถ้าไม่เขาก็ไม่ค
หลังจากที่ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักพัก ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจหยุดวิธีคิดของฮาลซีย์จนได้แล้วเขาก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง “ฮาลซีย์ จากที่ผมรู้มา เจ้าชายยอร์กไม่ใช่คนเจ้าชู้อย่างนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก แม้กระทั่งถ้าคุณเข้าใกล้เขา”“อีกอย่าง เขาก็มีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว”“ในเมื่อคุณได้งานแล้ว ก็ตั้งใจทำงานซะ”“อย่าคิดเรื่องไร้สาระเลย”ฮาลซีย์เกือบจะสำลักกาแฟของเธอหลังจากที่ได้ยินฮาร์วีย์พูดทั้งหมดนั้นด้วยท่าทางจริงจัง‘ผู้ชายคนนี้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกเหรอ?’‘เขาไม่ได้แค่ไร้ค่า แต่เขายังดูถูกความโชคดีของคนอื่นอีก!’ฮาลซีย์ตอบกลับด้วยความโกรธอย่างไม่ลังเล “ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายยอร์กและฉันไม่ใช่เรื่องของนาย!”ฮาร์วีย์ถอนหายใจ“ฮาลซีย์ นี่คุณอยากให้ผมพูดตรง ๆ เหรอ?”“ผมไม่ได้ชอบคุณ”พรืดด!ฮาลซีย์เกือบสำลักออกในตรงนั้น เธอกัดฟันและตัวสั่นไปด้วยความโกรธ“นี่นายกำลังบอกว่านายเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและเจ้าชายยอร์กเหรอ?”“ทั้งคู่” ฮาร์วีย์พูดอย่างจริงจัง“นาย!”ตอนนี้ฮาลซีย์หมดคำพูดผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายมาก! ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาละอายใจได้บ้างเลยเขายังอ้างเพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูดีว