อีกด้านหนึ่งของปลายสาย แมนดี้ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะก่อนที่จะปฏิเสธข้อเสนอของฮาลซีย์ “ฮาลซีย์ ฉันรู้ว่าเธอกำลังทำเพื่อฉัน แต่ฉันแต่งงานกับฮาร์วีย์มามากกว่าสามปีแล้ว ตอนนี้ฉันตกหลุมรักเขาและไม่ต้องการหย่าแล้ว”“เธอ…”ตอนนี้ฮาลซีย์ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่ออีก เพื่อนรักของเธอคงจะถูกฮาร์วีย์ล้างสมองไปแล้วใช่ไหม?ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ฮาลซีย์จะต้องหาทางยุให้ฮาร์วีย์ขอหย่าฮาลซีย์ทำได้เพียงแค่กัดฟันของเธอพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในร้านอาหารเพื่อหาฮาร์วีย์แต่เขาได้ออกไปแล้ว…มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกหนึ่งในสิบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศ ว่ากันว่าจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัยที่นี่ยอดเยี่ยมมาก นักศึกษาที่นี่ต่างเป็นบุคคลทั่วไปจากมอร์ดูและซานฟรานซิสโกในระหว่างที่ฮาร์วีย์เดินเล่นอยู่ด้านใน เขาไม่ได้เห็นอะไรน่าสะดุดตาสักเท่าไหร่ เขากลับรู้สึกว่าที่นี่คนน้อยและยังมียุงเต็มไปหมดแต่สภาพแวดล้อมอย่างนี้ทำให้ฮาร์วีย์รู้สึกมีสมาธิและนึกถึงเรื่องบางอย่างถึงแม้ว่าบัควู้ดจะไม่ได้ดูเป็นรัฐที่ดีสักเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกว่ามีกระแสบางอย่างที่แรงกล้าที่เขาไม่สามารถมองเห็น ก่อนหน้านี้เขายุ่งเกี่ยวกั
“นาย…”“กล้าดียังไง!”ฮาลซีย์เกือบจะกัดลิ้นของตัวเอง เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีผู้ชายที่ไร้ยางขนาดนี้อยู่ด้วย!และคิดว่าเขากล้าคิดกับเพื่อนสนิทภรรยาของเขาอย่างนี้ได้อย่างไร!ผู้ชายแบบนี้ไม่ควรมีอยู่บนโลก!ต่อมาฮาร์วีย์ก็พูดเสริม “เห็นไหมว่าคุณยังไม่สามารถสนองเงื่อนไขง่าย ๆ แบบนี้ได้เลย ผมไม่คิดว่าเราจะพูดเรื่องนี้ได้อีกต่อไปอีกแล้ว”ฮาร์วีย์ไม่ได้กำลังแกล้งฮาลซีย์ แต่เขาต้องการที่จะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแมนดี้จะสนิทกันขนาดไหนหน้าของฮาลซีย์ถอดสีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา เธอกัดฟันของเธอ“ได้! ฉันยอมก็ได้!”“แต่นายต้องสัญญาว่านายจะหย่ากับแมนดี้หลังจากนั้นทันทีและนายก็ห้ามไปตอแยเธออีก!”“แล้วก็ นายจะต้องทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเรา!”“ฉันจะให้เงินนายอีกร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์เพื่อเป็นค่าตอบแทน!”ฮาลซีย์พูดราวกับเธอเป็นซีอีโอที่ดุร้ายฮาร์วีย์นิ่งไปหลังจากที่เขาได้ยินเธอพูดถ้อยคำเหล่านั้นด้วยท่าทีที่ไม่ยอมแพ้!ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับแมนดี้ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างดีทีเดียวเธอยังกล้ารับเงื่อนไขแบบนี้เพื่อแมนดี้แต่ในสายตาของเธอฮาร์วีย์ดูน่าเหลือ
“คุณเรย์วางใจเถอะค่ะ ฉันต้องการเพียงแค่สามวันที่จะเตรียมการเบื้องต้นให้เสร็จสิ้นค่ะ” ฮาลซีย์พูดเด้วยน้ำเสียงจริงจังเธอได้ยินเรย์พูดว่าเจ้าชายยอร์กจะดูแลโครงการของเธอจึงทำให้เธอดีใจและตื่นเต้นในที่สุดเธออาจจะได้เจอกับเจ้าชายยอร์กก็ได้!“ฮึ่ม! ฮาร์วีย์ นายบอกเองนะว่าเจ้าชายยอร์กไม่สนใจฉันและบอกว่าเขามีผู้หญิงที่เขาชอบอยู่แล้ว!”“แต่ถ้าเขายอมที่จะดูแลฉันนั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาชอบฉันจริง ๆ ก็ได้!”จากนั้นฮาลซีย์ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณเรย์คะ เจ้าชายจะมาซานฟรานซิสโกเมื่อไหร่เหรอคะ? ฉันเจอเขาได้ไหม?”เรย์หัวเราะ“ทำไมถึงรีบนักล่ะครับ? ช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่ง แต่เขาต้องให้รางวัลคุณด้วยตัวเองแน่ถ้าคุณจัดการกับโครงการนี้อย่างดี”“ถ้าตอนนั้นมาถึง มันจะไม่มีการประชุมใด ๆ เกิดขึ้น”หลังจากได้ยินคำพูดของเรย์ ฮาลซีย์ก็ให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบ ๆ ‘นี่ฮาลซีย์! นี่เป็นโอกาสที่จะคว้าผู้ชายในฝันของเธอนะ!’ฮาลซีย์เริ่มลงมือในการหาไซต์งานก่อสร้างและการจัดตั้งโครงการผู้บริหารระดับสูงในบริษัทแห่งนี้ยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีศักยภาพจริง ๆ ในฐานะผู้เรียน เพื่อนหรือผู้ใหญ่ในสถานที่อย่าซาน
ควินนี่ ยอร์กหัวเราะออกมาเบา ๆ เธอค่อนข้างทัศนคติของแซม เบเกอร์เพราะเขาเข้าใจส่วนได้ส่วนเสียของตัวเองดีปกติแล้วคนแบบนี้มีศักยภาพและมีความทะเยอทะยานและเธอก็ชอบใช้งานคนแบบเขามากที่สุด“ฉันมั่นใจว่านายคงเคยได้ยินสกาย คอร์ปอเรชั่นมาบ้างใช่ไหม?”ควินนี่เก็บนิ้วของเธอพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนแซมยังไม่กล้าที่จะเปิดตาของเขาและพูดอย่างตั้งใจ “ผมเคยได้ยินครับ สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกของพวกเขากำลังวางแผนที่จะคืนทรัพย์สินในกังนัมและพวกเขาต้องการสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ใจกลางซานฟรานซิสโก”จากนั้นควินนี่ตอบกลับ “ฉันหวังว่าห้างสรรพสินค้าของพวกเขาจะไม่มีวันเกิดขึ้น ตลอดไป”“ได้ครับ!”แซม เบเกอร์ไม่ได้ตั้งคำถามกับเธอเลยและหัวของเขายังคงก้มลงในเวลาต่อมาเมื่อเสียงของฝีเท้าได้เดินห่างออกไป เขาก็ค่อย ๆ เปิดตาของเขาพร้อมกับมีสีหน้าที่มืดหมอง “พายุกำลังจะเกิดขึ้นกับซานฟรานซิสโก แต่นี่อาจเป็นโอกาสให้กับตระกูลเบเกอร์ สกาย คอร์ปอเรชั่นเหรอ...น่าสนใจดีนิ”แซม เบเกอร์พึมพำกับตัวเองในขณะที่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป…ที่ดินที่ฮาลซีย์เลือกเป็นห้างสรรพสินค้าเก่าที่ถูกทิ้งร้าง สถานที่แห่งนี้ถูกท
ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจจิมมี่และเริ่มพลิกหน้ากระดาษเพื่ออ่านรายละเอียดในสัญญาทันทีพรึบ!ลูกน้องของจิมมี่เดินไปตบสัญญาของฮาร์วีย์ลงกับพื้น พวกเขาตะโกนอย่างเดือดดาล “จะเซ็นหรือไม่เซ็น? ถ้าคุณไม่เซ็น คุณก็จะไม่มีทางได้มีชีวิตออกจากประตูนี้ได้!”ฮาร์วีย์หัวเราะ“นี่คุณพยายามบังคับให้ซื้อที่นี่อยู่เหรอ?”จิมมี่สูบซิการ์ของเขาและตอบกลับอย่างใจเย็น “นี่พี่ชาย คุณไม่ควรพูดจาไร้สาระยังไงก็ได้นะ ผมเป็นนักธุรกิจจริง ๆ ผมจะบังคับคุณได้ยังไง? ผมก็แค่ไม่ชอบที่ทำเป็นเล่นมากเกินไป”“เซ็นสัญญาตอนที่ผมยังอารมณ์ดีดีกว่า”ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจจิมมี่ เรย์หยิบสัญญาขึ้นมาและรีบอ่านอย่างรวดเร็ว ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันทีและค่อย ๆ กระซิบ “คุณยอร์กครับ สัญญาฉบับนี้ไม่ถูกต้องครับ”“ราคาที่เราตกลงกันคือเจ็ดร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ แต่นี่มันมีเลขศูนย์เพิ่มมาอีกตัวในสัญญา ตอนนี้มันเจ็ดพันห้าร้อยล้านแล้วครับ”ฝูงชนต่างอ้าปากค้างหลังจากที่ได้ยินราคาบังอาจมาก!ภายในพริบตาเดียว ราคาได้เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!เวนดี้ เซอร์เรลเอาสัญญามาอ่านอีกครั้งพร้อมกับขมวดคิ้ว“ประธานจอห์นคะ ฉันว่าสัญญาฉบับนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้องค่
จิมมี่ตอบกลับอย่างไร้เดียงสา “ทุกคน นี่ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ผมไม่ยอมคืนเงิน ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น!”“เมื่อวานผมไม่ได้คุยกับคุณเลยและไม่ได้เอาเงินของคุณไปด้วย!”“ทำไมคุณไม่ไปตามหาคนที่เอาเงินค่ามัดจำของคุณไปแทนล่ะ?”ฝูงชนตกใจหลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาหันไปมองด้านหลังของจิมมี่โดยไม่รู้ตัวคนที่พวกเขาเคยคุยด้วยไม่ได้อยู่ที่นี่ผู้อาวุโสระดับสูงต่างมองหน้ากัน จากนั้นเวนดี้ เซอร์เรลก็ได้หยิบเอาใบเสร็จของวันก่อนออกมาวางไว้บนโต๊ะและเปล่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา “ประธานจอห์นคะ บนใบเสร็จมีลายเซ็นและตราประทับของบริษัทอยู่ค่ะ”จิมมี่ตบหน้าผากของตัวเองและพูด “ผมจำได้แล้ว ไม่นานมานี้มีมิจฉาชีพปรากฏตัวขึ้นในซานฟรานซิสโก”“หน้าตาของตราประทับคล้ายกับของเราอย่างมาก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นของปลอม ผมไม่ได้เป็นคนเอาเงินของคุณไปนะ”“เราควรช่วยคุณแจ้งความกับเจ้าหาที่เพื่อตามหาพวกเขาหรือเปล่า?”จิมมี่ดูเหมือนว่าเขากำลังมีน้ำใจแต่คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของทุกคนดูย่ำแย่พวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขาไม่มีทางเชื่อคำโกหกแบบนี้อย่างแน่นอนไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีบางคนในอุตสาหกรรมธุรกิจจะยุ่งเกี่ยว
“ออกไปซะ!”“ถ้าไม่ฉันจะหักแขนขาของพวกนายทุกคนทิ้งให้หมด!”“และคุณ…คุณสวยดีนิ อยากมาเล่นกับผมและเด็ก ๆ ของผมหน่อยไหม?”นักเลงทุกคนมีใบหน้าที่ดุร้ายและโหดเหี้ยมอย่างมากผู้อาวุโสระดับสูงที่มาจากสกาย คอร์ปอเรชั่นต่างแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมาปกติแล้วพวกเขาเคยแต่เข้าออกในสถานที่มีระดับไฮเอนด์และพบเจอผู้คนที่เหมาะสมเท่านั้นซึ่งทำให้นี่เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่มาอยู่ในสถานที่ยุ่งเหยิงขนาดนี้ มันจึงทำให้พวกเขารู้สึกได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากมันแต่ฮาร์วีย์และเรย์กลับไม่รู้สึกอะไรกับสถานการณ์นี้เลยฮาร์วีย์พูดอย่างนิ่งเฉยออกมา “จิมมี่ จอห์น โอกาสสุดท้ายแล้วนะ เอาเงินคืนมา”จิมมี่หัวเราะอย่างเย็นชา“นี่ยังไม่ไปอีกเหรอ? ไอ้เวร นายอยากขาหักก่อนจริง ๆ ใช่ไหม?”“ก็ได้ หักขาไอ้หนุ่มนี่ให้ฉันซะ!”ตอนนั้นนักเลงหลายคนรีบพุ่งเข้าหาฮาร์วีย์และเรย์ผู้ที่ยืนอยู่ข้างเขา ก้าวออกมาพร้อมกับถีบเข้าไปที่กลางอกของจิมมี่ในเวลาต่อมา เรย์คว้าผมของจิมมี่และฟาดเขาลงไปบนโต๊ะ จากนั้นเรย์หยิบปากกาที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาและแทงจิมมี่อย่างเกรี้ยวกราดปัก!ปากกาแท่งนั้นปักลงกับโต๊ะต่อหน้าสายตาของจิมมี่จิมมี่แทบ
ฮาร์วีย์ ยอร์กตบหัวของจิมมี่และลูบมือของเขาบนร่างกายของจิมมี่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม“ฉันขอถามหน่อย ใครเป็นคนที่ทำให้คุณปรับเปลี่ยนราคาของที่ดินผืนนี้และเอาร้อยห้าสิบล้านของฉันไป?”จิมมี่กำลังดิ้นรนอย่างเจ็บปวดแต่เขาก็ยังคงกัดฟันตอบ “ไม่มีใครทั้งนั้น! ผมทำเองทั้งหมด! ไม่มีคนอื่นมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น!”“ที่จริงแล้วผมทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ผมไม่คิดว่าครั้งนี้ผมจะมาเจอกับคนน่ากลัวอย่างคุณ!”ฮาร์วีย์หัวเราะและจ้องไปที่เวนดี้ เซอร์เรล“ตอนนี้คุณควรออกไปข้างนอกนะ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไม่เหมาะกับเด็ก”ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงทั้งหมดต่างถอดสี พวกเขาทั้งหมดรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วหลังจากได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์พูดเมื่อพวกเขาออกไป ฮาร์วีย์หัวเราะและถาม “เรย์ นายยังไม่ลืมสิ่งที่ฉันเคยสอนตอนที่อยู่ในสนามรบใช่ไหม? วันนี้แหละ เป็นการทดลองครั้งแรก”“ได้ครับ”เรย์กำลังยิ้มอยู่ เขาลูบหัวของจิมมี่และเผยรอยยิ้มที่อาจเรียกว่าอ่อนโยนที่สุดในตอนนั้น“อย่ากลัวไปเลยมันไม่เจ็บหรอก ผมจะพาคุณไปตามขั้นตอน”“ตอนนี้เครื่องมือมีไม่มากเท่าไหร่ ดังนั้นผมจะหักฟันของคุณที่ละซี่แล้วกัน จากนั้