“เจ้าชายเซอร์เรย์ของคุณยั่วยุฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทำให้ฉันรู้สึกไม่สะดวกสบาย คุณคิดว่าฉันก้าวข้ามไปผ่านไปง่าย ๆ ได้ไหม?” ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยขณะที่สำรวจเจมส์ เซอร์เรย์ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเขา เจมส์สูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง เขารู้แล้วว่าฮาร์วีย์มาจากไหน แม้ว่าเขาจะกลัวฮาร์วีย์อยู่บ้าง แต่ก็เป็นความกลัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เจมส์ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ผมรู้ว่าคุณเป็นใครและใครอยู่เบื้องหลังคุณ” “พวกเราเซอร์เรย์ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนที่อยู่ข้างหลังคุณขุ่นเคือง เราต้องขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้” “แต่ได้โปรด อย่าใช้ความโชคดีของคุณมากจนเกินงามไปเลย” ลุคจับที่แก้มและคำราม “คุณปู่! ถังขยะนี้จะไปสามารถมีสถานะอะไรได้บ้าง? เขาเป็นแค่ลูกเขยที่เกาะชายกระโปรงอาศัยอยู่กับภรรยาไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเราตระกูลเซอร์เรย์ต้องไปกลัวเขาด้วย?” “ทำไมตระกูลเซอร์เรย์จะต้องขอโทษด้วย? แม้ว่าคุณปู่จะยอมรับความอัปยศเช่นนี้ได้ แต่ตระกูลของเราไม่สามารถรับได้!” "หุบปาก!" เจมส์จ้องไปที่ลุค เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของวันนี้ แต่ลุคก็พยายามที่จะแทรกแซงและทำให้มันยิ่งแย่ลงไ
"คุณกำลังหมายถึงอะไร?" ฮาร์วีย์ถามอย่างไม่ใส่ใจ โยเอลกระซิบว่า “เด็กคนนั้น ลุค เขามีความสามารถไม่มาก แต่เขายังสามารถเป็นเจ้าชายของตระกูลเซอร์เรย์ได้ เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดก็คือเขามีพ่อทูนหัวที่ดี” "ใคร?" “ราชาแห่งท้องถนนในเซาท์ไลท์ จอห์น ก็อตติ” โยเอลพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นพร้อม ๆ กับสีหน้าอันเคร่งขรึม สถานะของจอห์นสูงมาก ๆ เขาเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งในท้องถนนของเซาท์ไลท์ ถึงแม้ว่าโยเอลจะเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดแห่งบัควู้ด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถกล้าที่จะยั่วยุจอห์น ก็อตติได้ ฮาร์วีย์หัวเราะ “คุณกำลังจะบอกว่าลุคจะไปขอให้จอห์นมาจัดการฉันเหรอ?” “น่าจะเป็นเช่นนั้น” โยเอลดูเคร่งเครียด “ผมรู้ว่าคุณแข็งแกร่งและทรงพลังมาก แต่ว่าตระกูลเซอร์เรย์นั้นรวยมากและจอห์นก็มีคนของเขามากมายมหาศาล ถ้าหากพวกเขารวมพลังเข้าด้วยกัน ผลกระทบจะยิ่งใหญ่มาก” “ยังไงก็ตาม โปรดระมัดวังตัวไว้ด้วยนะครับมิสเตอร์ยอร์ก” ฮาร์วีย์หันกลับมามองและเริ่มสำรวจไปที่โยเอลอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็พูดด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยว่า “คุณหวังว่าจะมีความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างลุคกับฉันหรือ? ทั้งสองฝ่ายจะย่อยยับ ใช่ไห
“คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? คุณยังวางแผนที่จะหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่ออีกเหรอ?” แมนดี้มีความสุขที่เห็นว่าฮาร์วีย์เริ่มมีแรงกระตุ้น ถ้าสามีของเธอตั้งใจเรียนจริง ๆ เธอก็ยินดีที่จะจ่ายเงินให้เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ฮาร์วีย์ส่ายหัวพร้อมกับท่าทางเคร่งขรึมและพูดว่า “ไม่ใช่สำหรับผมหรอก แต่เป็นสำหรับซีนเธียร์” “เธออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่ใช่เหรอ? เธอกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยเร็ว ๆ นี้” “ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยในบัควู้ดนั้นไม่ค่อยดีนัก ผมเกรงว่าซีนเธียร์อาจจะต้องไปโวลซิ่ง, มอร์ดู, หรืออาจจะซานฟรานซิสโกสำหรับการเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย” แมนดี้หัวเราะและพูดว่า “ฮาร์วีย์ คุณปล่อยให้คุณพ่อกับคุณแม่จัดการเองเถอะ คุณเป็นแค่พี่เขยของเธอ คุณไม่ต้องกังวลมากนักหรอก” ฮาร์วีย์ถูขมับของเขา เขาไม่สามารถบอกแมนดี้ได้ว่าเขาได้เห็นด้านที่แท้จริงของผู้คนในระบอบการศึกษาของบัควู้ดที่งานประชุมวิชาการวันนี้ “ดูเหมือนว่าผมต้องเร่งเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก ผมจะช่วยซีนเธียร์และไปดูมหาวิทยาลัยของที่นั่น” ฮาร์วีย์พึมพำออกมา ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาไม่ต้องรีบเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก แต่ตอนนี้ดูเหมือ
หลังจากตัดสินใจที่จะไปซานฟรานซิสโกและช่วยซีนเธียร์หามหาวิทยาลัยดี ๆ เพื่อเข้าเรียน ฮาร์วีย์ก็ขอให้อีวอนน์เตรียมการเบื้องต้นสำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ตัวอย่างเช่น บริษัทสาขาในซานฟรานซิสโกต้องการคนในท้องถิ่นที่มีความสามารถพึ่งพาได้เพื่อรับผิดชอบการดำเนินงาน แมนดี้แปลกใจมากหลังจากที่ฮาร์วีย์บอกเธอว่าเขาจะไปซานฟรานซิสโก “คุณจะไปที่นั่นเพื่อช่วยซีนเธียร์ค้นหามหาวิทยาลัยดี ๆ จริงหรือ? แล้วคุณจะอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน?” “สามหรือไม่เกินห้าวัน ประมาณนั้น” ฮาร์วีย์คิดเรื่องนี้ในใจ หากผลออกมาดี เขาจะสามารถจัดการเรื่องในสาขานี้ได้ภายในหนึ่งถึงสองวัน จากนั้นเขาก็จะสามารถไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในซานฟรานซิสโกได้ อันที่จริง ลึกลงไปในหัวใจของฮาร์วีย์ เขาหวังว่าแมนดี้จะไปกับเขาด้วย น่าเสียดายที่ช่วงนี้แมนดี้ยุ่งมาก ๆ เธอจะมีเวลาไปกับเขาได้อย่างไร? แมนดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณอยากไปก็ไปได้ แต่ในเมื่อคุณจะไปที่นั่นแล้วก็ได้โปรดช่วยทำอะไรให้ฉันสักอย่างนะ” "มันคืออะไร?" ฮาร์วีย์ไม่ได้พิจารณาด้วยซ้ำว่าจะตกลงหรือปฏิเสธ เนื่องจากเป็นคำขอของภรรยาสุดที่รัก เขา
ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงควินตันและควินนี่ ยอร์กเดินอยู่เคียงข้างกัน มันยังคงเป็นภาพที่โดดเด่นอย่างมากเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะอยู่มหานครนานาชาติระดับโลกเช่นนี้ก็ตามภายในโซนบอร์ดดิ้งทางขึ้นเครื่องของผู้โดยสารระดับวีไอพี ควินตันหยุดเดินและพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “ฉันจัดการทุกอย่างที่ซานฟรานซิสโกไว้หมดแล้ว สิ่งที่เธอจะต้องทำคือแค่นั่งนิ่ง ๆ ก็พอ อย่าทำอะไรที่ไม่จำเป็น”ควินนี่ส่งรอยยิ้มที่สามารถพังตึกลงได้ให้กับเขา“กลัวเหรอ?”ควินตันไม่ได้ตอบกลับแต่รีบหันหลังทันทีพร้อมกับส่งสายตาน่าขนลุกกลับไปหลังจากที่เห็นหลังของเขาควินนี่ค่อย ๆ เอียงหัวของเธอพร้อมกับถอนหายใจและถาม “อุบายเล็ก ๆ พวกนี้จะมีประโยชน์จริง ๆ เหรอ?”“ถ้าพี่พลาดอีกครั้งล่ะก็ ฉันไม่คิดว่าคุณย่ายอร์กจะปล่อยไปง่าย ๆ แน่”...ณ ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกฮาร์วีย์รู้สึกเบื่อที่จะรอเมื่อเครื่องบินของควินนี่ได้มาถึงและลงจอดหลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ฮาลซีย์ โลว์ก็ปรากฏตัวขึ้นเธอสูงประมาณ 5.5 ฟุต สัดส่วนร่างกายของเธอมีความเข้ากันดีกับใบหน้ารูปหัวใจของเธอหรือพูดได้ง่าย ๆ ว่ามาตรฐานความสวยของเธออยู่ท
เป็นอย่างที่คาดคิดว่าฮาลซีย์ผู้ที่เพิ่งกลับมาจากการเรียนต่อที่ต่างประเทศ เธอจึงมีฝีปากที่น่าประทับใจถ้าเป็นคนอื่นคงโดนเธอด่าจนอับอายไปแล้วแต่ฮาร์วีย์ ผู้ที่รู้สึกชินกับคำพูดเหล่านี้แล้ว ทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรเลยฮาร์วีย์จ้องมองไปที่ฮาลซีย์ผ่านกระจกมองหลังและถามเธอด้วยความสงสัย “ถ้าผมชอบการถูกเก็บไว้ล่ะครับ?”“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะจัดการนายด้วยตัวของฉันเอง” ฮาลซีย์ตอบกลับอย่างเย็นชาหลังจากได้ยินฮาร์วีย์ยักไหล่ของเขา “คุณผู้หญิง คุณเรียนศิลปะการฆ่าจากต่างประเทศเหรอครับ? สิ่งแรกที่คุณคิดคือการฆ่าผมอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่มันสหรัฐนะครับ!”“ไม่ต้องมาตีเนียนคุยกับฉัน อีกไม่นานฉันจะหาเงินก้อนใหญ่มาให้เพื่อให้นายเลิกยุ่งกับแมนดี้”“สบายใจเถอะ เงินก้อนนั้นคงมากพอที่นายจะใช้จนนายตายไปอย่างมีความสุข!”“ถ้านายยอมทิ้งแมนดี้ เราก็ตกลงกันเรื่องราคาได้นะ” ฮาลซีย์พูดอย่างเยือกเย็นต่อฮาร์วีย์พูดไม่ออก“คุณครับ ทำไมเอาแต่พูดเรื่องการหย่าของผมกับแมนดี้ล่ะ? คุณสงบและเป็นมิตรกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?”“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพ่อตากับแม่ยายของผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้แล้ว”“การที่คนนอกอย่างคุณยังพูดเรื
รถที่มีความเงียบเข้าปกคลุมขับไปท้องถนนของซาฟรานซิสโกอย่างรวดเร็ว ไม่นานทั้งสองก็เดินได้ทางมาถึงห้างสรรพสินค้าและหยุดลงตรงหน้าของอาคารสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกสถานที่ที่ฮาลซีย์อยากจะไปไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นที่นี่เอง“ฉันจะทิ้งกระเป๋าของฉันไว้กับนายแล้วฉันจะติดต่อนายอีกครั้งตอนกลางคืน”“และอีกอย่างหนึ่งรีบไปคืนรถได้แล้ว ค่าใช้จ่ายวันนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เธอพูดพร้อมกับเงินก้อนหนึ่งจากกระเป๋าถือของเธอให้กับฮาร์วีย์เธอคิดว่าฮาร์วีย์เช่ารถเบนท์ลีย์มา เพราะอย่างนี้เธอจึงจะจ่ายเงินให้เขาเธอยังมีน้ำใจให้เงินมากกว่าค่าเช่ารถอีกเล็กน้อยเพื่อการทำงานหนักของฮาร์วีย์พูดได้เต็มปากว่าแม้ว่าเธอจะมีความหยิ่งและทะนงตัวแต่ฮาลซีย์ก็ยังมีความเห็นอกเห็นใจอยู่แต่น่าเสียใจที่เธอปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เหมือนกับคนใช้คนหนึ่งเท่านั้นด้วยความนับถือที่เธอชื่นชมเจ้าชายยอร์ก ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจที่จะเป็นผู้ชายที่ดีกว่าเดิมและปล่อยให้เธอเป็นเช่นนี้ต่อไปในตอนนี้ได้มาสายโทรเข้าจากเรย์ ฮาท“คุณยอร์กครับ คุณมาถึงสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกหรือยังครับ? คนที่มาสมัครในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทได
พวกเขาจะต้องยอมรับว่าฮาลซีย์ โลว์ค่อนข้างมีศักยภาพแม้กระทั่งคำถามที่ค่อนข้างลึกซึ้งของฮาร์วีย์ที่เรย์ถามเธอ ฮาลซีย์ก็สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ทุกข้อพูดได้เต็มปากว่าเธอได้เตรียมตัวมาดีก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าเธอต้องการที่จะเป็นผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกและเมื่อการสัมภาษณ์ได้จบลง ฮาร์วีย์ได้เคาะโต๊ะและรีบโทรหาเรย์“บอกเธอว่าเธอได้งานแล้ว”เรย์ค้างแต่ไม่นานเขาก็ตอบกลับ “ได้ครับ!”เขาไม่มีจุดยืนของตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ เขาเพียงแค่รับใช้ฮาร์วีย์เท่านั้นหลังจากที่วางสาย เรย์ยิ้มให้กับฮาลซีย์“ยินดีด้วยนะครับ มิสโลว์ ผมเพิ่งได้รับสายจากท่านประธาน”“เขาบอกว่าคุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกของเราอย่างมาก วันนี้คุณสามารถรับมือกับขั้นตอนได้และคุณสามารถควบคุมดูแลธุรกิจทั้งหมดภายในบริษัทได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”“ผมหวังว่าเราจะได้ร่วมงานด้วยกันนะครับ”“อะไรนะ?!”ผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกต่างตกใจ‘ท่านประธานกำลังดูการสัมภาษณ์อยู่เหรอ?’‘หมายความว่าเขากำลังมองดูผู้หญิงคนนี้อยู่เหรอ