“ทำได้ดีมาก เจ้าขยะนั่นมันมาปรากฏตัวไหม?” เวย์นเอ่ยถามอย่างเย็นชา เสียงของเขาดูสั่นเครือเมื่อเขาพูดคำว่า "ขยะ" แต่คนรอบข้างก็ไม่ทันไม่ได้สังเกตอะไร แม้ว่าเวย์นต้องการที่จะโจมตีฮาร์วีย์ แต่เขาก็ไม่กล้าปล่อยให้ลูกน้องของเขารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ ไม่ว่าจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ในแบบใด ผลลัพธ์มันก็น่าสยดสยองอยู่ดี “คุณกำลังพูดถึงเจ้าคนปัญญาอ่อนที่ไร้ประโยชน์นั่นน่ะเหรอ? ฮาร์วีย์ ยอร์ก เจ้าลูกเขยแมงดาที่เกาะภรรยากินนั่นน่ะเหรอ!” “มันมาปรากฏตัวตามที่คุณพูดจริง แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรกับผมเลย อีกทั้งผมยังคิดว่ามันไปขอให้ไทสัน วูดส์ปล่อยปล่อยตัวผมไป” “อย่างที่คุณคิด เขาน่าจะเป็นตัวแทนของคนสำคัญ ๆ” เวย์นพยักหน้า เขาเหยียดนิ้วออกและแตะเบา ๆ บนที่วางแขนของรถเข็น ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หัวเราะและพูดว่า “ชายผู้นั้นดูมีน้ำใจมาก ถ้าหากเขาไม่ได้รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนายคือตระกูลเซอร์เรย์ เขาจะไม่มีทางทำอะไรแบบนี้” “ในกรณีนี้ก็เท่ากับส่งของขวัญให้เขา ปล่อยให้เขาและตระกูลเซอร์เรย์ต่อสู้กันอย่างไม่รู้จบ!” "ใช่!" ชายกลุ่มหนึ่งยืนกุมมือไว้ด้านหน้าพร้อมกับสีหน้าที่เคร
เช้าวันรุ่งขึ้น แมนดี้มาถึงสถานที่ก่อสร้างซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ตในช่วงเวลาเช้าตรู่ตามปกติ อย่างไรก็ตาม แมนดี้ไม่รู้ว่าควรที่จะรู้สึกอย่างไรเมื่อมองไปที่สถานที่ก่อสร้างที่ว่างเปล่า ไม่ใช่แค่ไม่มีคนงานก่อสร้าง แม้แต่พนักงานสักคนก็ยังไม่มา เมื่อฮาร์วีย์บอกว่าทุกอย่างจะคลี่คลายในวันนี้ เธอก็แอบตั้งตารอคอยมันอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อวานทุกประการ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แมนดี้ก็ยิ้มเยาะกับตัวเอง 'แมนดี้ แมนดี้ เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันเนี่ย?' ถ้าฮาร์วีย์มีความสามารถมากขนาดนั้น เขาจะยังคงเป็นเพียงลูกเขยที่อาศัยอยู่ที่บ้านของภรรยาอยู่ได้อย่างไร? บางครั้งแมนดี้ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ฮาร์วีย์ทำได้อย่างไร? เขาทนต่อการวิพากษ์วิจารณ์และดูถูกอย่างไม่ลดละจากตระกูลซิมเมอร์ได้อย่างไร? เมื่อแมนดี้ถอนหายใจอีกครั้ง รถตู้ก็เข้าจอดอยู่ข้างถนนอย่างเงียบ ๆ มีคนในรถกำลังสอดแนมแมนดี้ด้วยกล้องส่องทางไกล “พี่แฟรงค์ นั่นคือแมนดี้ ซิมเมอร์” “ไปและรีบไปพาเธอมา พนักงานคนอื่นยังไม่ได้มาทำงาน ถ้าคนเยอะจะรับมือยาก” แฟรงค์พูดอย่างมุ่งร้ายพร้อม ๆ กับคาบบุหรี่ไว้ในปาก ร
“เจ้าชายยอร์ก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ ผมจะจัดการกับมันให้เอง” ไทสันได้พูดขึ้น ฮาร์วีย์พยักหน้า มันไม่เหมาะสมสำหรับเขาที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องข้างทางแบบนี้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือปล่อยให้ไทสันจัดการกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ ฮาร์วีย์นั้นตระหนักได้ดีว่าทุกอย่างดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ผิดปกติ ราวกับว่ามีใครบางคนแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นเขาทำสงครามกับตระกูลเซอร์เรย์ หลังจากที่ไทสันจากไป ฮาร์วีย์ก็มองหาเรย์ ฮาท ด้วยตำแหน่งปัจจุบันของเรย์ในบัควู้ด เขาสามารถระบุที่อยู่ที่แน่นอนของที่พักอาศัยของแบร์รี่ วอเตอร์ได้อย่างง่ายดายด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว เรย์ขับรถพาฮาร์วีย์ไปยังที่บ้านของแบร์รี่ ในเวลานี้ แบร์รี่ได้กลับบ้านมาแล้ว และเลขาฯ สาวสวยพร้อมขาที่เรียวยาวกำลังช่วยเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับเขาอยู่ “ท่านประธานกรรมการบริหารวอเตอร์คะ ใครบังอาจทำสิ่งนี้กับคุณ? มันช่างโหดร้ายมาก!” เลขาฯ สาวกล่าวอย่างใจเย็น “บอกฉันมา ฉันล่ะอยากจะไปตบมันแก้แค้นให้กับคุณ!” แบร์รี่หัวเราะและตีก้นของเลขาฯ สาวสวยด้วยมือของเขา “ผู้หญิงโง่ เธอนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย! นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความกล้าหาญ!” “
แบร์รี่รู้ดีว่าตามแผน แมนดี้น่าจะตกไปอยู่ในมือของแฟรงค์ คอสเทลโล อย่างไรก็ตาม เขากระชากหัวของฮาร์วีย์และเยาะเย้ย “ไอ้ขยะ! ถ้าการที่เมียของแกออกไปพบกับชู้ นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของฉันเลยสักนิด ถ้าหล่อนถูกลักพาตัวไป แกก็ควรไปตามหาหล่อน! แล้วแกมาตามหาฉันทำไม?” เลขาฯ สาวขายาวของแบร์รี่ก็เดินตามออกมาด้วย เธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก "แกคือใคร? กล้าดียังไงมาทำร้ายท่านประธานกรรมการบริหารวอเตอร์! แกไม่รู้หรือว่าเขาสามารถเรียกตำรวจให้มาลากคอแกเข้าคุกได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว” “วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ฉันจะไม่มาเสียเวลาพูดคุยเรื่องไร้สาระกับแก” “ฉันจะถามอีกครั้ง” การแสดงออกของฮาร์วีย์เย็นชายิ่งขึ้น “แกส่งคนไปลักพาตัวภรรยาฉัน แมนดี้ ซิมเมอร์ไปใช่หรือเปล่า?” “ฮาร์วีย์ แกคงต้องแสดงหลักฐานในสิ่งที่แกพูด! ฉันเป็นนักธุรกิจที่จริงจังมาก ๆ คนหนึ่ง ฉันจะไม่ทำเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกน่า!” "ที่ฉันกำลังจะบอกแกก็คือ! ถ้าขืนแกมาดูถูกฉันอีกครั้งนะ ฉันจะฟ้องแกในข้อหาหมิ่นประมาท!” แบร์รี่ชี้นิ้วสาปแช่งกล่าวหาไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่รู้สึกผิด อันที่จริง เขาลืมกล่าวหาฮาร์วีย์
คำพูดของแมนดี้นั้นมันได้ปลุกเสียงหัวเราะจากเหล่าลูกน้องที่อยู่เบื้องหลังของแฟรงค์ คอสเทลโลเป็นอย่างมาก “แมนดี้ นี่เธอมองว่าตัวเองเป็นอาหารจานอร่อยจริง ๆ เหรอ? นี่เธอกล้าที่จะข่มขู่คุณคอสเทลโลจริง ๆ เหรอเนี่ย?” “ทุกวันนี้มีคนที่กล้าบ้าดีเดือดขนาดนี้อยู่จริง ๆ เหรอ? เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่!” “เธอยังไม่เห็นเลยว่าคุณคอสเทลโลนั้นมีความสามารถอะไรบ้าง! ถ้าเธอรู้ เธอก็คงจะรีบขอคุกเข่าลงบัดเดี๋ยวนี้!” “คุณคอสเทลโล คุณมีน้ำใจกับผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้ว ถ้าเป็นผมนะ ผมจะจัดการเธอให้เกือบถึงตายและเก็บทรมานเธอเอาไว้ให้เธอร้องขอชีวิตเล่น ๆ แก้เบื่อ!” ลูกน้องทุกคนของเขาดูโหดเหี้ยมกว่าคนปกติทั่วไป เหมือนว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์ในสถานการณ์เช่นนี้มาอย่างโชกโชน แฟรงค์ยกมือห้ามและเดินเข้าไปหาแมนดี้ จากนั้นเขาก็ยกคางของเธอขึ้นด้วยมือขวาและยิ้ม “แม่สาวน้อย ฉันไม่เคยเจอใครที่กล้าดูถูกเหยียดหยามฉันมาหลายปีแล้ว!” “เธอกำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตอันยืนยาวของตัวเองอยู่หรือเปล่า?” “นายคงรู้เกี่ยวกับการขอแต่งงานของเจ้าชายยอร์กเมื่อไม่กี่วันก่อนใช่ไหม?” ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แมนดี้จำเป็
แบร์รี่ได้มาถึงหลังจากนั้นไม่นานนัก เขาและแฟรงก์สบตากัน พวกเขาขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัด ไทสันผู้ที่มีอำนาจและอิทธิพลคนใหม่ในบัควู้ด เขาไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นด้วยได้ มีข่าวลือที่กล่าวว่ามีบุคคลสำคัญสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง แม้แต่หัวหน้าแก๊งและบรรพบุรุษของพวกเขาก็ยังกลัวไทสันกันหมด เมื่อชายอย่างเช่นเขากำลังเดินทางมาหาพวกเขาทั้งสอง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว “บางทีพวกเราควรที่จะขอคำแนะนำจากท่านยอร์ก” แบร์รี่พูดอย่างสุขุม ใบหน้าของแฟรงก์นั้นมืดมนราวกับช่วงเวลากลางคืน เขารู้ดีว่าเวย์น ยอร์กจะตอบสนองอย่างไร เวย์นมักจะสนใจแต่ผลลัพธ์ เขาไม่สนใจเรื่องกระบวนการ ถ้าแฟรงค์ขอความช่วยเหลือจากเวย์น มันคงเท่ากับเป็นโทษประหารชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ แฟรงค์ไม่แน่ใจว่าเวย์นจะสามารถเผชิญหน้ากับไทสันได้หรือไม่ ขณะที่ทั้งสองยังคงคิดว่าจะทำอะไรต่อไป ไทสันก็ได้มาถึงในเวลาต่อมา ฮาร์วีย์ก็อยู่ข้าง ๆ เขาด้วยเช่นกัน แฟรงค์ได้พบกับฮาร์วีย์เป็นครั้งที่สอง 'ผู้ชายคนนี้มาจากไหนนะ?' 'เขากล้าดียังไงถึงได้มาเดินนำหน้าไทสัน?' 'หรือว่าบางทีเขาอาจจะเป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ของไทสันก็ได้?'
แฟรงค์รู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่สามารถบรรยายได้จากฮาร์วีย์มันกำลังกดเขาให้จมลง ความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เขาคุกเข่าต่อหน้าเวย์น ยอร์ก 'ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมีออร่าที่แข็งแกร่งกว่าเวยน์?' “ช่วยบอกฉันที” ฮาร์วีย์พูดขึ้นอย่างเย็นชา “แบร์รี่ วอเตอร์ นายกำลังวางแผนจะทำอะไรกับภรรยาของฉัน?” แฟรงค์ตัวสั่น จากนั้นจึงเล่าความจริงให้ฮาร์วีย์ฟัง “เขาบอกว่าเขาต้องการรู้และลิ้มรสว่าผู้หญิงของเจ้าชายยอร์กจะมีรสชาติอย่างไร” “และ…และเขายังบอกอีกด้วยว่าพวกตระกูลเซอร์เรย์สนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง และไม่มีใครที่กล้าจะแตะต้องตัวเขา!” แบร์รี่เริ่มเหงื่อออกอย่างมากกับคำพูดของแฟรงค์ อันที่จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพวกเขา แต่ไม่รู้ว่าทำไม แบร์รี่รู้สึกเหมือนว่าเขาได้ทำอะไรผิดไปโดยไม่รู้ตัว “แน่ใจนะว่านี่เป็นความคิดของเขา” ไทสันถามขึ้นในทันใด “แน่นอน ผมมั่นใจครับพี่ไทสัน! ผู้ชายคนนี้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผมเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไม่มีทางช่วยเขาอย่างแน่นอน ด้วยสัตย์จริงครับพี่!” ฮาร์วีย์จ้องมองไปที่แฟรงก์ด้วยสายตาที่เยือกเย็น “นายก็น่าจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เสียงคร่ำครวญสยองขวัญดังก้องไปทุกหนทุกแห่ง แบร์รี่ทรุดลงพร้อมกับเข่าที่กระแทกพื้นเสียงดัง เขาตัวสั่นอย่างหยุดไม่ได้ “ผมจะพูด! ผมจะบอกคุณทุกอย่าง!” “พวกตระกูลเซอร์เรย์ไม่ใช่คนที่สนับสนุนเรา! พวกมันไม่มีอำนาจที่มากพอ” “ตระกูลยอร์กอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ จะพูดให้ถูกก็คือเวย์น ยอร์ก!” "เขา?" ฮาร์วีย์หัวเราะคิกคัก เขาอยากรู้ว่าใครกันที่กล้าตั้งเป้าไปที่แมนดี้ เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเป็นเวย์น “คราวที่แล้วฉันคงดูอ่อนโยนไปหน่อย” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น “โทรหาเขาซิ บอกเขาว่าชีวิตของเขาจะกลายเป็นขุมนรกหากเขาไม่มาปรากฏตัวในอีกสิบนาทีข้างหน้านี้” แบร์รี่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง เขารีบโทรออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เวลาจะผ่านไปสิบนาที รถเข็นก็ปรากฏขึ้นที่จุดเกิดเหตุ เวย์นถูกพันด้วยผ้าพันแผลเต็มตัวขณะนั่งบนรถเข็น ทว่าราศีของเขาไม่สามารถเทียบได้กับบุคคลทั่วไป “เวย์น” ฮาร์วีย์ขยับตัวอย่างช้า ๆ และไม่ยอมหันหลังไปมองเวย์น “จำที่ฉันพูดครั้งสุดท้ายได้ไหม?” "อือ" เวย์นยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อเมลิสซา ลีโอถอนตัวเพราะความล้มเหลวของเธอ เขาไปร้องขอการให้อภัยจากฮาร์วีย์ที่เดอะ การ์เ