คำพูดของแมนดี้นั้นมันได้ปลุกเสียงหัวเราะจากเหล่าลูกน้องที่อยู่เบื้องหลังของแฟรงค์ คอสเทลโลเป็นอย่างมาก “แมนดี้ นี่เธอมองว่าตัวเองเป็นอาหารจานอร่อยจริง ๆ เหรอ? นี่เธอกล้าที่จะข่มขู่คุณคอสเทลโลจริง ๆ เหรอเนี่ย?” “ทุกวันนี้มีคนที่กล้าบ้าดีเดือดขนาดนี้อยู่จริง ๆ เหรอ? เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่!” “เธอยังไม่เห็นเลยว่าคุณคอสเทลโลนั้นมีความสามารถอะไรบ้าง! ถ้าเธอรู้ เธอก็คงจะรีบขอคุกเข่าลงบัดเดี๋ยวนี้!” “คุณคอสเทลโล คุณมีน้ำใจกับผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้ว ถ้าเป็นผมนะ ผมจะจัดการเธอให้เกือบถึงตายและเก็บทรมานเธอเอาไว้ให้เธอร้องขอชีวิตเล่น ๆ แก้เบื่อ!” ลูกน้องทุกคนของเขาดูโหดเหี้ยมกว่าคนปกติทั่วไป เหมือนว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์ในสถานการณ์เช่นนี้มาอย่างโชกโชน แฟรงค์ยกมือห้ามและเดินเข้าไปหาแมนดี้ จากนั้นเขาก็ยกคางของเธอขึ้นด้วยมือขวาและยิ้ม “แม่สาวน้อย ฉันไม่เคยเจอใครที่กล้าดูถูกเหยียดหยามฉันมาหลายปีแล้ว!” “เธอกำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตอันยืนยาวของตัวเองอยู่หรือเปล่า?” “นายคงรู้เกี่ยวกับการขอแต่งงานของเจ้าชายยอร์กเมื่อไม่กี่วันก่อนใช่ไหม?” ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แมนดี้จำเป็
แบร์รี่ได้มาถึงหลังจากนั้นไม่นานนัก เขาและแฟรงก์สบตากัน พวกเขาขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัด ไทสันผู้ที่มีอำนาจและอิทธิพลคนใหม่ในบัควู้ด เขาไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นด้วยได้ มีข่าวลือที่กล่าวว่ามีบุคคลสำคัญสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง แม้แต่หัวหน้าแก๊งและบรรพบุรุษของพวกเขาก็ยังกลัวไทสันกันหมด เมื่อชายอย่างเช่นเขากำลังเดินทางมาหาพวกเขาทั้งสอง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว “บางทีพวกเราควรที่จะขอคำแนะนำจากท่านยอร์ก” แบร์รี่พูดอย่างสุขุม ใบหน้าของแฟรงก์นั้นมืดมนราวกับช่วงเวลากลางคืน เขารู้ดีว่าเวย์น ยอร์กจะตอบสนองอย่างไร เวย์นมักจะสนใจแต่ผลลัพธ์ เขาไม่สนใจเรื่องกระบวนการ ถ้าแฟรงค์ขอความช่วยเหลือจากเวย์น มันคงเท่ากับเป็นโทษประหารชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ แฟรงค์ไม่แน่ใจว่าเวย์นจะสามารถเผชิญหน้ากับไทสันได้หรือไม่ ขณะที่ทั้งสองยังคงคิดว่าจะทำอะไรต่อไป ไทสันก็ได้มาถึงในเวลาต่อมา ฮาร์วีย์ก็อยู่ข้าง ๆ เขาด้วยเช่นกัน แฟรงค์ได้พบกับฮาร์วีย์เป็นครั้งที่สอง 'ผู้ชายคนนี้มาจากไหนนะ?' 'เขากล้าดียังไงถึงได้มาเดินนำหน้าไทสัน?' 'หรือว่าบางทีเขาอาจจะเป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ของไทสันก็ได้?'
แฟรงค์รู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่สามารถบรรยายได้จากฮาร์วีย์มันกำลังกดเขาให้จมลง ความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เขาคุกเข่าต่อหน้าเวย์น ยอร์ก 'ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมีออร่าที่แข็งแกร่งกว่าเวยน์?' “ช่วยบอกฉันที” ฮาร์วีย์พูดขึ้นอย่างเย็นชา “แบร์รี่ วอเตอร์ นายกำลังวางแผนจะทำอะไรกับภรรยาของฉัน?” แฟรงค์ตัวสั่น จากนั้นจึงเล่าความจริงให้ฮาร์วีย์ฟัง “เขาบอกว่าเขาต้องการรู้และลิ้มรสว่าผู้หญิงของเจ้าชายยอร์กจะมีรสชาติอย่างไร” “และ…และเขายังบอกอีกด้วยว่าพวกตระกูลเซอร์เรย์สนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง และไม่มีใครที่กล้าจะแตะต้องตัวเขา!” แบร์รี่เริ่มเหงื่อออกอย่างมากกับคำพูดของแฟรงค์ อันที่จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพวกเขา แต่ไม่รู้ว่าทำไม แบร์รี่รู้สึกเหมือนว่าเขาได้ทำอะไรผิดไปโดยไม่รู้ตัว “แน่ใจนะว่านี่เป็นความคิดของเขา” ไทสันถามขึ้นในทันใด “แน่นอน ผมมั่นใจครับพี่ไทสัน! ผู้ชายคนนี้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผมเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไม่มีทางช่วยเขาอย่างแน่นอน ด้วยสัตย์จริงครับพี่!” ฮาร์วีย์จ้องมองไปที่แฟรงก์ด้วยสายตาที่เยือกเย็น “นายก็น่าจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เสียงคร่ำครวญสยองขวัญดังก้องไปทุกหนทุกแห่ง แบร์รี่ทรุดลงพร้อมกับเข่าที่กระแทกพื้นเสียงดัง เขาตัวสั่นอย่างหยุดไม่ได้ “ผมจะพูด! ผมจะบอกคุณทุกอย่าง!” “พวกตระกูลเซอร์เรย์ไม่ใช่คนที่สนับสนุนเรา! พวกมันไม่มีอำนาจที่มากพอ” “ตระกูลยอร์กอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ จะพูดให้ถูกก็คือเวย์น ยอร์ก!” "เขา?" ฮาร์วีย์หัวเราะคิกคัก เขาอยากรู้ว่าใครกันที่กล้าตั้งเป้าไปที่แมนดี้ เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเป็นเวย์น “คราวที่แล้วฉันคงดูอ่อนโยนไปหน่อย” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น “โทรหาเขาซิ บอกเขาว่าชีวิตของเขาจะกลายเป็นขุมนรกหากเขาไม่มาปรากฏตัวในอีกสิบนาทีข้างหน้านี้” แบร์รี่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง เขารีบโทรออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เวลาจะผ่านไปสิบนาที รถเข็นก็ปรากฏขึ้นที่จุดเกิดเหตุ เวย์นถูกพันด้วยผ้าพันแผลเต็มตัวขณะนั่งบนรถเข็น ทว่าราศีของเขาไม่สามารถเทียบได้กับบุคคลทั่วไป “เวย์น” ฮาร์วีย์ขยับตัวอย่างช้า ๆ และไม่ยอมหันหลังไปมองเวย์น “จำที่ฉันพูดครั้งสุดท้ายได้ไหม?” "อือ" เวย์นยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อเมลิสซา ลีโอถอนตัวเพราะความล้มเหลวของเธอ เขาไปร้องขอการให้อภัยจากฮาร์วีย์ที่เดอะ การ์เ
เมื่อแมนดี้ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แบร์รี่ก็ถือว่าเธอยังคงเดือดดาลด้วยความโกรธอยู่ จากนั้นเขาก็รีบถามอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของเขาค่อนข้างลังเลว่า “ถ้าคุณยังไม่พอใจกับเรื่องทั้งหมดนี้ เราสามารถจัดหาวัสดุทั้งหมดให้คุณฟรี ๆ เลย!” “ได้โปรดยอมรับของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงคำขอโทษของพวกเราไว้ด้วยเถอะ!” เมื่อเห็นการกระทำของแบร์รี่ซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ ก็ปฏิบัติตาม พวกเขาต่างก็คร่ำครวญทีละคน พวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับแฟรงค์ คอสเทลโล และด้วยเหตุนี้เอง แม้แต่หนึ่งในสี่นายใหญ่แห่งตระกูลยอร์ก เวย์น ยอร์ก เขายังต้องแขนพิการเลย หากพวกเขาไม่ยอมแพ้ในตอนนี้ ก็เท่ากับว่าพวกเขาจะรนหาที่ตายเท่านั้น! ในส่วนของเธอ แมนดี้คิดว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นบ้าเสียสติไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาข่มขู่เธอสารพัด แต่วันนี้พวกเขามาหาเธอและคุกเข่าต่อหน้าของเธอ นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ยอมกลับหากเธอไม่ตอบรับวัสดุจากพวกเขา ในขณะนั้น ฮาร์วีย์ก็เดินออกมาพร้อมกับกินซาลาเปาไปด้วย แบร์รี่และคนของเขาตัวสั่นหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นฮาร์วีย์ เหงื่อไหลโชกเสื้อผ้าของพวกเขา "นายท่านยอร์ก นี่เป
แมนดี้นั้นเป็นคนอ่อนโยนมากเกินไป ในที่สุดเธอก็ยอมและพยักหน้าตอบรับ แบร์รี่และคนอื่น ๆ ต่างก็ขอบคุณเธออย่างล้นเหลือและจากไปหลังจากนั้นไม่นาน ไม่นานนักก็มีคนจากไซต์ก่อสร้างโทรมาหาเธอ วัสดุถูกส่งไปยังไซต์ และโครงการที่หยุดไปนานแล้วในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แมนดี้ยังมีข้อสงสัย แต่ว่าในท้ายที่สุดเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเมื่อเรื่องต่าง ๆ เริ่มดำเนินไปในทางที่ดี … ณ สกาย คอร์ปอเรชั่น ฮาร์วีย์นั่งอยู่ที่เก้าอี้ของประธานกรรมการบริหาร เขากำลังศึกษาภาพสองภาพตรงหน้าเขา ภาพแรกนั้นชัดเจนราวกับเวลากลางวัน โดยแสดงให้เห็นเงาของเวย์นและสตีเฟ่น ยอร์ก พวกเขาอยู่ที่ชายหาด ดูเหมือนกับว่ากำลังรอใครสักคนอยู่ เมื่อมองดูใกล้ ๆ มือซ้ายของเวย์นนั้นถูกตัดออกไปแล้ว รูปถ่ายต้องถ่ายในวันเดียวกับที่เวย์นยิงปืนครั้งนั้น รูปที่สองค่อนข้างเบลอไปหน่อย ดูเหมือนจะอยู่ที่สนามบิน และมีชายคนหนึ่งที่ฮาร์วีย์เองก็ไม่รู้จัก เขาจ้องดูรูปนั้นอยู่นาน แล้วถามอย่างใจเย็นว่า “คุณกำลังจะบอกว่ารูปพวกนี้อยู่บนโต๊ะผมตั้งแต่เช้าเหรอ?” "ถูกต้องค่ะ" อีวอนน์ ซาเวียร์พยักหน้า “ฉันไปขอให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดดู แต
สตีเฟ่นยิ้ม “ลูกพี่ลูกน้องที่รัก ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว ทำไมคุณไม่ทำใจสบาย ๆ สักสองสามวันล่ะ? บางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่สามารถรีบร้อนได้” คริสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับอย่างช้า ๆ “สตีเฟ่น นายก็รู้ว่าฉันมาที่นี่ทำไม” “ถ้าเราล้มเหลว ทั้งนายและฉันจะต้องลำบากเป็นอย่างมาก” "แน่นอน" สตีเฟ่นยิ้มอีกครั้ง “ในกรณีนี้ ฉันจะส่งคนไปเชิญพวกซาเวียร์” "ดี" “ฉันจะจัดการทุกอย่าง นายแค่ต้องแสดงตัวเท่านั้น” สตีเฟ่นหัวเราะคิกคัก คริสไม่ได้พูดอะไรอีก และออกจากสนามบินไปอย่างสุขุมท่ามกลางฝูงชนมากมาย แม้ว่าเขาจะเป็นบุคคลที่ทรงพลังอำนาจมาก แต่เขาก็รู้ว่าถ้าหากเขาล้มเหลวในภารกิจ เขาจะจบไม่สวยแน่ ๆ … ณ ทะเลสาบสีมรกตในบัควู้ด ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลซาเวียร์ ตระกูลซาเวียร์ไม่ใช่ตระกูลดั้งเดิมของบัควู้ด พวกเขามาจากโวลซิ่ง หลังจากที่เชลดอน ซาเวียร์กลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ ครอบครัวของเขาก็อพยพจากโวลซิ่งมาที่นี่ แต่เชลดอนเป็นคนสุขุม นั่นเป็นสาเหตุที่ตระกูลซาเวียร์ไม่ได้โด่งดังมากนักในเซาท์ไลท์ ผู้คนที่มาชุมนุมกันที่สถานที่พบปะของตระกูลซาเวียร์อันเงียบสงบในวัน
อดัมยิ้มเมื่อเห็นอีวอนน์ “อีวอนน์ มาทันเวลาพอดีเลย! ทุกคนกำลังพูดถึงเธออยู่” “ในที่สุด สาวน้อยก็เติบโตเป็นหญิงสาวที่พร้อมจะมีครอบครัว!” “นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วที่ชายหนุ่มรูปงามส่งการ์ดคำเชิญดูตัวมาให้เธอ!” ขณะที่เขาพูด อดัมก็ถ่ายรูปสองสามภาพแล้ววางมันลงบนโต๊ะน้ำชา “มา มา มา มาดูนี่สิ! นี่คือเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอ คริส ลีโอ นี่คือชายจากตระกูลดังอย่างตระกูลเซอร์เรย์ ลุค เซอร์เรย์ นี่คือชายที่รูปงามแห่งตระกูลร็อบบินส์ ออสการ์ ร็อบบินส์ คนนี้คือชายที่เพรียบพร้อมแห่งตระกูลคลาวด์ เดคแลน คลาวด์ และนี่คือชายจากตระกูลที่มั่งคั่งฟินน์ เยตส์…” “พวกเขาทั้งหมดเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและมีความสามารถมากมาย ไม่ว่าเธอจะเลือกใครก็จะเป็นการดีสำหรับตระกูลของเรา” อย่างไรก็ตาม อีวอนน์ไม่ได้ละสายตาจากภาพถ่ายนั้นเลย เธอกลับมุ่งหน้าไปหาเชลดอนและพูดขึ้นว่า “คุณปู่ คุณควรรู้เอาไว้ว่าหนูจะไม่ยอมแต่งงานกับใครทั้งนั้น” เชลดอนถอนหายใจออกมา “ทำไมปู่จะไม่เข้าใจความรู้สึกของหลานรักล่ะ? แต่หลาย ๆ ตระกูลที่อยากจะมาขอหลานแต่งงาน แม้แต่คนอย่างปู่เองก็ยากที่จะสามารถปฏิเสธทุกคนได้” “เราได้ทำให้ตระกูลอื่น ๆ