“ดาบหักเล่มนี้เป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่มันก็เท่านั้นแหละ“ไม่ได้มีความพิเศษอื่นใด“มันก็เป็นแค่ขยะที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทิ้งเพราะมันพังลงระหว่างสงครามยูโร-อเมริกา“ใครจะไปรู้ว่าจะมีคนไร้ยางอายหยิบของแบบนี้ขึ้นมาประมูล“เธอคิดว่าจะขออะไรจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้จากขยะชิ้นนี้งั้นเหรอ? น่าขำจริง ๆ“มีสมองคิดสักหน่อยได้หรือเปล่า“ถ้าคิดว่าดาบหักเล่มเดียวจะขออะไรจากเขาได้?“เลิกละเมอได้แล้ว!“แต่ก็ทำได้แค่นำดาบเล่มนี้กลับบ้านเท่านั้น เพราะยังไงซะ นี่เป็นอาวุธที่คร่าชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน“ดูจากแขนขาที่ผอมบางของเธอ ถ้าไอสังหารจากดาบเล่มนี้ทำให้เธอต้องอกสั่นขวัญแขวนก็อย่ามาโทษหัวหน้าผู้ฝึกสอนล่ะ”ฮาร์วีย์ไม่แยแส เขามีหลายสิ่งหลายอย่างในครอบครอง แล้วทำไมต้องใส่ใจกับอีแค่ดาบหักเล่มเดียว?เขาเพียงต้องการป้องกันไม่ให้ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้ครอบครองสิ่งนั้นจากการประมูลครั้งนี้ก็เท่านั้นแต่เนื่องจากวิหารคุณธรรมทั้งห้าเล่นไม่ซื่อกับพวกเขาก่อน ฮาร์วีย์จึงไม่รังเกียจที่จะเปิดเผยสิ่งที่เรียกว่า "คุณค่า" ของดาบหักเล่มนี้ออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ทุกคนต่างมองด้วยสายตาไม่เชื่ออย
ฮาร์วีย์มองดูชารอนด้วยแววตาเรียบเฉย ยิ่งเธอยกย่องตัวตนอื่นของเขามากแค่ไหน เขาก็แทบทนไม่ไหวที่จะได้เหยียบย่ำเธอให้หนักกว่าเดิม“ฉันไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้นแหละ” เขาตอบอย่างใจเย็น“เพราะว่าฉันคือหัวหน้าผู้ฝึกสอน“ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ก็แปลว่ามันไม่ใช่!"ทีนี้เข้าใจหรือยัง?"คำกล่าวอ้างของเขาทำให้ฝูงชนตกตะลึงทุกคนเริ่มมองมาที่ฮาร์วีย์ด้วยความไม่เชื่อ'หัวหน้าสาขายอร์กและเจ้าชายยอร์กคือตัวตนของหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานเนี่ยนะ?!'หากเป็นเช่นนั้นจริง คำพูดของเขาก็ถูกต้องและดาบที่พังไปแล้วเล่มนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!แม้แต่ทีลซึ่งเก็บตัวเงียบอยู่หลังเวที ก็ยังพบว่าตัวเธอสั่นด้วยความงุนงงกับคำกล่าวอ้างของฮาร์วีย์แม้แต่สตรีผู้สูงศักดิ์อย่างเธอเองก็ทำได้เพียงชื่นชมหัวหน้าผู้ฝึกสอนอยู่เงียบ ๆ แบบนี้แต่สิ่งนี้กลับทำให้ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงในการขึ้นสู่อำนาจกล้าอ้างว่าตัวเองเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่แสนสูงส่งคนนั้น!จะเป็นไปได้ยังไง!ความเงียบอันยาวนานผ่านไป มีเพียงเสียงเย้ยหยันของเมอร์ฟีเท่านั้นที่ทำลายความเงียบดังกล่าว“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? พวกคุณเชื่อในสิ่งที่ชายคนนี้พูดจริงหรือ!"ฉ
ฮาร์วีย์และเลสลี่กลับไปที่ห้องเพรซซิเดนเชิลสวีทในครึ่งชั่วโมงต่อมาใบหน้าของเลสลี่มีสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเธอเข้ามาในห้อง เธอลังเลว่าจะพูดหรือไม่พูดดีโทบี้เคาะประตูก่อนจะสบตากับฮาร์วีย์ เขามีท่าทางแปลก ๆ เช่นเดียวกับเลสลี่จากนั้นฮาร์วีย์ก็ชำเลืองมองเลสลี่อย่าเงียบ ๆในทางกลับกันโทบี้ก็หัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินเข้าไป“ได้โปรดอย่าตำหนิเลสลี่เลยนะ น้องยอร์ก ถึงแม้เธอจะไม่บอกฉัน แต่ด้วยความสามารถของฉัน พรุ่งนี้เช้าฉันก็จะต้องได้รู้เรื่องนี้อยู่ดี”“แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็ไม่ได้หักหลังคุณหรอกนะ”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“คุณเกรงใจกันเกินไปแล้ว ที่เธอบอกคุณทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของผมเอง ผมเข้าใจในเรื่องนั้นดี ดังนั้นผมก็ไม่โทษเธอหรอก”"ดีแล้วล่ะ"โทบี้เทชาใส่ถ้วยแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“น้องยอร์ก… ยังไงซะเราก็ถือเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรามาพูดกันตรง ๆ เถอะนะ นายคือหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานจริง ๆ เหรอ?” เขาถามอย่างแผ่วเบา “นายบอกฉันได้ใช่หรือเปล่า?“ฉันก็แค่อยากจะแน่ใจ!“ว่าถ้านายเป็นเขาจริง ๆ ฉันจะได้กล้าทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำในฮ่องกง!”เมื่อมองไปที่ท่าทางกระตือรือร้นของโทบี้ ฮาร์วี
"โอ้? วินซ์ไม่ได้ชอบพออยู่กับสการ์เลตต์เหรอ? ทำไมเขาถึงเล็งไปที่ทีลด้วยล่ะ?”ริมฝีปากของฮาร์วีย์โค้งงอเพื่อเผยรอยยิ้มอันขมขื่น“วิหารคุณธรรมทั้งห้าคือฮาเร็มของเขาหรือไง?”“จุ๊ ๆ! อย่าพูดอะไรแบบนั้น!”โทบี้ลุกขึ้นอย่างกระวนกระวายตกใจ หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครฟังอยู่ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“ในขณะที่ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเป็นราชาที่แท้จริงของฮ่องกงและลาสเวกัส วิหารคุณธรรมทั้งห้าก็มีอิทธิพลอย่างมากเหนือเซาท์ไลท์และพื้นที่โดยรอบ“ชื่อของโรงฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีไว้สำหรับโชว์เท่านั้น นายรู้ไหม“นายไม่เพียงแต่เป็นปรปักษ์กับทีลเท่านั้น แต่นายยังทำลายชื่อเสียงของพวกเขาไปมากมายอีกด้วย!“แค่สองสิ่งนี้ก็น่าจะทำให้พวกเขารู้สึกแค้นในตัวนายแล้ว!”โทบี้ขมวดคิ้ว“อีกสองสามวันข้างหน้านายควรไปหาที่กบดานสักหน่อย อย่าไปไหนมาไหนตามอำเภอใจล่ะ เผื่อว่าวิหารคุณธรรมทั้งห้าคิดจะมาเล่นงานนาย”“ตั้งแต่คราวที่สการ์เลตต์ทำภารกิจล้มล้างตระกูลแฮมิลตันล้มเหลว เพราะเขาก็แค้นผมอยู่แล้ว“เหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยสักนิด อีกไม่นานผมกับพวกเขาก็ต้องได้เจอกันอีก“นั่นเป็นเหตุผล
เลสลี่มีสีหน้าขมขื่น“นายน้อยยอร์ก บางครั้งเราก็ต้องยอมถอยเพื่อให้ก้าวไปได้ไกลขึ้นนะ“ถ้าคุณมัวแต่คิดจะพุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ก็รังแต่จะเป็นการทำร้ายตัวเองเท่านั้น“ฉันขอเสนอให้คุณขอโทษวิหารคุณธรรมทั้งห้าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้“แต่เราจะให้พวกเขาได้ตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาทำในไม่ช้าอย่างแน่นอน”ฮาร์วีย์ยิ้มโดยไม่ตอบอะไร เขาเลือกที่จะกลืนชาดำลงคอแทนครืด!โทรศัพท์ของเลสลี่สั่นในขณะนี้เธอทำท่าทางขอโทษก่อนจะกดรับสายหลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า“คุณกำลังบอกว่าดาบที่หักไปแล้วของหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เมอร์ฟี่และชารอนชนะประมูลนั้นถูกปล้นไปงั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเช่นนั้น เขาไม่คิดว่าข่าวจะเดินทางเร็วขนาดนั้นหลังจากจ่ายเงินเสร็จ ชารอนก็ออกไปกับเมอร์ฟี่ทันทีก่อนที่ทั้งคู่จะออกห่างจากโรงแรม ทรี ซีซั่นเพียงหนึ่งไมล์ ชายร่างกำยำหลายคนในชุดสูทปรากฏตัวขึ้นชายเหล่านี้สามารถล้มผู้คุ้มกันของชารอนและเมอร์ฟี่ลงได้อย่างง่ายดายและตบหน้าชารอนก่อนจากไปด้วยตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุรีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด…น่าเสียดายที่การติดตั้งกล้องวงจรปิดอยู่ร
นอกจากชารอนและเมอร์ฟี่แล้ว เลสลี่และเอ็ดวินก็อยู่ที่ประตูหน้าเช่นกันหากไม่ใช่เพราะเลสลี่และเอ็ดวินขวางเอาไว้ ชาวตะวันตกที่กำลังโกรธเกรี้ยวเหล่านี้คงพุ่งเข้าไปในเดอะ การ์เด้น วิลล่าของตระกูลคลาร์กไปแล้วแม้จะมีความพยายามของทั้งคู่อยู่ แต่ผู้คุ้มกันของตระกูลหลายคนก็ยังถูกทำร้าย บางคนนอนอยู่บนพื้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัว"เกิดอะไรขึ้น?"“ใครเป็นคนทำร้ายผู้คุ้มกัน”ฮาร์วีย์เดินออกไป ใบหน้าของเขาสงบราวกับน้ำนิ่ง"ฉันทำเองแหละ จะทำไมล่ะ?”เมอร์ฟี่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบตะวันตก เขาจ้องไปที่ฮาร์วีย์อย่างเต็มไปด้วยโทสะ“ในที่สุดแกก็โผล่หัวออกมาสักทีนะ ไอ้คนหน้าไม่อาย!“เมื่อคืนแกแพ้การประมูล ก็เลยเลือกที่จะปล้นพวกเราระหว่างทางกลับบ้านงั้นเหรอ!“แกนี่มันชั่วจริง ๆ! เอายางอายไปไว้ที่ไหนหมด!“กล้าดียังไงมาเรียกตัวเองว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอน!“ไอ้สารเลว!“ทุกครั้งที่ฉันเห็นคนแบบแก ฉันก็รู้สึกโกรธประเทศ H ทุกที!“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันมาจากประเทศเดียวกับคนอย่างแก! แกทำให้ทั้งประเทศต้องอับอายขายขี้หน้า!“ฉันยอมดูดเลือดตัวเองให้แห้งแล้วเปลี่ยนมาเป็นเลือดชาวต่างชาต
“ไม่จำเป็นต้องให้ตระกูลเมนโดซามาบอกพวกเราตระกูลอีแวนส์ว่าต้องทำอะไรยังไงหรอก!“นายไม่มีสิทธิ์!”เมอร์ฟี่ชี้ไปที่เอ็ดวินอย่างเย่อหยิ่ง เขาเดือดดาลด้วยความโกรธเอ็ดวินกำลังจะตอบโต้ แต่เลสลี่โบกมือให้เขาหยุด“ฉันจะบอกคุณอีกครั้งหนึ่ง เมอร์ฟี คุณยอร์กไม่ได้ไปขโมยอะไรของคุณทั้งนั้น!“และอีกอย่าง ดาบหักเล่มนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย!”“ไม่มีความหมายอะไรเลยงั้นเหรอ!”ชารอนหัวเราะเสียงแหลมเย็นยะเยือกเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“เธอกำลังจะบอกฉันว่ามันไม่มีความหมาย หลังจากที่เขาควักเงินจำนวนเจ็ดร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์เพื่อประมูลกับฉันเนี่ยนะ?!“ดูเหมือนเขาจะตั้งใจแย่งดาบไปจากฉันมาก!“นอกจากนี้ ที่นี่ฮาร์วีย์เป็นศัตรูคนเดียวของฉัน! ไม่มีคนอื่นแล้ว!“งี่เง่าที่สุด! เลิกปากพล่อยได้แล้ว!“ถ้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะให้ตำรวจสากลจับเธอไปด้วย!”ณ จุดนี้ เลสลี่กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความโกรธของเธอเธอกลัวว่าเรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ หากเป็นเช่นนั้นฮาร์วีย์จะถูกบังคับให้พุ่งชนกับวิหารคุณธรรมทั้งห้าอีกครั้งในขณะเดียวกัน เธอคำนึงถึงมิตรภาพระหว่างตระกูลอีแวนส์และตระกูลคลาร์ก และ
ชารอนรู้สึกตัวเช่นกันและหัวเราะตาม น้ำเสียงของเธอทั้งสูงและทรงพลัง“ฉันเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์จากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน! ถ้าฉันบอกว่านายขโมยสมบัติของฉัน ก็แปลว่านายทำ!“ไม่มีสิทธิ์โต้แย้งข้อเท็จจริงนั้น!”ฮาร์วีย์ถอนหายใจ“หมายความว่าเราจะไม่ใช้เหตุผลคุยกันใช่ไหม” เขาเรียกร้องอย่างเย็นชา“ใช้เหตุผลคุยกัน?”เมอร์ฟี่มองเขาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น!”"ฉันจะบอกนายให้! ถ้าท่านหญิงเพิร์ลบอกว่าเป็นฝีมือนาย ก็แปลว่านายเป็นคนทำ!“ถ้าวันนี้นายไม่คืนดาบนั่นมา ฉันจะฆ่านาย!”เมอร์ฟี่ส่งสัญญาณมือขณะที่เขาพูด ผู้คุ้มกันหลายคนก้าวไปข้างหน้าอย่างคุกคามพร้อมกับเอียงคอไปมาเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของตัวเอง"ก็ได้ เพราะนายไม่คิดจะใช้เหตุผลคุยกับฉัน งั้นฉันก็ควรจะทำแบบนายด้วย ใช่หรือเปล่า?" ฮาร์วีย์ถามอย่างสงบ“จะฉายเดี่ยวเหรอ?”เมอร์ฟี่จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยาม"อะไร? คิดจะทำร้ายคนของฉันเหรอ? ขอเตือนเอาไว้เลยนะ! ถ้านายกล้าแตะต้องพวกเขา ฉันจะฆ่าล้างโคตรนายให้หมด!”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนใจคำขู่ และตบหน้าเมอร์ฟีอย่างแรง“อ๊ากกก!”เมอร์ฟี่กรีดร้อ