ไม่พบลูกค้าในร้านดอกไม้หรูหราแห่งนี้ มีเพียงกลุ่มนายน้อยที่รวมตัวกันอยู่ภายในเท่านั้น ควินตันกำลังปัดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าสยดสยอง“เราเพิ่งได้ข่าวว่าโยอาน่าสามารถควบคุมสาขาของวังมังกรได้อย่างสมบูรณ์“อากิถูกกำจัดในทันที ส่วนคิโนชิตะก็พิการเสียแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังรีบออกจากหลานไกวฟง”ควินตันเป็นหนึ่งในนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง และเป็นหนึ่งในบุคคลที่สำคัญที่สุดของตระกูลยอร์กที่ระหกระเหินอยู่ที่นี่เขาไม่คิดเลยว่าแผนการของเขาจะถูกบดขยี้ลงอย่างไร้ความปราณีเช่นนี้เล็กซี่จัดดอกไม้ของเธออย่างตั้งใจราวกับว่าเธอไม่สนใจที่จะสนทนากับคนหนุ่มสาวเหล่านี้แต่เธอรู้ว่าหลังจากคืนนั้น สาขาของวังมังกรก็จะถูกเปลี่ยนขั้วอำนาจไปโยอาน่าจะเข้าควบคุมตำแหน่งของเล็กซี่ในอนาคต และสามารถแม้กระทั่งควบคุมวังมังกรทั้งหมดหากเธอยังคงมีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้วินซ์จิบไวน์แดงของเขาอย่างเมินเฉย และต่อหน้าเขา แมทธิวกำลังยืนนิ่งในขณะที่กอดอกด้วยสีหน้าเย็นชา“นายน้อยยอร์ก เราวางแผนไว้ทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะทำตามอำเภอใจเช่นนี้ ทั้งที่ศัตรูของเขามาจากชินคาเงะเวย์ด้วยซ้ำไป”“ไม่เพียงแต่เขาใช
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ รถตู้ของสการ์เลตต์จอดอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลแฮมิลตันเธอหรี่ตาลงมองไปยังคฤหาสน์หรูหราเบื้องหน้า ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงสดเมื่อนึกถึงคำสัญญาที่วินซ์ให้ไว้ เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพึมพำออกมาว่า “ไม่ต้องห่วงนะ วินซ์!“ฉันมีแผนพี่จะจัดการกับตระกูลแฮมิลตันแล้ว!“ฟาเบียน จิ้งจอกเฒ่าตัวนั้นต้องการให้คนมาจัดการกับผีที่สามนักบวชปีศาจแอบทิ้งเอาไว้งั้นหรือ?“ฉันได้ผู้อาวุโสภายนอกของวิหารคุณธรรมทั้งห้า และจอน เซอร์เรย์ ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งของฮ่องกงมาช่วยในสถานการณ์นี้“มั่นใจได้เลยว่าฟาเบียนจะต้องตายอย่างน่าสยดสยองอย่างที่สุด!”“ระวังตัวด้วย สการ์เลตต์!”น้ำเสียงของวินซ์ดูอ่อนโยนและใจดีในขณะนั้น“ผมได้ยินมาว่าฟาเบียนเขียนพินัยกรรมทิ้งไว้ด้วย“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ทั้งสี่บ้านของตระกูลแฮมิลตันจะแบ่งทรัพย์สินกัน“หากมีใครเสียชีวิตภายในสามปีหลังจากที่เขาเสียชีวิต ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกบริจาคให้กับรัฐบาลของลาสเวกัสโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น!“เพราะงั้นฟาเบียนถึงต้องตาย!“แต่ทั้งสี่บ้านนั้นห้ามตาย!”…ที่ห้องรับรองภายในสาขาวังมังกรฮาร์วี
ในตอนที่ฮาร์วีย์ปรากฏตัวที่คฤหาสน์ตระกูลแฮมิลตัน ทั้งสถานที่ก็ตกอยู่ในความสับสนอลหม่านแม้ว่าจะมีควบคุมการสองสามคนที่เฝ้าอยู่ที่ประตูหน้า แต่พวกเขาก็ดูหวาดกลัวเป็นอย่าง"เร็วเข้า! ส่งคนไปยังวิหารคุณธรรมทั้งห้า!“นายน้อยลำดับที่สามของเราหมดสติไปแล้ว!“หมอทำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!“เราควรทำยังไงดี!“แย่แล้ว! นายน้อยลำดับที่สี่ก็หมดสติลงไปเช่นกัน!“มีคนหมดสติอยู่ที่นี่ด้วย!”ทั้งตระกูลอยู่ในความระส่ำระสาย นอกจากญาติมิตรของตระกูลแล้ว คนใช้และควบคุมการของตระกูลก็หมดสติไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยผู้คนพยายามช่วยตระกูลของตัวเอง แต่เหล่าคนใช้และผู้คุ้มกันไม่โชคดีขนาดนั้นฮาร์วีย์มีท่าทีเย้ยหยันเมื่อเขาเดินผ่านความวุ่นวาย เขาจ้องมองไปที่โถงบรรพชนเพียงอย่างเดียว'มีพลังหยินกระจายอยู่ทั่วทุกอณู ...'จิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่ว...‘นี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดี!'ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งนั้นฝีมือประทับใจอย่างที่สุด!'“ได้โปรดช่วยแม่ของฉันด้วย ผู้อาวุโสลีโฮลด์!”เมื่อฮาร์วีย์ปรากฏตัวที่ห้องรับรอง เห็นซีน่าเดินโซเซมาจากด้านหลังด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อซีน่าที่กระวนกระวายใจโดยสิ้นเชิง
ซีน่าก็ผงะเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเห็นฮาร์วีย์ เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่อีกครั้ง เธอพูดด้วยความขยะแขยงอย่างโจ่งแจ้งว่า “ผู้อาวุโส นี่คือฮาร์วีย์ เขาเป็นเพื่อนของพ่อฉันเอง”จากนั้นซีน่าก็จ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาหยิ่งผยองและเหยียดหยาม “ฮาร์วีย์ นายมาทำอะไรที่นี่? นายคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่นายนึกจะมาเมื่อไหร่ก็มาได้อย่างนั้นหรือ”ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่เธอไม่ชอบเขาและตอบอย่างเฉยเมยว่า “พ่อของคุณโทรมาขอร้องให้ผมมาที่นี่”เพื่อพิสูจน์คำพูดของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดประวัติการโทรของเขาให้เธอดูซีน่าขมวดคิ้วไม่พอใจ เธอตะคอกอย่างเย็นชา “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อต้องโทรให้นายมาที่นี่ด้วย“แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสของฉันอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาจะสามารถจัดการกับปัญหาของแฮมิลตันได้อย่างแน่นอน!“ที่นี่เราไม่ต้องการนายหรอก!“ฉันเดาว่าเราจะปล่อยให้นายกลับไปมือเปล่าไม่ได้เพราะเราเป็นคนโทรเรียกให้นายมาเอง เอานี่! หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์สำหรับค่าเสียเวลาของนาย!”ซีน่าหยิบเช็คธนาคารออกมาและยัดใส่มือฮาร์วีย์ ทุกการกระทำของเธอแสดงออกได้ถึงความเย่อหยิ่งฮาร์วีย์ไม่มีอารมณ์จะเล่นกับความไม่รู้จักโตของอีกฝ่าย
สีหน้าของชายวัยกลางคนแย่ลงเมื่อเขาได้ยินคำว่า “มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”จอนยังคงหยิ่งยโสและไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของเขากลับเฉียบคมขึ้นทันที เขาจ้องฮาร์วีย์ด้วยความประหลาดใจเงียบ ๆสการ์เลตต์ส่งสายตาแสดงความเกลียดชังไปยังฮาร์วีย์ เธอรู้สึกรังเกียจเขาอย่างที่สุด เธอรีบเข้าไปหาจอนเพื่อกระซิบกับเขาสองสามคำซึ่งทำให้เขาหรี่ตาลงจากนั้นสการ์เลตต์ก็พูดว่า “ฮาร์วีย์ คุณรู้ไหมว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้เป็นยังไง? นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณคิดจะพ่นอะไรไร้สาระออกมาก็ได้นะ“อาจารย์ของฉันจอน เซอร์เรย์ เป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งของฮ่องกง“ต้องขอบคุณเขา นายหญิงลำดับที่สี่ถึงสามารถกลับสู่สภาพปกติของเธอได้“นี่คุณกล้ากล่าวหาเขาอย่างไร้สาระได้ยังไง? เราจะฟ้องคุณข้อหาใส่ร้ายและปล่อยให้คุณเน่าอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต!”ฮาร์วีย์หันหน้าหนี ไม่ยอมแม้แต่จะฟังในสิ่งที่เธอพูด เขามองไปที่จอนและเอ่ยปากว่า “คุณไม่รู้หรือว่าเครื่องรางของขลังเหล่านี้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้หรือเปล่า?”ชายวัยกลางคนจากเมื่อก่อนเป็นคนตอบ เขาคำรามด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ไอ้เลว!“คุณได้ยินสิ่งที่คุณพูดกับอาจารย์ของฉันหรือเปล่า?!“ค
ในขณะเดียวกัน ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากฮ่องกงก็เข้ามาตรวจอาการของพอลลี่พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นหมอกดำบนหน้าผากของเธอสลายไปและลมหายใจของเธอก็กลับมาสม่ำเสมออย่างที่ควรแม้แต่ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งอย่างจอน เซอร์เรย์ก็ยังประหลาดใจกับสิ่งนี้ เขารับรู้ได้ถึงอาการของพอลลี่ แต่การจะช่วยเหลือเธอนั้นถือเป็นงานที่ยากสำหรับเขาเนื่องจากต้องใช้พลังงานจำนวนมากเขาไม่เคยคาดหวังว่านอกจากเขาแล้วจะมีใครที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายซีน่าที่เข้ามาด้วยความรีบร้อน เมื่อเธอเห็นว่าปรมาจารย์ฮวงจุ้ยเงียบไป เธอพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย “อาจารย์เซอร์เรย์ มาดูแม่ของฉันเร็วเข้า!”“เธอดูไม่ดีเลย ตอนนี้เธอดูสงบ แต่เธออาจมีอาการชักได้ทุกเมื่อ”ใบหน้าของซีน่าเต็มไปด้วยความกลัวขณะที่เธอพูดแบบนี้จอนก้าวเข้ามาดูใกล้ ๆ จากนั้นเขาก็กระแอมและพูดอย่างสงบว่า “คุณหนูแฮมิลตัน นายหญิงลำดับที่สี่ ฟื้นตัวได้ดีมากในขณะนี้ เธอไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่กำลังทนทุกข์กับความทรมาน และเราไม่ต้องไล่ผีออกจากตัวเธอด้วย“ปล่อยให้หมอเป็นคนจัดการเถอะ“อีกอย่าง ให้เธอเก็บยันต์นี้ไว้ ด้วยสิ่งนี้ จะไม่มีอะไรผิดพลาด”
"หยุด!"เมื่อฮาร์วีย์ออกจากห้องโถง ผู้คุ้มกันหลายคนในชุดสูทสีดำก็ตามเขามาไม่ว่าพวกเขาจะแต่งตัวแบบไหนแต่ผู้ชายเหล่านี้ก็ไม่ใช่ผู้คุ้มกันตระกูลแฮมิลตัน ด้วยใบหน้าที่เย็นชา พวกเขามองปราดไปที่ฮาร์วีย์ชายที่เป็นผู้นำเป็นชายร่างกำยำและหัวโล้น ไม่มีผมสักเส้นบนศีรษะกลมใสของเขา เขาหรี่ตาและพูดกับฮาร์วีย์ด้วยน้ำเสียงถือตัว “นายคือฮาร์วีย์ใช่ไหม? ฉันคือผู้คุ้มกันของอาจารย์เซอร์เรย์ลีวายส์ เซอร์เรย์“อาการของนายหญิงลำดับที่สี่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน อาจารย์เซอร์เรย์คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาที่จะได้เห็นทักษะของพวกหน้าใหม่อย่างนาย เขาหวังว่านายจะกลับเข้าไปที่คฤหาสน์และแก้ปัญหาให้“นายต้องเข้าใจว่าอาจารย์เซอร์เรย์เป็นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งในฮ่องกง นี่ถือเป็นเกียรติของนายที่จะให้เขาเป็นผู้รับรองทักษะของนายล่ะ!”แม้ว่าลีวายส์ต้องการให้ฮาร์วีย์กลับไปที่คฤหาสน์เพื่อช่วยพอลลี่แต่กิริยาท่าทางของเขากลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขามองว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่มีทักษะต่ำต้อยกว่าเขาด้วยมุมมองที่ลีวายส์เห็น นี่ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับฮาร์วีย์“รับรองทักษะของฉัน?"แก้ปัญหาให้?"ฮาร์วีย์ย
จากมุมมองของลีวายส์ การที่ใครสักคนจะได้รับการยอมรับจากจอน เซอร์เรย์จะทำให้คน ๆ นั้นมีชีวิตที่หรูหราอยู่บนกองเงินกองทองและผู้หญิง ไม่สำคัญว่าเขาจะตาบอดหรือพิการ อย่างไรเสียอนาคตของคนผู้นั้นก็จะราบรื่น!ฮาร์วีย์ไม่อยากไขว่คว้าโอกาสทองเช่นนี้ไว้ได้อย่างไร?ในขณะนี้ลีวายส์รู้สึกอิจฉาฮาร์วีย์ยิ่งกว่าเก่า“ลูกกระจ๊อกอย่างนายอย่ามาขวางนะ หลีกทางไปได้แล้ว"อย่างไรก็ตามฮาร์วีย์ยังคงมึนตึงเช่นเคย เขาไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้าไปที่คฤหาสน์อย่างแน่นอน“ฉันต้องรีบกลับบ้านไปทานมื้อเย็น”“จุ๊ จุ๊ จุ๊ เราก็คงต้องใช้ไม้หนักกับนายสินะ!”ลีวายส์แค่นเสียงอย่างประชดประชัน ใบหน้าของเขาเย็นชา“ไอ้เวร! ทั้งที่อับจนหนทางขนาดนี้แต่นายก็ยังคิดว่าตัวเองจะทำตามอำเภอใจได้หรือไง! ต้องขออภัยด้วย แต่ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้ไม้แข็งกับนายเท่านั้น!“นายคิดว่าแค่ทักษะธรรมดา ๆ ของนายจะทำให้นายหญิงดีขึ้นได้ถึงขนาดไหนกัน? ฝันไปเถอะ! ในเมื่อนายไม่คว้าโอกาสเอาไว้และอยากรนหาที่ตาย ก็อย่าโทษฉันแล้วกัน!”ลีวายส์โบกมือแล้วดีดนิ้วเป็นสัญญาณเนื่องจากฮาร์วีย์ไม่ฟัง เขาจึงต้องใช้กำลังบังคับฮาร์วีย์บอดี้การ์ดหลายคนดีดนิ้วก่อนจ