เฮเซลตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าแม่ของเธอหมายถึงอะไรเมื่อเห็นท่าทางสับสนของลูกสาว จูนจึงอธิบายเบา ๆ ว่า “ลูกเคยได้ยินเรื่องโอลิเวอร์ บาวเออร์ อดีตหัวหน้าสาขาของสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูไหม?“เขาเป็นคนที่มีพลังและอิทธิพลที่น่าทึ่ง!"แต่สุดท้ายแล้วเป็นไง? ฉันได้ยินมาว่าเขาถูกลอบยิงจนตายตอนที่เขาอยู่ในบัควู้ด! ตอนนี้หลุมฝังศพของเขาเต็มไปด้วยหญ้าป่าแล้วลูกไม่รู้เหรอ?“ไม่ต้องคิดหรอกว่าฮาร์วีย์จะมีอำนาจมากขนาดไหน เพราะเขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสาขานั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องเผชิญกับอันตรายมากมายเช่นกัน!“ตอนนี้เขาอยู่เหนือเรา แต่ในไม่ช้า เราต่างหากที่จะปีนขึ้นไปอยู่เหนือหัวเขา!“เราได้ก้าวเข้ามาเป็นชนชั้นสูงของมอร์ดูแล้ว! เนื่องจากฮาร์วีย์เพิ่งเข้ามา แม่มั่นใจได้เลยว่าเขาไม่อาจก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในวงสังคมชั้นสูงได้ง่าย ๆ แน่!“มีอีกเรื่องนะ เฮเซล! ปัจจุบันลูกคืออินฟลูเอนเซอร์อันดับหนึ่งของดูริน!“อย่างช้าที่สุดลูกอาจได้กลายเป็นดาราดังภายในครึ่งปี!“ตอนนั้น สถานะของลูกจะสูงกว่าหัวหน้าสาขาข้างถนนหลายเท่า!“ในวงการบันเทิงของมอร์ดูลูกจะทำอะไรก็ได้!”ในตอนแรก จูนแค่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อป
จูนเริ่มกังวลเมื่อเห็นหน้าเคลลี่ เธอรีบถาม “เคลลี่ คุณหมายความว่าอย่างไรที่ไม่ได้รับเลือก”“อ๋อ ไม่เห็นจะยากเลย”ก่อนที่เคลลี่จะทันได้ตอบ เสียงเย้ยหยันเล็กน้อยของยูจีน โบวีก็ดังขึ้นจากโต๊ะข้าง ๆ เขายิ้มเย้ยหยันใส่เคลลี่ก่อนหรี่ตาลงเล็กน้อย“ครอบครัวของคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวหน้าสาขาอีกต่อไป ดังนั้นสิทธิ์ของคุณในการทำธุรกิจกับ หลงเหมินก็ถูกเพิกถอนเช่นกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทุกอย่างสามารถทำได้ตามกฎและขั้นตอนที่เหมาะสมเท่านั้น”“คนที่ปรารถนาจะร่วมมือกับหลงเหมินแห่งมอร์ดูมีมากมายเต็มไปหมด หากคุณไม่มีความสามารถในการแข่งขันกับคนอื่น ๆ ก็ต้องแพ้เท่านั้นเอง”คำพูดนี้ทำให้ใบหน้าของเคลลี่เปลี่ยนไป เขาถามด้วยความงุนงง “คุณหมายความว่ายังไง?”“ผมทำธุรกิจเจริญรุ่งเรืองมาขนาดนี้ได้ก็เพราะความสามารถของตัวเอง! เกี่ยวอะไรกับฮาร์วีย์ด้วย!”ยูจีนหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบอย่างสบาย ๆ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “เคลลี่ มาโลน ในเดือนที่ผ่านมา คุณได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากจากหลงเหมินไม่ใช่เหรอ?”“จำนวนคำสั่งซื้อในหนึ่งเดือนนั้นสูงกว่าจำนวนคำสั่งซื้อที่คุณได้รับในช่วงสิบปีที่ที่คุณทำธุรกิจมาด้วยซ้ำ คุณ
ก่อนที่เฮเซลจะทันตั้งตัว โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเธอเห็นว่ามีสายมาจากบริษัทดูรินจึงรีบรับสาย“ขออภัย คุณมาโลน ฉันโทรจากบริษัทดูริน”เสียงเย็นยะเยือกทักทายเฮเซลจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์“ในนามของบริษัท ฉันติดต่อมาเพื่ออธิบายสองเรื่องให้คุณฟัง“เรื่องแรก สัญญาที่เรากำลังเจรจากันอยู่ถูกยกเลิกแล้ว บริษัทจะไม่สนับสนุนคุณอีกต่อไป เนื่องจากเรายังไม่ได้เซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ บริษัทจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยให้คุณ เราจะยกเลิกบัญชีของคุณภายในสามวัน ดังนั้นโปรดเตรียมตัวให้พร้อม“ประการที่สองเงินจำนวนเจ็ดล้านหกแสนดอลลาร์ที่ซีอีโอของเรามอบให้คุณด้วยบัญชี ‘มิสเตอร์ไทคูน’ เพื่อเพิ่มความนิยมของคุณก่อนหน้านี้จะถูกถอนออกอย่างเป็นทางการ”เฮเซลตัวสั่นกับการเปิดเผยที่น่าตกใจนี้ "อะไรนะ? คุณจะไม่เซ็นสัญญากับฉันเหรอ?“คุณจะถอนเงินรางวัลทั้งหมดกลับไปงั้นเหรอ!"ทำไมกัน?!“คุณไม่ได้บอกว่าฉันคุ้มค่าแก่การลงทุนหรอกเหรอ?“อย่าลืมว่าฉันเป็นที่หนึ่งในรายชื่ออินฟลูเอนเซอร์ของดูริน! หากไม่มีฉัน พวกคุณจะต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่!”แต่หญิงสาวที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยังคงไม่แยแส “คุณมาโลน ฉั
ยูจีนส่งข้อความนี้ในนามของฮาร์วีย์ สิ่งนี้ยังบ่งชี้ว่าฮาร์วีย์ได้ตัดสินใจที่จะตัดสัมพันธ์กับครอบครัวมาโลนจนไม่มีชิ้นดีแต่พวกเขาเป็นฝ่ายริเริ่มที่จะตัดความสัมพันธ์กับฮาร์วีย์เมื่อช่วงบ่ายวันนี้การที่ฮาร์วีย์ไม่เหยียบย่ำครอบครัวมาโลนก็ถือเป็นการแสดงความเมตตาอย่างเหลือเชื่ออยู่แล้วเขาเพียงต้องการนำทรัพยากรที่เขาเคยสนับสนุนพวกเขาในอดีตกลับคืนมา และไม่ได้จงใจทำอะไรให้ครอบครัวมาโลนต้องอับอาย นี่เป็นความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่แล้วส่วนพวกมาโลนจะลงเอยอย่างไรหลังจากสูญเสียผลประโยชน์เหล่านั้นไป เรื่องนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับฮาร์วีย์อย่างไรเสียพวกเขาก็โตกันหมดแล้ว คนที่โตมีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการตัดสินใจของพวกเขาบนเวทีฮาร์วีย์เริ่มดื่มอวยพรให้กับสมาชิกระดับสูงของหลงเหมินสาขามอร์ดูหลังจากดังกล่าวเพียงไม่กี่คำ เขามาพร้อมกับราเชลและไอเดนสำหรับฮาร์วีย์ซึ่งเป็นนักดื่มคอทองแดง นี่ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับกิจการของหลงเหมินสาขามอร์ดูมากนัก แต่เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากลายเป็นหัวหน้าสาขาคนใหม่ นี่คือเหตุผลที่เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงขอบคุณ
ผู้ชายที่เป็นผู้นำกลุ่มมีออร่าที่โดดเด่นและน่าประทับใจ เขามีสีหน้าดูถูกเหยียดหยามและดูเหมือนจะสนุกกับการเหยียบย่ำคนอื่นข้าง ๆ เขาเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงาม แม้ว่าท่าทางของเธอจะดูเย็นชามากก็ตามยังมีชายอีกสองคนและหญิงอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา รวมเป็นหกคนถึงกระนั้น พวกเขาทั้งหมดก็มีออร่าที่สามารถครอบงำทุกคนในห้องโถงได้อย่างง่ายดายสมาชิกหลงเหมินหลายคนที่เฝ้าประตูก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว โดยไม่คาดคิด พวกเขาถูกเตะออกไปก่อนที่พวกเขาจะทันได้ขยับตัว และไม่สามารถต่อสู้กลับได้เป็นอีกครั้งที่ฝูงชนต้องตกตะลึงใบหน้าของจัสตินดูไม่ดีนัก ในทันใดนั้นเขาตบมือและออกคำสั่งว่า “จัดการเลย!”ตามคำสั่งของเขา ผู้ใต้บังคับบัญชาสายตรงของเขาจำนวนมากกว่าโหลกระโจนไปข้างหน้า ทุกคนพุ่งตัวออกไปข้างหน้า'ปัง ปัง ปัง!'แต่ชายคนหนึ่งในหกคนก้าวไปข้างหน้าและจัดการกับพวกเขาอย่างง่ายดายด้วยการเตะและต่อยเพียงไม่กี่ครั้ง พวกเขาก็ปลิวว่อนไปในพริบตา!บางคนกระอักเลือดออกมาเต็มปากก่อนที่จะหมดสติไปบางคนดิ้นรนอยู่กับพื้น ชักไม่หยุด สีหน้าของพวกเขาไม่น่าดูนักแขกหลายคนอ้าปากค้างในที่เกิดเหตุ ตื่นตระหนกทำอะไ
คำว่า “กองบังคับคดีของหลงเหมิน” ทำให้ทุกคนหวาดกลัวอย่างแน่นอน สมาชิกหลงเหมินส่วนใหญ่ไม่กล้าเคลื่อนไหวแต่ราเชล ไอเดน และผู้สวามิภักดิ์คนอื่น ๆ รู้แล้วอย่างชัดเจนว่าเรื่องในวันนี้จะจบลงอย่างไร พวกเขาต้องยืนหยัดในเส้นทางนี้ไปพร้อมกับฮาร์วีย์ถ้าฮาร์วีย์พ่ายแพ้ พวกเขาก็ต้องประสบในเหตุการณ์ไม่ต่างกัน“เรียกร้องคำอธิบาย?”หญิงงามที่อยู่ถัดจากจูปิเตอร์ส่งยิ้มเย้ยหยันอย่างเย็นชา“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันเกรงว่านายไม่เข้าใจเกี่ยวกับสถานะของกองบังคับคดีของหลงเหมิน“เราอยู่ภายใต้การดูแลของนายท่าน นั่นทำให้เราอยู่เหนือคุณ เราเป็นฝ่ายกำกับดูแลหัวหน้าสาขาต่างหาก!“เรามีอำนาจที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องขออนุมัติล่วงหน้า!“นี่คือกองบังคับคดี!“นายเอาใครมาเทียบกับเราไม่ทราบ? ไม่ต้องพูดให้มากความ ตัวตนของนายในฐานะหัวหน้าสาขาล้วนเป็นของปลอม!“ต่อให้มันจะเป็นเรื่องจริง หากเราซึ่งเป็นคนของกองบังคับคดีบอกให้นายคุกเข่านายก็ต้องคุกเข่า!“ฟังนะฮาร์วีย์ ฉันคือมาวิส โลว์!“ฉันจะพูดกับนายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ฉันจะโกรธ นายควรหักแขนขาของตัวเองทิ้งเสีย แล้วมากับเราเพื่อรับการลงโทษต่อไป!“การปฏิเสธ และการทำใ
'เพล้ง!'ฮาร์วีย์กระทืบตราที่คล้ายจะทำจากหยก ก่อนขยี้มันด้วยเท้าของเขาจนแหลกเป็นผุยผง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดเบา ๆ ว่า “เธอมีสิทธิ์อะไรมาสู้กับฉัน?”“โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ น่ะเหรอ?”ความโกรธของมาวิสปะทุขึ้นเมื่อเธอเห็นว่าฮาร์วีย์กล้าที่จะทำลายตราส่วนตัวของเธอ ใบหน้าของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“นายมันเลี้ยงไม่เชื่อง ฮาร์วีย์! นายคงอยากตายมากสินะ!”มาวิสดึงมีดพร้าออกมาจากเอวของเธอในขณะที่เธอพูดจบ เธอขยับตัวกระโจนเข้าหาฮาร์วีย์เธอเร็วมาก ใบมีดของเธอสั่นไหวอย่างอันตรายจัสตินร้อง “หัวหน้าสาขา ระวัง!”'เพี๊ยะ!'เสียงท่าอากาศดังฟังชัดขณะที่ฮาร์วีย์ตบหน้ามาวิส รอยฝ่ามือน่าเกลียดสลักบนใบหน้างดงามได้รูปของเธอ เธอถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศและกระแทกเข้ากับโต๊ะไวน์โต๊ะพังทันทีที่ร่างของเธอหล่นใส่ อาหารและไวน์ที่อยู่บนนั้นกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง มันทำให้เสื้อผ้าสีขาวของมาวิสเปรอะเปื้อน สายตาของเธอดูผิดหวังมาวิสเองทั้งดูตกใจและหวาดกลัว มีหยดเลือดไหลออกจากมุมปากของเธอทุกคนในฝูงชนอ้าปากค้าง พากันสับสนสาวกของหลงเหมินต่างก็มองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อย ๆสิ่ง
มาวิสรู้สึกเศร้าโศกอย่างมากเธอเป็นคนหาเรื่องฮาร์วีย์อย่างดุดัน เธออยากให้เขาหักแขนขาตัวเองและลากเขากลับไปเพื่อต้องการคำอธิบายจากเขาด้วยซ้ำแต่ก่อนที่เธอจะทันได้แตะชายเสื้อของฮาร์วีย์ เขาก็เล่นงานเธอและเตะเธอไปรอบ ๆ ราวกับตุ๊กตาไร้ชีวิตไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่ไม่เชื่อ จูปิเตอร์ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดอย่างยิ่ง ทั้งยังแฝงไปด้วยความหวาดกลัวที่เพิ่มมากขึ้นความแข็งแกร่งของมาวิสไม่อาจเทียบได้กับเขา แต่เธอก็ยังถือเป็นยอดฝีมือแต่ในขณะที่เผชิญหน้ากับฮาร์วีย์ทำไมเธอถึงดูอ่อนแอ?“นายเป็นปรมาจารย์ของทหารชั้นสูงงั้นเหรอ!”จูปิเตอร์เงียบต่อไปไม่ไหว เขาก้าวไปข้างหน้าและจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ใบหน้าของเขาดูบูดบึ้งตามข้อมูลที่จูปิเตอร์ได้รับจากเฮกเตอร์ ฮาร์วีย์นั้นถือว่าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่ทักษะของเขาน่าจะอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะผลประโยชน์อย่างงาม จูปิเตอร์คงไม่รับงานนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งขนาดนี้!ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับสูงของกองทหารชั้นสูงสมาชิกของกองบังคับคดีคนอื่น ๆ ที่ติดตามจูปิเตอร์มาแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดได้เป็นปรมาจ