ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม จากนั้นเขาก็หยิบขวดน้ำแร่ออกมาแล้วโยนมันให้ทราวิส เขาพูดว่า “ทราวิส ฮันท์ นายไม่จำเป็นต้องทางการกับฉันขนาดนั้นหรอก“ตอนนี้นายเป็นรองผู้บัญชาการกองทหารแห่งมอร์ดู ส่วนฉันเป็นเพียงพลเรือน“ถ้ามีคนเห็นนายโค้งคำนับฉัน มันจะทำให้นายเสื่อมเสีย”ทราวิสพูดอย่างจริงจังว่า “คุณล้อผมเล่นใช่ไหมหัวหน้าผู้ฝึกสอน? ครั้งหนึ่งผมเคยเป็นทหารในสังกัดคุณ ผมจะเป็นลูกน้องของคุณไปตลอดชีวิต”ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากที่เห็นพฤติกรรมของทราวิส เขาส่งสัญญาณให้ทราวิสนั่งลงและพูดอย่างเฉยเมยว่า “วันนี้นายมาได้ถูกเวลามาก แต่เฮกเตอร์ ทอมป์สันไม่ได้ปฏิบัติตามกฎ ดังนั้นเขาจึงโทษฉันไม่ได้”ทราวิสพูดอย่างเคร่งขรึม “หัวหน้าผู้ฝึกสอน คนของผมก็คือคนของคุณ!“ถือเป็นพรสำหรับทหารกลุ่มนี้หากคุณจะใช้พวกเรา!“ผมแค่หวังว่าคุณจะหาโอกาสไปบรรยายที่กองทหารแห่งมอร์ดูบ้าง!“มันจะเป็นเกียรติสำหรับพวกเขาแน่นอน!”ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “ได้ เมื่อฉันจัดการเรื่องของฉันเสร็จแล้ว ฉันจะไปที่กองทหารของมอร์ดู“ส่งข่าวถึงฟิลิป สตีลด้วยนะ ถ้าเขาจะใช้คนอย่างทีแกน บาวเออร์ เขาก็ควรจะลาออกซะ”“ครับ!”ทราวิสพยักหน้าเล็ก
ขณะที่งานเลี้ยงขอบคุณของสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูกำลังจะเริ่มขึ้น...ที่สนามบินนานาชาติโวลซิ่ง รถโตโยต้า เซ็นจูรีหลายคันจอดอยู่ในที่จอดรถวีไอพีเฮกเตอร์ ทอมป์สันนั่งจุดซิการ์ในรถคันหนึ่งอย่างไม่สนโลก เขาอารมณ์เสียอย่างมากแผนการของเขาไม่เพียงแต่ไม่อาจจะขัดขวางอะไรฮาร์วีย์ ยอร์กได้ แต่ทีแกน บาวเออร์กลับต้องการเป็นผู้พิการอย่างสมบูรณ์เพราะเรื่องนั้นและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลที่โวลซิ่งอีกต่างหากสำหรับเฮกเตอร์ ที่ไม่ต่างอะไรกับการถูกลากไปตบหน้า"ทำไมกันคะ? นายน้อยทอมป์สันมีเรื่องต้องปวดหัวงั้นเหรอ?”หญิงสาวผู้สวมกระโปรงสั้นกุดที่มีหน้าตาสะสวยเดินออกมาจากรถ เธอมีออร่าสง่างามล้อมรอบตัวเธอมีรูปลักษณ์ที่เย้ายวนมากทีเดียว ชนิดที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนขวยเขินหากพวกเขาได้สบตากับเธอเธอคือแทสซ่า จอห์น บุตรสาวของตระกูลจอห์นแห่งโกลเด้นแซนด์เธอเคยมีเรื่องมีราวกับฮาร์วีย์และแมนดี้ ซิมเมอร์ครั้งหนึ่ง ตอนอยู่ที่บัควู้ดแต่ไม่มีใครคิดว่าในขณะนี้เธอจะยืนเคียงข้างเฮกเตอร์ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน เฮกเตอร์หรี่ตามองใบหน้าที่สวยงามของเธอแล้วยิ้ม“ผมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีแ
แทสซ่า จอห์นยิ้ม“เวลาพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าได้อะไรมาง่าย ๆ พวกเขาจะเข้าใจผิดว่าความเมตตาสงสารเป็นสายสัมพันธ์ที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำ“นั่นคือเหตุผลที่แผนดำเนินไปได้เพียงครึ่งทาง พวกเขาทุกคนก็จะพบกับความพินาศ“จะน่าสนใจแค่ไหนหากคืนนี้เราช่วยส่งให้ฮาร์วีย์ ยอร์กลงนรกไปซะ!”เฮกเตอร์ ทอมป์สันหรี่ตาอยู่ครู่หนึ่ง"ไม่เลว คงจะน่าสนใจทีเดียว…“โทรหานายน้อยคนโตตระกูลบาวเออร์ บางทีเราอาจต้องการกองบังคับคดีของหลงเหมิน…“ดูสิว่า ฮาร์วีย์จะยังคงเป็นหัวหน้าสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูได้หรือไม่ หากถูกสมาชิกจากหลงเหมินบดขยี้เขา”พวงแก้มของแทสซ่าขึ้นสีเล็กน้อยขณะที่เธอตอบเขาว่า “ฉันก็หวังแบบนั้น ถ้าเขายังไม่หยุดฉันก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการ…”***บ่ายสี่โมงเย็น เมื่อฮาร์วีย์กำลังจะออกไป โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นฮาร์วีย์ตัวแข็งหลังจากเหลือบมองหน้าจอ เขาไม่คาดหวังว่าจะได้รับโทรศัพท์จากเคลลี่ มาโลนหลังจากรับสาย เสียงของจูน ลีก็สะท้อนมาจากอีกด้านหนึ่ง"สวัสดี? นี่ฮาร์วีย์ใช่หรือเปล่า? ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนแล้ว?"ฮาร์วีย์มองไปรอบ ๆ ตัวเขา“ไคเซ็น กรุ๊ป”“โอ้ นี่นายยังทำงานอยู่หรอ!“วันนี้พอได้แล้ว เก็บ
เคลลี่ มาโลนดูค่อนข้างลังเลในขณะที่เขาพูดคำเหล่านั้นในทางกลับกัน จูน ลีกำลังเหล่มองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าขี้เล่น“นายไม่จำเป็นต้องปฏิเสธหรอกนะ แม่ยายนายเข้าร่วมกลุ่มของแฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่าแล้ว เธอบอกเราทุกอย่างหมดแล้ว!“เธอพยายามที่จะจัดงานแต่งงานให้ลูกสาวสองคนของเธอด้วยซ้ำ! นี่มันเหลือเกินจริง ๆ!”ความดูถูกเหยียดหยามอย่างที่สุดเขียนชัดบนใบหน้าของจูนฮาร์วีย์พาทุกคนไปเยี่ยมชมวิลล่าหมายเลข 1 ซึ่งนั่นสร้างความอัปยศอดสูให้กับทุกคนในครอบครัวแต่แล้วความจริงก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน พวกขี้แพ้ยังไงก็ขี้แพ้อยู่วันยังค่ำ ในตอนที่รู้จูนดีใจเป็นอย่างมากเฮเซล มาโลนแอบถอนหายใจรอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นจากใบหน้าของสตีเว่น วอล์คเกอร์ราวกับว่าตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ถูกเปิดเผยจนหมดเปลือก เขาปลื้มปิติเป็นที่สุดฮาร์วีย์ลูบขมับของเขา เขาไม่อยากที่จะอธิบายสถานการณ์เหนือสิ่งอื่นใด ตัดสินจากพฤติกรรมของลิเลียนแล้ว เธอต้องไปที่บ้านพักทุกหลังในแฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่าแน่นอน ข่าวลือใหญ่โตแพร่ไปถึงบ้านทุกหลังเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ“คุณลุงมาโลน คุณป้ามาโลน อันที่จริงคุณลุงคุณป้าไม่จำเป็นต้อ
เฮเซล มาโลนมีแววแปลกประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ เธอดูลังเลเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นเธอก็ฝืนยิ้มอย่างอบอุ่น“ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ นายน้อยวอล์คเกอร์”เธอไม่ชอบสตีเว่น วอล์คเกอร์เอามาก ๆ และก่อนหน้านี้เธอก็หมายตาแกรี่ ดันเคนมากกว่าเขาด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตระหนักว่าตำแหน่งแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานนั้นเป็นก็แค่เรื่องน่าตลกเท่านั้น เมื่อเทียบกับเขาแล้ว สตีเว่น ทายาทผู้มั่งคั่งที่พยายามอย่างหนักเพื่อเฮเซลเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเมื่อถูกจูนเรียกร้อง เฮเซลก็พร้อมที่จะยอมรับสตีเว่น ในตอนที่เขามาที่บ้านของครอบครัวมาโลนพร้อมคำเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงขอบคุณสำหรับฮาร์วีย์ ยอร์ก เฮเซลไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยฮาร์วีย์เคยเกาะแกะอีวอนน์มาก่อน และทันทีที่ภรรยาของเขามาถึงที่นี่เขาก็ถูกขับออกจากครอบครัวทันทีคนแบบนี้จะมาเทียบอะไรกับสตีเว่นได้?พวกเขาต่างกันราวฟ้ากับเหวทีเดียว!สตีเว่นจิบชาหลังจากสูบบุหรี่เสร็จ“ผมเต็มใจทำทั้งนั้นล่ะครับ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เฮเซล ต่อจากนี้ไปพวกเราทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน!” สตีเว่นกล่าวอย่างชอบธรรม“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมจะสนับสนุนคุณให้ดีท
จูนเหล่ตาในขณะที่เชิดหน้าใส่ฮาร์วีย์ ยอร์ก“นี่นายคงจะไม่พูดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าสาขาด้วยใช่ไหม? นายคิดว่านายสามารถส่งคำเชิญเหล่านั้นมาให้เราได้หรือ? นายมีค่าขนาดนั้นเชียวเหรอ?“แถมยังมาอ้างว่าตัวเองเป็นมิสเตอร์ไทคูนด้วยเนี่ยนะ? นายรู้หรือเปล่าว่านายน้อยวอล์คเกอร์บริจาคเงินให้กับเฮเซลเป็นจำนวนเงินเท่าไร?“สามล้านดอลลาร์!“ทั้งชีวิตนี้นายก็หาเงินขนาดนั้นไม่ได้หรอก! แล้วยังกล้ามาบอกว่าตัวเองเป็นมิสเตอร์ไทคูนได้ยังไง?!“คิดอะไรอยู่เนี่ย?!"ฉันจะบอกนายให้นะ ต่อไปก็เลิกทำตัวอวดฉลาดได้แล้ว และหยุดอวดอ้างในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำด้วย!“แม้ว่าครอบครัวของเราจะมีความสัมพันธ์อันดีด้วยกันมา แต่นายทำให้ความสัมพันธ์ของเราต้องมัวหมองแล้ว!“อย่าได้คิดว่าครอบครัวของพวกเราเกี่ยวข้องอะไรกับนายอีก! นายไม่คู่ควร!”เคลลี่ มาโลนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็หยุดตัวเองเอาไว้จูนพูดถูก คนอย่างฮาร์วีย์ชอบทำตัวโดดเด่นกว่าใคร และเขาเป็นคนประเภทชอบขโมยเครดิตคนอื่นอีกด้วยถ้าลูกสาวของเขาไปเกี่ยวพันกับผู้ชายคนนี้...ชีวิตของเธอจะต้องพังทลาย!ก่อนหน้านี้เคลลี่คาดหวังในตัวฮาร์วีย์ แต่ในตอนนี้เขาผิดหวั
จูน ลียังคงคิดว่าฮาร์วีย์ ยอร์กอวดเก่ง และเอาแต่เสแสร้งเป็นคนที่เขาไม่ใช่ฮาร์วีย์ถอนหายใจ เขาตัดสินใจให้โอกาสเฮเซล มาโลนเป็นครั้งสุดท้าย“เฮเซล แม้ว่าความทรงจำระหว่างเราจะมีแต่เหตุการณ์ที่ไม่ดีนัก แต่อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอ?“คุณแน่ใจหรือว่าต้องการทำลายความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างเรา”“เราสองคนน่ะมาจากคนละโลก! พ่อของฉันเป็นคนบังคับให้ฉันคบหาคนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว...“เราควรทิ้งอดีตพวกนั้นไปซะ!”"ดี ในเมื่อทุกคนในครอบครัวต้องการแบบนี้ เพราะงั้นผมจะลืมเรื่องการแต่งงานพวกนี้ไป” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น"ดีนี้อย่างน้อยนายก็ยังค่อนข้างมีเหตุผล…” จูนตอบโดยไม่มีท่าทีสำนึกผิด“และอย่างที่สาม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณถูกไล่ออกจากไคเซ็น กรุ๊ป! นายน้อยวอล์คเกอร์ไม่ต้องการให้ นายไปทำงานที่นั่นอีกต่อไป!“ถ้านายอยากจะอยู่ในมอร์ดูและรุ่งเรืองจริง ๆ นายต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเอง!“ฉันกับเฮเซลจะไม่ช่วยนายอีกต่อไปแล้ว!“ฉันหวังว่านายจะไม่มารบกวนครอบครัวของฉันและไคเซ็น กรุ๊ปอีกต่อไปด้วย!“เพราะเห็นแก่เฮเซล นายน้อยวอล์คเกอร์ถึงได้เกรงใจนายอยู่บ้าง“แต่ในเมื่อนายไม่มีส่วน
“นายคิดว่าครอบครัวเราจะหวังอะไรจากนายได้งั้นเหรอ”จูนดูค่อนข้างใจร้อน"ฉันบอกนายแล้วไง แค่เซ็นชื่อในใบลาออกนี่ แล้วเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!“ถือซะว่าเงินนี่เป็นค่าทำขวัญแล้วกัน!“นายคงไม่รู้หรอกว่า นับตั้งแต่ที่แม่ยายของนายส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มเจ้าของวิลล่า ฉันก็กลัวว่าถ้าฉันเผลอหลับไปนายจะเข้ามาสูบเลือดสูบเนื้อคนในครอบครัวฉัน!“ขนาดจะเข้ามาในที่เล็กๆแบบนี้นายยังต้องขอร้องบริกรเลยด้วยซ้ำ! ในไม่มีปัญญาเข้ามาที่นี่ได้ด้วยตัวเอง!“คืนนี้ครอบครัวของเรากำลังจะไปงานเลี้ยงที่หรูหราที่สุดของมอร์ดู…“ระหว่างพวกเราน่ะมันห่างชั้นกันเกินไป แต่นายยังพูดเหมือนกับว่าเราคาดหวังจะได้อะไรจากนายอีก? ไม่มียางอายเลยหรือไง?“นายพูดเหมือนตัวเองรวยและมีอิทธิพลจริงๆอย่างนั้นแหละ ได้พูดเหมือนกับว่าตัวเองสามารถช่วยครอบครัวของฉันได้!“ที่ไหนคู่ควรที่จะมีความสัมพันธ์กับครอบครัวของเราล่ะ?“ถ้านายไม่หลอกล่อให้ลุงแก่ ๆ ของนายพาขยะโสโครกอย่างนายมาที่นี่ นายคิดว่าเราจะพานายมาที่นี่ทำไม?!”แน่นอนว่าคำพูดทั้งหมดนั้นมาจากใจของจูน ถ้าไม่ใช่เพราะเคลลี่ มาโลน จูนคงไม่แยแสฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยซ้ำนัยน์แห่งคว