เฮเซล มาโลนมีแววแปลกประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ เธอดูลังเลเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นเธอก็ฝืนยิ้มอย่างอบอุ่น“ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ นายน้อยวอล์คเกอร์”เธอไม่ชอบสตีเว่น วอล์คเกอร์เอามาก ๆ และก่อนหน้านี้เธอก็หมายตาแกรี่ ดันเคนมากกว่าเขาด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตระหนักว่าตำแหน่งแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานนั้นเป็นก็แค่เรื่องน่าตลกเท่านั้น เมื่อเทียบกับเขาแล้ว สตีเว่น ทายาทผู้มั่งคั่งที่พยายามอย่างหนักเพื่อเฮเซลเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเมื่อถูกจูนเรียกร้อง เฮเซลก็พร้อมที่จะยอมรับสตีเว่น ในตอนที่เขามาที่บ้านของครอบครัวมาโลนพร้อมคำเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงขอบคุณสำหรับฮาร์วีย์ ยอร์ก เฮเซลไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยฮาร์วีย์เคยเกาะแกะอีวอนน์มาก่อน และทันทีที่ภรรยาของเขามาถึงที่นี่เขาก็ถูกขับออกจากครอบครัวทันทีคนแบบนี้จะมาเทียบอะไรกับสตีเว่นได้?พวกเขาต่างกันราวฟ้ากับเหวทีเดียว!สตีเว่นจิบชาหลังจากสูบบุหรี่เสร็จ“ผมเต็มใจทำทั้งนั้นล่ะครับ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เฮเซล ต่อจากนี้ไปพวกเราทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน!” สตีเว่นกล่าวอย่างชอบธรรม“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมจะสนับสนุนคุณให้ดีท
จูนเหล่ตาในขณะที่เชิดหน้าใส่ฮาร์วีย์ ยอร์ก“นี่นายคงจะไม่พูดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าสาขาด้วยใช่ไหม? นายคิดว่านายสามารถส่งคำเชิญเหล่านั้นมาให้เราได้หรือ? นายมีค่าขนาดนั้นเชียวเหรอ?“แถมยังมาอ้างว่าตัวเองเป็นมิสเตอร์ไทคูนด้วยเนี่ยนะ? นายรู้หรือเปล่าว่านายน้อยวอล์คเกอร์บริจาคเงินให้กับเฮเซลเป็นจำนวนเงินเท่าไร?“สามล้านดอลลาร์!“ทั้งชีวิตนี้นายก็หาเงินขนาดนั้นไม่ได้หรอก! แล้วยังกล้ามาบอกว่าตัวเองเป็นมิสเตอร์ไทคูนได้ยังไง?!“คิดอะไรอยู่เนี่ย?!"ฉันจะบอกนายให้นะ ต่อไปก็เลิกทำตัวอวดฉลาดได้แล้ว และหยุดอวดอ้างในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำด้วย!“แม้ว่าครอบครัวของเราจะมีความสัมพันธ์อันดีด้วยกันมา แต่นายทำให้ความสัมพันธ์ของเราต้องมัวหมองแล้ว!“อย่าได้คิดว่าครอบครัวของพวกเราเกี่ยวข้องอะไรกับนายอีก! นายไม่คู่ควร!”เคลลี่ มาโลนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็หยุดตัวเองเอาไว้จูนพูดถูก คนอย่างฮาร์วีย์ชอบทำตัวโดดเด่นกว่าใคร และเขาเป็นคนประเภทชอบขโมยเครดิตคนอื่นอีกด้วยถ้าลูกสาวของเขาไปเกี่ยวพันกับผู้ชายคนนี้...ชีวิตของเธอจะต้องพังทลาย!ก่อนหน้านี้เคลลี่คาดหวังในตัวฮาร์วีย์ แต่ในตอนนี้เขาผิดหวั
จูน ลียังคงคิดว่าฮาร์วีย์ ยอร์กอวดเก่ง และเอาแต่เสแสร้งเป็นคนที่เขาไม่ใช่ฮาร์วีย์ถอนหายใจ เขาตัดสินใจให้โอกาสเฮเซล มาโลนเป็นครั้งสุดท้าย“เฮเซล แม้ว่าความทรงจำระหว่างเราจะมีแต่เหตุการณ์ที่ไม่ดีนัก แต่อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอ?“คุณแน่ใจหรือว่าต้องการทำลายความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างเรา”“เราสองคนน่ะมาจากคนละโลก! พ่อของฉันเป็นคนบังคับให้ฉันคบหาคนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว...“เราควรทิ้งอดีตพวกนั้นไปซะ!”"ดี ในเมื่อทุกคนในครอบครัวต้องการแบบนี้ เพราะงั้นผมจะลืมเรื่องการแต่งงานพวกนี้ไป” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น"ดีนี้อย่างน้อยนายก็ยังค่อนข้างมีเหตุผล…” จูนตอบโดยไม่มีท่าทีสำนึกผิด“และอย่างที่สาม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณถูกไล่ออกจากไคเซ็น กรุ๊ป! นายน้อยวอล์คเกอร์ไม่ต้องการให้ นายไปทำงานที่นั่นอีกต่อไป!“ถ้านายอยากจะอยู่ในมอร์ดูและรุ่งเรืองจริง ๆ นายต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเอง!“ฉันกับเฮเซลจะไม่ช่วยนายอีกต่อไปแล้ว!“ฉันหวังว่านายจะไม่มารบกวนครอบครัวของฉันและไคเซ็น กรุ๊ปอีกต่อไปด้วย!“เพราะเห็นแก่เฮเซล นายน้อยวอล์คเกอร์ถึงได้เกรงใจนายอยู่บ้าง“แต่ในเมื่อนายไม่มีส่วน
“นายคิดว่าครอบครัวเราจะหวังอะไรจากนายได้งั้นเหรอ”จูนดูค่อนข้างใจร้อน"ฉันบอกนายแล้วไง แค่เซ็นชื่อในใบลาออกนี่ แล้วเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!“ถือซะว่าเงินนี่เป็นค่าทำขวัญแล้วกัน!“นายคงไม่รู้หรอกว่า นับตั้งแต่ที่แม่ยายของนายส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มเจ้าของวิลล่า ฉันก็กลัวว่าถ้าฉันเผลอหลับไปนายจะเข้ามาสูบเลือดสูบเนื้อคนในครอบครัวฉัน!“ขนาดจะเข้ามาในที่เล็กๆแบบนี้นายยังต้องขอร้องบริกรเลยด้วยซ้ำ! ในไม่มีปัญญาเข้ามาที่นี่ได้ด้วยตัวเอง!“คืนนี้ครอบครัวของเรากำลังจะไปงานเลี้ยงที่หรูหราที่สุดของมอร์ดู…“ระหว่างพวกเราน่ะมันห่างชั้นกันเกินไป แต่นายยังพูดเหมือนกับว่าเราคาดหวังจะได้อะไรจากนายอีก? ไม่มียางอายเลยหรือไง?“นายพูดเหมือนตัวเองรวยและมีอิทธิพลจริงๆอย่างนั้นแหละ ได้พูดเหมือนกับว่าตัวเองสามารถช่วยครอบครัวของฉันได้!“ที่ไหนคู่ควรที่จะมีความสัมพันธ์กับครอบครัวของเราล่ะ?“ถ้านายไม่หลอกล่อให้ลุงแก่ ๆ ของนายพาขยะโสโครกอย่างนายมาที่นี่ นายคิดว่าเราจะพานายมาที่นี่ทำไม?!”แน่นอนว่าคำพูดทั้งหมดนั้นมาจากใจของจูน ถ้าไม่ใช่เพราะเคลลี่ มาโลน จูนคงไม่แยแสฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยซ้ำนัยน์แห่งคว
คนสำคัญทั้งหมดยังมาไม่ถึงเพราะยังไม่ถึงเวลางานเลี้ยงในทางกลับกัน แขกทั่วไปล้วนอยู่ที่ด้านนอก สังสรรค์ระหว่างรองานเลี้ยงเริ่มเนื่องจากฮาร์วีย์ ยอร์กมาถึงเร็ว เขาจึงยังหาใครที่เขารู้จักไม่เจอ ขณะที่เขาเดินไปรอบ ๆ ครอบครัวของเคลลี่ มาโลนและสตีเว่น วอล์คเกอร์ก็สังเกตเห็นเขาเข้า“สารเลว!”“ไอ้เวรนี่!”“ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่”การแสดงออกของจูนดูหวาดกลัวขึ้นทันที“เขาไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง!“เขาพยายามที่จะเข้าไปข้างในงานด้วยนามสกุลของเราหรือเปล่า!”ก่อนหน้านี้เคลลี่ยังคงรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ในตอนนี้ความโกรธได้เข้ามาแทนที่ความรู้สึกนั้นโดยสิ้นเชิง“น่าผิดหวังจริง ๆ!” เคลลี่อุทานอย่างเย็นชาเคลลี่และคนอื่น ๆ คิดว่าฮาร์วีย์รู้เรื่องงานเลี้ยงขอบคุณเพราะพวกเขาพูดถึงเรื่องนี้ในเวลาน้ำชายามบ่ายนั่นคือเหตุผลที่ฮาร์วีย์พยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว!เฮเซลมาโลนขมวดคิ้ว ความรู้สึกผิดในใจของเธอก็มลายหายไปสิ้นเมื่อฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อครอบครัวที่กำลังจะเข้าไปข้างใน เฮเซลก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปหาเรื่องฮาร์วีย์“นายมาที่นี่ทำไม ฮาร์วีย์!” เฮเซลถามอย่างเงียบ ๆในขณะนั้นเฮเซลดูมุ่งมั่
การแสดงออกของจูน ลี เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามในขณะที่เธอมองฮาร์วีย์ ยอร์กตั้งแต่หัวจรดเท้า"พุทโธ่! คุณยอร์กที่รักของเราก็มาที่นี่เพื่อร่วมงานเลี้ยงขอบคุณของสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูด้วย?“นายมันก็แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านที่ตกงาน! จะมาที่นี่ได้ยังไง? นายมีสิทธิ์อะไรมาร่วมงานนี้?“นี่นายคิดว่าเราไม่รู้หรือว่านายเก่งเรื่องไหนที่สุด?“ต่อหน้าเราจำเป็นต้องมาแสดงละครแบบนี้ด้วยหรอ?“ถ้าตอนนี้นายไม่ได้ยืนอยู่กับเราราวกับเป็นแขกจริง ๆ นายคงถูกไล่ออกจากที่นี่ไปแล้ว!“นายเชื่อไหมว่าแค่เอ่ยปากคำเดียวนายก็จะถูกไล่ตะเพิดออกไป!”โดยธรรมชาติแล้ว จูนรู้สึกขยะแขยงหน้าตาที่ซื่อตรงของฮาร์วีย์อยู่เสมอมา เขาเป็นแมงดาที่ไม่มีความสามารถอะไรสักอย่าง แต่กลับทำตัวราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกใบนี้!เขามีอะไรคู่ควร?!เคลลี่ มาโลนไม่อาจโต้เถียงกับฮาร์วีย์ได้อีกต่อไป เขาต้องการให้ชายผู้โง่เขลาคนนี้ได้สัมผัสกับความเป็นจริงอันโหดร้ายของสังคมด้วยตัวเขาเองในสายตาของเคลลี่ ฮาร์วีย์เป็นพวกไร้ทางเยียวยา เขาจะทำให้ฮาร์วีย์กลายเป็นคนซื่อตรงกับตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเขาปล่อยให้สังคมสอนบทเรียนแก่เขาเท่านั้นหลังจากเห็นท่า
ไม่ไกลนัก เคลลี่ มาโลนไม่มีใจจะมองภาพนั้น ดังนั้นเขาจึงรีบหันหน้าหนีไปทางอื่นในทางกลับกัน จูนมีใบหน้าที่ดูท่าทางสนุก เธอเพ่งสายตามองด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าเนื่องจากสตีเว่น วอล์คเกอร์ตัดสินใจเหยียบย่ำฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยตัวเอง จึงไม่มีใครหยุดเขาได้ในสายตาของเคลลี่และจูน สตีเว่นอาจกลายเป็นลูกเขยที่รักของพวกเขาเมื่อเป็นเช่นนี้ก็นับว่าชัดเจนแล้วว่าพวกเขาอยู่ฝ่ายไหนแม้ว่าสตีเว่นจะไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง แต่ในหลงเหมินสาขามอร์ดูแม็กซ์ ทรัสคอตต์ก็เป็นรองเพียงไอเดน บาวเออร์จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะมอบความตายให้แกฮาร์วีย์!เฮเซล มาโลนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับการกระทำของฮาร์วีย์'โถ่ฮาร์วีย์ นายก็เป็นแค่คนธรรมดาคนนึง เอาแต่พาตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่ถูกไม่ควร...‘ใคร ๆ ก็รู้ผลของเรื่องนี้ดี'แต่นายไม่รู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองเลยหรอ? ทำไมนายยังคงแสร้งทำเป็นว่าคุณกำลังเข้าร่วมงานเลี้ยงอยู่ได้?'“หลีกทาง” ฮาร์วีย์เอ่ยอย่างใจเย็นขณะที่เขาชำเลืองมองสตีเว่นและคนอื่นๆ“หมาเห่ามันไม่กัด”“นายน้อยวอล์คเกอร์พูดถูก นายนี่มันหยิ่งจริง ๆ!”แม็กซ์จ้องไปที่ฮาร์วีย์พร้อมกับยิ้
ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่แยแส ขณะเผชิญหน้ากับความเย่อหยิ่งและการหาเรื่องของแม็กซ์ ทรัสคอตต์และสตีเว่น วอล์คเกอร์“ถ้าตอนนี้ไม่หลีก ต่อไปจะไม่มีโอกาสได้หลีกแล้ว”ฝูงชนทั้งหมดสั่นสะท้านหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นแม้แต่เฮเซล มาโลนและคนอื่น ๆ ก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจขณะมองไปที่ฮาร์วีย์นั่นมันแม็กซ์ ทรัสคอตต์เชียวนะ!พี่แม๊กซ์ในตำนานคนนั้น!สถานะของเขาในหลงเหมินสาขามอร์ดูนั้นสูงมาก! หากเขาต้องการเหยียบย่ำใครสักคน ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าผักฆ่าปลา!คนอย่างเขาเป็นเพลย์บอยผู้มั่งคั่งอย่างแท้จริง!แม็กซ์เป็นที่รู้จักเพราะเขากล้าที่จะชนกับคนจากวงสังคมชั้นสูง!เนื่องจากทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของเขา แม้แต่จัสติน วอล์คเกอร์ก็ยังยืนหยัดเพื่อเขาบ่อยครั้งแม็กซ์ไม่มีจุดอ่อนอื่นใดนอกจากความหุนหันพลันแล่นซึ่งทำให้เขาไม่เหมาะกับงานใหญ่หากเขาโกรธ เขาจะทำทุกอย่างตามใจตัวเองเพื่อจัดการกับคน ๆ นั้น“นายว่าไงนะ ต่อไปฉันจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”ตามที่คาดไว้ แม็กซ์เดือดดาลด้วยความโกรธเพราะการตอบโต้ของฮาร์วีย์เขาหัวเราะอย่างเย็นชาขณะมองฮาร์วีย์อย่างพินิจพิเคราะห์“นายนี่คงเจ๋งไม่น้อยเลยนะ เด็กน้อย นี่เป็