"พวกขยะ!"การแสดงออกของทริชาสามารถแช่แข็งได้แม้กระทั่งขั้วโลกเหนือ เธอสะบัดมืออีกครั้ง และลำแสงสีเงินก็ส่องประกายระหว่างนิ้วของเธอ พวกมันเป็นชิ้นส่วนที่ทำจากซิลเวอร์แซน และความแวววาวของพวกมันทำให้ปรมาจารย์ทั้งสิบคนตาบอดในทันทีกลิ่นหอมประหลาดฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ มันมีฤทธิ์รุนแรงและมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง และแขกทั้งหลายตาก็ถอยห่างออกไปโดยไม่รู้ตัวเพื่อพยายามหลบหลีกมันปรมาจารย์ทั้งสิบพุ่งเข้าใส่ทริชาแต่วินาทีต่อมาพวกเขาก็ตัวแข็งทื่อ ร่างกายของพวกเขากระตุก และทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมาจากทุกอณูรูขุมขนภายในไม่กี่วินาที พวกเขาทั้งหมดก็ล้มแน่นิ่งลงบนพื้นพวกเขาเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นทายาทสายตรงของตระกูลสมิธ แต่ไม่มีใครมีโอกาสต่อกรกับทักษะที่สูงส่งกว่าของทริชาได้น่าสะพรึงกลัว!ความแข็งแกร่งของทริชาสามารถสรุปได้เพียงคำเดียวคือคำว่าน่ากลัวฮาร์วีย์ถอยหลังไปสองสามก้าว การเคลื่อนไหวของเขาแนบเนียนจนไม่มีใครสังเกตเห็น เขาบังอีวอนน์เอาไว้ข้างหลัง และหรี่ตามองไปที่ทริชาแท้จริงแล้วทริชาค่อนข้างมีความสามารถ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลสมิธถึงกลัวลิตเติ้ล ดเวลลิ่งมากขนาดนี้แต่…ฮาร์วีย์
“นายไม่ได้กินมันเลยแม้แต่เม็ดเดียว?!”ทริชารู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว“ก็ดีเหมือนกัน ในเมื่อแกไม่ได้พิการ ฉันก็จะทำให้แกพิการด้วยตัวฉันเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม”เจเดนยิ้มเบา ๆ “ฉันเกรงว่าเธอจะมาจับมือกับเท้าฉันไม่ได้ง่าย ๆ เหรอก”"มาดูกัน เธอคิดว่ามือปืนที่เธอฝากความหวังไว้จะเชื่อฟังเธออย่างที่คิดเหรอ”ทันทีที่พูดจบจาเดนก็ดีดนิ้ว เมื่อเสียงดีดนิ้วของเขาดังขึ้น มือปืนที่ตอนแรกอยู่ภายใต้การว่าจ้างของอเล็ก ซึ่งกำลังเล็งปืนไปที่ฝูงชนก็หันมาเล็งปืนไปที่ทริชา ในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ทริชาก็ไม่เหลือทางหนีทีไล่ เธอถูกล้อมไว้หมดแล้วทริชาตกตะลึงและสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างเลวร้ายที่สุด หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเย้ยหยันอย่างเย็นชา “ดีจริง ๆ จาเดน! ทำได้ดีมาก เทอร์รี่!”“ฉันไม่คิดเลยว่าแกกับลูกชายจะร่วมมือกันหลอกลวงฉัน”จาเดนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน “ฉันจัดฉากมาโดยตลอด แต่อย่าได้เหมารวมฉันกับลูกชายผู้แสนจองหองของฉันเลย อยากจะร่วมมือกับเธออย่างแท้จริงเชียวล่ะ”“แต่น่าเสียดายที่ฉันเลี้ยงเขามากับมือ เพราะงั้นฉันจะรู้ไม่เท่าทันเขาได้ย
ใบหน้าของเทอร์รี่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาตะโกนว่า “ตาเฒ่า แกมันไร้ยางอาย!”การแสดงออกของทริชาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ใบหน้าของเธอซึ่งตอนแรกเย็นชาในตอนนี้กลับไร้สีคนที่ฉลาดจะสัมผัสได้มีบางอย่างผิดปกติจากปฏิกิริยาของคนสองคนนี้เจเดนหัวเราะ “ไม่มีประโยชน์ที่จะเถียงกับฉัน”“ทริชา ที่เธออ้างว่ากลับมาแก้แค้นฉันคงไม่ใช่เพราะความเกลียดชังเมื่อยี่สิบปีก่อนใช่หรือเปล่า?”“ถ้ามาที่นี่เพื่อชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอใช่ไหมล่ะ?”เมื่อได้ฟังคำพูดของจาเดนแล้ว ฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ก็เข้าใจตั้งแต่ต้นจนจบจาเดน สมิธเป็นผู้คุมเกมมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นความหายนะที่ตระกูลสมิธต้องเผชิญ ชีวิตหรือความตายของพวกเขา รวมถึงการกระทำก่อนหน้านี้ทั้งหมดของเทอร์รี่...ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของจาเดนฮาร์วีย์เองเริ่มที่จะกลัวจาเดนขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้วชายชราผู้นี้ควรค่าแก่การเป็นหัวหน้าตระกูลสิบอันดับแรกอย่างที่สุดคนธรรมดาย่อมไม่อาจหยั่งรู้ได้ถึงความคิดและกลอุบายของผู้อาวุโสคนนี้การแสดงออกของทริชาเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด “จาเดน สมิธ ตระกูลของฉันถูกแกทำ
“ทริชา!”"ไม่!"เทอร์รี่รู้สึกตกใจและหวาดหวั่นอย่างที่สุด เขาพุ่งออกจากการจับกุมราวกับคนเสียสติ กระโจนใส่ศพที่ยังอุ่น ๆ ของทริชาแต่จาเดนเร็วกว่าและก้าวไปข้างหน้าก่อนที่เทอร์รี่จะไปถึงทริชา จาเดนเตะเทอร์รี่จนเกือบเสียงดังสนั่นและเหยียบร่างของเทอร์รี่บนพื้นให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา นั่นทำให้เทอร์รี่ขยับไม่ได้ทุกคนอ้าปากค้างตะลึงพวกเขาคาดว่าทริชาจะฆ่าจาเดน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อปรากฎว่าจาเดนลงเอยด้วยการสังหารทริชา คลาวด์มือ สังหารระดับปรมาจารย์ลงได้อย่างง่ายดายก่อนที่จะต่อด้วยการเหยียบย่ำร่างของเทอร์รี่ ลูกชายของตัวเองด้วยฝ่าเท้าของเขาเขาเป็นพวกคมในฝักอย่างแน่นอน!ปฏิกิริยาของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ฮาร์วีย์ดูตื่นเต้นนี่คือระดับของเทพสงคราม!จาเดน สมิธหัวหน้าตระกูลสมิธเป็นปรมาจารย์ระดับเทพสงครามอย่างแท้จริงดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะประเมินตระกูลชั้นนำเหล่านี้ต่ำไปจริง ๆเบนจามิน หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ และคนอื่น ๆ ต่างก็ประหลาดใจจาเดนเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในกังนัมมาเป็นเวลาหลายปี ถึงกระนั้น ใครจะคิดว่าเขา
ฝูงชนต่างตระหนกและตกใจ อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์กลับนั่งลงอย่างเมินเฉยและกินอะไรต่อไปโดยไม่แยแส เมื่อเขาเผชิญหน้ากับคุณย่ายอร์ก เมลิสสา ลีโอก่อนหน้านี้ เขาก็รู้ในทันทีว่าหัวหน้าตระกูลชั้นนำน่ากลัวเพียงใดแต่ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลยอร์กก็เป็นเพียงตระกูลชั้นนำธรรมดา ๆพวกเขาไม่อาจเทียบกับตระกูลสมิธ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลแรก หากจาเดนไม่มีความสามารถ ตระกูลสมิธคงถูกฝ่ายตรงข้ามโค่นล้มไปได้นานแล้วจาเดนไม่ได้ออกตัวอะไรมากนักแม้ว่าเขาจะพึ่งยุติความขัดแย้งเมื่อครู่ไปก็ตาม แต่เขากลับไปนั่งที่เดิมของตัวเองแทนหลังจากดื่มไปสองสามแก้ว งานเลี้ยงก็จบลง ฮาร์วีย์กำลังจะจากไป แต่จาเดนขอร้องให้เขาอยู่ต่อเมื่อคนอื่น ๆ เห็นว่าจาเดนมีเรื่องจะพูดกับฮาร์วีย์ ดังนั้นพวกเขาจึงค่อย ๆ จากไปทีละคนจาเดนทำท่าทาง "ขอร้อง" ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดต่อ และเชิญฮาร์วีย์ให้เดินตามเขาออกไปนอกห้องโถงสวนงดงามทักทายสายตาของฮาร์วีย์ เมื่อยืนอยู่ตรงนั้น จะสามารถมองเห็นชายฝั่งของมอร์ดูและคลื่นสีฟ้าที่เกลือกกลิ้งอยู่ในทะเลได้ด้วยฮาร์วีย์หรี่ตาลงมองภาพที่งดงามนี้ แต่ไม่ได้พูดอะไรจาเดนถอยหลังหนึ่งก้าวและยิ้ม “ฮาร์วีย์… หรื
“ลูกชายคนโตอุทิศตนเพื่อประเทศและต้องการใช้อิทธิพลของรัฐบาลมาปกป้องตระกูลสมิธ”“โชคไม่ดีที่ลูกชายคนที่สองไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง”“ตระกูลสมิธในปัจจุบันก็ดูไม่ต่างจากเดิม แต่อีกสิบปีต่อมาจะเป็นอย่างไร”เจเดนถอนหายใจฮาร์วีย์แนะนำด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดว่านายหญิงสมิธเองก็เป็นตัวเลือกที่ดี มีความเป็นไปได้ที่เธอจะประสบความสำเร็จในตระกูลสมิธ”จาเดนตอบอย่างเฉยเมยว่า “ใช่ เธอค่อนข้างใช้ได้ แล้วฉันก็หวังในตัวอีวอนน์เช่นกัน”“น่าเสียดายมุมมองของฉันไม่ได้ถูกส่งต่อไปยังสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูล พวกนั้นอาจไม่ได้คาดหวังในตัวเธอเหมือนที่ฉันคิด”“ถ้าไม่มีคนมาคอยสนับสนุนธุรกิจอันใหญ่โตของตระกูลเรา ฉันก็เกรงว่าตัวเองจะนอนตายตาไม่หลับ”“เพราะฉะนั้นนะฮาร์วีย์ ก็อย่างที่ฉันบอกนายในงานเลี้ยงก่อนหน้านี้…”“ฉันนับถือนายเป็นอย่างมาก หากนายเต็มใจที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลสมิธ.…”“ฉันรับรองได้เลยว่าในอีกสิบปีข้างหน้าทุกสิ่งที่นายเห็นตอนนี้จะกลายเป็นของนาย”“นายจะได้เป็นคนดังระดับแนวหน้าของประเทศ H อันยิ่งใหญ่นี้”“นายจะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทันทีโดยไม่จำเป็นต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอยู่หลายต่อหลายปี โอกาสเช่
เมื่อฮาร์วีย์ลงนามในข้อตกลง เขาจะได้รับสิทธิ์และเสียงในที่ดินตระกูลสมิธ ในอีกมุมมองหนึ่ง มันเทียบเท่ากับการก้าวเข้าสู่วงสังคมชั้นสูงของมอร์ดูอย่างเป็นทางการอย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ล่ะ ขอบคุณครับ ผู้อาวุโสสมิธ แต่ผมรับอะไรแบบนี้ไว้ไม่ได้ หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของที่ดินตระกูลสมิธนั้นมีค่ามากเกินไป”“อีกอย่าง ตอนที่ผมปรากฏตัวที่งานเลี้ยงผมก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย”“เพราะอย่างนั้นผมจะรับมันไว้ไม่ได้”หุ้นของที่นี่มีมูลค่ามาก แต่เนื่องจากฮาร์วีย์ไม่อาจมองทะลุความคิดของชายชราจอมเจ้าเล่ห์คนนี้ได้ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะปฏิเสธ"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"เจเดนยิ้มจาง ๆ“นายมาที่นี่เพื่อช่วยตระกูลสมิธไม่ใช่หรือ? นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่นายมาที่มอร์ดูไม่ใช่หรืออย่างไร”“หากไม่ใช่เพราะนายเผชิญหน้ากับเฮกเตอร์หลายต่อหลายครั้งซึ่งทำให้ชินดัน เวย์ได้รับความเสียหายอย่างหนักและทำให้เขาอ่อนแอลง ศัตรูเหล่านั้นคงต้องมาปรากฏตัวในคืนนี้อย่างแน่นอน”“ถ้านายไม่ยั่วยุความโกรธของเทอร์รี่ ลูกชายนอกสมรสของฉัน เขาคงไม่ได้เผชิญกับความสูญเสียอย่างสาหัสที่ท่าเรือเหรอก”“ถ้าไม่เกิดเรื่องพวกนั้นขึ้น คืนนี้ฉ
ฮาร์วีย์จ้องไปที่ชื่อบนโทรศัพท์ ลิเลียน เยตส์เขาถึงกับพูดไม่ออก เขาได้รับข้อความจากแมนดี้เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอบอกว่าทั้งไซม่อนและลิเลียนจะมาถึงมอร์ดูก่อนกำหนด แต่ตอนนั้นเขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องอื่นจึงไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในหัวฮาร์วีย์บอกลาจาเดนอย่างสุภาพ เขารับข้อตกลงและจากไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จาเดนเฝ้าดูฮาร์วีย์ห่างออกไปด้วยสีหน้าครุ่นคิดหลังจากนั้นไม่นานพ่อบ้านก็ปรากฏตัวขึ้น เขายังจ้องตามฮาร์วีย์ขณะที่ฮาร์วีย์จากไป “นายท่าน ผู้ชายคนนี้คุ้มค่าแก่การลงทุนจริง ๆ เหรอ?”“สิ่งที่นายท่านให้เขาไปคือหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของที่ดินตระกูลสมิธ ซึ่งมีรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี…”จาเดนยิ้มอย่างมีความหมายและตอบว่า “นายลืมไปแล้วเหรอ? ตระกูลสมิธเก่งเรื่องการลงทุนจะตาย”“ฉันคิดว่าการลงทุนครั้งนี้แสนจะคุ้มค่า”***ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่ทางเดินวีไอพีของสนามบินนานาชาติมอร์ดู...หญิงวัยกลางคนสวมชุดขนมิงค์แม้อากาศจะร้อนยืนอยู่ เธอแสดงอารมณ์ที่เย่อหยิ่งของเศรษฐีผู้มั่งคั่งและใบหน้าของเธอก็เรียกได้ว่าภาคภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมากมีกระเป๋าถือใบใหญ่และใบเล็กอยู่ข้างเธอหลายใบ ช