ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มอย่างเมินเฉย “ใช่ คุณเดาถูกแล้ว”เซธ คีตันผงะไปชั่วขณะ เขาไม่เคยคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะยอมรับออกมาตรง ๆ เช่นนี้ เขาพูดอย่างไม่อ้อมค้อมด้วยความมุ่งมั่นอย่างสูง “ไอ้ส*รเลว นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร?“นายเป็นคนของตระกูลฌอง? ลินช์? สมิธหรือพาเทลกันล่ะ?“ถ้าที่ว่ามาไม่ใช่นามสกุลของนาย นายก็แค่กบในกะลาครอบ มีสิทธิ์อะไรมาทำตัวอวดรู้ต่อหน้าฉัน?“น่าคิดว่าคิดว่าฉันเซธ คีตันจะถูกต้อนได้ง่าย ๆ หลังจากที่ผงาดอยู่ในมอร์ดูมาหลายปีดีดักงั้นเหรอ?“นายคิดว่าไม่ว่าใครก็จะเอาฉันลงได้เหรอ?“นี่นายตั้งใจจะรอฉันเล่นจริง ๆ ใช่ไหม?“นายรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้กำลังเล่นอยู่กับใคร?”เซธมองไปรอบ ๆ สถานที่ด้วยท่าทางเย็นชา จากนั้นเขาก็พูดเบา ๆ ว่า “ในเมื่อนายไม่รู้ ฉันก็จะช่วยสงเคราะห์ให้“นี่คือผู้บังคับบัญชาลำดับที่สองในระบบภาษีของมอร์ดู!“นี่คือรองประธานของธนาคารแห่งมอร์ดู!“นี่คือผู้บัญชาการของท่าเรือมอร์ดู!“นี่คือสารวัตรหน่วยตำรวจเฉพาะกิจ!”ในขณะที่เซธเรียกชื่อพวกเขาทีละคน บุคคลที่มีชื่อเสียงมากกว่าโหลก็ยืนขึ้นพร้อมกับมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย้ยหยันเซธนำคนกลุ่มนี้เดินไปและยืนอยู่ต่อ
สำหรับเซธ คีตันและคนอื่น ๆ ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาซีดลงราวกับถูกฟ้าผ่ามือของเซธซึ่งถือซิการ์เริ่มสั่นเทาเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าไอเดน บาวเออร์จะปรากฏตัวในโอกาสนี้ และดูเหมือนว่าเขาจะหนุนหลังฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ด้วยเป็นไปได้ยังไง?!ฝูงชนถอยร่นไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว และสีหน้าที่เป็นปกติสุขในตอนแรกของพวกเขากลับกลายเป็นตระหนกตกใจไม่ว่าฮาร์วีย์จะต่อสู้ได้ดีเพียงใด เขาก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของคนพวกนั้นแต่การปรากฏตัวของไอเดนทำให้คนเหล่านั้นมีปฏิกิริยาเป็นอย่างมากอย่างมากตรงกันข้ามกับฮาร์วีย์ที่พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน ไอเดนซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตของมอร์ดูเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นคนเลวทรามอย่างที่สุดสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจเอาไว้ก็คือแม้แต่พี่น้องของเขา เขาก็ยังฆ่าได้เพราะอย่างนั้นการฆ่าคนอื่นก็ง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากทุกคนกล้าแสดงท่าทีเย่อหยิ่งต่อหน้าฮาร์วีย์ แต่ในตอนนี้คนพวกนั้นไม่กล้าแม้แต่จะปริปากต่อหน้าไอเดนแม้แต่สมาชิกระดับสูงของตระกูลบาวเออร์ที่แขนขาหักและถูกเตะออกไปก็ยังลืมที่จะร้องโอดโอยออกมาฮาร์วีย์ผู้นี้…ได้รับการสนับสนุนจากไอเดนได้อย่างไร?แม้ว่าผู้คนใน
ฮาร์วีย์ยอร์กหล่อเหลา และรูปร่างของเขาก็ค่อนข้างผอม เพราะว่าคำพูดที่ไม่แยแสที่เขาพูดในขณะที่ยืนอยู่ที่นี่เป็นเหมือนลมตะวันตกเฉียงเหนือในฤดูหนาว มันทำให้เซธ คีตันรู้สึกช้าวาบไปทางร่างกายและหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก “พ่อหนุ่ม นายต้องการอะไร?“หรือคิดที่จะทำร้ายฉัน?”ในขณะนั้นสีหน้าของเซธเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียดแม้ว่าเขาจะเสียเปรียบในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่อาจยอมจำนนต่อฮาร์วีย์เพียงเพราะการปรากฏตัวของไอเดน บาวเออร์อย่างไรเสียสถานะของไอเดนนั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางในมอร์ดู และแน่นอนว่าเขาไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุดเสียหน่อยเซธอยู่ในมอร์ดูมาหลายปีแล้ว และเขาก็ต้องมีผู้สนับสนุนอยู่บ้างดังนั้น เขาจึงไม่อาจคุกเข่าได้ในขณะนี้ศักดิ์ศรีและความภาคภูมินั้นสำคัญสำหรับเขาเป็นอย่างมาก หากวันนี้เขาคุกเข่า ต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“คุณอยากครอบครองความงามของซีนเธียร์ คุณข่มขู่เธอไม่สำเร็จ แถมยังทำร้ายเธออีก แถมยังคิดที่จะยัดเยียดตัวเองไปเป็น…“สรรพคุณกล้ายอมรับดังนั้นผมจะไม่ฆ่าคุณ!“แต่คุณจะต้องพิการไปตลอดชีวิต มันจะยอมหรือเปล่า?”ฮาร์วีย์คว้าปืนมาจากผู้คุ้มกันคนหนึ่งของเซธและปลดล็อคเซฟปื
“นายน้อยเฟจ ผมเซธ คีตันจากคีตัน เรียลเอสเตทส์ วันนี้ผมเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว!”“ผมไปยั่วยุนายน้อยไอเดน บาวเออร์และเพื่อนของเขาเข้า!”“พวกเขาอยากให้ผมพิการไปตลอดชีวิตและทำให้คีตัน เรียลเอสเตทส์ล้มละลายด้วย!”ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ทิโมธี เฟจตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตอบอย่างเย็นชาว่า “ไอเดน บาวเออร์เหรอ?“ทำไมคุณถึงไปทำให้ไอ้สารเลวนั่นไม่พอใจได้ล่ะ?”เห็นได้ชัดว่าทิโมธีดูหมิ่นไอเดนไม่น้อยสีหน้าของไอเดนก็ดูหวาดกลัวเช่นกันหลังจากได้ยินสิ่งนี้ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า “ซีอีโอคีตันบอกนายน้อยเฟจไปให้ละเอียดกว่านี้สิว่าคนที่คุณทำให้ขุ่นเคืองไม่ใช่ไอเดนแต่เป็นผม ฮาร์วีย์ต่างหาก”เซธไม่รู้ว่าความมั่นใจของฮาร์วีย์มาจากไหน แต่เขายังคงพูดโดยไม่รู้ตัวว่า “หลัก ๆ แล้ว ผมไปทำให้คนที่ชื่อฮาร์วีย์ขุ่นเคืองเข้า เขา…"เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นทิโมธีก็พูดต่อไปว่า “ฉันจะให้คำแนะนำกับคุณสักข้อหนึ่ง ถ้าเขาอยากให้คุณนั่งรถเข็น ก็ไปซื้อรถเข็นแต่โดยดีเถอะ”สายสนทนาสายตัดไปหลังจากเขาทิ้งคำพูดนั้นไว้'ไปซื้อรถเข็นแต่โดยดี?’'นี่มันหมายความว่ายังไง?'เซธอยู่ในความงุนงง เขาดู
ฮาร์วีย์ ยอร์กออกจากศูนย์กลางแห่งมอร์ดูเพียงลำพังเขาไม่สนใจนักว่าเซธ คีตันจะลงเอยอย่างไร เขาเชื่อว่าไอเดน บาวเออร์จะจัดการกับเซธได้อย่างเหมาะสม เพราะรู้ถึงรูปแบบในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ของเขาสำหรับทิโมธี เฟจก็ถูกเขาจัดการไปแล้ว ถ้าเขายังกล้าเข้ามายุ่งย่าม ฮาร์วีย์จะทำลายเขาในไม่กี่นาทีติ๊ด…มีสายที่ไม่คุ้นเคยโทรเข้ามาขณะที่ฮาร์วีย์กำลังเดินออกจากศูนย์กลางแห่งมอร์ดูฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดรับสาย ไม่นานเสียงที่สง่างามก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “สวัสดีฮาร์วีย์ ฉันจัสติน วอล์กเกอร์”“สวัสดีตอนบ่าย รองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์ โทรหาผมในเวลานี้มีอะไรให้ช่วยงั้นเหรอ?”“คิดจะชวนผมไปเลี้ยงอาหารค่ำหรือไง?”เสียงของจัสตินฟังดูเย็นชาเขาก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “มาพบฉันที่มอร์ดูบรอดเวย์ในอีกครึ่งชั่วโมง ฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำคุณ"ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ"ฮาร์วีย์ดูซาบซึ้งและพูดว่า “รองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์ ผมต้องยอมรับว่าถึงแม้คุณรอที่จะได้ฆ่าผมไม่หวาดไม่ไหว แต่ถึงกระนั้นคุณก็ยังมีแก่ใจชวนผมไปทานอาหารค่ำ” “แม้ว่าผมจะไม่ได้ตื่นเต้นกับมื้อค่ำในวันนี้มากนัก…” “แต่ผมก็ไม่รังเกียจที่จ
ใบหน้าของจัสติน วอล์คเกอร์หม่นลง ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่เคารพเขาเลยสักนิด แถมยังเอาแต่ยุแหย่เขาไม่เลิกไคท์ วอล์คเกอร์มองไปที่พ่อของเธออย่างสงสัย พ่อของเธอเป็นคนที่หยิ่งยโสและโอหังมาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสงบสติอารมณ์และไม่ล้มโต๊ะหลังจากถูกฮาร์วีย์เย้ยหยันแบบนี้"เอาล่ะ"ฮาร์วีย์วางตะเกียบลงและรินชาหนึ่งถ้วย“ในเมื่อรองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์พยายามอย่างเต็มที่ที่จะขอให้ผมมาพบ มันก็คงจะไม่ใช่แค่เรื่องการทานอาหารค่ำหรอกใช่ไหม?“ผมสงสัยจังว่าคุณคิดจะทำข้อตกลงอะไรกับผม รองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์?“เราก็โต ๆ กันแล้ว ทำไมคุณไม่พูดกับผมตรง ๆ ล่ะ?”จัสตินรู้สึกประทับใจ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ฮาร์วีย์ แม้ว่าฉันจะไม่ชอบคุณ แต่ฉันก็ยังต้องยอมรับว่าคุณค่อนข้างใช้ได้ในหมู่คนรุ่นใหม่”“ในเมื่อคุณเป็นคนตรงไปตรงมา เพราะงั้นฉันจะคุยกับคุณ!“การให้คุณมาที่นี่ก็เพราะว่าผมมีสามเรื่องที่อยากจะพูด“เรื่องแรก การแต่งงานระหว่างลูคัส ฌองกับลูกสาวของฉันได้รับการตัดสินใจแล้ว มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับตระกูลวอล์คเกอร์ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ รวมไปถึงคุณด้วย ฮาร์วีย์“เรื่องที่สอง ฉันต้องกา
สามพันสองร้อยล้านดอลลาร์ เป็นตัวเลขที่ทำให้โลกทั้งใบแหลกละเอียดลงได้ ให้พูดตามตรง แม้แต่บรรพบุรุษของพวกเขาก็ไม่อาจระดมเงินจำนวนนี้มาได้ แม้พวกเขาจะต้องการก็ได้แม้ว่าตระกูลวอล์คเกอร์จะมีทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้าน แต่มันก็จะส่งผลเสียต่อพวกเขาได้หากพวกเขาต้องหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆอีกทั้งตำแหน่งหัวหน้าสาขาของหลงเหมินก็ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้เงินซื้อได้ทว่าฮาร์วีย์ ยอร์กกลับปฏิเสธที่จะรับเงินเพียงเพราะต้องการเรียกร้องความยุติธรรมและถามหาคำอธิบายเรื่องแองเจลิน่า จอห์นแก่เธอ ใครกันล่ะที่จะไม่หวั่นไหว?อาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต ไคท์ วอล์คเกอร์ไม่เคยเจอใครใจดีกับเธอเช่นนี้มาก่อนแม้ว่าลูคัส ฌองจะพูดอยู่เสมอว่าเขาอยากจะแต่งงานกับเธอ แต่เขาก็ไม่เคยบอกให้เธอค้นหาความจริงและไม่เคยให้คำอธิบายอะไรกับเธอเลยในขณะนั้น ไคท์จับข้อมือของฮาร์วีย์โดยไม่รู้ตัวและกระซิบว่า “ฮาร์วีย์ หยุดพูดอะไรไร้สาระน่า!”คอนนี่ บรีและคนอื่น ๆ มองไปที่ฮาร์วีย์ พวกเขาต่างตกตะลึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะเป็นศัตรูของพวกเขา และพวกเขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ แต่ก็ยังต้องยอมรับว่าฮาร์วีย์นั้นมีเสน่
“ซ่อน?”ฮาร์วีย์ยอร์กยิ้มอย่างเหมือนเฉย“สำหรับคุณแล้ว สิ่งนี้แสดงถึงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่สำหรับผม มันไม่มีค่าอะไรสักนิด“ถ้าคุณอยากได้ ผมจะขายให้คุณ“แต่ตอนนี้ราคาได้เพิ่มขึ้นเป็นสามพันสองร้อยล้านดอลลาร์แล้ว!”ฮาร์วีย์กางนิ้วออก“ข้อตกลงยังเหมือนเดิม ให้คำอธิบายเรื่องแม่ของไคท์ วอล์คเกอร์แล้วผมจะให้สิ่งนี้แก่คุณ!”จัสติน วอล์คเกอร์หายใจกระชั้น เขาพยายามไขว่คว้าสิ่งนี้มาหลายครั้ง แต่เขารู้ดีว่าเขาอาจจะไม่สามารถคว้ามันมาได้เนื่องจากทักษะของฮาร์วีย์ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดหรอก แม้ว่าเขาจะเป็นจัสติน วอล์คเกอร์ เขาก็อาจจะรักษามันไว้ไม่ได้ความคิดนับพันแวบเข้ามาในใจของจัสตินในขณะนั้นเขาหยิบแก้วไวน์แดงขึ้นจิบอย่างใจเย็น ก่อนจะมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างอ่อนโยน “โบราณว่าไว้ว่าสาวงามล่มเมืองได้ ฉันไม่เชื่อคำโบราณพวกนั้นเลย“แต่วันนี้ฉันเชื่อ!“ฮาร์วีย์ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณได้รับสัญลักษณ์นี้มาจากไหน แต่ฉันก็ไม่ต้องการรู้หรอก…“ขอบอกเลยว่าสัญลักษณ์นี้แสดงถึงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ในมอร์ดู!“นั่นหมายความว่าสาวกของหลงเหมินในมอร์ดูจะยอมตายเพื่อคุณ!“แต่คุณกลับเต็มใจที่จะม