“ใช่ค่ะ คุณยอร์ก!”ราเชลนึกอะไรบางอย่างออก“นอกจากนี้ รถสองคันที่ไล่ตามคุณบนถนนเลียบชายฝั่งเมื่อครู่ไม่ใช่ของตระกูลวอล์คเกอร์”“พวกนั้นเป็นคนของลูคัส“หลังจากได้ยินว่าพวกนั้นตกลงไปในทะเล เขาก็โกรธและส่งเลอบรอนมาจัดการกับคุณ“ออกนอกบ้านช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เลอบรอนไม่ใช่คนธรรมดา”“เลอบรอน?”ฮาร์วีย์ค่อนข้างสนใจชายคนนี้"เขาเป็นใคร?"“เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นนักแม่นปืนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษแห่งอเมริกา เขาเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนทุกประเภท!“หลังจากที่เขาออกจากกองทัพ ลูคัสก็จ้างให้เขามาจัดการกับปัญหาในราคาแพงลิ่ว“เลอบรอนมีใบอนุญาตทางการทูต แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา ลูคัสก็จะไม่ถูกลากเข้าไปเอี่ยวด้วย“ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีผู้คนตายด้วยน้ำมือของเลอบรอนนับไม่ถ้วน”ฮาร์วีย์ครุ่นคิดถึงคำพูดของเธอ จากนั้นเขาก็ถามว่า “เลอบรอนไม่ใช่ชื่อจริงของเขาใช่ไหม?”ราเชลตอบว่า “ค่ะ นั่นเป็นเพียงสมญานามของเขา สำหรับชื่อจริงของเขานั้นไม่มีใครรู้ว่าเขาชื่ออะไรกันแน่“ฉันจะให้คนคอยสืบหาที่อยู่ของเขา ฉันจะรายงานให้คุณทราบทันทีที่มีข้อมูลเพิ่มเติม”ฮาร์วีย์พยักหน้า ในขณะที่เขากำลังจะพ
ฮาร์วีย์รู้สึกผ่อนคลายและโล่งใจในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องดีที่เลอบรอนปรากฏตัวก่อนที่ฮาร์วีย์จะไปถึงเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอ หากมีซีนเธียร์อยู่ใกล้ ๆ เขาจะไม่สามารถแสดงฝีมือได้เต็มที่แต่เมื่อมองไปอีกมุม บางทีศัตรูของเขาอาจเตรียมการอะไรมากมายจนทำให้ซีนเธียร์ต้องถ่ายทำกลางดึกเพราะอย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องบังเอิญมากเกินไปฮาร์วีย์ไม่กลัวปืน แต่เขากังวลเรื่องซีนเธียร์ ก่อนหน้านี้เขาได้ส่งไทสันและคนของเขาอีกสองสามคนให้ไปคุ้มครองเธอ“คุณดูจองหองเหลือเกินนะ พ่อหนุ่ม…”เลอบรอนสงบและสำรวม“ในเมื่อคุณยอมรับว่าฆ่าพี่น้องของผม มันก็ง่ายกับผมขึ้นแล้ว”“คุณยินยอมที่จะจบชีวิตตัวเองไหม? หรือคุณอยากให้ผมเลาะผิวหนังของคุณออกทีละชิ้นหลังจากหักแขนขาของคุณทั้งหมดแล้ว”“ผมขอแนะนำให้คุณเลือกอย่างแรก ตายแบบไม่ทรมานน่ะดีที่สุดแล้ว”ฮาร์วีย์หรี่ตา เขาพูดจาโยกโย้ออกไปว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็จะให้คุณเลือกสองทางเหมือนกัน”“อย่างแรก คุกเข่าและร้องขอความเมตตาซะ”“อย่างที่สอง ตาย”เวลาเป็นสิ่งสำคัญ และฮาร์วีย์ก็ไม่ได้มีเวลาสำหรับเรื่องไร้สาระกับเลอบรอน“ดูเหมือนคุณจะเป็นพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงสินะ”เ
คราวนี้ฮาร์วีย์ไม่หลบกระสุน เขายืนนิ่งและโยนกรวดที่เขากำไว้เมื่อสักครู่ตู้ม ตู้ม ตู้ม!ก้อนกรวดกระเด็นออกไปตามวิถีกระสุนราวกับฮาร์วีย์รู้ว่าพวกมันถูกเล็งไปยังที่ใด มันพุ่งเข้าใส่กระสุนได้อย่างพอดิบพอดีเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่กระสุนจะเข้าถึงตัวฮาร์วีย์ พวกมันก็ระเบิดขึ้นเสียก่อนสีหน้าของเลอบรอนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็น เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะคาดเดาวิถีการโจมตีของเขาได้เลอบรอนตวัดปืนและยิงอีกครั้งปึก ปึก ปึก!ฮาร์วีย์เร็วมาก เขาขว้างกรวดใส่กระสุนอีกครั้งกระสุนแตกตัวออกทันทีที่สัมผัสกับกรวด ถึงตอนนี้เลอบรอนเหลือกระสุนบนเข็มขัดเพียงครึ่งเดียววี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ!ไซเรนตำรวจที่ดังเสียดหูดังขึ้นในขณะนี้ มีคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่และได้โทรแจ้งตำรวจเลอบรอนหยุดโจมตีและถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างช้า ๆ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณโชคดี หนุ่มน้อย ไม่เลวเลยล่ะ”“น่าเสียดายที่คุณทำให้เจ้าชายไม่พอใจ”“นี่แค่เรียกน้ำย่อย”“ในไม่ช้า คุณจะเข้าใจว่าปืนไรเฟิลซุ่มยิงของผมดีกว่าของเล่นแบบนี้มาก”“อีกสามวัน ผมจะมาเอาหัวคุณไป!”“คุณควรทำความสะอาดคอโสโครกของคุณให้ดีเสีย
ซีนเธียร์มองไปรอบ ๆ อย่างกระสับกระส่าย รอยยิ้มของเธอค่อนข้างเหือดแห้ง ผู้กำกับเฟร็ด มิลเลอร์กำลังยืนอยู่ข้างสเตซี่ในขณะที่ทีมแพทย์ที่เพิ่งมาถึงกำลังรักษาเธอสเตซี่เป็นลมหมดสติไปหลังจากที่ศีรษะของเธอได้รับบาดเจ็บจากม่านที่ตกลงมา แม้ว่าแพทย์จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปแล้ว แต่สเตซี่ยังต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในภายหลังอยู่ดีภาพที่เห็นทำให้ซีนเธียร์หวาดกลัว เธอไม่ใช่นักแสดงที่มีชื่อเสียงอะไร และผู้คนคงไม่ปฏิบัติกับเธอเหมือนสเตซี่ หากเธอประสบอุบัติเหตุแบบเดียวกัน เธออาจจะเลือดออกหมดตัวก่อนที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ “สเตซี่ เกิดอะไรขึ้น! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ?"ชายพุงพลุ้ยในชุดสูทพร้อมกับสาว ๆ สองสามคนก้าวเข้ามาข้างในอย่างรีบร้อน ความวิตกกังวล ฉายชัดบนใบหน้าของเขาทันทีที่เห็นสภาพของสเตซี่ ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่งผู้อำนวยการมิลเลอร์รีบวิ่งไปต้อนรับชายคนนั้นทันที พร้อมกับตะโกนว่า “ซีอีโอคีตัน!”“ผู้ชายคนนั้นคือสามีของสเตซี่ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นซีอีโอของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้ชัดว่าเขาแก่กว่าสเตซี่ราวยี่สิบปีได้! เขามีโครงการที่แฟรเกรินท์ ฮิลล์และค่อนข้างร่ำรวยด้วย”“
ซีนเธียร์ตัวแข็ง วินาทีต่อมา เธอพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “คุณคีตัน ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย!“ตอนที่ม่านร่วงลงมาฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลย! ฉันเองก็กลัว!“ฉันก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน! ฉันก็ไม่ได้ใช้สเตซี่เป็นเกราะกำบังเสียหน่อย!“คุณมากล่าวหาฉันแบบนั้นไม่ได้นะ!”เซธตอบอย่างเย็นชา “ฉันกล่าวหาเธอเหรอ? ระหว่างผู้อำนวยการมิลเลอร์กับคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเธอ เธอคิดว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่ากัน?“ถึงเธอไม่ผลักสเตซี่ ทำไมเธอไม่ช่วยกันม่านให้หล่อนล่ะ?“เธอเป็นนักแสดงนำหญิงของหนังเรื่องนี้! ในฐานะตัวประกอบ เธอก็ควรจะปกป้องสเตซี่ไม่ใช่เหรอ?“แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนร้าย แต่เธอก็แค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ ในขณะที่สเตซี่กำลังตกอยู่ในอันตราย“อธิบายตัวเองมาสิ!ด้วยความโกรธ ซีนเธียร์เริ่มหัวเราะ"คุณคีตัน! ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น คุณก็ควรเข้าใจสิว่าฉันไม่เคยผลักสเตซี่?“จะให้มาปกป้องเธองั้นเหรอ? ฉันไม่ใช่บอดี้การ์ดของเธอเสียหน่อย! ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ฉันจะทำอะไรได้?“อยากให้ฉันยืนตรงนั้นแล้วถูกโจมตีแทนเธองั้นเหรอ?“ฉันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสเตซี่ แต่อุบัติเหตุนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!“ไม่ว่า
ในที่สุดซีนเธียร์ก็เข้าใจว่าทำไมเซธถึงหาเรื่องเธอเธอกัดฟันและตอบว่า “ฉันจะไม่ทำอะไรสักอย่าง! อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!”เพี๊ยะ!เซธตบหน้าซีนเธียร์อีกครั้ง“ฉันบอกว่าเกี่ยวมันก็ต้องเกี่ยวสิ!“เธอเป็นแค่นักแสดงหางแถว! กล้าดียังไงมาเถียงฉันฉอด ๆ!”เซธหัวเราะอย่างเย็นชา เขาเป็นหนึ่งในเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของมอร์ดู คือคลองทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์เขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลโฮลท์อีกด้วย ถ้าเขาต้องการ เขาจะนอนกับดาราคนไหนก็ได้ในวงการบันเทิงนี้ถึงกระนั้นตัวประกอบหางแถวกลับกล้าที่จะต่อต้านเขา"ดี! ในเมื่อเธอไม่เลือก งั้นฉันจะเลือกให้!”เซธกระชากผมของซีนเธียร์แล้วลากเธอเข้าไปในห้องด้านข้าง“ฉันจะให้เธอปรนเปรอให้ฉันเป็นอย่างดี จากนั้นเธอจะต้องคุกเข่าต่อหน้าภรรยาของฉันอีกด้วย!”ซีนเธียร์จะยอมรับเงื่อนไขเหล่านั้นได้อย่างไร?เธอเริ่มดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง“ฉันจะแจ้งตำรวจ!“ฉันไม่เชื่อว่าโลกนี้จะไม่หลงเหลือความยุติธรรม!“ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะพูดอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการโดยไม่มีหลักฐาน!”ซีนเธียร์พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง และผลักไสเซธออกไป“ฉันจะ
“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย!“สเตซี่โชคร้าย!“ผู้อำนวยการมิลเลอร์แค่ต้องการหาคนที่จะด้วยความผิดให้ และซีอีโอคีตันก็ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด! พวกเขาโกรธซีนเธียร์เพราะเรื่องแบบ!“ซีอีโอคีตันไม่ใช่มนุษย์นั้นด้วยซ้ำ! เขาวางแผนใส่ร้ายซีนเธียร์อยู่ตลอด!”สาว ๆ ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป และเริ่มอธิบายทุกอย่างให้ฮาร์วีย์ฟังอย่างรวดเร็วพวกเธอยังบอกกับฮาร์วีย์ว่าเซธเกือบจะล่วงเกินซีนเธียร์ไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยใจเด็ดของซีนเธียร์ เธอคงอยู่ในสภาพที่แย่กว่านี้มากในตอนแรกฮาร์วีย์โกรธมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สงบลงเขาเข้าใจและได้แทบจะทันทีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการจัดฉากขึ้นเพื่อเล่นงานซีนเธียร์สเตซี่ได้รับบาดเจ็บและความรุนแรงของเซธต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนทั้งหมดแต่ไม่ว่าใครเป็นตัวต้นเรื่อง เซธและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยังต้องถูกลงโทษสำหรับการกระทำของพวกเขาอยู่ดีก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร เจ้าหน้าที่หญิงของสถานพยาบาลก็จ้องมองตวาดเหวใส่สาว ๆ“พวกนักแสดงโสโครก! กล้าวิจารณ์ผู้อำนวยการมิลเลอร์และซีอีโอคีตันได้ยังไง?!“หลังจากที่ฉันบอกทุกอย่างที่พวกเธอพูดให้เขาทั้งสองคนฟัง
เมื่อประตูรถถูกเปิดออกก็เผยให้เห็นผู้ตรวจการในเครื่องแบบจำนวนหนึ่งโหลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนรอบ ๆ สถานที่พยายามขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ผู้ตรวจการที่เป็นผู้นำกลุ่มได้เตะพวกเขาลงไปกองที่พื้นจากนั้นพวกเขาก็เดินตรงไปยังสถานพยาบาลอย่างเป็นระเบียบ ผู้ตรวจการที่นำกลุ่มทำความเคารพต่อฮาร์วีย์ “คุณยอร์ก! ผมเจย์ บอร์น สารวัตรสถานีตำรวจมอร์ดูจากเขตเฮงเดียน คุณลินช์ได้โทรหาผมก่อนหน้านี้”“โปรดสั่งมาได้เลย!”“เราจะทำสิ่งต่าง ๆ ตามกฎหมายอย่างแน่นอน!”พนักงานสาวสั่นเล็กน้อยเมื่อได้เห็นผู้ตรวจการอาวุธครบมือปรากฏตัวขึ้น ความหยิ่งผยองของเธอมลายหายไปสิ้นเธอไม่คาดคิดว่าตำรวจจากเขตเฮงเดียนจะปรากฏตัวที่นี่เพียงเพราะฮาร์วีย์เรียกหา“โทรศัพท์แอปเปิลของซีนเธียร์ กระเป๋าแอร์เมส นาฬิกาคาเทียร์ แหวนและเงินก็หายไปด้วย… เหนือสิ่งอื่นใด”ก่อนหน้านี้ฮาร์วีย์ได้ถามสาว ๆ เกี่ยวกับของที่หายไปของซีนเธียร์และยังถามด้วยใครเป็นคนเอาไป“หาของพวกนั้นนั้นให้เจอ”“จับกุมหัวขโมยและจัดการกับพวกเขาตามกฎหมาย”ฮาร์วีย์ชี้ไปที่พนักงานผู้สูงส่งและเย่อหยิ่งแล้วพูดอย่างใจเย็น “นี่ก็คนหนึ่ง เธอขโมยโทรศัพท์”หางตาต