ซีนเธียร์มองไปรอบ ๆ อย่างกระสับกระส่าย รอยยิ้มของเธอค่อนข้างเหือดแห้ง ผู้กำกับเฟร็ด มิลเลอร์กำลังยืนอยู่ข้างสเตซี่ในขณะที่ทีมแพทย์ที่เพิ่งมาถึงกำลังรักษาเธอสเตซี่เป็นลมหมดสติไปหลังจากที่ศีรษะของเธอได้รับบาดเจ็บจากม่านที่ตกลงมา แม้ว่าแพทย์จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปแล้ว แต่สเตซี่ยังต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในภายหลังอยู่ดีภาพที่เห็นทำให้ซีนเธียร์หวาดกลัว เธอไม่ใช่นักแสดงที่มีชื่อเสียงอะไร และผู้คนคงไม่ปฏิบัติกับเธอเหมือนสเตซี่ หากเธอประสบอุบัติเหตุแบบเดียวกัน เธออาจจะเลือดออกหมดตัวก่อนที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ “สเตซี่ เกิดอะไรขึ้น! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ?"ชายพุงพลุ้ยในชุดสูทพร้อมกับสาว ๆ สองสามคนก้าวเข้ามาข้างในอย่างรีบร้อน ความวิตกกังวล ฉายชัดบนใบหน้าของเขาทันทีที่เห็นสภาพของสเตซี่ ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่งผู้อำนวยการมิลเลอร์รีบวิ่งไปต้อนรับชายคนนั้นทันที พร้อมกับตะโกนว่า “ซีอีโอคีตัน!”“ผู้ชายคนนั้นคือสามีของสเตซี่ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นซีอีโอของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้ชัดว่าเขาแก่กว่าสเตซี่ราวยี่สิบปีได้! เขามีโครงการที่แฟรเกรินท์ ฮิลล์และค่อนข้างร่ำรวยด้วย”“
ซีนเธียร์ตัวแข็ง วินาทีต่อมา เธอพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “คุณคีตัน ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย!“ตอนที่ม่านร่วงลงมาฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลย! ฉันเองก็กลัว!“ฉันก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน! ฉันก็ไม่ได้ใช้สเตซี่เป็นเกราะกำบังเสียหน่อย!“คุณมากล่าวหาฉันแบบนั้นไม่ได้นะ!”เซธตอบอย่างเย็นชา “ฉันกล่าวหาเธอเหรอ? ระหว่างผู้อำนวยการมิลเลอร์กับคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเธอ เธอคิดว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่ากัน?“ถึงเธอไม่ผลักสเตซี่ ทำไมเธอไม่ช่วยกันม่านให้หล่อนล่ะ?“เธอเป็นนักแสดงนำหญิงของหนังเรื่องนี้! ในฐานะตัวประกอบ เธอก็ควรจะปกป้องสเตซี่ไม่ใช่เหรอ?“แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนร้าย แต่เธอก็แค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ ในขณะที่สเตซี่กำลังตกอยู่ในอันตราย“อธิบายตัวเองมาสิ!ด้วยความโกรธ ซีนเธียร์เริ่มหัวเราะ"คุณคีตัน! ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น คุณก็ควรเข้าใจสิว่าฉันไม่เคยผลักสเตซี่?“จะให้มาปกป้องเธองั้นเหรอ? ฉันไม่ใช่บอดี้การ์ดของเธอเสียหน่อย! ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ฉันจะทำอะไรได้?“อยากให้ฉันยืนตรงนั้นแล้วถูกโจมตีแทนเธองั้นเหรอ?“ฉันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสเตซี่ แต่อุบัติเหตุนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!“ไม่ว่า
ในที่สุดซีนเธียร์ก็เข้าใจว่าทำไมเซธถึงหาเรื่องเธอเธอกัดฟันและตอบว่า “ฉันจะไม่ทำอะไรสักอย่าง! อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!”เพี๊ยะ!เซธตบหน้าซีนเธียร์อีกครั้ง“ฉันบอกว่าเกี่ยวมันก็ต้องเกี่ยวสิ!“เธอเป็นแค่นักแสดงหางแถว! กล้าดียังไงมาเถียงฉันฉอด ๆ!”เซธหัวเราะอย่างเย็นชา เขาเป็นหนึ่งในเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของมอร์ดู คือคลองทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์เขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลโฮลท์อีกด้วย ถ้าเขาต้องการ เขาจะนอนกับดาราคนไหนก็ได้ในวงการบันเทิงนี้ถึงกระนั้นตัวประกอบหางแถวกลับกล้าที่จะต่อต้านเขา"ดี! ในเมื่อเธอไม่เลือก งั้นฉันจะเลือกให้!”เซธกระชากผมของซีนเธียร์แล้วลากเธอเข้าไปในห้องด้านข้าง“ฉันจะให้เธอปรนเปรอให้ฉันเป็นอย่างดี จากนั้นเธอจะต้องคุกเข่าต่อหน้าภรรยาของฉันอีกด้วย!”ซีนเธียร์จะยอมรับเงื่อนไขเหล่านั้นได้อย่างไร?เธอเริ่มดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง“ฉันจะแจ้งตำรวจ!“ฉันไม่เชื่อว่าโลกนี้จะไม่หลงเหลือความยุติธรรม!“ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะพูดอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการโดยไม่มีหลักฐาน!”ซีนเธียร์พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง และผลักไสเซธออกไป“ฉันจะ
“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย!“สเตซี่โชคร้าย!“ผู้อำนวยการมิลเลอร์แค่ต้องการหาคนที่จะด้วยความผิดให้ และซีอีโอคีตันก็ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด! พวกเขาโกรธซีนเธียร์เพราะเรื่องแบบ!“ซีอีโอคีตันไม่ใช่มนุษย์นั้นด้วยซ้ำ! เขาวางแผนใส่ร้ายซีนเธียร์อยู่ตลอด!”สาว ๆ ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป และเริ่มอธิบายทุกอย่างให้ฮาร์วีย์ฟังอย่างรวดเร็วพวกเธอยังบอกกับฮาร์วีย์ว่าเซธเกือบจะล่วงเกินซีนเธียร์ไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยใจเด็ดของซีนเธียร์ เธอคงอยู่ในสภาพที่แย่กว่านี้มากในตอนแรกฮาร์วีย์โกรธมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สงบลงเขาเข้าใจและได้แทบจะทันทีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการจัดฉากขึ้นเพื่อเล่นงานซีนเธียร์สเตซี่ได้รับบาดเจ็บและความรุนแรงของเซธต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนทั้งหมดแต่ไม่ว่าใครเป็นตัวต้นเรื่อง เซธและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยังต้องถูกลงโทษสำหรับการกระทำของพวกเขาอยู่ดีก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร เจ้าหน้าที่หญิงของสถานพยาบาลก็จ้องมองตวาดเหวใส่สาว ๆ“พวกนักแสดงโสโครก! กล้าวิจารณ์ผู้อำนวยการมิลเลอร์และซีอีโอคีตันได้ยังไง?!“หลังจากที่ฉันบอกทุกอย่างที่พวกเธอพูดให้เขาทั้งสองคนฟัง
เมื่อประตูรถถูกเปิดออกก็เผยให้เห็นผู้ตรวจการในเครื่องแบบจำนวนหนึ่งโหลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนรอบ ๆ สถานที่พยายามขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ผู้ตรวจการที่เป็นผู้นำกลุ่มได้เตะพวกเขาลงไปกองที่พื้นจากนั้นพวกเขาก็เดินตรงไปยังสถานพยาบาลอย่างเป็นระเบียบ ผู้ตรวจการที่นำกลุ่มทำความเคารพต่อฮาร์วีย์ “คุณยอร์ก! ผมเจย์ บอร์น สารวัตรสถานีตำรวจมอร์ดูจากเขตเฮงเดียน คุณลินช์ได้โทรหาผมก่อนหน้านี้”“โปรดสั่งมาได้เลย!”“เราจะทำสิ่งต่าง ๆ ตามกฎหมายอย่างแน่นอน!”พนักงานสาวสั่นเล็กน้อยเมื่อได้เห็นผู้ตรวจการอาวุธครบมือปรากฏตัวขึ้น ความหยิ่งผยองของเธอมลายหายไปสิ้นเธอไม่คาดคิดว่าตำรวจจากเขตเฮงเดียนจะปรากฏตัวที่นี่เพียงเพราะฮาร์วีย์เรียกหา“โทรศัพท์แอปเปิลของซีนเธียร์ กระเป๋าแอร์เมส นาฬิกาคาเทียร์ แหวนและเงินก็หายไปด้วย… เหนือสิ่งอื่นใด”ก่อนหน้านี้ฮาร์วีย์ได้ถามสาว ๆ เกี่ยวกับของที่หายไปของซีนเธียร์และยังถามด้วยใครเป็นคนเอาไป“หาของพวกนั้นนั้นให้เจอ”“จับกุมหัวขโมยและจัดการกับพวกเขาตามกฎหมาย”ฮาร์วีย์ชี้ไปที่พนักงานผู้สูงส่งและเย่อหยิ่งแล้วพูดอย่างใจเย็น “นี่ก็คนหนึ่ง เธอขโมยโทรศัพท์”หางตาต
เฟร็ดหยิ่งผยองอย่างมากเขาไม่เพียงแต่เป็นผู้กำกับเท่านั้น แต่เขายังมาจากฮ่องกงอีกด้วย บ่อยครั้งที่เขากอบกุมอำนาจสำคัญในประเทศ H และแม้แต่ตำรวจก็ไม่กล้าแตะต้องเขาด้วยเหตุนี้ เขาจึงมั่นใจว่าเขาจะสามารถเหยียบย่ำเหล่าข้าราชการที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาได้“คุณเป็นผู้กำกับเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น“ถูกต้องแล้ว! คุณคือ…?"เพี๊ยะ!ก่อนที่เฟร็ดจะพูดจบ ฮาร์วีย์ก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วตบหน้าเขาอย่างแรงแค่ตบธรรมดา ๆ ใบหน้าของเฟร็ดก็บิดเบี้ยวและบวมเป่งเสียแล้วเฟร็ดตัวแข็งทื่อและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เขายกมือขึ้นกว่ากุมใบหน้าและกรีดร้อง “ไอ้ส*รเลว! กล้าดียังไงมาตบฉัน?!“แกไม่รู้จักความตายงั้นสินะ?!”ผู้ติดตามข้างหลังเขากำลังเดือดดาล“รู้หรือเปล่าว่าที่นี่ที่ไหน? ไอ้ส*รเลว! กล้าดียังไงมาตบคนที่นี่?!“แกคิดว่าฉันจะจัดการแกไม่ได้หรือไง!“ผู้กำกับมิลเลอร์เป็นชนชั้นสูง แกกล้าดียังไงมาตบเขา? แกจบเห่แน่!”ฝูงชนที่ติดตามพุ่งขึ้นด้วยความโกรธในขณะที่ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าอย่างเมินเฉยเพี๊ยะ!“ผมจะตบแล้วมันจะทำไมล่ะ?!“คุณนี่ช่างสูงส่งจริง ๆ จะสอนให้ผมรู้จักความตายงั้นเหรอ! มาเลยสิ! มาสอนห
เฟร็ดตัวแข็ง เขากัดฟันและโทรออกอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที ก็จะได้ยินเสียงส้นสูงกระทบพื้นดังมาจากทางเข้า หญิงสาวสวยที่มีเรือนร่างน่าหลงใหลและการแต่งหน้าที่ประณีตงดงามก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับผู้คุ้มกันของเธอผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูง ท่าทางของเธอทั้งเย็นชาและหยิ่งยโส “เฟร็ด ฉันได้ยินมาว่ามีคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สุดสร้างปัญหาในเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอ“มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับความยุติธรรม นายน้อยฟลินน์ขอให้ฉันไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ด้วยตัวเอ“ฉันอยากจะรู้นะว่าใครในมอร์ดูที่กล้าจะต่อกรกับนายน้อยฟลินน์?!”ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่ม่ายดำ เฟย์ ก็อดดาร์ดนั่นเองไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะปรากฏตัวในมอร์ดูหลังจากถูกไล่ตะเพิดออกจากบัควู้ด และเธอยังคงทำงานให้กับแมทธิว ชายผู้เป็นผู้นำของสี่นายน้อยแห่งฮ่องกงเธอกอดอกและเดินตรงไปที่กลางห้อง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์นั่งอยู่ในบริเวณที่แสงส่องไม่ถึง ดังนั้นเฟย์จึงไม่สามารถมองหน้าเขาได้ชัดเจนเธอเย่อหยิ่ง จองหอง และอหังการ“ใครกันที่มาก่อปัญหาที่นี่ เฟร็ด? เขาต้องเป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งยโสน่าดู!
ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าอย่างไม่ยี่หระและตบหน้าเฟย์เบา ๆ เขาถามอย่างใจเย็นว่า “เธอคือผู้สนับสนุนของเฟร็ดใช่ไหม?”“ช ใช่… ไม่…”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงมือของเขาใส่หน้าเฟย์อย่างเกรี้ยวกราดและตวาดว่า “พูดให้มันดัง ๆ ! ไม่ได้กินข้าวมาหรือไง?”"ไม่ค่ะ!"เฟย์ตัวสั่นเมื่อดึงสติกลับคืนมาได้ เธอคุกเข่าลงกับพื้น และหวาดกลัวอย่างไร้สติ“คุณยอร์ก ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนี้!”'คุณยอร์ก?!'ฝูงชนตะลึงเมื่อได้ยินว่าเธอพูดกับฮาร์วีย์สุภาพเพียงใดไม่มีใครคาดคิดว่าผู้หญิงที่ดุร้ายและจองหองอย่างเฟย์จะคุกเข่าต่อหน้าฮาร์วีย์ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอเรียกเขาว่าคุณยอร์ก!นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!“เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยหรอ?”“แล้วมาทำอะไรที่นี่?” ฮาร์วีย์ถามอีกครั้ง“ฉันมาที่นี่เพื่อทักทายคุณด้วยตัวเองค่ะ คุณยอร์ก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้… ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย…!”เฟย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่แรกชายคนตรงหน้าเธอนี้กล้าเตะแมทธิวจนกระเด็น เป็นที่แน่ชัดว่าสำหรับเขาแล้วเธอก็ไม่ต่างอะไรจากเหลือบไร!ต่อหน้าชายผู้นี้ เธอเทียบกับหมาจรจัดยังไม่ได้เลย!“ฉันบอกใ