ผู้อาวุโสซิมเมอร์กล่าวต่อ “ใช่ ฮาร์วีย์เป็นลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ แน่นอนว่าเขาต้องยกทรัพย์สินทั้งหมดให้เรา!”แมนดี้หมดคำจะพูด เธอไม่รู้ว่าลิเลียนกลับไปยุ่งเกี่ยวกับผู้อาวุโสซิมเมอร์อีกครั้งได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาสองคนยังร่วมมือกันเล่นงานเสียจนทุกคนพูดไม่ออก“แมนดี้ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เราต้องคุยกันให้กระจ่าง”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า มองผู้อาวุโสซิมเมอร์และลิเลียน ห่แนประกาศอย่างเย็นชาว่า “สกาย คอร์ปอเรชั่น มีมูลค่าหลายแสนล้านเหรียญ แต่นั่นมันทรัพย์สินของผม และผมจะไม่ให้เงินพวกคุณสักแดง!”“อีกอย่าง แน่ใจหรือว่าอยากทรัพย์สินของผม?”“ตอนนี้สกาย คอร์ปอเรชั่นถูกตระกูลใหญ่สี่ตระกูลของฮ่องกงและสตาร์ แชโบลจากประเทศ J คว่ำบาตร”“คุณไม่กลัวหรือว่าหากคุณได้ทรัพย์สินเหล่านี้ไปราคาหุ้นจะดิ่งลงจนติดลบ?”ลิเลียนผงะไปครู่หนึ่ง วินาทีต่อมาใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปจริงด้วย!สกาย คอร์ปอเรชั่นตกเป็นเป้าหมายของคนตั้งมากมาย มันอาจล้มละลายได้ทุกเมื่อหากเธอหรือผู้อาวุโสซิมเมอร์ฉกฉวยทรัพย์สินของสกาย คอร์ปอเรชั่นมาในตอนนี้ พวกเขาอาจจะต้องเผชิญกับสภาวะล้มละลายอย่างแน่นอนใบหน้าของผู้อา
ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ตอบคำถาม เขาเอาแต่ขับไล่ฮาร์วีย์ราวกับว่าฮาร์วีย์เป็นโรคระบาดเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรมากกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฌองแห่งมอร์ดูนั้นน่าขยะแขยง แต่ในตอนนี้สี่ตระกูลใหญ่แห่งฮ่องกงกับสตาร์ แชโบลแห่งประเทศ J คือตัวปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสี่ตระกูลใหญ่แห่งฮ่องกงและสตาร์แชโบลต่างก็เป็นยักษ์ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ทุกคนควรวิเคราะห์ถึงผลที่จะตามมาของการที่พวกเขามาร่วมหัวจมท้ายด้วยกันอย่างรอบคอบแม้แต่ตระกูลไนส์เวลล์ที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะสนับสนุนฮาร์วีย์ยังมีท่าทีคลุมเครือให้เขาเห็นหลังออกจากเดอะ การ์เด้น เรสซิเด้นท์แล้ว ฮาร์วีย์ก็โทรหาอีวอนน์"มีสองอย่างที่คุณต้องทำ อย่างแรก หารายชื่อของทุกคนที่ขึ้นคว่ำบาตรเรา”“อย่างที่สอง ประกาศออกไปว่าใครก็ตามที่ต่อต้านสกาย คอร์ปอเรชั่นจะถูกเราคว่ำบาตรในอนาคต”“อย่าได้ให้พวกเขาหวังว่าจะได้เงินลงทุนจากสกาย คอร์ปอเรชั่นแม้แต่สตางค์แดงเดียว”***"ฮ่าฮ่าฮ่า…!"เวลาสามทุ่ม ในบ้านคฤหาสน์ประจำตระกูลเยตส์ในบัควู้ด ท่ามกลางกำแพงที่เหลือรอดจากการผุพังอยู่ไม่กี่จุด...ผมของคุณย่าเยตส์กระเซอะกระเซิง และร่างกายของเธอมีก
“ถ้านายน้อยฟลินน์มีส่วนร่วมในการเหยียบย่ำเจ้าเด็กอกตัญญูคนนี้ให้จมดินได้ก็คงจะดี!”คุณย่าเยตส์ตั้งหน้าตั้งตารอ “หากเวลานั้นมาถึง เราต้องหาทางที่จะเอาทรัพย์สินหลายแสนล้านของเขามา!”“คีธ รีบคิดหาทางซะ ติดต่อกับลิเลียนและบอกเธอว่าเธอต้องจัดการแมนดี้ก่อน!”“เขาสองคนเป็นสามีภรรยาที่ยังไม่ได้หย่าร้างกัน หากฮาร์วีย์ตาย ทรัพย์สินก็จะตกไปอยู่ในมือของแมนดี้!”“ถ้าเราได้แมนดี้มาอยู่ฝ่ายเรา ทรัพย์สินเหล่านั้นก็จะตกเป็นของเราด้วย!”ฟินน์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณย่าเยตส์ พวกเราอย่าวู่วามเกินไปจะดีกว่า ตอนนี้ตระกูลเยตส์ของเราไม่ได้ดีอย่างเมื่อก่อน เราจะทำอะไรหุนหันพลันแล่นไม่ได้”“เราควรรอจนถึงวันที่สกาย คอร์ปอเรชั่นจะเข้าสู่ตลาดหุ้น เราจะไปชมการแสดงอันแสนงดงามที่นั่น!”“ถึงเวลานั้นเราก็ค่อยตัดสินใจ!”“หากเขาถูกบดขยี้จริง ๆ ก็ไม่สายเกินไปที่เราจะยึดทรัพย์สินของเขามา!”คุณย่าเยตส์สวนขึ้น “ไม่ ฉันเกรงว่ามันจะไม่ทันการ เราต้องเตรียมการล่วงหน้าไว้”“ ฉันแน่ใจว่าคราวนี้ฮาร์วีย์ต้องพ่ายแพ้!”“หากเขาเป็นเจ้าชายยอร์กแห่งสกาย คอร์ปอเรชั่นจริง ๆ ทำไมเขาถึงไปกระตุกหนวดเสือตระกูลระดับสูงมาก
“เรียนคุณยอร์ก ตอนนี้สกาย คอร์ปอเรชั่น ในชื่อของคุณได้รับการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว สามารถซื้อขายหุ้นในกระดานได้แล้วค่ะ!”“เวลาบ่ายสามโมงตลาดหุ้นจะปิดการซื้อขาย นั่นจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าทรัพย์สินของบริษัทคุณค่ะ”“หากหุ้นของคุณติดลบ บริษัทของคุณจะล้มละลาย และเงินสดสามพันล้านในบัญชีที่ถูกระงับไว้ชั่วคราวจะถูกนำไปชดเชยให้กับเหล่านักลงทุนนะคะ”ตู๊ด…การโทรสิ้นสุดลงรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าของฮาร์วีย์ “บริษัทเข้าตลาดหุ้นในวันนี้ด้วยราคาหุ้นละ 50 เหรียญหากตลาดหุ้นปิดการซื้อขายในช่วงบ่ายที่ราคา 100 เหรียญ สินทรัพย์ของสกาย คอร์ปอเรชั่นก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”“แต่ถ้ามันต่ำกว่าราคาหุ้นเดิม เราก็จะไม่เหลืออะไรเลย”หลังจากได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์พูด อีวอนน์และคนอื่น ๆ ต่างพากันหัวเราะเรย์เปิดโทรศัพท์แล้วถ่ายทอดสดกระดานซื้อขายหุ้นบนจอที่ล็อบบี้ ทุกคนกลั้นหายใจขณะที่มองไปที่กากบาทที่ยังงอยู่ในสภาพนิ่งเก้าโมงสี่สิบ…ตลาดเริ่มที่มีการเคลื่อนไหวฮาร์วีย์จ้องมองไปที่กากบาทบนหน้าจอ สีหน้าของเขาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์อีวอนน์มอบค้อนทองเหลืองให้ฮาร์วีย์ “ท่านซีอีโอยอร์ก ได้เวลาตีฆ้องแล้วค่ะ!”ฮาร์
"โอ้? บริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วเหรอ?”ทันใดนั้นก็มีรถอีกคันออกมาจากตรอก ประตูรถถกเปิดออกเผยให้เห็นร่างที่หลายคนไม่ได้เห็นมานาน คาร์ล ควินแลนเดินโซซัดโซเซออกมาอย่างงุ่มง่าม มีผ้าพันแผลและเฝือกหุ้มไปทั่วร่างกายลู้กน้องที่อยู่ข้างหลังเขาถือพวงหรีดสีขาวมากด้วย มันดูไม่เข้ากับงานมงคลเช่นนี้อีวอนน์และคนอื่น ๆ หรี่ตาเมื่อเห็นคาร์ล ไม่แน่ใจว่าลมอะไรหอบเขามาถึงมาถึงที่นี่อีกด้านหนึ่ง ฮาร์วีย์ละสายตาจากหน้าจอแสดงผลและพินิจคาร์ลด้วยรอยยิ้ม“นายน้อยควินแลน คุณเตรียมการทุกอย่างด้วยตัวเองเลยเหรอ?”"ถูกต้อง!"สีหน้าของคาร์ลเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและการรุกรานผู้อื่น ความกลัวของเขาที่มีต่อฮาร์วีย์หายไปแล้ว และมีเพียงภาพลักษณ์ของเศรษฐีหนุ่มจอมเสเพลเท่านั้นที่ยังคงอยู่เขาเดินไปหาฮาร์วีย์ในห้องโถงและตวาดออกมาอย่างหยิ่งผยอง “ฉันยังจำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลและลาดจอดรถได้!”“ทุกครั้งที่ฉันหลับฝัน ฉันเอาแต่เห็นนายคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน!”“แขนขาของฉันถูกนายหักทิ้งหมดแล้ว!”“แต่มั่นใจได้เลยว่าฉันเป็นคนมีมารยาทมากพอที่จะไม่ทำให้นายลำบากในวันสำคัญแบบนี้…”“ฉันมาที่นี่วันนี้ก็เพราะอย
คาร์ลถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเร็วกว่าฮาร์วีย์ก่อนที่เขาจะทันได้ปัดป้อง ฮาร์วีย์ก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้วเขาโพล่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก “ฮาร์วีย์ เราทุกคนเป็นคนมีอารยะ นาย…!"แกร๊ก!มือซ้ายของฮาร์วีย์จับเข้าที่ลำคอของคาร์ล ในจังหวะที่คาร์ลเอ่ยปากพูด ทันใดนั้นคาร์ลก็สัมผัสได้ถึงเส้นตายของตัวเองคาร์ลรู้ดีว่าเพียงฮาร์วีย์ออกแรงที่มือเขาแม้เพียงเล็กน้อย คาร์ลก็คงตายคาร์ลไม่อยากตายด้วยถูกชายที่กำลังจะถูกโค่นลงดวงตาของเขากระตุก แต่เขายังคงฝืนยิ้มและพูดออกมา “อะไรกัน? นี่นายจะฆ่าฉันเหรอ? เจ้าชายยอร์ก”คาร์ลหัวเราะอย่างเย็นชา“เอาสิ! ฉันแน่ใจว่านายสามารถฆ่าฉันได้ด้วยการออกแรงบีบที่มือเท่านั้น”“แต่ถ้าฉันตาย ตระกูลควินแลนแห่งจอร์เจียจะไม่มีวันปล่อยให้นายรอดไปได้หรอก!”“ถ้านายไม่ฆ่าฉันเสียงตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ช้าก็เร็วฉันจะไปจัดการกับคนรอบตัวแกให้หมด!”“ฉันได้ยินมาว่าทั้งภรรยาและน้องภรรยาของนายเป็นสาวสวยนี่นา”“ช่วงนี้ฉันค่อนข้างสนใจพวกสาว ๆ เสียด้วยสิ!”“ถ้านายไม่ฆ่าฉันตั้งแต่ตอนนี้ คืนนี้ฉันจะส่งคนไปเล่นงานแกแน่!”“ฉันจะกินไวอาก้าสักร้อยเม็ดและทำให้พวกเธอตกนรกทั
เพียงอึดใจเดียว รถโรลส์รอยซ์ แฟนทอมสีชมพูก็แล่นเข้ามา รูปลักษณ์ของมันดึงดูดทุกสายตารถจอดที่ทางเข้าบริษัท เมื่อประตูรถถูกเปิดออก สาวสวยสองคนก็เดินออกมาทั้งคู่สวมชุดสีแดง คนหนึ่งดูอ่อนโยนและสง่างาม อีกคนดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์ ไม่ว่าผู้คนจะมองเห็นพวกเธอมุมไหน พวกเธอทั้งคู่ก็เปรียบดั่งเทพธิดาจำแลงพวกเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแมนดี้และซีนเธียร์“สาวสวยพวกนี้คือใคร?”“พวกเธอกล้าดียังไงมาสนับสนุนสกาย คอร์ปอเรชั่นแบบนี้?”“พวกเขาแค่บ้าหรือมีภูมิหลังที่ทรงพลังงั้นเหรอ?”“ผู้หญิงคนนั้นคือแมนดี้ ซิมเมอร์ คนจากตระกูลซิมเมอร์แห่งเซาท์ไลท์ ฮาร์วีย์เป็นสามีของเธอ!”“ส่วนอีกคนคงป็นน้องภรรยาเขา!”“พวกเธอสวยมากนะ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีสมอง พวกเธอไม่เคยได้ยินที่โบราณเขาว่ากันไว้บ้างรึไง??”“สามีภรรยาก็เหมือนนก พวกมันจะบินไปคนละทิศคนละทาง เมื่อมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น”“ตระกูลซิมเมอร์จากเซาท์ไลท์เพิ่งลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ฉันได้ยินมาว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์กำลังจะฟื้นคืนชีพตระกูลของเขา!”“แต่กลับมีคนในตระกูลตัดสินใจมาที่นี่เพื่อถือหางสามีของตัวเอง เธอไม่รู้เหรอว่าผลของการข้ามหน้าข้ามตาสตาร์ แชโบลแ
ที่ห้องโถงของสกาย คอร์ปอเรชั่น…ฮาร์วีย์มองดูหุ้นที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงบนหน้าจออย่างใจเย็น“พี่เขยคุณไม่ดีใจเหรอ?”ซีนเธียร์จับมือแมนดี้ขณะที่วางตะกร้าดอกไม้แสนสวยไว้ข้างทางเข้า และยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น“พี่สาวกับฉันแอบเตรียมการช่วยเหลือคุณมาสามวันเต็มแล้ว!”“พี่ติดต่อกับตระกูลซิมเมอร์ราวกับว่าพี่ต้องการจะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับคุณครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ที่จริงแล้ว พี่กำลังหาวิธีถ่ายโอนทรัพย์สินของรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ทั้งหมดมาให้คุณ!”“เราทำทุกอย่างเพื่อยืนหยัดข้างคุณในวันนี้!”“ถ้ารีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ต้องล้มละหายกะทันหัน คุณก็ต้องรับผิดชอบดูแลเรา พี่เขย!”รอยยิ้มของซีนเธียร์กว้างขึ้น“ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเธอสองคนเอง”ฮาร์วีย์ส่งรอยยิ้มกลับมา จากนั้นสายตาของเขาก็หันไปทางแมนดี้“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก คุณไม่ต้องมาก็ได้”“ในเมื่อคุณรู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามีแล้ว คุณก็น่าจะรู้ว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้”ฮาร์วีย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันนี้แมนดี้จะไม่มาที่นี่แต่น้ำนิ่งย่อมไหลลึกฮาร์วีย์มีเหตุผลที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเพราะความแค้นส่วนตัวหรือเพื