“อีวอนน์ ฉันบอกเธอแล้ว ความทะเยอทะยานของฮาร์วีย์นั้นน่ากลัวกว่าที่คิด”“ผู้ชายแบบนี้จะไม่มีวันยอมให้ถูกกดขี่เด็ดขาด”“ถ้าเธอเลือกเขา เธอจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน”เชลดอน ซาเวียร์ถอนหายใจ เขาชื่นชมฮาร์วีย์เพราะตัวตนที่แท้จริงของเขาแม้ว่าพวกซาเวียร์แห่งโวลซิ่งจะไม่ได้สนใจสถานะของเขาในฐานะเจ้าชาย แต่พวกเขาก็จะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับชายผู้นี้หากตัวตนอื่นของเขาถูกเปิดเผยแต่เชลดอนไม่คิดว่าหลานสาวของเขาจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮาร์วีย์“ฟังปู่นะ เธอน่าจะเลือกคริส หรือเธอมองคนอื่นบ้างแม้ว่าจะเป็นขอทานก็ตาม ถ้าเธอบอกมา ปู่พร้อมจะทำให้เขาเป็นผู้ชายของเธอ”“ปู่ยอมให้เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่เขา!”อีวอนน์ตอบออกมาว่า “คุณปู่ อย่าลืมสัญญาของเราก่อนหน้านี้สิคะ คุณปู่กำลังพูดเรื่องพวกนี้เพื่อที่จะผิดสัญญาใช่ไหมคะ?”หลังจากเห็นท่าทีดื้อรั้นของอีวอนน์แล้ว เชลดอนก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“เอาล่ะ สิบห้าวันตามสัญญา ปู่จะรอดูว่าเธอสามารถพาเขากลับบ้านได้จริงหรือเปล่า”“ถ้าทำได้ ฉันจะยอม!”***ในห้องพักชั้นพิเศษของโรงแรมบัควู้ดคุณย่าซาเวียร์นั่งสมาธิอยู่บนฟูกเจสซ
ณ สำนักงานประธานกรรมการบริหารสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานของประธานกรรมการบริหารเงียบเหงาเล็กน้อยเนื่องจากอีวอนน์ไม่อยู่ โต๊ะทำงานที่เคยสะอาดสะอ้านมาก่อนในตอนนี้นั้นถูกปกคลุมไปด้วยกองเอกสารที่กองเป็นกองคล้ายกับภูเขา เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฮาร์วีย์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกับตัวเองอย่างขมขื่น เขาไม่เคยสังเกตนิสัยในการทำงานของตัวเองมาก่อน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าได้ให้อีวอนน์ทำงานทั้งหมดนี้ให้เขาในขณะที่เขาแทบจะไม่ได้ช่วยทำอะไรเลยเมื่อก่อน และเพิ่งรู้ตัวว่าอีวอนน์ได้ทุ่มเททำงานเพื่อเขาไปมากมายเพียงใด เมื่อมองไปที่โต๊ะของอีวอนน์ ฮาร์วีย์ก็พึมพำกับตัวเองเบา ๆ “อย่ากังวลไปเลย ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะสามารถบังคับให้คุณทำอะไรได้” “ไม่ใช่แม้กระทั่งลีโอจากฮ่องกง…” “แล้วก็ไม่ใช่ตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่ง” ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เสียงเคาะประตูห้องทำงานของประธานกรรมการบริหารก็ได้ดังขึ้น หลังจากนั้นเรย์ ฮาทก็ได้เดินเข้ามาด้วยท่าทางเคารพ “นายตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือยัง?” ฮาร์วีย์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือเรย์ เรย์ตอบด้วยท่าทางที่จริงจังว่า “เจ้าชาย ผมสอบสวนเรื่องนี้แล้ว แต่เนื่องจากเราได้มอ
ในคืนเดียวกันนั้น คริส ลีโอและคนอื่น ๆ ก็ได้รับข้อความ คริสถือจดหมายซึ่งเป็นสีแดงเลือดเป็นเวลานานก่อนจะหัวเราะคิกคัก “เจ้าชายยอร์กเป็นคนหยิ่งผยองและมีพลังอย่างแท้จริง เขาบังคับให้ฉันคืนข้อเสนอดูตัวขอแต่งงานของฉัน!” “ไม่ มันไม่ใช่แค่การให้ฉันคืนการ์ดดูตัวขอแต่งงานของฉันคืน… เขาพยายามจะเหยียบหัวของพวกเราชาวตระกูลลีโอแห่งฮ่องกง! เขามีค่าพอที่จะทำอย่างนั้นหรือ?” สตีเฟ่น ยอร์ก ซึ่งนั่งตรงข้ามกับเขายิ้ม “คราวนี้เจ้าชายยอร์กคงจะรีบร้อนจนเกินไป” “แม้ว่าเขาจะกำจัดตระกูลเซอร์เรย์และไรอัน ก็อตติไปแล้ว แต่จดหมายของเขาก็ไม่ต่างอะไรจากการผลักตระกูลร็อบบินส์และตระกูลชนชั้นหนึ่งที่เหลืออีกสามตระกูลมาอยู่ข้างเรา” “นี่มันชักเริ่มน่าสนใจขึ้นมาแล้ว” คริสพูดอย่างเป็นกันเองว่า “แน่นอนว่ามันน่าสนใจ! คัลลัม ร็อบบินส์และคนอื่น ๆ ได้ติดต่อฉันมาเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือครั้งนี้ คราวนี้ล่ะเราจะใช้ให้พวกมันเป็นเบี้ยหมากรุกของพวกเรา คุณและฉันสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน!” เมื่อเขาพูดจบ คริสและสตีเฟ่นก็มองหน้ากันและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูล
ในขณะเดียวกันที่ท่าอากาศยานเมืองบัควู้ด มีกลุ่มคนกำลังเดินออกจากทางเดินโซน VIP คนที่อยู่ด้านหน้าสุดไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนแซ็คและควินน์ ซิมเมอร์นั่นเอง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือสองคนนี้ซึ่งเคยหยิ่งยโสโอหังทำตัวหรูหราในอดีต ในตอนนี้นั้นมีสภาพที่เหมือนกับคนรับใช้มากกว่า คนที่เดินตามหลังของพวกเขามาคือชายหนุ่มในชุดสูทปักลายท่าทางเย็นชา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “แซ็ค ควินน์ อย่ามาพูดว่าฉันไม่ได้ให้โอกาสพวกนายทั้งสองนะ!” “ถ้านายทำได้ดีพอและประสบความสำเร็จในการเชิญผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาที่มอร์ดูได้ ตระกูลฌองจะช่วยให้พวกนายสามารถทำงานเป็นคนรับใช้ของพวกเราได้” “แต่ถ้าทำพลาด พวกนายก็รีบไสหัวไปซะ! ตระกูลของพวกเรามีสุนัขรับใช้มากมาย เราไม่สนหรอกว่าเราจะสูญเสียไปสักหนึ่งหรือสองตัว!” แซ็คพยักหน้าและโค้งคำนับ “ท่านเกรย์ ฌอง คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่! บัควู้ดคือถิ่นของพวกเรา ดังนั้นคราวนี้เราจะประสบความสำเร็จในงานนี้อย่างแน่นอนครับ” ในทางกลับกัน ควินน์ก็ยิ้มเป็นนัย ๆ ออกมาและพุดด้วยน้ำเสียงอันออดอ้อน “นายท่านเกรย์ ฌอง คุณคงเหนื่อยจากการเดินทางมามากแล้ว คืนนี
“ท่านประธาน คุณจะไปต้อนรับใครคะ? ทำไมคุณถึงต้องการรถที่โทรมที่สุดล่ะคะ?” อีวอนน์รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก คนสติดี ๆ ที่ไหนจะมาขออะไรแบบนี้? ฮาร์วีย์ตอบกลับ “คุณไม่รู้หรอกว่าคน ๆ นี้ชอบไปสนามรบเมื่อเวลาที่เขาไม่มีอะไรทำ เขาชอบรถเก่า ๆ และทรุดโทรมมากที่สุด เขาไม่อยากนั่งในรถหรู ๆ หรอก” แม้ว่าอีวอนน์จะไม่รู้ว่าฮาร์วีย์จะไปต้อนรับคนแบบไหน แต่เนื่องจากเขาขอมาเธอจึงต้องปฏิบัติตาม ไม่นานหลังจากนั้น รถตู้ที่มีอายุอย่างน้อยประมาณสิบปีก็ถูกขับมาที่ประตูทางเข้าของสกาย คอร์ปอเรชั่น ฮาร์วีย์ขอให้เรย์เป็นคนขับรถให้เขา ก่อนจะรีบไปที่สนามบินบัควู้ด เมื่อพวกเขามาถึงที่สนามบิน เรย์ก็ต้องประหลาดใจกับเหตุการณ์เบื้องหน้าของเขา สนามบินแออัดมาก มีรถหรูมากมายจอดรออยู่ด้านนอก มอร์เซเดส เบนซ์ มายบัค, เบนท์ลีย์, โรลส์รอยซ์… แทบจะทุกแบรนด์หรูอื่น ๆ ที่เขาสามารถมองเห็นได้ คนนอกที่ไม่รู้อาจจะคิดว่านี่เป็นการจัดนิทรรศการรถหรูอย่างแน่นอน ความจริงที่ว่าฮาร์วีย์และเรย์ขับรถตู้เก่า ๆ โทรม ๆ เข้ามา ทำให้คนที่นั่นทุกคนต่างก็ดูถูกดูแคลนพวกเขา “เขาเป็นใครน่ะ? เขาไม่รู้เหรอว่าวันนี้เป็นวันอะไร?” “วันนี้เป
เกรย์ ฌองปล่อยเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ออกมาอย่างชั่วร้ายก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “ถ้าฉันอยู่ที่นี่แล้วซะอย่าง มันจะมีโอกาสรอดไปได้อย่างไร?” ตระกูลฌองจากมอร์ดูเป็นหนึ่งในสิบตระกูลระดับแนวหน้าของประเทศ H แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในอันดับที่เก้า แต่เกรย์ก็เชื่อว่าในกลุ่มคนที่ไร้ประโยชน์ในที่นี้ไม่มีใครแล้วที่จะมีสถานะที่สูงไปกว่าเขา แซ็ครีบเอ่ยถามด้วยท่าทางอันสุดร้ายกาจว่า “ท่านฌอง คุณต้องการให้ผมพาคนไปจับผู้ชายคนนั้นมาไหมครับ?' “ไม่ต้องรีบร้อนไป ถึงเวลาที่ต้องจัดการเรื่องหลัก ๆ ของเราก่อนแล้ว เรื่องผู้หญิงไว้จัดการทีหลัง” เกรย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขารู้วิธีการแยกแยะระหว่างเรื่องไหนที่มันสำคัญกว่า ไม่ไกลจากเกรย์คือคาร์สัน คลาวด์, คัลลัม ร็อบบินส์, และคีธ เยตส์ พวกเขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ข้าง ๆ กัน เมื่อพวกเขาเห็นฮาร์วีย์เดินเข้ามา คีธก็ขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “ทำไมเศษขยะถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ช่างน่าอับอายเสียนี่กระไร!” ฮาร์วีย์เป็นหลานเขยของตระกูลเยตส์ ถ้าเขาดันทำอะไรที่น่าขายหน้าที่นี่ มันจะสะท้อนถึงตระกูลเยตส์ในทางที่ไม่ดีได้ คัลลัมยิ้ม “อย่าตกใจไปเลยเยตส์ หลานเขยของคุณคนนี้มักจะทำ
ฝูงชนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์ได้พูด สนามบินซึ่งในตอนแรกมีเสียงดังจอแจ แต่ในตอนนี้นั้นกลับตกมาอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ทั้งตกตะลึงและตกใจ 'เกิดอะไรขึ้น?' 'เขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่านะ?' ใครบ้าที่ไหนกล้าไปยั่วยุตระกูลลีโอจากฮ่องกงต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้? ยิ่งไปกว่านั้นชายผู้นี้กระทำมันต่อหน้าของเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอ! ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าชนชั้นสูงของบัควู้ดส่วนใหญ่ต่างก็พากันมาต้อนรับคริส ลีโอเมื่อตอนที่เขามาที่บัควู้ดเป็นครั้งแรก! อะไรคือตัวตนของบุคคลดังกล่าว? ผู้ชายคนนี้มีสถานะอะไรหรือ? ใครกันที่กล้าขู่พวกตระกูลลีโอโดยการบอกว่าตระกูลของพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องมีในฮ่องกงอีกต่อไป? แม้แต่เชลดอน ซาเวียร์และคนอื่น ๆ ที่รู้จักตัวตนของฮาร์วีย์ก็ยังตกตะลึง ตระกูลลีโอเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลชั้นนำในฮ่องกงและร่ำรวยมาก ๆ แม้แต่ตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ทื่อยากจะยุ่งกับพวกเขา พวกเขายังอาจที่จะต้องจ่ายในราคาที่มหาศาลเพื่อการกระทำเช่นนั้น กระนั้น ก็ยังมีชายผู้หนึ่งพูดคำดูถูกตระกูลลีโอออกมาจริง ๆ หลายคนจำฮาร
ในเวลาเดียวกัน… ที่ประตูของสนามบินบัควู้ด ในที่สุดรถปอร์เช่สุดหรูก็หาที่จอดรถได้ แมนดี้ก้าวลงจากรถ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยขณะที่สำรวจสถานการณ์เบื้องหน้าของเธอ “คุณพ่อ คุณแม่… เราจะมาเชิญผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจริง ๆ เหรอคะ?” แมนดี้ลังเลเล็กน้อย ลิเลียนและไซม่อน ทั้งสองได้เซ้าซี้ให้เธอมาที่สนามบินหลังจากที่เห็นข่าวที่ระบุว่าอาวุโสออสการ์กำลังจะมาที่บัควู้ดเมื่อเช้านี้ ลิเลียนยิ้ม “ลูกสาวสุดที่รักของแม่ บริษัทของลูกกำลังสร้างซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ต จากที่เห็นความคืบหน้าแล้ว คิดว่าน่าจะขายได้ภายในหนึ่งหรือสองเดือนใช่ไหม?” แมนดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ” ลิเลียนปรบมือและพูดว่า “นั่นเป็นเหตุผล! ลูกไม่คิดว่าลูกควรเริ่มคิดเกี่ยวกับการขายมันในตอนนี้หรือ? ก่อนหน้านี้แม่เคยคิดว่าจะหาตัวแทนโปรโมทให้ลูกได้ที่ไหนสักที่ แต่ว่าตอนนี้มีบุคคลที่น่าสนใจกว่าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?” "คุณแม่กำลังหมายถึงอะไรคะ?" แมนดี้ไม่เข้าใจ “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง! ถ้าเขาสามารถมาดูสถานที่ก่อสร้างของซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ตได้ เราสามารถประชา