เฟลิกซ์ตบไหล่ฮาร์วีย์ เขาพูดยิ้ม ๆ ว่า “ไง ไอ้ขยะ แกเข้าใจแล้วใช่ไหม?”“ไม่ใช่แค่แกเท่านั้น แต่แมนดี้และตระกูลซิมเมอร์จะอยู่ในกำมือเรา!”“ใช่ ฮาร์วีย์ คุณต้องเชื่อฟังเรา คุณต้องทำตามในสิ่งที่เราต้องการ”“ถ้าคุณไม่ทำตาม นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปจะไม่มีที่สำหรับคุณและแมนดี้ในบัควู้ดอีกต่อไป!”โบรดี้หัวเราะเยาะอย่างเย่อหยิ่งออกมาพวกเขาไม่ได้เจอของเล่นที่สนุกแบบนี้มานานแล้วทุกคนที่ผ่านมาจะยอมให้พวกเขารังแกต่อไปหรือยอมคุกเข่าขอความเมตตาน้อยคนที่จะเลือกต่อต้านเหมือนฮาร์วีย์ มันทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างมาก “นี่หมายความว่าพวกคุณกำลังข่มขู่ผมงั้นเหรอ?”ตอนนี้ฮาร์วีย์อยากจะหัวเราะเดิมทีเขาไม่สนใจคนพวกนี้เลยเขาไม่อยากที่จะสนใจแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนทรยศหักหลังก็ตาม คนแบบนี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งแต่ปัญหาตอนนี้คือการที่คนเหล่านี้กำลังข่มขู่เขาฮาร์วีย์รู้สึกหมดหนทางไม่รู้ต้องจัดการอย่างไรเขาเคยเห็นคนงี่เง่ามาหลายรูปแบบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนโง่งี่เง่าถึงขนาดนี้“เราไม่ได้ข่มขู่คุณ เรากำลังสอนบทเรียนให้คุณได้เข้าใจสังคมมากขึ้น!”“คุณต้องทำความเข้าใจนะ พวกซิมเมอร์จะล้มละ
เมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์ยังนิ่งเฉย โบรดี้ก็ตะโกนอีกครั้ง “ไอ้ขยะ แกไม่ได้ยินที่ฉันสั่งเหรอ?”“หรือแกเป็นคนปัญญาอ่อนที่ไม่เข้าใจภาษาคน?”“ผู้จัดการเจนเนอร์ ลืมมันไปซะเถอะ การให้เขาเลียรองเท้าของคุณยังไม่น่าตื่นเต้นพอ ผมคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะให้เขาคุกเข่าและเห่าหอนออกมาเหมือนสุนัข!”โรซานน์เข้ามาพร้อมรอยยิ้มเยาะ คำพูดที่มาจากปากที่สวยงามของเธอนั้นโหดเหี้ยมมาก“ฮาร์วีย์ ฉันจะช่วยทำให้ผู้จัดการฮาวเวิร์ดพอใจ ตราบใดที่คุณคุกเข่าและเห่าหอนออกมาเหมือนสุนัข ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทำให้แมนดี้และตระกูลซิมเมอร์ต้องลำบากในอนาคตแน่นอน ว่าไงล่ะ?”ดวงตาของทุกคนเป็นประกายทันทีด้วยคำพูดของโรซานน์ เรื่องนี้สนุกกว่าให้ฮาร์วีย์เลียพื้นรองเท้าให้เสียอีกในตอนนี้ทุกคนต่างหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อรอบันทึกวิดีโอ“เร็วเข้าสิ! รีบคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”“ในเมื่อแกเป็นคนชั้นต่ำ มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะเห่าหอนออกมาตรงหน้าเราเหมือนหมา!”“ใครหลาย ๆ คนอยากจะมาเป็นลูกน้องของเรา แต่เราไม่เคยสนใจพวกเขาเลย!”“ฮาร์วีย์ แกควรรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้เรานะ!”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว คนพวกนี้น่ารังเกียจมากพูดได้แค่ว่าพวกเขาคงเป
ทุกคนสุขใจ มองดูเฟลิกซ์ด้วยความชื่นชมผู้จัดการฮาวเวิร์ดรู้วิธีเล่นเกมจริง ๆ อนาคตของเขาต้องไปได้ไกลอีกแน่นอน!หลังจากนั้นพวกเขาก็กอดคอกันเดินากไปเหลือเพียงเฟลิกซ์เท่านั้นที่ยังอยู่ในห้อง เขามองที่ฮาร์วีย์อย่างถือตัว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งฮาร์วีย์มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นเหลือบมองเฟลิกซ์ สีหน้าของเขายังนิ่งเฉย“จุดประสงค์ของคุณคืนนี้เพียงเพื่อพาคนกลุ่มหนึ่งมาดูถูกผมงั้นเหรอ?”เฟลิกซ์จุดบุหรี่แล้วตอบด้วยรอยยิ้มเยาะว่า “ไม่หรอก ดูถูกแกแล้วจะมีประโยชน์อะไร?”“ฉันแค่อยากจะบอกว่าคนอย่างแกขยะแขยง ซึ่งแกไม่คู่ควรกับแมนดี้เลย”“ไม่ใช่แค่การมีตัวตนของแกไม่มีประโยชน์สำหรับเธอแล้ว แต่มันอาจจะฆ่าเธอได้เหมือนกัน”“ฮาร์วีย์ ฉันให้โอกาสแกอีกครั้ง”“พรุ่งนี้หย่ากับแมนดี้ซะ แล้วออกจากบัควู้ด เริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก”ขณะที่เขาพูด เฟลิกซ์หยิบบัตรธนาคารออกมาแล้วปาใส่หน้าฮาร์วีย์“มีเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ในบัตร ถือว่าเป็นความเมตตาครั้งสุดท้ายของฉันที่มีให้แกในฐานะญาติคนหนึ่ง”“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ?”ฮาร์วีย์ตอบอย่างไม่สนใจ“ปฏิเสธง
“หัวหน้า! ไอ้คนพวกนี้ชั่วมันร้ายที่สุด!”คน ๆ นั้นคือเรย์ ฮาร์ท และคลับส่วนตัวแห่งนี้ก็เป็นของเขา ดังนั้นเขาจึงรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด แต่เขาไม่กล้าเข้าไปโดยไม่ได้รับคำสั่งจากฮาร์วีย์“ไม่เป็นไร คืนนี้ไปที่บัควู้ดและไปหาอีวอนน์ ฉันส่งข้อความให้เธอปรับปลี่ยนตัวบุคลากรในบริษัท นายต้องไปช่วยเธอ”ฮาร์วีย์พูดออกมาดูเฉยเมยตอนแรกเขาไม่ได้วางแผนที่จะจัดการกับเรื่องนี้เร็ว ๆ นี้ เขาอยากจะรอจนกว่าทรัพย์สินของบริษัททั้งหมดจะถูกรวมเข้าด้วยกันเสียก่อน ๆ ที่จะจัดการขั้นตอนต่อไปแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ทำให้เขาเร่งจัดการให้เร็วขึ้น“รับทราบครับ!”เรย์ไม่กล้าขัดคำสั่งของฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์มีชื่อเสียงในความเด็ดขาด ทั้งหมดที่เขาทำได้คือทำตามคำสั่งของฮาร์วีย์อย่างเต็มที่เท่านั้น***ในระหว่างที่ฮาร์วีย์ถูกทำให้อับอาย…ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ในบัควู้ดในเวลานี้ คฤหาสน์ซิมเมอร์ทั้งหลังก็สว่างไสว เสียงดังครึกโครมไปทั่วผู้บริหารระดับสูงหลายคนของบัควู้ดซึ่งส่วนใหญ่มาจากตระกูลชนชั้นสองและชั้นสามไม่มีเหตุผลอื่นสำหรับการปรากฏตัวของพวกเขาในค่ำคืนนี้นั่นเพราะพวกเขามาที่นี่เพราะข่าวที่แพร่กระจายไปในหมู่ช
แมนดี้กำลังรอฮาร์วีย์อยู่ที่ทางเข้า เมื่อเขากลับมา เธอรีบยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้เขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เฟลิกซ์ได้เผยแพร่ภาพตอนที่ฮาร์วีย์ถูกดูหมิ่นไปยังแชทกลุ่มของตระกูลเยตส์ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ง่วนอยู่กับการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอด้วย คุณย่าเยตส์ถึงกับยกย่องเฟลิกซ์อย่างและขอบคุณเขาสำหรับเรื่องนี้ อีกทั้งเธอยังคิดว่าการกระทำของเขานั้นช่างยอดเยี่ยมมาก ๆ แมนดี้ต้องการให้เฟลิกซ์ลบวิดีโอทันทีที่ส่งไป แต่สมาชิกในตระกูลเยตส์ก็ดุด่าเธอเพราะเหตุนี้ พวกเขายังพูดอีกว่าความสกปรกของชายคนเดียวได้ทำลายศักดิ์ศรีของตระกูลเยตส์ ถ้าแมนดี้ยังมองว่าตัวเองเป็นหลานสาวของตระกูลเยตส์ เธอควรจะไล่เขาออกจากครอบครัวไปซะ ด้วยทัศนคติของคนที่เรียกว่าครอบครัว แมนดี้เดือดดาลด้วยความโกรธ เธอตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่เรียกว่าการรวมตัวระหว่างสองครอบครัวของพวกเขาเป็นเพียงการจัดเตรียมการเอาไว้ตั้งแต่แรก ฝ่ายหนึ่งต้องการให้ฮาร์วีย์ถูกไล่ออกจากครอบครัว อีกฝ่ายต้องการบังคับให้เธอไล่เขาออกไป “ฮาร์วีย์ ฉันรู้ว่าคุณเต็มใจที่จะขายหน้าเพราะฉัน” “การหลอกลวงที่เฟลิกซ์สร้างขึ้นนั้นมันมีเ
ควินน์ชายตามองแมนดี้ ก่อนจะยิ้มออกมา “โอ้ แมนดี้! มาได้เวลาพอดีเลย! มาลองชุดทางการที่ฉันได้จัดเตรียมไว้ให้พวกคุณทุกคนกันและมาดูว่าพอดีหรือเปล่า” ขณะที่เธอพูดอยู่ คนรับใช้ก็ดันชั้นวางเสื้อผ้าออกมา แมนดี้และครอบครัวของเธอหันไปมองที่คนรับใช้โดยไม่รู้ตัว วินาทีถัดมา ความดูถูกเหยียดหยามได้ถูกจารึกไว้ทั่วใบหน้าของพวกเขาทั้งหมด ใช่ ชุดที่ควินน์พูดถึงนั้นเป็นทางการจริง ๆ แต่สำหรับพ่อบ้านและแม่บ้านนะ ควินน์นำชุดที่มีไว้สำหรับคนรับใช้มาให้แมนดี้และครอบครับของเธอ เธอกำลังวางแผนที่จะทำอะไรอยู่? เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของแมนดี้ ควินน์ก็พูดอย่างใจเย็นว่า “โอ้ แมนดี้ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อครอบครัวใหญ่ ๆ ออกงาน พวกเขาต้องมีคนรับใช้คอยติดสอยห้อยตามน่ะ หากไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาจะต้องอับอายขายขี้หน้าครอบครัวอื่น ๆ แย่เลย!” “จากนี้ไป ตระกูลซิมเมอร์จะก้าวเข้าสู่ธรณีประตูของตระกูลชนชั้นหนึ่ง” “นั่นเป็นเหตุผลที่จะต้องให้ความใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดอย่างรอบคอบ!” “ดูคนรับใช้ของตระกูลซิมีแต่คุณภาพต่ำ ๆ ฉันจึงทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของเธอน่ะ!” ควินน์พูดออกมาด้วยท่าทางที่เ
“ในเมื่อเธอเป็นคนพูดเองว่าจะออกจากตระกูลซิมเมอร์ ก็ช่วยทำตามที่พูดด้วยนะ!” “เอาสิ เอาสัญญาออกมาหน่อย!” จากคำสั่งของแซ็ค สัญญาที่ถูกเตรียมไว้แล้วได้ถูกส่งมอบให้กับเขา เนื้อหาของสัญญานั้นเรียบง่าย แมนดี้ ซิมเมอร์และครอบครัวของเธอต้องออกจากตระกูลซิมเมอร์ทันทีและตลอดไป โดยที่จะไม่ได้รับอะไรเลย นับจากวันนี้เป็นต้นไป หุ้นและสินทรัพย์สี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ที่ตระกูลซิมเมอร์เป็นเจ้าของในบริษัทจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ แมนดี้ ซิมเมอร์และครอบครัวของเธอ อีกทั้งแมนดี้จะต้องถอนตัวเองออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร เมื่อเธออ่านสัญญาจนจบ ใบหน้าของแมนดี้ก็กลายเป็นซีดขาวราวกับกระดาษ ร่างกายของไซม่อนเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ลิเลียนหมดแรงทรุดลงกับพื้น เธอโกรธจนพูดอะไรไม่ออก “แซ็ค ควินน์! พวกแกมันวายร้าย เนรคุณ!” “พวกแกเตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว! พวกแกทำทุกอย่างโดยเจตนา!” แซ็คตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเจตนาก็แล้วมันจะทำไมล่ะ? วันนี้ฉันจะให้ทางเลือกแก่ครอบครัวของพวกแกสองทาง!” “ทางเลือกที่หนึ่ง เซ็นสัญญานี่ซะ!” “ทางเลือกที่สอง สวมชุดนี่ซะและคอยดูแลปรนนิบัติบริการต่าง ๆ ในพิธีหมั้น
"เอาล่ะ! เพื่อเห็นแก่อดีต ฉันจะถ่ายรูปสักสองสามรูปให้นายเผื่อมันจะช่วยขยายโอกาสของนาย” ฮาร์วีย์ตอบอย่างเย็นชาว่า “รูปเธอตอนที่เป็นสาวรับใช้น่ะเหรอ?” ดวงตาของควินน์กระตุก เธอหยุดเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเปล่งเสียงอันเยือกเย็นออกมา “นายคิดว่าฉันจะสนใจเรื่องไร้สาระหรือเสียงเห่าหอนจากสุนัขจรจัดหรือ?” ฮาร์วีย์เริ่มแคร์คนเหล่านี้น้อยลง เขาหยิบสำเนาสัญญาขึ้นมาและหันไปหาแมนดี้ “ที่รัก เราไปกันเถอะ” หลังจากที่แมนดี้และครอบครัวออกจากคฤหาสน์ซิมเมอร์แล้ว ลิเลียนก็รีบคว้าคอเสื้อของฮาร์วีย์และตะโกนใส่เขา “ฮาร์วีย์! แกมีสิทธิ์อะไรมาเซ็นสัญญาแทนเรา?!” “แกรู้สึกดีมากไหม ถ้าทุกคนจะต้องมาขอทานขออาหารแบบแกเนี่ย?!” ฮาร์วีย์ปลอบโยนเธอ “วางใจได้เลย ตราบใดที่มีแมนดี้อยู่ คุณแม่ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับความมั่งคั่งและเกียรติยศได้” ไซม่อนถอนหายใจออกมาอย่างแรง “ฮาร์วีย์ แกช่วยหยุดไร้เดียงสาได้ไหม? เราพึ่งพาตระกูลซิมเมอร์เพื่อเป็นฐานให้แมนดี้ประสบความสำเร็จ!” “แล้วตอนนี้เราจะยังพึ่งพาอะไรได้บ้างเมื่อเราออกจากตระกูลซิมเมอร์และแมนดี้ก็สูญเสียตำแหน่งประธานกรรมการบริหารไปแล้ว” ฮาร์วีย์ตอบด้วยน้ำเสีย