“หัวหน้า! ไอ้คนพวกนี้ชั่วมันร้ายที่สุด!”คน ๆ นั้นคือเรย์ ฮาร์ท และคลับส่วนตัวแห่งนี้ก็เป็นของเขา ดังนั้นเขาจึงรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด แต่เขาไม่กล้าเข้าไปโดยไม่ได้รับคำสั่งจากฮาร์วีย์“ไม่เป็นไร คืนนี้ไปที่บัควู้ดและไปหาอีวอนน์ ฉันส่งข้อความให้เธอปรับปลี่ยนตัวบุคลากรในบริษัท นายต้องไปช่วยเธอ”ฮาร์วีย์พูดออกมาดูเฉยเมยตอนแรกเขาไม่ได้วางแผนที่จะจัดการกับเรื่องนี้เร็ว ๆ นี้ เขาอยากจะรอจนกว่าทรัพย์สินของบริษัททั้งหมดจะถูกรวมเข้าด้วยกันเสียก่อน ๆ ที่จะจัดการขั้นตอนต่อไปแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ทำให้เขาเร่งจัดการให้เร็วขึ้น“รับทราบครับ!”เรย์ไม่กล้าขัดคำสั่งของฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์มีชื่อเสียงในความเด็ดขาด ทั้งหมดที่เขาทำได้คือทำตามคำสั่งของฮาร์วีย์อย่างเต็มที่เท่านั้น***ในระหว่างที่ฮาร์วีย์ถูกทำให้อับอาย…ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ในบัควู้ดในเวลานี้ คฤหาสน์ซิมเมอร์ทั้งหลังก็สว่างไสว เสียงดังครึกโครมไปทั่วผู้บริหารระดับสูงหลายคนของบัควู้ดซึ่งส่วนใหญ่มาจากตระกูลชนชั้นสองและชั้นสามไม่มีเหตุผลอื่นสำหรับการปรากฏตัวของพวกเขาในค่ำคืนนี้นั่นเพราะพวกเขามาที่นี่เพราะข่าวที่แพร่กระจายไปในหมู่ช
แมนดี้กำลังรอฮาร์วีย์อยู่ที่ทางเข้า เมื่อเขากลับมา เธอรีบยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้เขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เฟลิกซ์ได้เผยแพร่ภาพตอนที่ฮาร์วีย์ถูกดูหมิ่นไปยังแชทกลุ่มของตระกูลเยตส์ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ง่วนอยู่กับการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอด้วย คุณย่าเยตส์ถึงกับยกย่องเฟลิกซ์อย่างและขอบคุณเขาสำหรับเรื่องนี้ อีกทั้งเธอยังคิดว่าการกระทำของเขานั้นช่างยอดเยี่ยมมาก ๆ แมนดี้ต้องการให้เฟลิกซ์ลบวิดีโอทันทีที่ส่งไป แต่สมาชิกในตระกูลเยตส์ก็ดุด่าเธอเพราะเหตุนี้ พวกเขายังพูดอีกว่าความสกปรกของชายคนเดียวได้ทำลายศักดิ์ศรีของตระกูลเยตส์ ถ้าแมนดี้ยังมองว่าตัวเองเป็นหลานสาวของตระกูลเยตส์ เธอควรจะไล่เขาออกจากครอบครัวไปซะ ด้วยทัศนคติของคนที่เรียกว่าครอบครัว แมนดี้เดือดดาลด้วยความโกรธ เธอตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่เรียกว่าการรวมตัวระหว่างสองครอบครัวของพวกเขาเป็นเพียงการจัดเตรียมการเอาไว้ตั้งแต่แรก ฝ่ายหนึ่งต้องการให้ฮาร์วีย์ถูกไล่ออกจากครอบครัว อีกฝ่ายต้องการบังคับให้เธอไล่เขาออกไป “ฮาร์วีย์ ฉันรู้ว่าคุณเต็มใจที่จะขายหน้าเพราะฉัน” “การหลอกลวงที่เฟลิกซ์สร้างขึ้นนั้นมันมีเ
ควินน์ชายตามองแมนดี้ ก่อนจะยิ้มออกมา “โอ้ แมนดี้! มาได้เวลาพอดีเลย! มาลองชุดทางการที่ฉันได้จัดเตรียมไว้ให้พวกคุณทุกคนกันและมาดูว่าพอดีหรือเปล่า” ขณะที่เธอพูดอยู่ คนรับใช้ก็ดันชั้นวางเสื้อผ้าออกมา แมนดี้และครอบครัวของเธอหันไปมองที่คนรับใช้โดยไม่รู้ตัว วินาทีถัดมา ความดูถูกเหยียดหยามได้ถูกจารึกไว้ทั่วใบหน้าของพวกเขาทั้งหมด ใช่ ชุดที่ควินน์พูดถึงนั้นเป็นทางการจริง ๆ แต่สำหรับพ่อบ้านและแม่บ้านนะ ควินน์นำชุดที่มีไว้สำหรับคนรับใช้มาให้แมนดี้และครอบครับของเธอ เธอกำลังวางแผนที่จะทำอะไรอยู่? เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของแมนดี้ ควินน์ก็พูดอย่างใจเย็นว่า “โอ้ แมนดี้ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อครอบครัวใหญ่ ๆ ออกงาน พวกเขาต้องมีคนรับใช้คอยติดสอยห้อยตามน่ะ หากไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาจะต้องอับอายขายขี้หน้าครอบครัวอื่น ๆ แย่เลย!” “จากนี้ไป ตระกูลซิมเมอร์จะก้าวเข้าสู่ธรณีประตูของตระกูลชนชั้นหนึ่ง” “นั่นเป็นเหตุผลที่จะต้องให้ความใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดอย่างรอบคอบ!” “ดูคนรับใช้ของตระกูลซิมีแต่คุณภาพต่ำ ๆ ฉันจึงทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของเธอน่ะ!” ควินน์พูดออกมาด้วยท่าทางที่เ
“ในเมื่อเธอเป็นคนพูดเองว่าจะออกจากตระกูลซิมเมอร์ ก็ช่วยทำตามที่พูดด้วยนะ!” “เอาสิ เอาสัญญาออกมาหน่อย!” จากคำสั่งของแซ็ค สัญญาที่ถูกเตรียมไว้แล้วได้ถูกส่งมอบให้กับเขา เนื้อหาของสัญญานั้นเรียบง่าย แมนดี้ ซิมเมอร์และครอบครัวของเธอต้องออกจากตระกูลซิมเมอร์ทันทีและตลอดไป โดยที่จะไม่ได้รับอะไรเลย นับจากวันนี้เป็นต้นไป หุ้นและสินทรัพย์สี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ที่ตระกูลซิมเมอร์เป็นเจ้าของในบริษัทจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ แมนดี้ ซิมเมอร์และครอบครัวของเธอ อีกทั้งแมนดี้จะต้องถอนตัวเองออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร เมื่อเธออ่านสัญญาจนจบ ใบหน้าของแมนดี้ก็กลายเป็นซีดขาวราวกับกระดาษ ร่างกายของไซม่อนเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ลิเลียนหมดแรงทรุดลงกับพื้น เธอโกรธจนพูดอะไรไม่ออก “แซ็ค ควินน์! พวกแกมันวายร้าย เนรคุณ!” “พวกแกเตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว! พวกแกทำทุกอย่างโดยเจตนา!” แซ็คตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเจตนาก็แล้วมันจะทำไมล่ะ? วันนี้ฉันจะให้ทางเลือกแก่ครอบครัวของพวกแกสองทาง!” “ทางเลือกที่หนึ่ง เซ็นสัญญานี่ซะ!” “ทางเลือกที่สอง สวมชุดนี่ซะและคอยดูแลปรนนิบัติบริการต่าง ๆ ในพิธีหมั้น
"เอาล่ะ! เพื่อเห็นแก่อดีต ฉันจะถ่ายรูปสักสองสามรูปให้นายเผื่อมันจะช่วยขยายโอกาสของนาย” ฮาร์วีย์ตอบอย่างเย็นชาว่า “รูปเธอตอนที่เป็นสาวรับใช้น่ะเหรอ?” ดวงตาของควินน์กระตุก เธอหยุดเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเปล่งเสียงอันเยือกเย็นออกมา “นายคิดว่าฉันจะสนใจเรื่องไร้สาระหรือเสียงเห่าหอนจากสุนัขจรจัดหรือ?” ฮาร์วีย์เริ่มแคร์คนเหล่านี้น้อยลง เขาหยิบสำเนาสัญญาขึ้นมาและหันไปหาแมนดี้ “ที่รัก เราไปกันเถอะ” หลังจากที่แมนดี้และครอบครัวออกจากคฤหาสน์ซิมเมอร์แล้ว ลิเลียนก็รีบคว้าคอเสื้อของฮาร์วีย์และตะโกนใส่เขา “ฮาร์วีย์! แกมีสิทธิ์อะไรมาเซ็นสัญญาแทนเรา?!” “แกรู้สึกดีมากไหม ถ้าทุกคนจะต้องมาขอทานขออาหารแบบแกเนี่ย?!” ฮาร์วีย์ปลอบโยนเธอ “วางใจได้เลย ตราบใดที่มีแมนดี้อยู่ คุณแม่ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับความมั่งคั่งและเกียรติยศได้” ไซม่อนถอนหายใจออกมาอย่างแรง “ฮาร์วีย์ แกช่วยหยุดไร้เดียงสาได้ไหม? เราพึ่งพาตระกูลซิมเมอร์เพื่อเป็นฐานให้แมนดี้ประสบความสำเร็จ!” “แล้วตอนนี้เราจะยังพึ่งพาอะไรได้บ้างเมื่อเราออกจากตระกูลซิมเมอร์และแมนดี้ก็สูญเสียตำแหน่งประธานกรรมการบริหารไปแล้ว” ฮาร์วีย์ตอบด้วยน้ำเสีย
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลซิมเมอร์จะเข้าสู่ธรณีประตูของตระกูลชนชั้นหนึ่ง!” “ทุก ๆ คน ขอเชิญมาร่วมดื่มเฉลิมฉลองกับพวกเราตระกูลซิมเมอร์…!” เหล่าคนรวยก็มักที่จะฉลาดแกมโกง เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็พาครอบครัวทั้งหมดของตัวเองมาร่วมแสดงความยินดีกับควินน์และตระกูลซิมเมอร์ทั้งหมด ทุกคนต่างชื่นชมยินดี พวกเขาทั้งหมดต่างก็รู้เกี่ยวกับการสู่ขอของเจ้าชายยอร์ก พวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและชื่นชมเมื่อมองไปที่ควินน์ตัวเอกของค่ำคืนนี้ นี่มันเทียบเท่ากับการบรรลุตำแหน่งสูงสุดด้วยการทำงานเพียงน้อยนิดและไปถึงจุดสูงสุดได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก! ด้วยภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยผู้คนมากมายราวกับว่าพวกเขาเป็นคนดังที่เพิ่งออกจากบ้านของพวกเขามา จากนั้น เหล่าตระกูลซิมเมอร์ทั้งหมดก็เริ่มที่จะเข้าใกล้รถเล็กซัสที่จอดอยู่... รถทุกคันเริ่มหันไปทางซ้าย "เกิดอะไรขึ้น?!" “บอกให้พวกเขาหยุดที!” “ไม่เห็นเหรอไงว่าเจ้าสาวยังไม่ทันได้ขึ้นรถ!” เหล่าตระกูลซิมเมอร์ต่างตกตะลึงจนแทบไม่อยากที่จะเชื่อ หลังจากนั้นอีกครู่หนึ่ง พวกเขาก็สะดุ้งตกใจเป็นอย่างม
เดิมทีพวกเขาต้องการใช้ชื่อของแมนดี้ ซิมเมอร์เพื่อเข้าร่วมพิธี แต่ทว่าทันทีที่พวกเขาลงจากรถ ก็มีคนยื่นการ์ดเชิญให้กับพวกเขา? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? แมนดี้มองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยท่าทางงุนงง “คุณไม่ได้เป็นคนที่จัดการเรื่องนี้ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ขอให้ใครมาส่งคำเชิญให้กับพวกเขา แต่เขาก็แค่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ผมหรอก แต่นอกจากนั้นนะ เราไม่จำเป็นต้องมีใครเข้าไปด้วยซ้ำ” ไซม่อนและลิเลียนที่มองฮาร์วีย์ด้วยความเบิกบานใจก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกมา พวกเขาทั้งสองก็ถอนหายใจออกอย่างรุนแรง 'แน่นอน!' 'แค่พูดว่าไม่ใช่แกและหยุดพูดเรื่องไร้สาระ!' “เฮ้ แน่นอน มันต้องไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าสิ่งโสโครกนี้อยู่แล้ว” มีเสียงหัวเราะดังกึกก้องในขณะนั้น ชายร่างท้วมมีใบหูที่ใหญ่ออกจากรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ และเดินไปหาครอบครัวของแมนดี้ เมื่อเห็นเขา แมนดี้ก็ขมวดคิ้วทันที เขาไม่ใช่แค่ใครที่ไหน เขาเป็นคนที่เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดเคยแนะนำให้รู้จักกับเธอ สแตนลีย์ ร็อบบินส์จากตระกูลร็อบบินส์ "นี่คือ…" ดวงตาของลิเลียนเป็นประกายหลังจากที่รู้ว่าชายคนนั้นออกมาจากรถเมอร์เซเดส-เบน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปัญหาครอบครัวของคุณก็คือปัญหาของครอบครัวผมด้วยเช่นกัน!” “ตระกูลร็อบบินส์อาจเป็นแค่ตระกูลชนชั้นหนึ่ง แต่ว่าแม้แต่ตระกูลระดับแนวหน้าก็ยังต้องคิดให้ดีก่อนที่จะมายุ่มย่ามกับพวกเรา!” “เอาล่ะ เราไปเข้าร่วมพิธียิ่งใหญ่กันเถอะ!” “แต่…การ์ดเชิญมีเพียงสามใบเท่านั้น ผมเกรงว่าขอทานจะไม่มีสิทธิ์เข้าไปข้างใน” สแตนลีย์ชี้ไปที่ฮาร์วีย์ แล้วกอดแขนตัวเองราวกับว่าเขาชนะการต่อสู้ ลิเลียนพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เขาเป็นแค่สิ่งสกปรกโสโครก เขานี่ล่ะคนลงมือเอง ลงนามในกระดาษ และลากทั้งครอบครัวเราต่ำลงไปกับเขา!” “เราควรปล่อยให้คนอย่างเขาเน่าเฟะไป! ไม่ต้องไปชายตามองเขาหรอก!” “แมนดี้! ไปกันเถอะ เราควรเข้าไปข้างในกันได้แล้ว!” ไซม่อนและลิเลียนดูเหมือนพวกเขาพร้อมที่จะทิ้งฮาร์วีย์ไว้ ภาพเหตุการณ์นั้นทำให้แมนดี้ถึงกับขมวดคิ้วอย่างหนัก "คุณพ่อ คุณแม่คะ พวกคุณสามารถเข้าไปได้เลยถ้าพวกคุณต้องการ หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ หนูจะอยู่กับฮาร์วีย์” สแตนลีย์ยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณหนุซิมเมอร์ ผมรู้ดีว่าคุณนั้นมีจิตใจที่ดีงามราวกับนางฟ้า คุณจะไม่ยอมทิ้งผู้ชายคนนั้นไว้ข้างหลัง” “แล้วถ