ทุกคนในตระกูลยอร์กต่างทำตัวเย่อหยิ่ง พวกเขามองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยความรังเกียจที่ท่วมท้น‘อดีตเจ้าชายยอร์กไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลอันดับต้น ๆ ในเซาท์ไลท์หมายถึงอะไร!’‘พลังอำนาจ!’‘ความเตรียมพร้อม!’‘ไม้เด็ด!’‘ใครในเซาท์ไลท์กันที่สามารถต่อต้านพวกเราได้?’ในสายตาของพวกเขา มันจะสร้างความแตกต่างเว้นเสียว่ากบฏจะได้รับกองทัพของทหารจากผู้บัญชาการของเซาท์ไลท์…แต่ถ้าไม่ ฮาร์วีย์ ยอร์ก อดีตเจ้าชายยอร์กจะต้องจบสิ้นแน่!“หัวหน้าผู้ฝึกสอน!”อีธาน ฮันต์มีใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมและมือด้านขวาของเขาได้กำด้ามดาบของเขาไว้ด้วยพร้อมกับความต้องการที่จะเข้าไปใบหน้าของไทสัน วูดส์ดูซีดไร้ชีวิตชีวาแต่ยังยืนหยัดอยู่กับที่ในขณะที่คุ้นกันฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ด้านหลังของเขาเต็มไปด้วยความจงรักภักดีแต่ในด้านของลูกน้องของเขา พวกเขากลับตัวสั่นอย่างมากพวกเขาแค่คิดว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาทเหมือนตามท้องถนนและได้รับแจ้งว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงแค่กลุ่มอันธพาลจำนวนหนึ่งพวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีการใช้อาวุธเต็มรูปแบบขนาดนี้กับพวกเขาแม้ว่ามันจะไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนกันเครื่องบินหรือว่ารถถัง แต่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที
สายตาของทุกคนมองตรงไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กพวกเขาทั้งหมดต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ในที่สุดเขาจะคุกเข่าลงสักทีแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนและไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนแปลงเขามองไปที่อีธาน ฮันต์และพูด “ลุกขึ้นฉันจะจัดการปัญหาของตัวฉันเอง”อีธานไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่ลุกขึ้นยืนและยืดตัวตรง“ฮาร์วีย์!”หลังจากที่เห็นอย่างนั้นแล้ว โยนาธาน ยอร์กอุทานขึ้นมา “ถ้าแกคุกเข่าลงตอนนี้ ฉันยังจะสามารถวิงวอนกับคุณย่ายอร์กให้แกได้”ฮาร์วีย์มองไปยังโจนาธานอย่างเคร่งขรึมและตอบอย่างนิ่งสงบ “เมื่อคุณพูดมาแบบนี้แล้ว งั้นคุณก็ไปคุกเข่าที่ด้านข้างและผมจะไม่แตะต้องคุณ คุณยังเป็นผู้นำของตระกูลยอร์กได้เมื่อเรื่องทุกอย่างที่นี่จบลงแล้ว”“แกกล้าดูถูกนายท่านได้ยังไง?!”“ฮาร์วีย์ แกยังไม่กลัวความตายใช่ไหม?!”“ไม่เห็นเหรอว่าแม้แต่ลูกน้องของแกยังคุกเข่าเลย? แกจะไปเอาแรงที่ไหนมายืนอยู่?!”“นายท่านมีน้ำใจและเต็มใจหาทางออกให้ แต่แกยังอวดดีขนาดนี้ แกสมควรตายแล้ว!”ทุกคนในตระกูลยอร์กต่างกำลังพูดดูถูกฮาร์วีย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์ยังไม่สาม
“มิสเตอร์แฮงก์ คุณย่ายอร์กต้องการที่จะให้ชีวิตของเขาจบลงด้วยวิธีการที่น่าอับอายที่สุด” โยนาธาน ยอร์กพูดพร้อมกับรอยยิ้ม“พวกคุณช่างยุ่งยากเหลือเกิน!”ตุบ!ในเวลาต่อมา ฮัลค์ แฮงก์โยนปืนขนาดเล็กลงต่อหน้าฮาร์วีย์ ยอร์กจากนั้นเขาพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่สนใจว่าพวกคุณมีความแค้นอะไรต่อกัน แต่ในเมื่อฉันได้เงินจำนวนสามเท่าของจำนวนเงินแล้ว ฉันจะต้องทำงานของฉัน”“ฉันจะให้โอกาสคุณ คุกเข่าลงและจบชีวิตของตัวเองซะ!”“ถ้าคุณรอให้ฉันทำล่ะก็ คุณจะมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุด!”“แล้วเมื่อเวลานั้นมาถึง คุณจะเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้…”ฮัลค์ แฮงก์เป็นหนึ่งในผู้นำของทหารรับจ้างของทีมหมาป่าเดียวดาย โดยปกติเขาเป็นคนที่เย่อหยิ่งและถือตัวมากอยู่แล้ว เขารังเกียจความคิดที่จะให้คนของเขากำจัดฮาร์วีย์ทิ้งเขาต้องการให้ฮาร์วีย์คุกเข่าและจบชีวิตของตัวเองเพราะไม่มีหนทางสู่ความตายทางไหนที่น่าอับอายได้เท่านี้แล้วฮาร์วีย์เงยหน้าและพูดอย่างใจเย็น “นายแน่ใจเหรอ?”ตึก!ฮัลค์ แฮงก์ก้าวไปข้างหน้าอย่างอย่างดังจนเสียงก้องไปทั่วทั้งพื้นที่“คุณคงไม่อยากจะให้ฉันบังคับคุณหรอก! ฉันจะบีบคอคุณให้ตายอย่างกับลูกไก่!”“แกกล้
ฮาร์วีย์ ยอร์กตอบกลับ “ไม่ต้องหรอก ตอนนี้ผมอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว”คอนเนอร์ ฮีธกำลังหวาดกลัว“มิสเตอร์ยอร์ก ผมขอคุยกับเขาได้ไหมครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ผมขอเวลาครู่เดียวครับ!”ฮาร์วีย์โยนโทรศัพท์ของเขาลงต่อหน้าฮัลค์ แฮงก์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาฮัลค์ แฮงก์ที่เคยภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก แต่ตอนนี้เขากลับยืนตัวสั่นไปทั้งตัวเขากำลังถือโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างของเขาในขณะที่ตัวของเขาสั่นอย่างต่อเนื่อง“ผู้บัญชาการ นี่ผมเองครับ!”“ฮัลค์ ฉันให้อำนาจแกเพื่อให้แกทำตามใจของตัวเองในประเทศที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อไหร่?!” คอนเนอร์ดุด่าเขา“ผะ ผะ ผม…”ฮัลค์กำลังตัวสั่น เขารู้ว่าคอนเนอร์ ฮีธเป็นคนอย่างไร ถ้าเขามีความกล้าที่จะดูหมิ่นเขา อีกไม่นานเขาคงจะต้องชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง“แกรู้ไหมว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของแกเป็นใคร?! แกล้าดูหมิ่นเขาอย่างนั้นเหรอ?! แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?! แม้ว่าแกจะไม่อยากแล้ว แกก็ทำมันเอง อย่าลากคนอื่น ๆ ไปตายกับแกด้วย!”“เขาคือ…” ฮัลค์ถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว“แกจะมาถามว่าเขาเป็นใครทำไมตอนนี้?”“เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำลายสิงโตนับพันจากห้าประเทศที่ยิ่งใหญ่ในตอนนั้น ตอน
ฮัลค์ แฮงก์ตกตะลึงกับคำว่า “นายน้อยที่ถูกทอดทิ้ง”เขาค้างไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ‘ต้องเป็นตระกูลยังไงถึงกล้าทอดทิ้งคน ๆ นี้?’‘พวกเขาไม่รู้ว่าเหรอตระกูลของพวกเขาได้เสียโอกาสที่จะเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ บนโลก?’ในเวลาต่อไป เขาหยิบวิทยุสื่อสารของตัวเองออกมาและออกคำสั่งชู้วว…เสียงจากด้านนอกและบนท้องฟ้าดังขึ้นก้องไปหมด ปลายกระบอกปืนได้เปลี่ยนทิศทางของมันและทั้งหมดถูกชี้ไปยังโยนาธาน ยอร์ก, จอห์น ก็อตติและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ฮัลค์ไม่ได้สนใจอะไรเมื่อเขาทำงานให้กับโยนาธาน แต่ตอนนี้เขากลับจริงจังอย่างมาก เขาคงจะไม่จริงจังขนาดนี้ถ้าเขาอยู่ในสนามรบในตอนนี้การแสดงออกของโยนาธานและจอห์นมืดหมองสนิทพันธมิตรเมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้หันปลายกระบอกปืนมายังพวกเขาทันทีโดยปราศจากจุดบอดแม้แต่จุดเดียว!พวกเขาที่เคยหยิ่งผยองและตอนนี้พวกกลับกำลังอยู่ในความสิ้นหวัง!ชีวิตก็เหมือนละคร!และนี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ!จอห์นเป็นคนแรกที่ยอมจำนนด้วยแรงกดดันมหาศาลเขายกมือทั้งสองข้างและถอนหายใจออกมา“เจ้าชายยอร์กในเหตุการณ์นี้ ฉันมาที่นี่เพื่อชายชราจากตระกูลของคุณนะ!”“เม
โยนาธานอดที่จะคิดไม่ได้เลยว่าตระกูลยอร์กจะเป็นอย่างไร ถ้าก่อนหน้านั้นเขาไม่ต่อต้านฮาร์วีย์?การเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ในเซาท์ไลท์นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น!บางทีพวกเขาอาจสยบโลกทั้งใบได้และอยู่เหนือกว่าใครและโยนาธานอาจจะได้เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีสถานะสูงสุดในโลกและผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่แต่เขาพลาดโอกาสนั้นไป!และไม่มีทางย้อนกลับไปแก้ไขได้!และตอนนี้เขาต้องชดเชยสิ่งนั้น!ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเจ้าชายยอร์ก ผมวางแผนที่จะทำให้ตระกูลยอร์กเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก!”“และสักวันหนึ่ง ขึ้นไปสู่อันดับสูงสุดของโลกที่สุดยอดที่สุดเพียงหนึ่งเดียว!”“แต่เมื่อแผนของผมสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว คุณกลับทำอะไรลงไป?”“โยนาธาน ผมขอถามอะไรหน่อย คุณเคยเสียใจกับสิ่งที่คุณเลือกทำลงไปไหม?”กายของโยนาธานเริ่มอ่อนแรง แต่ความจองหองในความเป็นผู้นำของงเขาก็ไม่ทำให้เขายอมคุกเข่าลงง่าย ๆจากนั้นเขาก็พูดช้า ๆ ว่า “ฮาร์วีย์… ไม่สิ… เจ้าชาย…”“เมื่อสามปีที่แล้วพวกเราคิดผิด! แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป!”“ฉันจะไปขอร้องต่อหน้าคุณย่ายอร์ก เธอจะยอมให้นาย
“หัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ เราได้รับข่าวจากลูกน้องที่ลานซิลเวอร์นิมบัส”“เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธพาบุคคลสำคัญสองสามคนจากตระกูลออกไปแล้ว จะให้ทำยังไงต่อไปดีครับ?!” อีธานเดินเข้ามารายงานอย่างเบา ๆ“เมลิสซาหนีไปแล้วเหรอ?”สีหน้าของฮาร์วีย์ยังนิ่งเฉย“ไปดูกันเถอะ…”ไม่นานผู้คนกลุ่มหนึ่งออกมาจากด้านหลังลานซิลเวอร์นิมบัสบรรยากาศลานซิลเวอร์นิมบัสดูมืดมัวหดหู่ พวกยอร์กยังไม่ได้ออกไปสักคนแต่เมลิสซา ควินตัน สตีเฟน และควีนนี่ กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพวกหมาป่าเดียวดายเดินตามหลังติด ๆ แม้จะไม่มีคำสั่งจากฮาร์วีย์ แต่พวกเขาก็ปิดกั้นทั่วบริเวณลานซิลเวอร์นิมบัสทั้งหมดไว้แล้วพวกยอร์กคุกเข่าลงต่อหน้าเขา คร่ำครวญขอความเมตตา“เมลิสซาอยู่ไหน?” ฮาร์วีย์ถาม“คุณย่ายอร์กรู้เรื่องเข้าและรีบร้อนออกไปทันที”“แต่เธอฝากบอกอะไรไว้...” ใครบางคนจากยอร์กพูดขึ้นมาอย่างลังเล“บอกว่า…”“คุณย่ายอร์กบอกว่ามันยังไม่จบแค่นี้ และเธอจะเล่นกับคุณไปจนจบเรื่องนี้!”คนที่พูดตัวสั่นทันทีหลังจากเขาพูดจบ กลัวว่าชีวิตของเขาจะจบลงตรงนี้เพราะฮาร์วีย์ฮาร์วีย์หรี่ตาลง จากนั้นสายตาก็มองไปยังโยนาธาน“กระจายข่าวออกไป พวกยอร์กจ
“ครั้งนี้ฉันประเมินเด็กอวดดีนั่นต่ำไป!”“ฉันคิดว่ามันจะไม่มียศศักดิ์อะไรแล้วหลังจากถอนตัวจากกองทัพ!”“ฉันไม่คิดว่ามันจะมีเครือข่ายแบบนี้!”“แต่ของอย่างนี้ไม่ช้าก็เร็วก็คงหมดไป”“นั่นเพราะเราไม่สามารถโต้กลับอะไรได้ในตอนนี้ ให้รอจนกว่าสกาย คอร์ปอเรชั่นพังพินาศลง…”“ฉันให้สตีเฟนควบคุมเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลเฟิร์สคลาสทั้งสี่ตระกูล ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ฉันจะคุยกับเขาเอง!”เมลิสซาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เธอได้ตระเตรียมไว้ทุกอย่างสำหรับออกจากบัควู้ดควินตันขมวดคิ้วและพูดว่า “แต่…”“ควินตัน นายชอบหมากรุก งั้นนายต้องรู้เรื่องนี้”“ชีวิตก็เหมือนหมากรุก เรายอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อที่เราจะสามารถชนะสงครามได้!“นายยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำในฮ่องกง ทิ้งเซาท์ไลท์ให้สตีเฟ่นจัดการ!”“เอาล่ะ!”ควินตันไม่กล้าที่จะแย้งเมื่อพวกเขาทั้งหมดเดินออกมา ทุกคนก็คุกเข่าลงต่อหน้าพวกเขาตรงหน้าเรือยอร์ช“ทำความเคารพคุณย่ายอร์ก!”***เมื่อฮาร์วีย์และซีนเธียร์กลับถึงบ้าน ไซม่อนและลิเลียนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นลิเลียนโพล่งขึ้นมาอย่างโกรธจัด “แก! แกทำตัวว่างงานทุกวัน! ไม่เห็นเหรอ