สำหรับโยนาธาน ยอร์กความจริงที่ว่าลูกชายแท้ ๆ ของเขาเป็นที่สังเกตจากคนอย่างอีธาน ฮันต์นั้นมันช่างเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การยกย่องอย่างแน่นอน อาจมีความเป็นไปได้สูงที่ลูกชายของเขาจะมีโอกาสได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำของตระกูลในอนาคต แต่ในทางกลับกันแล้ว เรื่องนี้มันกลับไม่ใช่ข่าวดีสักเท่าไหร่สำหรับควินตัน ยอร์ก ในสายตาของเขา อีธาน ฮันต์คือผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญผ่านสายสัมพันธ์ของโยนาธาน และยิ่งในตอนนี้ที่อีธานยังได้กล่าวถึงเวย์น ยอร์กโดยเฉพาะอีกด้วย แล้วนี่จะหมายความว่าอย่างไรไปได้อีก? อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความคิดที่แวบเข้ามาในจิตใจของโยนาธานและควินตันเพียงชั่วครู่ พวกเขากำลังรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่เคยในขณะนี้ เมื่ออีธานพูดแบบนั้น ไม่ว่าเขาจะให้การสนับสนุนใครในตระกูลยอร์ก ก็เป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเขากำลังแสดงการสนับสนุนตระกูลยอร์ก ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเวทีไม่มีใครสนใจความขัดแย้งภายในตระกูลยอร์ก สิ่งที่พวกเขาเห็นก็เป็นเพียงแค่การที่ตระกูลยอร์กกำลังโชว์อำนาจของตระกูลตัวเองในขณะนั้น เผยให้เห็นความจริงที่ว่าสี่ผู้ลือชื่อแห่งตระกูลยอร์กนั้นได้รับการยอมรับจากพันโทฮันต์!
ไม่นานหลังจากนั้น อีธาน ฮันต์ก็ได้เดินมาถึงที่นั่งตรงกลางซึ่งเหลือว่างไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะโดยมีโยนาธานและควินตัน ยอร์กเดินประกบอยู่เคียงข้างเขา โยนาธานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พันโทฮันต์ครับ! ที่นั่งนี้สงวนไว้สำหรับท่านโดยเฉพาะ ไม่มีใครนอกจากท่านแล้วในงานนี้ที่ควรค่าแก่การนั่งที่นี่” “เชิญนั่งก่อนครับ พันโทฮันต์!” แม้แต่ผู้บังคับบัญชาอันดับสองแห่งเซาท์ไลท์ก็ยังทำท่าทางเชื้อเชิญต้อนรับเขาให้นั่งลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีงามกับอีธาน ฮันต์ไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดนั้น อีธานกลับนิ่งเงียบและขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่ได้นั่งลงทันทีหรือขยับตัวแม้แต่นิดเดียว เขาจ้องไปที่ที่นั่งตรงหน้าเขาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ในขณะนั้น ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยกับเหตุการณ์เบื้องหน้า โดยเฉพาะเหล่าตระกูลยอร์ก พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เบื้องหน้าของพวกเขาเลย ชายผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เฉกเช่นเดียวกับตระกูลยอร์ก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้แต่การกระทำหรือสิ่งเล็ก ๆ น้อยจากเขา มันก็ได้ส่งผลให้ยอร์กรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ขณะ
อีธาน ฮันต์หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คนเดียวที่สมควรนั่งที่ตรงนี้ในงานนี้คงจะไม่ใช่ฉัน…” “ยังมีคนอื่นอีกเหรอ?” "ใครคือคน ๆ นั้นกัน? โปรดช่วยประทานความกระจ่างแก่พวกเราที่เถอะ ผู้พันฮันต์!” โยนาธาน ยอร์กเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ “อืมมมม ถ้าคน ๆ นั้นไม่เปิดเผยตัวเองขึ้นมา ฉันเองก็คงไม่กล้าที่จะพูดชื่อของเขาออกมา” อีธานมีใบหน้าที่ดูลึกลับอย่างมาก “และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็อยู่ในงานนี้แล้ว และฉันก็เห็นเขาแล้วด้วย!” "อะไรกัน?! มีใครบางคนที่มีสถานะสูงกว่าพันโทฮันต์ในงานนี้อีกเหรอเนี่ย?” “และประเด็นสำคัญคือคน ๆ นั้นดำรงตำแหน่งสูงกว่าผู้พันฮันต์ แม้แต่คนระดับเขาก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะบอกเราว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร?” ในขณะนั้น ในงานกลับกลายเต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหล แม้แต่คุณย่ายอร์กที่อยู่ภายในห้องส่วนตัวก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองออกมาผ่านช่องว่างระหว่างหน้าต่าง เธอยังต้องการรู้อีกว่าคนที่มีสถานะใหญ่โตขนาดไหนกันที่มาที่บัควู้ด หวังว่ามันคงจะไม่ใช่คนสำคัญที่มาจากโวลซิ่งใช่ไหม? “ผู้พันฮันต์ ต้องขออภัยสำหรับการเสียมารยาท แต่ฉันขอทราบชื่อของคนผู้นั้นได้ไหม?” ภายในห้องส่วนตัว ค
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนก็ลุกขึ้นทีละแถวโดยอัตโนมัติด้วยความหวังว่าชายคนนั้นที่อีธาน ฮันต์พูดถึงจะเป็นคนที่พวกเขารู้จัก แม้แต่โรซาลี ไนส์เวลล์และบรูซ คลาวด์ก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา พวกเขาก็ก้มหน้ามองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าใครคือคน ๆ นั้น! แม้แต่โรซาลี ไนส์เวลล์ และ บรูซ คลาวด์ก็อยู่ท่ามกลางพวกคนเหล่านั้น พวกเขามองไปรอบ ๆ เพื่อรอดูว่าใครคือคน ๆ นั้น! ผู้คนในงานต่างกระสับกระส่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคนที่อยู่ในสองสามแถวสุดท้ายเมื่ออีธานได้เดินผ่านแถวกลางมาแล้ว ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นคนเดียวที่ดูเฉยเมย เขานิ่งราวกับภูเขา และไม่เคลื่อนไหวไปไหนราวกับก้อนหิน เมื่อเห็นเช่นนั้นซีนเธียร์ ซิมเมอร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะล้อเล่นกับพี่เขยของตัวเอง “พี่เขย อย่าบอกฉันนะว่าคนที่พันโทฮันต์กำลังพูดถึงคือพี่” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “อืม เธอเดาถูกแล้ว” แต่ซีนเธียร์กลับแค่หัวเราะเบา ๆ เพราะคิดว่าพี่เขยของเธอกำลังกวนประสาทเธอกลับ ไม่นาน กลุ่มคนก็มาถึงยังแถวสุดท้าย เหล่าคนในที่นั่งแถวสุดท้ายต่างก็ตื่นเต้นและลุกขึ้นยืน เหล่ายอร์กทุกคนต่างก็ดูกระสับกระส่าย พวกเขาจัดที่นั่งให้ชายในตำนานของกองทัพไ
เป็นพี่เขยจริง ๆ เหรอเนี่ย?! ในขณะนี้ ซีนเธียร์นั้นสับสนปนความประหลาดใจและความตกใจ อีกทั้งเธอเองยังไม่อยากที่จะเชื่อกับเหตุการณ์เบื้องหน้า ทันใดนั้น สายตาของทุก ๆ คนต่างก็จ้องมองมาที่พวกเขาด้วยความพร้อมเพรียงกัน ฮาร์วีย์ ยอร์กและซีนเธียร์ ซิมเมอร์ ทั้งสองได้กลายมาเป็นจุดเด่นของทั้งงานไปโดยปริยาย! ซีนเธียร์รู้สึกหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก ราวกับว่าเวลาได้หยุดเดินและอากาศรอบ ๆ ได้กลายไปเป็นน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ เหตุผลต่าง ๆ ได้กระจัดกระจายออกจากสมองของเธอไปจนหมด เหลือไว้เพียงแต่ความว่างเปล่า ซีนเธียร์รู้สึกว่าเธอกำลังตัวสั่นไปหมดแล้ว เธออยากที่จะถามฮาร์วีย์อีกครั้ง แต่ว่าก็ไม่สามารถแม้แต่จะรวบรวมพลังงานเพื่ออ้าปากเอ่ยถามได้ ผู้ชายคนนี้ช่างลึกลับเหลือเกิน! ตึก ตึก ตึก… อีธานก้าวเข้ามาทันที รองเท้าบูททหารของเขานั้นได้สร้างเสียงเดินที่เป็นจังหวะกับพรมหนา ๆ ที่พื้น เสียงรองเท้ากระทบกับพรมนั้นทำให้ทุกคนลุ้นจนแทบจะบ้า มันให้ความรู้สึกราวกับค้อนใหญ่ ๆ ที่กำลังกระทบลงบนหน้าอกของพวกเขา เสียงนี้ทำให้ทุกคนเริ่มหวนคืนสู่ความเป็นจริงจากภวังค์ของพวกเขาก่อนหน้านี้ เมื่อมองไปที่ชายแล
ช็อก! ระทึกขวัญ! เหลือเชื่อ! นี่เป็นสิ่งที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของคนเหล่านั้นที่ได้มาร่วมงานวันเกิดวันนี้อย่างแน่นอน! ยูนา ชอว์, อีเวตต์ ยาเนส, คาร์เทอร์ โคเอน, และคนอื่น ๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นเสมือนผู้มีพระคุณที่แท้จริงเพียงคนเดียวในหมู่ของพวกเขา! อีธาน ฮันต์ไม่ได้ให้เวลาคนอื่น ๆ ได้แสดงความประทับใจนานนัก เขาโค้งคำนับและพูดขึ้นว่า “ท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ โปรดไปที่ที่นั่งแถวหน้าพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านเถอะครับ!” “ที่นั่งนั้นเหมาะสมที่จะเป็นของท่าน!” “เฉพาะที่นั่งตรงนั้นเท่านั้นที่คู่ควรเหมาะสมกับท่าน!” ฮาร์วีย์พยักหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ตามนั้น” ในขณะนี้ ทุกคนต่างก็เข้ามารายล้อบรอบ ๆ บริเวณนั้น อีธานหันกลับช้า ๆ มองดูเหล่าผู้คนจากยอร์ก แล้วพูดว่า “โยนาธาน ยอร์ก, ควินตัน ยอร์ก พวกคุณไม่อยากรู้เหรอว่าเขาคือใคร?” “ให้ผมแนะนำนายท่านกับพวกคุณแล้วกัน!” “บุคคลท่านนี้ได้ออกจากบัควู้ดไปชั่วคราวเมื่อสามปีที่แล้ว” “ในขณะนั้น เขาครองตำแหน่ง เจ้าชายยอร์ก!” “ในที่สุดเขาก็ได้กลับมาในสามปีต่อมา ถ้าเขายินด
โรซาลี ไนส์เวลล์ เธอยังคงสงสัยเคลือบแคลงใจในตัวฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ครู่หนึ่ง เธอเคยคิดว่าเขากำลังคุยโวโอ้อวดแถมเก่งแต่ปาก และเธอกำลังจะกลับไปเกลี้ยกล่อมคุณปู่ของเธอไม่ให้ถูกผู้ชายคนนี้หลอกอีกในอนาคต แต่ในเวลานี้ เธอไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกหรือทำตัวอย่างไรดี ก่อนหน้านี้เธอแอบรู้สึกสับสน แต่ทว่าในตอนนี้เธอยิ่งสับสนมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก ฮาร์วีย์จ้องมองอย่างเย็นชาไปที่บรูซ คลาวด์อีกครั้ง ฮาร์วีย์เพียงแค่มองเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตาม บรูซกลับเสียวสันหลังวูบวาบเมื่อถูกฮาร์วีย์จ้องมอง เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ เขาทรุดลงคุกเข่าลงกับพื้นในทันที ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะหันกลับมามองเขาอีกเลยหลังจากนั้น เขานั้นไม่คู่ควรที่จะอยู่ในสายตาชายผู้ยิ่งใหญ่เฉกเช่นเขา! หลังจากเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ อีธาน ฮันต์ก็ดึงเก้าอี้ถอยหลังให้ฮาร์วีย์เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้เขานั่งลง ฮาร์วีย์จึงนั่งลงด้วยท่าทีสบาย ๆ คนที่นั่งถัดจากเขาคืออีธานและซีนเธียร์ และด้านข้างของพวกเขาคือไคล์ ควินแลน, โยเอล เกรฮัม, และเหล่าคนดังอื่น ๆ ในที่สุดพวกเขาทั้งหมดต่างก็กระจ่างแจ้งถึงเหตุผลต่าง ๆ
ไม่นานนักก็เหลือคนเพียงแค่สองกลุ่มเท่านั้นภายในที่เกิดเหตุ ด้านหนึ่งเป็นเหล่าคนจากตระกูลยอร์ก ในอีกด้านหนึ่ง ได้แก่ ฮาร์วีย์ ยอร์ก, อีธาน ฮันต์ และ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ การแสดงออกของเหล่าสมาชิกตระกูลยอร์กได้กลับมาเป็นปกติในที่สุด เพียงสามคำ “เจ้าชายยอร์ก” นั้น มันก็ได้สร้างความเครียดให้กับพวกเขาอย่างท่วมท้นและมันยังทำให้พวกเขารู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก! อย่างไรก็ตาม ในฐานะตระกูลระดับแนวหน้าของเซาท์ไลท์ ยอร์กก็มีความภาคภูมิใจที่ค้ำชูพวกเขาอยู่ แล้วทำไมถึงจะต้องไปสนล่ะว่าเขาคือเจ้าชายยอร์ก? เมื่อสามปีที่แล้ว พวกเขาบังคับเขาให้ออกจากบัควู้ดได้ สามปีต่อมาทำไมพวกเขาจะทำมันอีกครั้งไม่ได้ ... มีกลิ่นเครื่องหอมโชยอยู่ภายในห้องด้านล่างของเวที ควินนี่ ยอร์ก เธอสวมเสื้อผ้าเรียบ ๆ คุกเข่าลงข้าง ๆ คุณย่ายอร์กและใบหน้าของเธอยังคงนิ่ง ในขณะนั้น คุณย่ายอร์กค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอถือไม้เท้าหัวมังกรที่ประดับด้วยเพชรพลอยต่าง ๆ ในมือด้านขวา แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ “ไอ้เจ้าลูกนอกสมรสคนนั้น มันอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ?” หญิงชราสูดหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอยดูมีความ