อีธาน ฮันต์หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คนเดียวที่สมควรนั่งที่ตรงนี้ในงานนี้คงจะไม่ใช่ฉัน…” “ยังมีคนอื่นอีกเหรอ?” "ใครคือคน ๆ นั้นกัน? โปรดช่วยประทานความกระจ่างแก่พวกเราที่เถอะ ผู้พันฮันต์!” โยนาธาน ยอร์กเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้ “อืมมมม ถ้าคน ๆ นั้นไม่เปิดเผยตัวเองขึ้นมา ฉันเองก็คงไม่กล้าที่จะพูดชื่อของเขาออกมา” อีธานมีใบหน้าที่ดูลึกลับอย่างมาก “และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็อยู่ในงานนี้แล้ว และฉันก็เห็นเขาแล้วด้วย!” "อะไรกัน?! มีใครบางคนที่มีสถานะสูงกว่าพันโทฮันต์ในงานนี้อีกเหรอเนี่ย?” “และประเด็นสำคัญคือคน ๆ นั้นดำรงตำแหน่งสูงกว่าผู้พันฮันต์ แม้แต่คนระดับเขาก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะบอกเราว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร?” ในขณะนั้น ในงานกลับกลายเต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหล แม้แต่คุณย่ายอร์กที่อยู่ภายในห้องส่วนตัวก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองออกมาผ่านช่องว่างระหว่างหน้าต่าง เธอยังต้องการรู้อีกว่าคนที่มีสถานะใหญ่โตขนาดไหนกันที่มาที่บัควู้ด หวังว่ามันคงจะไม่ใช่คนสำคัญที่มาจากโวลซิ่งใช่ไหม? “ผู้พันฮันต์ ต้องขออภัยสำหรับการเสียมารยาท แต่ฉันขอทราบชื่อของคนผู้นั้นได้ไหม?” ภายในห้องส่วนตัว ค
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนก็ลุกขึ้นทีละแถวโดยอัตโนมัติด้วยความหวังว่าชายคนนั้นที่อีธาน ฮันต์พูดถึงจะเป็นคนที่พวกเขารู้จัก แม้แต่โรซาลี ไนส์เวลล์และบรูซ คลาวด์ก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา พวกเขาก็ก้มหน้ามองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าใครคือคน ๆ นั้น! แม้แต่โรซาลี ไนส์เวลล์ และ บรูซ คลาวด์ก็อยู่ท่ามกลางพวกคนเหล่านั้น พวกเขามองไปรอบ ๆ เพื่อรอดูว่าใครคือคน ๆ นั้น! ผู้คนในงานต่างกระสับกระส่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคนที่อยู่ในสองสามแถวสุดท้ายเมื่ออีธานได้เดินผ่านแถวกลางมาแล้ว ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นคนเดียวที่ดูเฉยเมย เขานิ่งราวกับภูเขา และไม่เคลื่อนไหวไปไหนราวกับก้อนหิน เมื่อเห็นเช่นนั้นซีนเธียร์ ซิมเมอร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะล้อเล่นกับพี่เขยของตัวเอง “พี่เขย อย่าบอกฉันนะว่าคนที่พันโทฮันต์กำลังพูดถึงคือพี่” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “อืม เธอเดาถูกแล้ว” แต่ซีนเธียร์กลับแค่หัวเราะเบา ๆ เพราะคิดว่าพี่เขยของเธอกำลังกวนประสาทเธอกลับ ไม่นาน กลุ่มคนก็มาถึงยังแถวสุดท้าย เหล่าคนในที่นั่งแถวสุดท้ายต่างก็ตื่นเต้นและลุกขึ้นยืน เหล่ายอร์กทุกคนต่างก็ดูกระสับกระส่าย พวกเขาจัดที่นั่งให้ชายในตำนานของกองทัพไ
เป็นพี่เขยจริง ๆ เหรอเนี่ย?! ในขณะนี้ ซีนเธียร์นั้นสับสนปนความประหลาดใจและความตกใจ อีกทั้งเธอเองยังไม่อยากที่จะเชื่อกับเหตุการณ์เบื้องหน้า ทันใดนั้น สายตาของทุก ๆ คนต่างก็จ้องมองมาที่พวกเขาด้วยความพร้อมเพรียงกัน ฮาร์วีย์ ยอร์กและซีนเธียร์ ซิมเมอร์ ทั้งสองได้กลายมาเป็นจุดเด่นของทั้งงานไปโดยปริยาย! ซีนเธียร์รู้สึกหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก ราวกับว่าเวลาได้หยุดเดินและอากาศรอบ ๆ ได้กลายไปเป็นน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ เหตุผลต่าง ๆ ได้กระจัดกระจายออกจากสมองของเธอไปจนหมด เหลือไว้เพียงแต่ความว่างเปล่า ซีนเธียร์รู้สึกว่าเธอกำลังตัวสั่นไปหมดแล้ว เธออยากที่จะถามฮาร์วีย์อีกครั้ง แต่ว่าก็ไม่สามารถแม้แต่จะรวบรวมพลังงานเพื่ออ้าปากเอ่ยถามได้ ผู้ชายคนนี้ช่างลึกลับเหลือเกิน! ตึก ตึก ตึก… อีธานก้าวเข้ามาทันที รองเท้าบูททหารของเขานั้นได้สร้างเสียงเดินที่เป็นจังหวะกับพรมหนา ๆ ที่พื้น เสียงรองเท้ากระทบกับพรมนั้นทำให้ทุกคนลุ้นจนแทบจะบ้า มันให้ความรู้สึกราวกับค้อนใหญ่ ๆ ที่กำลังกระทบลงบนหน้าอกของพวกเขา เสียงนี้ทำให้ทุกคนเริ่มหวนคืนสู่ความเป็นจริงจากภวังค์ของพวกเขาก่อนหน้านี้ เมื่อมองไปที่ชายแล
ช็อก! ระทึกขวัญ! เหลือเชื่อ! นี่เป็นสิ่งที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของคนเหล่านั้นที่ได้มาร่วมงานวันเกิดวันนี้อย่างแน่นอน! ยูนา ชอว์, อีเวตต์ ยาเนส, คาร์เทอร์ โคเอน, และคนอื่น ๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นเสมือนผู้มีพระคุณที่แท้จริงเพียงคนเดียวในหมู่ของพวกเขา! อีธาน ฮันต์ไม่ได้ให้เวลาคนอื่น ๆ ได้แสดงความประทับใจนานนัก เขาโค้งคำนับและพูดขึ้นว่า “ท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ โปรดไปที่ที่นั่งแถวหน้าพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านเถอะครับ!” “ที่นั่งนั้นเหมาะสมที่จะเป็นของท่าน!” “เฉพาะที่นั่งตรงนั้นเท่านั้นที่คู่ควรเหมาะสมกับท่าน!” ฮาร์วีย์พยักหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ตามนั้น” ในขณะนี้ ทุกคนต่างก็เข้ามารายล้อบรอบ ๆ บริเวณนั้น อีธานหันกลับช้า ๆ มองดูเหล่าผู้คนจากยอร์ก แล้วพูดว่า “โยนาธาน ยอร์ก, ควินตัน ยอร์ก พวกคุณไม่อยากรู้เหรอว่าเขาคือใคร?” “ให้ผมแนะนำนายท่านกับพวกคุณแล้วกัน!” “บุคคลท่านนี้ได้ออกจากบัควู้ดไปชั่วคราวเมื่อสามปีที่แล้ว” “ในขณะนั้น เขาครองตำแหน่ง เจ้าชายยอร์ก!” “ในที่สุดเขาก็ได้กลับมาในสามปีต่อมา ถ้าเขายินด
โรซาลี ไนส์เวลล์ เธอยังคงสงสัยเคลือบแคลงใจในตัวฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ครู่หนึ่ง เธอเคยคิดว่าเขากำลังคุยโวโอ้อวดแถมเก่งแต่ปาก และเธอกำลังจะกลับไปเกลี้ยกล่อมคุณปู่ของเธอไม่ให้ถูกผู้ชายคนนี้หลอกอีกในอนาคต แต่ในเวลานี้ เธอไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกหรือทำตัวอย่างไรดี ก่อนหน้านี้เธอแอบรู้สึกสับสน แต่ทว่าในตอนนี้เธอยิ่งสับสนมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก ฮาร์วีย์จ้องมองอย่างเย็นชาไปที่บรูซ คลาวด์อีกครั้ง ฮาร์วีย์เพียงแค่มองเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตาม บรูซกลับเสียวสันหลังวูบวาบเมื่อถูกฮาร์วีย์จ้องมอง เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ เขาทรุดลงคุกเข่าลงกับพื้นในทันที ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะหันกลับมามองเขาอีกเลยหลังจากนั้น เขานั้นไม่คู่ควรที่จะอยู่ในสายตาชายผู้ยิ่งใหญ่เฉกเช่นเขา! หลังจากเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ อีธาน ฮันต์ก็ดึงเก้าอี้ถอยหลังให้ฮาร์วีย์เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้เขานั่งลง ฮาร์วีย์จึงนั่งลงด้วยท่าทีสบาย ๆ คนที่นั่งถัดจากเขาคืออีธานและซีนเธียร์ และด้านข้างของพวกเขาคือไคล์ ควินแลน, โยเอล เกรฮัม, และเหล่าคนดังอื่น ๆ ในที่สุดพวกเขาทั้งหมดต่างก็กระจ่างแจ้งถึงเหตุผลต่าง ๆ
ไม่นานนักก็เหลือคนเพียงแค่สองกลุ่มเท่านั้นภายในที่เกิดเหตุ ด้านหนึ่งเป็นเหล่าคนจากตระกูลยอร์ก ในอีกด้านหนึ่ง ได้แก่ ฮาร์วีย์ ยอร์ก, อีธาน ฮันต์ และ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ การแสดงออกของเหล่าสมาชิกตระกูลยอร์กได้กลับมาเป็นปกติในที่สุด เพียงสามคำ “เจ้าชายยอร์ก” นั้น มันก็ได้สร้างความเครียดให้กับพวกเขาอย่างท่วมท้นและมันยังทำให้พวกเขารู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก! อย่างไรก็ตาม ในฐานะตระกูลระดับแนวหน้าของเซาท์ไลท์ ยอร์กก็มีความภาคภูมิใจที่ค้ำชูพวกเขาอยู่ แล้วทำไมถึงจะต้องไปสนล่ะว่าเขาคือเจ้าชายยอร์ก? เมื่อสามปีที่แล้ว พวกเขาบังคับเขาให้ออกจากบัควู้ดได้ สามปีต่อมาทำไมพวกเขาจะทำมันอีกครั้งไม่ได้ ... มีกลิ่นเครื่องหอมโชยอยู่ภายในห้องด้านล่างของเวที ควินนี่ ยอร์ก เธอสวมเสื้อผ้าเรียบ ๆ คุกเข่าลงข้าง ๆ คุณย่ายอร์กและใบหน้าของเธอยังคงนิ่ง ในขณะนั้น คุณย่ายอร์กค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอถือไม้เท้าหัวมังกรที่ประดับด้วยเพชรพลอยต่าง ๆ ในมือด้านขวา แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ “ไอ้เจ้าลูกนอกสมรสคนนั้น มันอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ?” หญิงชราสูดหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอยดูมีความ
ที่บริเวณศูนย์กลางของสถานที่จัดงาน สมาชิกของตระกูลยอร์กทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น แม้แต่ควินตัน ยอร์กผู้มีอำนาจสูงและโยนาธาน ยอร์กที่ฉลาดหลักแหลมก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่คุกเข่าลง ในเวลาเดียวกัน พวกเขาขยับไปทางด้านหลังเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ นั่นก็เป็นเพราะคนที่ปรากฏตัวเบื้องหน้าพวกเขาในตอนนี้คือผู้อาวุโสของตระกูลยอร์ก คุณย่ายอร์ก เชื่อกันว่าหญิงชราคนนี้มาจากตระกูลที่มั่งคั่งซึ่งเทียบได้กับ 10 อันดับแรกของตระกูลชั้นนำของประเทศ H ซึ่งร่ำรวยมีทรัพย์สินมหาศาล ตระกูลยอร์กเป็นเพียงตระกูลระดับต้น ๆ ในเซาท์ไลท์เมื่อตอนที่เธอแต่งงานกับคุณปู่ยอร์ก หลังจากที่เธอแต่งงานกับคุณปู่ยอร์กแล้ว ตระกูลนี้ก็เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบปีที่ตระกูลยอร์กกลายมาเป็นตระกูลชั้นนำเพียงครอบครัวเดียวในเซาท์ไลท์ และอยู่อย่างนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ในสายตาของคนรุ่นเก่าในเซาท์ไลท์ คุณย่ายอร์ก, เมลิสซา ลีโอ ทั้งสองเป็นผู้ที่ทำให้ตระกูลยอร์กเฟื่องฟูมีหน้ามีตาทางสังคมอย่างแท้จริง คุณปู่ยอร์กเสียชีวิตตั้งแต่สมัยที่ฮาร์วีย์ยังเด็ก และเขาไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากนัก หรือจะกล่าวได้ว่าแม
ฮาร์วีย์ ยอร์กมองไปที่สตีเฟ่น ยอร์กด้วยท่าทางเชิงประชดประชัน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แฝดของนายก็ฉลาดอยู่นะ แต่ทำไมนายดันปัญญาอ่อนซะล่ะ” “ฉันคุ้นเคยกับรูปแบบการกระทำของยัยมดเฒ่าคนนี้มากกว่านายเป็นร้อยเท่า!” “นายไม่เคยคิดเกี่ยวกับมันบ้างเลยเหรอ?” “ถ้าฉันไม่มีความมั่นใจ ฉันจะกล้าก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ในวันนี้ได้ยังไง?” ทุก ๆ คนจากตระกูลยอร์กต่างก็รู้สึกตื่นตระหนก แท้ที่จริงแล้ว ฮาร์วีย์ ยอร์กหรือที่รู้จักในนามเจ้าชายยอร์ก เขาใช้ความพยายามของเขาอย่างมากในการปลุกและสร้างตระกูลยอร์กที่ไม่มีชีวิตชีวาให้กลับขึ้นใหม่ หลังจากนั้นตระกูลยอร์กก็กลายเป็นตระกูลชั้นนำของเซาท์ไลท์ในเวลาเพียงแค่สามปี ตลอดกระบวนการนี้ เขาเป็นคนที่ติดต่อกับคุณย่ายอร์ก เมลิสซา ลีโอมากที่สุด สำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ของยอร์ก พวกเขาบางคนอาจไม่มีแม้กระทั่งสิทธิ์ที่จะได้พบกับหญิงชราปีละครั้งด้วยซ้ำ ดังนั้น คนที่รู้จักสนิทคุ้นเคยกับคุณย่ายอร์กมากที่สุดก็อาจจะเป็นเขาจริง ๆ การแสดงออกของสตีเฟ่น ยอร์กเปลี่ยนไปทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดด้วยความเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ อีธาน ฮันต์ที่อยู่ข้าง ๆ แกในตอนนี้ถือเป็นไพ่ที่ดีท