ในเวลาไม่ถึงนาที การประมูลที่เข้มข้นก็เกิดขึ้น ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าดาบมีมูลค่าเท่าไรการประมูลหลายรอบต่อมา ชารอนยืนขึ้นพร้อมกับกัดฟันแน่น“สามร้อยล้านดอลลาร์! ฉันจะซื้อมันด้วยเงินสามร้อยล้านดอลลาร์!”“ใครก็ตามที่กล้าสู้กับฉัน ก็จะถือว่ากำลังต่อต้านดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน!”เมื่อทุกคนได้ยินชื่อนั้น ฝูงชนทั้งหมดก็เงียบกริบมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลางและเจ้าชายยุโรปเหนือที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนขมวดคิ้วหากชารอนแค่เพียงมาเข้าร่วมการประมูลในนามของเธอเอง เขาก็คงเสนอราคาสู้กับเธอได้แต่ถ้าเธอเข้ามาในนามตัวแทนของราชวงศ์จากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน การทำเช่นนั้นก็จะเหมือนหิ่งห้อยบินเข้ากองไฟทุกคนต่างรู้ดีว่าเจ้าหญิงองค์โตรับมือได้ยากขนาดไหนการสร้างความขุ่นเคืองใจต่อดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเพราะดาบหักเล่มเดียวนั้นไม่คุ้มที่จะเสี่ยง แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอนก็ตาม“มีเพียงฉันเท่านั้นที่จะมีดาบของหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้!“ด้วยสิ่งนี้ ฉันจะขอให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนเข้าร่วมกับจักรวรรดิของฉัน!“ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้เขาไปครอบครอง!“ประเทศ H ไม่เหมาะที่จะม
ทุกคนอ้าปากค้างแม้ว่าเจ้าของดาบหักจะได้รับสิทธิ์ในการขออะไรก็ได้จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่เงินสามร้อยล้านดอลลาร์ก็คือเป็นราคาที่สูงลิ่วด้วยการมีดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินคอยหนุนหลังชารอนอยู่ ใครจะกล้าแข่งกับเธอ?ต่อให้พวกเขาจะมีเงินมากมาย แต่พวกเขาก็กลัวว่าประเทศนั้นจะแก้แค้นและแว้งกัดพวกเขาภายหลังแต่ถึงแม้จะมีเรื่องนี้ กลับมีคนกล้าพอที่จะเสนอราคาแข่งในทันทีแบบนี้ด้วยสี่ร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย!เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ทำให้ทุกคนงุนงง'เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้กล้าเกินไปหน่อยหรือเปล่า!'“ฮาร์วีย์ ไอ้สารเลว!”เมอร์ฟี่จ้องฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยว“นี่คิดจะกวนประสาทเราใช่ไหม?! นายมีเงินมากขนาดนี้เลยหรือไง!“ถ้าไม่มี ก็แปลว่านายกำลังทำลายผลประโยชน์ของผู้จัดงานด้วยการเสนอราคาเพิ่มโดยไม่มีเหตุผล!"ใครก็ได้! โยนผู้ชายคนนี้ออกไป!”ชารอนจ้องมองฮาร์วีย์อย่างหนักหน่วง ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง“อย่าทำอะไรโง่ ๆ เพียงเพราะนายต้องการทำร้ายคนอื่น ฮาร์วีย์”“ไอ้คำว่าคิดจะกวนประสาทเธอนี่มันหมายความว่ายังไง“เสนอราคาเพิ่ม?“ทำร้ายคนอื่น?”ฮาร์วีย์ส
"ขายแล้ว!"ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะเพิ่มราคาประมูล เสียงที่อยู่ห่างไกลก็สะท้อนออกมาอีกครั้ง แฝงไว้ซึ่งความเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด“หกร้อยล้านดอลลาร์ ขายให้ท่านหญิงเพิร์ล!”เสียงค้อนดังขึ้นทันทีหลังจากนั้นฮาร์วีย์ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะตอบโต้ณ จุดนี้ วิหารคุณธรรมทั้งห้าไม่สนับสนุนชารอนอย่างลับ ๆ อีกต่อไปแล้ว พวกเขายืนอยู่ข้างเธออย่างโจ๋งครึ่ม!สายตาของฮาร์วีย์กลายเป็นเย็นชาทันที“นี่มันไม่ถูกต้อง!” ฮาร์วีย์ตะโกนอย่างดูถูกเหยียดหยาม“ผมยังไม่ได้เสนอราคาเพิ่มเลยด้วยซ้ำ!”“ผมจะซื้อมันด้วยราคาเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน!”“หญิงบริสุทธิ์ตัดสินใจแล้วว่าให้ท่านหญิงเพิร์ลเป็นผู้ชนะ”นักบวชหญิงวัยกลางคนชำเลืองมองฮาร์วีย์ยังไม่ใส่ใจที่จะอธิบายเพิ่มเติม เธอยิ้มให้ชารอนและพูดว่า “กรุณาไปที่หลังเวทีและจ่ายเงินก่อน ก่อนที่คุณจะรับดาบของหัวหน้าผู้ฝึกสอนไป ท่านหญิงเพิร์ล“ในฐานะตัวแทนของวิหารคุณธรรมทั้งห้า ฉันขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย”ชารอนและเมอร์ฟีตัวแข็งทื่อค่อนข้างตกตะลึงพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์จะเดินหน้าต่อไปและเสนอราคาเพิ่ม ทำให้พวกเขามีโอกาสซื้อดาบหักของหัวหน้าผู้ฝึกสอนพวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่
“ของชิ้นนั้นเป็นของผม! ผมจะซื้อมันมาด้วยราคาเจ็ดร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์!“ตามกฎของการประมูล ผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะเสมอ“แล้วถ้าคิดที่จะปิดประมูล คุณก็ต้องเอ่ยเรียกราคาสามครั้งก่อนที่จะกระแทกค้อน!“แต่คุณกลับทำการปิดการประมูลในราคาที่ต่ำกว่าโดยไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นเสนอราคาเพิ่มเนี่ยนะ?“นี่มันหมายความว่ายังไง!“พวกคุณสมรู้ร่วมคิดกับดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเพื่อขายสิ่งที่เป็นของชาวประเทศ H ให้พวกเขาหรือ?!“รู้ใช่ไหมว่าของชิ้นนี้มันมีความหมายยังไง!“นี่เป็นสิ่งของของหัวหน้าผู้ฝึกสอน!“พวกคุณที่นี่หยามเกียรติเขามากพอแล้วที่เอาของแบบนี้มาประมูล…“แถมตอนนี้ยังมาล็อกคนซื้ออีก?! นี่เป็นการดูหมิ่นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเกินไปหรือเปล่า!”“กล้าดียังไง ไอ้สารเลว!” นักบวชหญิงวัยกลางคนกรีดร้องอย่างหน้าตาย“นายรู้ไหมว่าการใส่ร้ายวิหารคุณธรรมทั้งห้าจะมีผลอะไรตามมา!”นักบวชสาวแห่งวิหารคุณธรรมทั้งห้าปรากฏตัวขึ้นจากทุกทิศทุกทาง พวกเธอต่างจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาหากฮาร์วีย์พูดใส่ร้ายวิหารคุณธรรมทั้งห้าอีก พวกเธอจะลงมือในทันที“คุณบอกว่าผมใส่ร้ายเหรอ?” ฮาร์วีย์เย้ยหยัน ด้วยท่าทีรังเกียจ
“แน่นอนว่าไม่” ฮาร์วีย์โต้กลับอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาดูรังเกียจ“ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมาร่วมงานประมูลสิ” ทีลตอบอย่างใจเย็น ไม่แยแสต่อความโกรธของอีกฝ่าย“แต่ถ้าคุณคิดจะมาที่นี่ คุณต้องทำตามกฎของฉัน”“ในถิ่นของฉัน คำพูดของฉันคืออำนาจสิทธิ์ขาดของที่นี่!”“เอาล่ะ เราพูดกันมาพอแล้ว พาคุณยอร์กออกไป คุณคลาร์ก”“ฉันจะไม่โต้เถียงกับคุณ เห็นแก่ตระกูลของคุณ ฉันจะไม่ขึ้นบัญชีดำคุณสองคน”“แต่จะไม่มีครั้งหน้าอีก”น้ำเสียงในคำพูดของทีลแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเหินห่างเช่นเดิม...ราวกับว่าคำพูดของเธอเป็นกฎเหล็กของที่นี่“นี่คือคำอธิบายของคุณงั้นเหรอ?”“นี่คือกฎของวิหารคุณธรรมทั้งห้าเหรอเนี่ย?”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“เผด็จการอะไรอย่างนี้! คุณคงมั่นใจในตัวเองมากสินะ!”ดูเหมือนทีลจะไม่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ หรือบางทีเธออาจจะไม่อยากตอบเขา ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งเธอไม่ได้ตอบกลับนักบวชหญิงวัยกลางคนส่งเสียงขู่ฟ่อ “มา! โยนพวกเขาออกไป!”สมาชิกของวิหารคุณธรรมทั้งห้าหลายคนเดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ความดูถูกเหยียดหยามปรากฏเด่นชัดใบหน้าของพวกเขา“กลับกันเถอะ นายน้อยยอร์ก”ฮาร์วีย์พร้อมที่จะลงมือและตอบโต้
“ดาบหักเล่มนี้เป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่มันก็เท่านั้นแหละ“ไม่ได้มีความพิเศษอื่นใด“มันก็เป็นแค่ขยะที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทิ้งเพราะมันพังลงระหว่างสงครามยูโร-อเมริกา“ใครจะไปรู้ว่าจะมีคนไร้ยางอายหยิบของแบบนี้ขึ้นมาประมูล“เธอคิดว่าจะขออะไรจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้จากขยะชิ้นนี้งั้นเหรอ? น่าขำจริง ๆ“มีสมองคิดสักหน่อยได้หรือเปล่า“ถ้าคิดว่าดาบหักเล่มเดียวจะขออะไรจากเขาได้?“เลิกละเมอได้แล้ว!“แต่ก็ทำได้แค่นำดาบเล่มนี้กลับบ้านเท่านั้น เพราะยังไงซะ นี่เป็นอาวุธที่คร่าชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน“ดูจากแขนขาที่ผอมบางของเธอ ถ้าไอสังหารจากดาบเล่มนี้ทำให้เธอต้องอกสั่นขวัญแขวนก็อย่ามาโทษหัวหน้าผู้ฝึกสอนล่ะ”ฮาร์วีย์ไม่แยแส เขามีหลายสิ่งหลายอย่างในครอบครอง แล้วทำไมต้องใส่ใจกับอีแค่ดาบหักเล่มเดียว?เขาเพียงต้องการป้องกันไม่ให้ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้ครอบครองสิ่งนั้นจากการประมูลครั้งนี้ก็เท่านั้นแต่เนื่องจากวิหารคุณธรรมทั้งห้าเล่นไม่ซื่อกับพวกเขาก่อน ฮาร์วีย์จึงไม่รังเกียจที่จะเปิดเผยสิ่งที่เรียกว่า "คุณค่า" ของดาบหักเล่มนี้ออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ทุกคนต่างมองด้วยสายตาไม่เชื่ออย
ฮาร์วีย์มองดูชารอนด้วยแววตาเรียบเฉย ยิ่งเธอยกย่องตัวตนอื่นของเขามากแค่ไหน เขาก็แทบทนไม่ไหวที่จะได้เหยียบย่ำเธอให้หนักกว่าเดิม“ฉันไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้นแหละ” เขาตอบอย่างใจเย็น“เพราะว่าฉันคือหัวหน้าผู้ฝึกสอน“ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ก็แปลว่ามันไม่ใช่!"ทีนี้เข้าใจหรือยัง?"คำกล่าวอ้างของเขาทำให้ฝูงชนตกตะลึงทุกคนเริ่มมองมาที่ฮาร์วีย์ด้วยความไม่เชื่อ'หัวหน้าสาขายอร์กและเจ้าชายยอร์กคือตัวตนของหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานเนี่ยนะ?!'หากเป็นเช่นนั้นจริง คำพูดของเขาก็ถูกต้องและดาบที่พังไปแล้วเล่มนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!แม้แต่ทีลซึ่งเก็บตัวเงียบอยู่หลังเวที ก็ยังพบว่าตัวเธอสั่นด้วยความงุนงงกับคำกล่าวอ้างของฮาร์วีย์แม้แต่สตรีผู้สูงศักดิ์อย่างเธอเองก็ทำได้เพียงชื่นชมหัวหน้าผู้ฝึกสอนอยู่เงียบ ๆ แบบนี้แต่สิ่งนี้กลับทำให้ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงในการขึ้นสู่อำนาจกล้าอ้างว่าตัวเองเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่แสนสูงส่งคนนั้น!จะเป็นไปได้ยังไง!ความเงียบอันยาวนานผ่านไป มีเพียงเสียงเย้ยหยันของเมอร์ฟีเท่านั้นที่ทำลายความเงียบดังกล่าว“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? พวกคุณเชื่อในสิ่งที่ชายคนนี้พูดจริงหรือ!"ฉ
ฮาร์วีย์และเลสลี่กลับไปที่ห้องเพรซซิเดนเชิลสวีทในครึ่งชั่วโมงต่อมาใบหน้าของเลสลี่มีสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเธอเข้ามาในห้อง เธอลังเลว่าจะพูดหรือไม่พูดดีโทบี้เคาะประตูก่อนจะสบตากับฮาร์วีย์ เขามีท่าทางแปลก ๆ เช่นเดียวกับเลสลี่จากนั้นฮาร์วีย์ก็ชำเลืองมองเลสลี่อย่าเงียบ ๆในทางกลับกันโทบี้ก็หัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินเข้าไป“ได้โปรดอย่าตำหนิเลสลี่เลยนะ น้องยอร์ก ถึงแม้เธอจะไม่บอกฉัน แต่ด้วยความสามารถของฉัน พรุ่งนี้เช้าฉันก็จะต้องได้รู้เรื่องนี้อยู่ดี”“แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็ไม่ได้หักหลังคุณหรอกนะ”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“คุณเกรงใจกันเกินไปแล้ว ที่เธอบอกคุณทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของผมเอง ผมเข้าใจในเรื่องนั้นดี ดังนั้นผมก็ไม่โทษเธอหรอก”"ดีแล้วล่ะ"โทบี้เทชาใส่ถ้วยแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“น้องยอร์ก… ยังไงซะเราก็ถือเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรามาพูดกันตรง ๆ เถอะนะ นายคือหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานจริง ๆ เหรอ?” เขาถามอย่างแผ่วเบา “นายบอกฉันได้ใช่หรือเปล่า?“ฉันก็แค่อยากจะแน่ใจ!“ว่าถ้านายเป็นเขาจริง ๆ ฉันจะได้กล้าทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำในฮ่องกง!”เมื่อมองไปที่ท่าทางกระตือรือร้นของโทบี้ ฮาร์วี