แต่ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วหลังจากฟังคำพูดของเธอ “พวกเขายังประมูลสมบัติเก่าของชาติและศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ผู้ยิ่งใหญ่ด้วย“วิหารคุณธรรมทั้งห้าไม่ได้ทำอะไรเกินตัวไปใช่ไหม?”เลสลี่ถอนหายใจ “แต่เพราะเขายังฉลาดอยู่บ้าง ตำราศิลปะการต่อสู้ที่พวกเขานำออกมานั้นล้วนเป็นของที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้นและเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ไม่มีผู้สืบทอด“ดังนั้นจึงไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าเป็นของใคร แต่ก็บอกเป็นนัยว่าล้วนเป็นของวิหารคุณธรรมทั้งห้าเท่านั้น!“เนื่องจากพวกเขาค้าขายมันในการประมูลสิ่งของ เพราะเขาจึงสามารถขายมันให้ใครก็ได้ และใครจะเข้ามาควบคุมเรื่องนี้ได้ล่ะ”ฮาร์วีย์พยักหน้า แต่ดวงตาของเขากลับเย็นชาการส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ในต่างประเทศเป็นสิ่งที่ดีแต่การขายรากเหง้าของประเทศ H มันออกจะล้ำเส้นฮาร์วีย์ไปเสียหน่อยเลสลี่ไม่ได้สังเกตเห็นความเย็นชาเล็ก ๆ ในดวงตาของฮาร์วีย์ เธอพูดต่ออย่างสบาย ๆ “นี่คือเหตุผลว่าทำไมการประมูลครั้งนี้จึงสามารถดึงดูดผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกมาได้ทุกปี!“ที่นั่งในการประมูลของทุกปีมีเพียงสามถึงห้าร้อยที่นั่งเท่านั้น!“ฉันได้ยินมาว่าราคาของหนึ่งที่นั่
บัตรเชิญสำหรับตระกูลดอนดูเหมือนจะถูกละเลย เนื่องจากพวกเขาได้รับที่นั่งที่แย่ที่สุดเห็นได้ชัดว่ามีคนจากแวดวงสังคมชั้นสูงของฮ่องกงและลาสเวกัสมาอย่างล้นหลามแม้ว่าตระกูลดอนจะเป็นตระกูลชั้นหนึ่งและเป็นผู้ว่าราชการ แต่พวกเขาก็ยังถูกมองว่าไม่ดีพอสำหรับสองเมืองนี้ตระกูลแฮมิลตันและตระกูลเมนโดซาน่าจะส่งตัวแทนมาที่นี่ด้วย แต่เพราะมีคนจำนวนมากเกินไปและฮาร์วีย์ก็หาพวกเขาไม่พบ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เข้าไปทักทายพวกเขาเมอร์ฟีและชารอนยังคงคุยกันอย่างมีความสุขและใช้เสียงดังสนั่น แม้ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ที่ใจกลางของสถานที่ก็ตาม ไม่มีใครแน่ใจว่าพวกเขาจงใจใช้เสียงที่ดังลั่นแบบนั้นหรือเปล่าพวกเขานั่งตรงกลางเพื่อให้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนได้ง่าย ๆฮาร์วีย์มองดูคู่รักคู่นี้ด้วยความเฉยเมยเขาสงสัยว่าสิ่งของชนิดใดที่สามารถดึงดูดความสนใจของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้จากนั้นฮาร์วีย์ก็มองผ่านแคตตาล็อกในมือขณะที่เขาครุ่นคิดเรื่องนี้เมื่อเขาเห็นของชิ้นหนึ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป***"ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตีทุกท่าน! การประมูลของวิหารคุณธรรมทั้งห้าได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว”นักบวชสาวสีหน้าเย
ในปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าดาบยาวเล่มนั้นเป็นของใครกันแน่มันดูค่อนข้างผุพังและดูเหมือนจะไม่มีค่าเท่าไหร่ในฐานะของสะสมหลังจากพิจารณาอย่างใกล้ชิด ลูกค้าผู้มั่งคั่งหลายคนก็รู้สึกว่าดาบยาวเล่มนี้ไม่คุ้มที่จะประมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาเริ่มต้นของมันอยู่ที่หนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์ในขณะนั้นฮาร์วีย์รู้สึกได้ว่าชารอนตัวสั่นอยู่บนที่นั่งของเธอ เธอมองไปที่ดาบยาวด้วยสายตาที่หลงใหล ราวกับว่าเธอกำลังมองบิดาผู้ให้กำเนิดของตัวเองฮาร์วีย์เข้าใจทันที เธอรู้ดีว่าดาบยาวเล่มนั้นเป็นของใครในที่สุดก็เป็นไปตามคาด ถ้าใครรู้ว่าตำนานที่มีชีวิตของประเทศ H เคยใช้ดาบนี้มาก่อน ผู้คนนับไม่ถ้วนหาทางครอบครองมันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดมันจะดีกว่าถ้าดาบยาวเล่มนั้นไม่ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นฮาร์วีย์แตะไหล่เลสลี่อย่างไม่ลังเล“เราจะซื้อดาบเล่มนี้”เลสลี่ชำเลืองมองฮาร์วีย์ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอไม่รู้ว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงอยากได้ของชิ้นนี้ แต่เธอก็ชูป้ายขึ้นโดยไม่รีรอ“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์”สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายกลายเป็นน้ำแข็งในทันทีผู้ประมูลหลายคนมองมาด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เข้าใจ
ในเวลาไม่ถึงนาที การประมูลที่เข้มข้นก็เกิดขึ้น ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าดาบมีมูลค่าเท่าไรการประมูลหลายรอบต่อมา ชารอนยืนขึ้นพร้อมกับกัดฟันแน่น“สามร้อยล้านดอลลาร์! ฉันจะซื้อมันด้วยเงินสามร้อยล้านดอลลาร์!”“ใครก็ตามที่กล้าสู้กับฉัน ก็จะถือว่ากำลังต่อต้านดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน!”เมื่อทุกคนได้ยินชื่อนั้น ฝูงชนทั้งหมดก็เงียบกริบมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลางและเจ้าชายยุโรปเหนือที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนขมวดคิ้วหากชารอนแค่เพียงมาเข้าร่วมการประมูลในนามของเธอเอง เขาก็คงเสนอราคาสู้กับเธอได้แต่ถ้าเธอเข้ามาในนามตัวแทนของราชวงศ์จากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน การทำเช่นนั้นก็จะเหมือนหิ่งห้อยบินเข้ากองไฟทุกคนต่างรู้ดีว่าเจ้าหญิงองค์โตรับมือได้ยากขนาดไหนการสร้างความขุ่นเคืองใจต่อดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเพราะดาบหักเล่มเดียวนั้นไม่คุ้มที่จะเสี่ยง แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอนก็ตาม“มีเพียงฉันเท่านั้นที่จะมีดาบของหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้!“ด้วยสิ่งนี้ ฉันจะขอให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนเข้าร่วมกับจักรวรรดิของฉัน!“ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้เขาไปครอบครอง!“ประเทศ H ไม่เหมาะที่จะม
ทุกคนอ้าปากค้างแม้ว่าเจ้าของดาบหักจะได้รับสิทธิ์ในการขออะไรก็ได้จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่เงินสามร้อยล้านดอลลาร์ก็คือเป็นราคาที่สูงลิ่วด้วยการมีดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินคอยหนุนหลังชารอนอยู่ ใครจะกล้าแข่งกับเธอ?ต่อให้พวกเขาจะมีเงินมากมาย แต่พวกเขาก็กลัวว่าประเทศนั้นจะแก้แค้นและแว้งกัดพวกเขาภายหลังแต่ถึงแม้จะมีเรื่องนี้ กลับมีคนกล้าพอที่จะเสนอราคาแข่งในทันทีแบบนี้ด้วยสี่ร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย!เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ทำให้ทุกคนงุนงง'เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้กล้าเกินไปหน่อยหรือเปล่า!'“ฮาร์วีย์ ไอ้สารเลว!”เมอร์ฟี่จ้องฮาร์วีย์อย่างโกรธเกรี้ยว“นี่คิดจะกวนประสาทเราใช่ไหม?! นายมีเงินมากขนาดนี้เลยหรือไง!“ถ้าไม่มี ก็แปลว่านายกำลังทำลายผลประโยชน์ของผู้จัดงานด้วยการเสนอราคาเพิ่มโดยไม่มีเหตุผล!"ใครก็ได้! โยนผู้ชายคนนี้ออกไป!”ชารอนจ้องมองฮาร์วีย์อย่างหนักหน่วง ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง“อย่าทำอะไรโง่ ๆ เพียงเพราะนายต้องการทำร้ายคนอื่น ฮาร์วีย์”“ไอ้คำว่าคิดจะกวนประสาทเธอนี่มันหมายความว่ายังไง“เสนอราคาเพิ่ม?“ทำร้ายคนอื่น?”ฮาร์วีย์ส
"ขายแล้ว!"ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะเพิ่มราคาประมูล เสียงที่อยู่ห่างไกลก็สะท้อนออกมาอีกครั้ง แฝงไว้ซึ่งความเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด“หกร้อยล้านดอลลาร์ ขายให้ท่านหญิงเพิร์ล!”เสียงค้อนดังขึ้นทันทีหลังจากนั้นฮาร์วีย์ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะตอบโต้ณ จุดนี้ วิหารคุณธรรมทั้งห้าไม่สนับสนุนชารอนอย่างลับ ๆ อีกต่อไปแล้ว พวกเขายืนอยู่ข้างเธออย่างโจ๋งครึ่ม!สายตาของฮาร์วีย์กลายเป็นเย็นชาทันที“นี่มันไม่ถูกต้อง!” ฮาร์วีย์ตะโกนอย่างดูถูกเหยียดหยาม“ผมยังไม่ได้เสนอราคาเพิ่มเลยด้วยซ้ำ!”“ผมจะซื้อมันด้วยราคาเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน!”“หญิงบริสุทธิ์ตัดสินใจแล้วว่าให้ท่านหญิงเพิร์ลเป็นผู้ชนะ”นักบวชหญิงวัยกลางคนชำเลืองมองฮาร์วีย์ยังไม่ใส่ใจที่จะอธิบายเพิ่มเติม เธอยิ้มให้ชารอนและพูดว่า “กรุณาไปที่หลังเวทีและจ่ายเงินก่อน ก่อนที่คุณจะรับดาบของหัวหน้าผู้ฝึกสอนไป ท่านหญิงเพิร์ล“ในฐานะตัวแทนของวิหารคุณธรรมทั้งห้า ฉันขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย”ชารอนและเมอร์ฟีตัวแข็งทื่อค่อนข้างตกตะลึงพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์จะเดินหน้าต่อไปและเสนอราคาเพิ่ม ทำให้พวกเขามีโอกาสซื้อดาบหักของหัวหน้าผู้ฝึกสอนพวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่
“ของชิ้นนั้นเป็นของผม! ผมจะซื้อมันมาด้วยราคาเจ็ดร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์!“ตามกฎของการประมูล ผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะเสมอ“แล้วถ้าคิดที่จะปิดประมูล คุณก็ต้องเอ่ยเรียกราคาสามครั้งก่อนที่จะกระแทกค้อน!“แต่คุณกลับทำการปิดการประมูลในราคาที่ต่ำกว่าโดยไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นเสนอราคาเพิ่มเนี่ยนะ?“นี่มันหมายความว่ายังไง!“พวกคุณสมรู้ร่วมคิดกับดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเพื่อขายสิ่งที่เป็นของชาวประเทศ H ให้พวกเขาหรือ?!“รู้ใช่ไหมว่าของชิ้นนี้มันมีความหมายยังไง!“นี่เป็นสิ่งของของหัวหน้าผู้ฝึกสอน!“พวกคุณที่นี่หยามเกียรติเขามากพอแล้วที่เอาของแบบนี้มาประมูล…“แถมตอนนี้ยังมาล็อกคนซื้ออีก?! นี่เป็นการดูหมิ่นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเกินไปหรือเปล่า!”“กล้าดียังไง ไอ้สารเลว!” นักบวชหญิงวัยกลางคนกรีดร้องอย่างหน้าตาย“นายรู้ไหมว่าการใส่ร้ายวิหารคุณธรรมทั้งห้าจะมีผลอะไรตามมา!”นักบวชสาวแห่งวิหารคุณธรรมทั้งห้าปรากฏตัวขึ้นจากทุกทิศทุกทาง พวกเธอต่างจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาหากฮาร์วีย์พูดใส่ร้ายวิหารคุณธรรมทั้งห้าอีก พวกเธอจะลงมือในทันที“คุณบอกว่าผมใส่ร้ายเหรอ?” ฮาร์วีย์เย้ยหยัน ด้วยท่าทีรังเกียจ
“แน่นอนว่าไม่” ฮาร์วีย์โต้กลับอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาดูรังเกียจ“ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมาร่วมงานประมูลสิ” ทีลตอบอย่างใจเย็น ไม่แยแสต่อความโกรธของอีกฝ่าย“แต่ถ้าคุณคิดจะมาที่นี่ คุณต้องทำตามกฎของฉัน”“ในถิ่นของฉัน คำพูดของฉันคืออำนาจสิทธิ์ขาดของที่นี่!”“เอาล่ะ เราพูดกันมาพอแล้ว พาคุณยอร์กออกไป คุณคลาร์ก”“ฉันจะไม่โต้เถียงกับคุณ เห็นแก่ตระกูลของคุณ ฉันจะไม่ขึ้นบัญชีดำคุณสองคน”“แต่จะไม่มีครั้งหน้าอีก”น้ำเสียงในคำพูดของทีลแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเหินห่างเช่นเดิม...ราวกับว่าคำพูดของเธอเป็นกฎเหล็กของที่นี่“นี่คือคำอธิบายของคุณงั้นเหรอ?”“นี่คือกฎของวิหารคุณธรรมทั้งห้าเหรอเนี่ย?”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“เผด็จการอะไรอย่างนี้! คุณคงมั่นใจในตัวเองมากสินะ!”ดูเหมือนทีลจะไม่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ หรือบางทีเธออาจจะไม่อยากตอบเขา ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งเธอไม่ได้ตอบกลับนักบวชหญิงวัยกลางคนส่งเสียงขู่ฟ่อ “มา! โยนพวกเขาออกไป!”สมาชิกของวิหารคุณธรรมทั้งห้าหลายคนเดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ความดูถูกเหยียดหยามปรากฏเด่นชัดใบหน้าของพวกเขา“กลับกันเถอะ นายน้อยยอร์ก”ฮาร์วีย์พร้อมที่จะลงมือและตอบโต้