ใบหน้าที่ถูกศัลยกรรมของนีอาถูกทุบตีอย่างรุนแรงและบิดเบี้ยวไปหมดเคนเดินเข้าไปหาเธอและเหลือบมองอย่างรวดเร็ว ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตัวเขาเขาอยากสนุกที่บ้านของเจมี่ในคืนนี้ แต่ใครจะไปคิดว่านีอาจะกลายเป็นแบบนี้? อารมณ์ของเคนถูกพังทลายสายตาของเคนจับจ้องไปที่เจมี่ คนที่ไร้ซึ่งความสามารถคนหนึ่ง“เกิดอะไรขึ้น?” เคนถามอย่างเย็นชา“มันจบแล้ว! มันจบแล้ว! นั่นคือ เคน บรู๊ค จากตระกูลบรู๊ค!”“ฮาร์วีย์ ไอ้คนโง่! ตอนนี้เขาไม่สามารถหนีไปได้แล้ว!”“เคนเป็นคนที่มีนิสัยไม่ดีมีความคิดผิดเพี้ยนมาโดยตลอด ไม่เพียงแต่ฮาร์วีย์จะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา แต่แมนดี้และสาว ๆ ก็ต้องแปดเปื้อนไปด้วย…”คนอื่น ๆ เนื้อตัวสั่นเทาเหมือนใบไม้บนกิ่งไม้ที่สั่นไปตามลม เคนจากตระกูลบรู๊คเป็นคนที่โหดเหี้ยม ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักกันดี เพียงแค่เอ่ยชื่อออกมาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนส่วนใหญ่กลัวจนตาย ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าที่เขายืนอยู่ที่นี่ที่เต็มไปด้วยความโกรธนี้“เฮ้อ นี่คือสาเหตุที่คนอื่น ๆ ต้องเข้าใจว่าตัวเองมีความสามารถอะไร เขาควรรู้ว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้ จริงไหม?”“ใครบอกให้เขาหยิ่งผยองอย่างนั้น? เขามีโอกาส
“นายใหญ่เลียม ฉันจ่ายเงินตามกำหนดของเดือนนี้ ที่คุณทำคืออะไร…"เคนรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่กลัวที่จะทำตัวโอ้อวดต่อหน้าฮาร์วีย์ แต่ต่อหน้าเลียม สโตน เขาแค่คนธรรมดาดวงตาของเลียมเย็นชาราวกับน้ำแข็งและน่ากลัวยิ่งกว่าเคนเสียอีก เลียมไม่พูดอะไรและเตะเคนจนล้มลงไปที่พื้น“นายใหญ่เลียม คุณเป็นอะไร…”เคนตกใจมาก เขาอ้าปากค้างไม่รู้ว่าการกระทำนี้จะนำซึ่งความตายมาให้เขา“พวกแกสองคนกำลังจะฆ่าฉัน!”เลียมคำรามลั่น จากนั้นก็เดินไปหาเจมี่แล้วเตะเขาไปที่ท้องจนเจมี่ล้มกลิ้งไปกับพื้นร้องโหยหวนไม่หยุดนีอาตัวแข็งทื่อ เธอรีบเอาตัวเข้าไปขวางตรงหน้าเจมี่“นายใหญ่เลียม คุณจัดการผิดคนหรือเปล่า? เราไม่ใช่คนที่ทำร้ายคนของคุณ…”เลียมหยุดชะงักแต่แล้วก็กระชากผมของนีอา ใช้มืออีกข้างของเขาตบหน้าเธอซ้ำ ๆ สองสามครั้ง“ผู้หญิงหน้าไม่อาย! อ้างชื่อฉันไปทุกที่ทั้งที่ตัวเองก็แค่คนต่ำ ๆ จากตระกูลบรู๊คที่ใบหน้าเต็มไปด้วยซิลิโคนศัลยกรรมงั้นเหรอ? เธอคิดว่าเธอใหญ่โตมาจากไหนฮะ?”“เธอเป็นแค่ผู้หญิงสำส่อนที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วยังกล้าปีนขึ้นไปบนเตียงของฉันอีกเหรอ?น่าสมเพช! และแก!"เลียมยั้งอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป เขาระเบิดอารมณ์
ตอนนี้เลียมเป็นน้องชายร่วมสาบานของไทสัน พูดตามตรงเขาไม่มีสิทธิ์เป็นน้องชายของฮาร์วีย์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะมีชีวิตอยู่ เขารู้ว่าเขาควรจะทำอะไรและสิ่งใดที่เขาไม่ควรทำในตอนนี้ฮาร์วีย์ไม่เปิดเผยตัวตนของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเปิดเผยเช่นกัน เขารู้แล้วว่าเขาควรจะจัดการกับตระกูลบรู๊คอย่างไร ถ้าเขาไม่ตอบสนองความต้องการของฮาร์วีย์ในวันนี้ เขานึกไม่ออกเลยว่าจะต้องเจอกับความตายแบบไหน…“กะ...เกิดอะไรขึ้น? เลียม คุณจะทิ้งตระกูลบรู๊คงั้นหรือ?”“เป็นไปไม่ได้! เลียมปกป้องตระกูลบรู๊คมานานหลายปี เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมั่นคงต่อกัน เขาจะทิ้งพวกเราแบบนี้ได้อย่างไร?”“เป็นไปได้ไหมที่ฮาร์วีย์เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังนี้?”“ไม่มีทางเขาเป็นขยะไร้ค่านี้แน่ เขาจะทำได้อย่างไร? ฉันรู้สึกว่าเลียมย้ายฝั่งมาเป็นคนตระกูลซิมเมอร์…”“ตระกูลซิมเมอร์เป็นตระกูลเดียวที่ได้ร่วมลงทุนจากท่านประธานคนใหม่ของ ยอร์ก อ็นทอร์ไพรส์และแมนดี้เป็นคนรับผิดชอบโครงการนั้น เลียมต้องทำสิ่งนี้เพื่อให้เกียรติเธอแน่นอน…”“แมนดี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีและยังมีเอกสิทธิ์ที่ได้รับเงินลงทุนจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์
แมนดี้รู้สึกสับสนเล็กน้อยที่เห็นเลียม สโตน ให้เกียรติเธอ เธอคิดไม่ออกว่าทำไมเลียมถึงปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพอย่างนี้ อาจเป็นเพราะฮาร์วีย์ใช่ไหม?แต่เลียมไม่ได้ปฏิบัติต่อฮาร์วีย์ด้วยอะไรเป็นพิเศษ เธอคิดว่าเธอแค่คิดมากไปเลียมต้องทำแบบนี้เพราะตระกูลซิมเมอร์ในขณะที่แมนดี้ยังคงครุ่นคิดถึงสถานการณ์ตรงหน้า ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “มีคนทำร้ายภรรยาของฉัน และยังคิดที่จะสร้างความหายนะให้กับภรรยาและเพื่อนของเธอ คน ๆ นี้ยังต้องการให้ฉันคุกเข่าและคลานออกไปจากที่นี่…”เสียงอื้ออึงดังออกมาจากฝูงชนฮาร์วีย์พูดแบบเรียบนิ่งและไม่ไยดี เลียมกำลังจะคุกเข่า แต่ไม่กล้าทำเช่นนั้นเมื่อเขาเห็นคำเตือนผ่านแววตาของฮาร์วีย์ เขาจำคำสั่งของไทสันได้ ฮาร์วีย์เป็นคนทำตัวเงียบ ๆ ไม่เปิดเผยตัวตน ถ้าเขากล้าเปิดเผยตัวตนของฮาร์วีย์นั่นเท่ากับว่าเขากำลังรนหาที่ตายหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เลียมก็พูดเสียงเบาว่า “มิสเตอร์ยอร์ก มิสซิมเมอร์ ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมจะอธิบาย…”จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนหลังจากพูดและจ้องมองเคนและเจมี่ เขาพูดอย่างเยือกเย็น “แกทั้งสองคลานออกไปจากที่นี่ ถ้าแกกล้าที่จะยืนขึ้นโ
“นี่คือ…?” แมนดี้มองการแสดงออกของเอลล่าและไม่สามารถอดกลั้นจนตองถามออกมา“จริงสิ คุณทั้งสองยังไม่เคยเจอกันมาก่อน” ฮาร์วีย์ตบหัวตัวเองเบา ๆ เพราะความขี้ลืมของเขาและแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน “นี่คือด็อกเตอร์เกรฟส์จากแผนกฉุกเฉิน เราเคยพบกันมาแล้วครั้งหนึ่ง”“ด็อกเตอร์เกรฟส์ นี่คือภรรยาของผม ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”แม้ว่าสีหน้าของผู้หญิงทั้งสองจะดูผิดปกติ แต่ฮาร์วีย์ก็กังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของแมนดี้มากกว่าและไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องตรงหน้าเมื่อเอลล่าได้ยินคำว่า ‘ภรรยา’ เธอก็ตกใจ ในช่วงเวลาต่อมาเธอสามารถดึงสติและยิ้มออกมาเล็กน้อย “มิสเตอร์ยอร์ก คุณยังหนุ่มและมีความสามารถ แม้แต่ภรรยาของคุณก็ยังสวยจนน่าทึ่ง ไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่”“เยี่ยมมาก ผมคงสบายใจมากที่ได้ยินจากปากของคุณ” ฮาร์วีย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขามั่นใจกับทักษะทางการแพทย์และจริยธรรมของเอลล่า เอลล่ารับปากกับเขาจึงสามารถผ่อนคลายได้ในไม่ช้า แมนดี้ เซซิเลีย ละแองเจิลก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อรับการรักษาบาดแผลจู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็นึกถึงอาการบาดเจ็บของเชน ไนส์เวลล์ แล้วเขาก็ตัด
ผิวของแองเจิลเปลี่ยนเป็นสีซีดเมื่อเธอเห็นฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอ เธอมองไปที่ท่าทางของแมนดี้ และสัญชาตญาณทำให้เธอต้องพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างราบรื่น “เซซิเลีย พอได้แล้ว มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด ด็อกเตอร์เกรฟส์รักษาบาดแผลของเราอย่างดีก่อนหน้านี้ เธอควรจะทำตัวเป็นสุภาพสตรีที่ดี”“แองเจิล เธอออกตัวแทนคนอื่นได้อย่างไร?” เซซิเลียหัวเราะอย่างเย็นชา “ทั้งหมดที่เธอทำก็แค่ใช้ยากับเราและเธอลืมไปหรือเปล่าว่าเราเกือบตายเพราะเศษขยะไร้ค่านี้? ฮาร์วีย์ฉันเตือนนายแล้ว อย่าคิดว่าเราจะลืมมันเพียงเพราะนายพาเรามาโรงพยาบาล”“ถ้าแค่คุณมีความสามารถบ้าง แม้จะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปเราก็คงไม่ถูกทำร้ายจากนีอาแบบนั้นหรอก ฉันแนะนำให้นายหย่ากับแมนดี้โดยเร็วที่สุด! การที่เธอแต่งงานกับแมวหรือหมาข้างถนนก็ยังดีกว่าแต่งงานกับขยะไร้ค่าอย่างนายเป็นร้อยเท่า!”เธอต้องการแยกฮาร์วีย์จากแมนดี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาเธอใช้วิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำเรื่องนี้ แต่เธออยากจะทำให้มันชัดเจนในวันนั้นบรรยากาศความอึดอัดครอบคลุมไปทั่วสีหน้าของฮาร์วีย์ดูไม่พอใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาแค่พาแมนดี้และพวกเธอมารับการ
ห้องฉุกเฉินตกอยู่ในความเงียบงันแมนดี้ตกตะลึงเล็กน้อย ฮาร์วีย์ไม่เคยตะโกนออกมาแบบนี้ไม่ว่าเซซิเลียและแองเจิลจะทำให้เขาอับอายแค่ไหนก็ตาม เขาแสดงท่าทีแบบนี้เพราะอะไร?แมนดี้ทำได้เพียงยืนนิ่งไม่พูดอะไรออกมา แม้ตอนนี้เธอจะไม่เข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเธอก็ตามเธอบอกไม่ได้ว่าเธอโกรธ อิจฉา หรือกำลังโดนพรากคนรักไปสมองของเธอพร่ำบอกเธอว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮาร์วีย์จะมีผู้หญิงอีกคน นั่นเป็นเพราะเธอที่ไม่เคยยอมให้เขาแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วตั้งแต่แต่งงานกันมาสามปีแต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“เซซิเลีย พอได้แล้ว” แมนดี้หายใจเข้าลึก ๆ “ฉันจะไปส่งเธอทั้งสองกลับบ้าน”จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกมาและรับกุญแจจากมือของฮาร์วีย์และออกไปกับเซซิเลียและแองเจิลแมนดี้ไม่เข้าใจว่าเธอจะโกรธทำไม เธอไม่ควรมีความรู้สึกใด ๆ ต่อฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ที่ถูกทิ้งก็พูดไม่ออกเมื่อเห็นทั้งสามคนจากไป เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไม่นานเอลล่าก็เดินเข้ามาหา เธอพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันทำให้เกิดความเข้าใจผิด”ฮาร์วีย์เคยช่วยเธอเมื่อเธอกำลังจะถูกทำลาย เขาช่วย
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันฝันไปหรือเปล่า? ด็อกเตอร์เกรฟส์อยู่ในชุดลำลองเหรอ?”“นายเห็นใช่ไหม? ฉันคิดว่าฉันตาฝาดเสียอีก”“เอลล่าเสียสติไปแล้วเหรอ? ทำไมเธอไม่นั่งรถสปอร์ต แต่กลับนั่งซ้อนท้ายจักรยานไฟฟ้า มันเป็นรถสาธารณะนะ! ก็แค่สองดอลลาร์ต่อชั่วโมง!”“มันเหมือนกับที่คนเคยพูดไว้ไง บางคนใฝ่ฝันอยากนั่งจักรยานไฟฟ้า มีความสุขมากกว่านั่งรถหรูแต่ต้องแลกด้วยน้ำตา... ”“ถ้ารู้ว่าด็อกเตอร์เกรฟส์ชอบผู้ชายแบบเขา เราคงไม่ซื้อรถตั้งแต่แรก…”ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเจ้าหน้าที่ผู้ชายของโรงพยาบาลเปลี่ยนมาใช้จักรยานไฟฟ้าและไม่ขับรถส่วนตัวไปทำงาน อีกเหตุผลหนึ่งนั่นเพราะไม่มีที่จอดรถเพียงพอในที่จอดรถของโรงพยาบาล ***ในขณะที่อยู่บนท้องถนน เอลล่าบอกว่าเธออยากกินอาหารตะวันตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของโรงแรมแกรนด์นิอัมมี่ ฮาร์วีย์ก็โทรหาอีวอนน์เพื่อให้จองโต๊ะให้พวกเขาเมื่อพูดถึงอีวอนน์เขาก็นึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าออฟฟิศมาสองวันแล้ว แต่เขาก็ไม่กังวลอะไรที่จะปล่อยให้เธอดูแลบริษัทแทนเอลล่าที่นั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลังสังเกตเห็นว่ามีหลายคนจ้องมองมาที่เธอ เธอรู้สึกไม่สบายใจและพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์ก เราค่อยไปทานข้าวกัน