“ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ คุณยอร์ก”อากิขอร้องด้วยสีหน้าสับสนเมื่อเทียบกับอากิผู้อหังการก่อนหน้านี้ เขารู้สึกต่ำต้อยจนไม่เหลือดีสตรีที่คุกเข่าบนพื้นปิดปากอย่างสุดกำลัง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กรีดร้องเพราะเขาทุกคนรู้แล้วว่าคนตรงหน้าคือเทพแห่งสงคราม...แต่หลังจากที่พวกเขาเห็นอากิที่พวกเขานับถืออย่างสูงคุกเข่าลงเพราะเขาหมดหนทาง พวกเขาก็ทรุดตัวลง“ให้โอกาส?”ฮาร์วีย์หรี่ตาเล็กน้อย"ดี เพื่อเห็นแก่จิตวิญญาณซามูไรที่คุณนับถือ ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง”“พวกคุณทุกคน จงหักแขนตัวเองข้างหนึ่งแล้วออกไปจากที่นี่”“แน่นอน ถ้าไม่อยากทำจะลองขัดขืนดูก็ได้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะหักแขนเพราะคุณทั้งสองข้าง”ฮาร์วีย์ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ในขณะที่เขาพูดคำเหล่านั้น แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชาวประเทศหมู่เกาะผู้หยิ่งจองหองตัวสั่นด้วยความกลัวในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาสิ้นสีสัน“ผมให้เวลาคุณทั้งหมดหนึ่งนาที”โยอาน่าก้าวไปข้างหน้าและนับถอยหลังในขณะที่มองดูนาฬิกาของเธอ“หกสิบ ห้าสิบเก้า…"อากิตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เขายอมคุกเข่าให้ได้ จะให้เขาคลานออกไปจากที่นี่ก็ยังได้...แต่เขาไม
หลังจากตะโกนใส่คิโนชิตะ อากิก็มีสีหน้าเคร่งขรึม“คืนนี้ผมทำให้คุณขุ่นเคืองใจ คุณยอร์ก แต่คุณก็ตบหน้าผมไม่หยุดนี่ คุณได้ชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมาแล้ว!“ผมจะไม่ติดใจเอาความในเรื่องนี้อีก แล้วผมก็หวังว่าคุณจะทำแบบเดียวกันและลืมมันไปให้หมด!“ผมจะยืนก็ต่อเมื่อคุณออกไปจากที่นี่เท่านั้น!”อากิมองฮาร์วีย์อย่างเคร่งขรึมราวกับว่าเขากำลังเจรจากับอีกฝ่าย“จากนี้ไป เราจะต่างคนต่างอยู่ราวกับไม่เคยพบกันมาก่อน! คุณคิดว่าดีไหม?"อากิรู้สึกว่าเขาค่อนข้างผ่อนปรนให้แกอีกฝ่ายแล้ว ถึงเขาจะปล่อยให้ฮาร์วีย์ไปหลังจากถูกตบหลายครั้งแล้วก็ไม่เป็นไรเขาเชื่อว่าฮาร์วีย์รู้ดีว่าพวกเขาจะต้องได้พบกันอีก เขาคิดว่าฮาร์วีย์พอรู้จักแนวคิดช่วยเขาช่วยเรา...เขาแน่ใจว่าฮาร์วีย์จะปล่อยให้อดีตเป็นเพียงอดีตฮาร์วีย์หัวเราะออกมา“ลืมไปได้เลย”“ผมก็คุกเข่าให้คุณแล้วนี่! ต้องการอะไรอีก?!"อากิกัดฟัน“การที่คุณตบผมเพียงไม่กี่ครั้งมันไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด! อย่าเอาแต่ได้ไปหน่อยเลย! หากเราต้องเป็นศัตรูกันขึ้นมาจริง ๆ ผมก็ทำอะไรไม่ได้…“แต่อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่เพียงลำพังในโลกนี้! ผมอาจจะแตะต้องคุณไม่ได้ แต่ผมสา
“อ้ากกก!”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเหมือนหมูเมื่อถูกเชือดดังออกมาผู้ตรวจการรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากหลังจากเห็นภาพนี้พวกเขาไม่รู้ว่าฮาร์วีย์คือใคร แต่พวกเขารู้ว่าชายหนุ่มเป็นหนึ่งในคนของโยอาน่าไม่มีใครคิดว่าสาขาของวังมังกรที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นจะเผด็จการได้ขนาดนี้กร๊อบ!หลังจากทำให้ชาวประเทศหมู่เกาะทุกคนพิการแล้ว คิโนชิตะก็พิการตามไปอีกคน เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะเก็บงำเสียงกรีดร้องได้ดีแทบไม่มีเสียงกรีดร้องเล็ดลอดออกมาจากปากเขาสักแอะ เหงื่อเย็นหยดลงในขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีไปจากนั้นเขาก็ตัวสั่นขณะคุกเข่าต่อหน้าฮาร์วีย์ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้คนนับไม่ถ้วน เขาถามอย่างแผ่วเบาว่า “คุณยอร์ก คุณพอใจกับสิ่งนัเแล้วหรือยัง”"ก็ไม่เลว นี่แหละสิ่งที่ผมเรียกว่าจิตวิญญาณซามูไร”“จำสิ่งนี้ไว้ให้ดี หากในอนาคตเราได้พบกันอีก ถ้าจำเป็นต้องยอมจำนนก็ทำซะ และถ้าจำเป็นต้องคุกเข่า ก็คุกเข่า” ฮาร์วีย์พูดเป็นนัยยะ“ขอบคุณสำหรับคำติชมของคุณ”คิโนชิตะทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจการเสียดสีของฮาร์วีย์และยอมรับคำชมของเขาฮาร์วีย์ถอนหายใจเงียบ ๆ เขาต้องการข้ออ้างในการกำจัดคนเหล่านี้เพื่อป้องกันปัญ
สมาชิกจากสาขาของวังมังกรที่ติดตามโยอาน่ามาถึงที่นี่มีเหงื่อเย็นไหลหยดลงมาที่หลังของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดพุ่งไปข้างหน้าและกดวิหคอินทนิลลงกับพื้นทันทีหลังจากเห็นภาพนี้ ผู้คนจากสาขาของวังมังกรต่างก็หวาดกลัวฮาร์วีย์เป็นอย่างมากเมื่อคิดย้อนกลับไป พวกเขาตระหนักว่าฮาร์วีย์คือคนที่ปูทางให้โยอาน่าก้าวขึ้นสู่อำนาจในขณะนี้ ขณะที่ฮาร์วีย์อยู่ที่นั่น ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของโยอาน่าโยอาน่ากล้าที่จะยิงชาวประเทศหมู่เกาะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นการที่เธอจะฆ่าคนที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเธอก็คงจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากด้วยเช่นกันวิหคอินทนิลมีสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อสัมผัสได้กับอันตราย เธอยังคงดิ้นรนในขณะที่กรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยว “ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉัน! ฉันเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้!”น่าเสียดายที่ทั้งบาร์เต็มไปด้วยผู้ตรวจการ ไม่มีลูกค้าธรรมดาสักคนเดียวภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะแสดงแต่สายตาเย็นชา ในขณะที่โยอาน่าจัดการทุกอย่าง ไม่มีทางที่พวกเขาจะพุ่งตัวออกมาและผดุงความยุติธรรมได้โยอาน่าเดินไปที่ทางเข้าห้องรับรองอย่างใจเย็นและจ้องมองไปที่ฝูงชนหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับอากิ ฝูงชนต่างก็ก็เต็มไปด้วยค
ไม่พบลูกค้าในร้านดอกไม้หรูหราแห่งนี้ มีเพียงกลุ่มนายน้อยที่รวมตัวกันอยู่ภายในเท่านั้น ควินตันกำลังปัดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าสยดสยอง“เราเพิ่งได้ข่าวว่าโยอาน่าสามารถควบคุมสาขาของวังมังกรได้อย่างสมบูรณ์“อากิถูกกำจัดในทันที ส่วนคิโนชิตะก็พิการเสียแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังรีบออกจากหลานไกวฟง”ควินตันเป็นหนึ่งในนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง และเป็นหนึ่งในบุคคลที่สำคัญที่สุดของตระกูลยอร์กที่ระหกระเหินอยู่ที่นี่เขาไม่คิดเลยว่าแผนการของเขาจะถูกบดขยี้ลงอย่างไร้ความปราณีเช่นนี้เล็กซี่จัดดอกไม้ของเธออย่างตั้งใจราวกับว่าเธอไม่สนใจที่จะสนทนากับคนหนุ่มสาวเหล่านี้แต่เธอรู้ว่าหลังจากคืนนั้น สาขาของวังมังกรก็จะถูกเปลี่ยนขั้วอำนาจไปโยอาน่าจะเข้าควบคุมตำแหน่งของเล็กซี่ในอนาคต และสามารถแม้กระทั่งควบคุมวังมังกรทั้งหมดหากเธอยังคงมีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้วินซ์จิบไวน์แดงของเขาอย่างเมินเฉย และต่อหน้าเขา แมทธิวกำลังยืนนิ่งในขณะที่กอดอกด้วยสีหน้าเย็นชา“นายน้อยยอร์ก เราวางแผนไว้ทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะทำตามอำเภอใจเช่นนี้ ทั้งที่ศัตรูของเขามาจากชินคาเงะเวย์ด้วยซ้ำไป”“ไม่เพียงแต่เขาใช
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ รถตู้ของสการ์เลตต์จอดอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลแฮมิลตันเธอหรี่ตาลงมองไปยังคฤหาสน์หรูหราเบื้องหน้า ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงสดเมื่อนึกถึงคำสัญญาที่วินซ์ให้ไว้ เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพึมพำออกมาว่า “ไม่ต้องห่วงนะ วินซ์!“ฉันมีแผนพี่จะจัดการกับตระกูลแฮมิลตันแล้ว!“ฟาเบียน จิ้งจอกเฒ่าตัวนั้นต้องการให้คนมาจัดการกับผีที่สามนักบวชปีศาจแอบทิ้งเอาไว้งั้นหรือ?“ฉันได้ผู้อาวุโสภายนอกของวิหารคุณธรรมทั้งห้า และจอน เซอร์เรย์ ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งของฮ่องกงมาช่วยในสถานการณ์นี้“มั่นใจได้เลยว่าฟาเบียนจะต้องตายอย่างน่าสยดสยองอย่างที่สุด!”“ระวังตัวด้วย สการ์เลตต์!”น้ำเสียงของวินซ์ดูอ่อนโยนและใจดีในขณะนั้น“ผมได้ยินมาว่าฟาเบียนเขียนพินัยกรรมทิ้งไว้ด้วย“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ทั้งสี่บ้านของตระกูลแฮมิลตันจะแบ่งทรัพย์สินกัน“หากมีใครเสียชีวิตภายในสามปีหลังจากที่เขาเสียชีวิต ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกบริจาคให้กับรัฐบาลของลาสเวกัสโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น!“เพราะงั้นฟาเบียนถึงต้องตาย!“แต่ทั้งสี่บ้านนั้นห้ามตาย!”…ที่ห้องรับรองภายในสาขาวังมังกรฮาร์วี
ในตอนที่ฮาร์วีย์ปรากฏตัวที่คฤหาสน์ตระกูลแฮมิลตัน ทั้งสถานที่ก็ตกอยู่ในความสับสนอลหม่านแม้ว่าจะมีควบคุมการสองสามคนที่เฝ้าอยู่ที่ประตูหน้า แต่พวกเขาก็ดูหวาดกลัวเป็นอย่าง"เร็วเข้า! ส่งคนไปยังวิหารคุณธรรมทั้งห้า!“นายน้อยลำดับที่สามของเราหมดสติไปแล้ว!“หมอทำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!“เราควรทำยังไงดี!“แย่แล้ว! นายน้อยลำดับที่สี่ก็หมดสติลงไปเช่นกัน!“มีคนหมดสติอยู่ที่นี่ด้วย!”ทั้งตระกูลอยู่ในความระส่ำระสาย นอกจากญาติมิตรของตระกูลแล้ว คนใช้และควบคุมการของตระกูลก็หมดสติไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยผู้คนพยายามช่วยตระกูลของตัวเอง แต่เหล่าคนใช้และผู้คุ้มกันไม่โชคดีขนาดนั้นฮาร์วีย์มีท่าทีเย้ยหยันเมื่อเขาเดินผ่านความวุ่นวาย เขาจ้องมองไปที่โถงบรรพชนเพียงอย่างเดียว'มีพลังหยินกระจายอยู่ทั่วทุกอณู ...'จิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่ว...‘นี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดี!'ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งนั้นฝีมือประทับใจอย่างที่สุด!'“ได้โปรดช่วยแม่ของฉันด้วย ผู้อาวุโสลีโฮลด์!”เมื่อฮาร์วีย์ปรากฏตัวที่ห้องรับรอง เห็นซีน่าเดินโซเซมาจากด้านหลังด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อซีน่าที่กระวนกระวายใจโดยสิ้นเชิง
ซีน่าก็ผงะเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเห็นฮาร์วีย์ เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่อีกครั้ง เธอพูดด้วยความขยะแขยงอย่างโจ่งแจ้งว่า “ผู้อาวุโส นี่คือฮาร์วีย์ เขาเป็นเพื่อนของพ่อฉันเอง”จากนั้นซีน่าก็จ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาหยิ่งผยองและเหยียดหยาม “ฮาร์วีย์ นายมาทำอะไรที่นี่? นายคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่นายนึกจะมาเมื่อไหร่ก็มาได้อย่างนั้นหรือ”ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่เธอไม่ชอบเขาและตอบอย่างเฉยเมยว่า “พ่อของคุณโทรมาขอร้องให้ผมมาที่นี่”เพื่อพิสูจน์คำพูดของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดประวัติการโทรของเขาให้เธอดูซีน่าขมวดคิ้วไม่พอใจ เธอตะคอกอย่างเย็นชา “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อต้องโทรให้นายมาที่นี่ด้วย“แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสของฉันอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาจะสามารถจัดการกับปัญหาของแฮมิลตันได้อย่างแน่นอน!“ที่นี่เราไม่ต้องการนายหรอก!“ฉันเดาว่าเราจะปล่อยให้นายกลับไปมือเปล่าไม่ได้เพราะเราเป็นคนโทรเรียกให้นายมาเอง เอานี่! หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์สำหรับค่าเสียเวลาของนาย!”ซีน่าหยิบเช็คธนาคารออกมาและยัดใส่มือฮาร์วีย์ ทุกการกระทำของเธอแสดงออกได้ถึงความเย่อหยิ่งฮาร์วีย์ไม่มีอารมณ์จะเล่นกับความไม่รู้จักโตของอีกฝ่าย