ในสายตาของเฮเซลมาโลนฮาร์วีย์ ยอร์กแต่เป็นพวกไร้ความสามารถ แต่กลับยังกล้ามาเป็นผู้คุ้มกันของอีวอนน์ ซาเวียร์?แล้วดูซิว่าเป็นยังไง?เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ฮาร์วีย์ไม่เคยแม้แต่จะออกมาแสดงท่าทีอะไรเลยสักนิด แถมยังกล้าเรียกร้องให้ทุกคนรีบออกไปอีก!ขยะ!เศษสวะไร้ค่า!เทียบกันแล้วฮาร์วีย์กับแกรี่นั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว ในตอนนี้ดันเคนทั้งหล่อเหลาและเท่ที่สุด!ที่แย่ที่สุดก็คือ อีวอนน์กลับรู้สึกพึงพอใจกับคนแบบนี้!เฮเซลถอนหายใจ เธอรู้สึกว่าเธอไม่อาจมองฮาร์วีย์ในแง่ดีได้อีกต่อไปแล้วแม้ว่าฮาร์วีย์จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวของเธอ แต่เธอก็ต้องเกลี้ยกล่อมให้อีวอนน์ไล่ฮาร์วีย์ออกไปให้ได้ไม่อย่างนั้น หากในอนาคตแกรี่ไม่ได้อยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้นอีวอนน์ ฮาร์วีย์ก็ไม่อาจทำอะไรได้"ไป!"ในขณะนี้เรียว อากาโนะเห็นฮาร์วีย์โบกมือขึ้น เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาจ้องเขม็งไปที่แกรี่ แล้วเดินจากไปพร้อมกับพรรคพวกของตัวเองในขณะที่เขาล่าถอยกลับไป เขายังแสดงความเคารพอย่างมาก เขาถอยห่างออกไปและดูเศร้าหมองเล็กน้อยแกรี่เอามือไพล่หลังและตะคอกออกไปอย่างเย็นชา “ยังไงซะพ
เห็นได้ชัดว่าหลังจากเฮเซล มาโลนกลายเป็นเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังแห่งยุคไปแล้ว เธอคงจะทำเงินได้มากมาย ดังนั้นครอบครัวของเธอสามารถซื้อวิลล่าหมายเลข 11 ได้เฮเซลไม่ได้พูดเรื่องนี้ เพราะเธอไม่อยากให้ฮาร์วีย์ ยอร์กไปรบกวนครอบครัวของเธอแต่เธอไม่อาจเก็บงำเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้วหลังจากถูกฮาร์วีย์กวนประสาทในวันนี้ฮาร์วีย์ผงะไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินคำว่า “แฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่า” จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ผมจะไปด้วย เพราะผมมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในการปกป้องอีวอนน์ ซาเวียร์ด้วยเหมือนกัน”หากเป็นที่อื่นเขาคงจะไม่ยอม แต่ที่ฮาร์วีย์ยอมก็เพราะมันอยู่ในวิลล่าหมายเลข 11 ใน แฟรเกรินท์ ฮิลล์ ลูกน้องที่เขาจัดเตรียมไว้ก็ประจำการอยู่ที่นั่นอยู่ดียิ่งไปกว่านั้น เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งเกิดโศกนาฏกรรมและการต่อสู้มากมายในวิลล่าหมายเลข 1 และที่นั่นไม่ได้สงบเท่าไหร่นักฮาร์วีย์จึงตัดสินใจให้อีวอนน์อยู่ในบ้านของเฮเซลไปชั่วคราว และให้ไอเดน บาวเออร์ซ่อมแซมและทำความสะอาดบ้านอย่างเร่งด่วนเมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วฮาร์วีย์ก็ไม่ให้โอกาสเฮเซลได้ปฏิเสธและต่อสายโทรออกในทันที “สวัสดีครับ ลุงมาโลน ผมได้ยินมาจากเฮเซลว่า
ฮาร์วีย์ ยอร์กเหล่ตามองและพูดอย่างเฉยเมยว่า “นายคือแขกของเรา เพราะนายอยู่ในมอร์ดูและถือหนังสือเดินทางทางการทูต ตราบใดที่นายสอนอยู่ในชินดัน เวย์อย่างเงียบ ๆ และไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควร ก็จะไม่มีใครขับไล่นายไปไหนได้!“ในสนามรบ เรายืนกันคนละฝั่ง ถือว่าเราเป็นศัตรูกันโดยปริยาย“แต่นี่คือมหานครนานาชาติแห่งมอร์ดู ที่นี่ไม่มีศัตรูที่ถาวร สิ่งที่ถาวรมีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น“ตราบใดที่นายเต็มใจที่จะบอกให้ฉันรู้ว่านายมีประโยชน์แค่ไหน ฉันรับรองได้เลยว่านายจะมีชีวิตที่ดีในมอร์ดู ชีวิตที่ดีกว่าในประเทศหมู่เกาะเป็นพันเท่า“นายอยากที่จะทำตัวมีประโยชน์หรือเปล่ามันก็ขึ้นอยู่กับนาย”จากนั้นฮาร์วีย์หยิบถ้วยชาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและใช้นิ้วดีดมันออกไปจากนั้นถ้วยชาก็หล่นลงตรงกลางหน้าเรียว อากาโนะโดยที่ชาในนั้นไม่หกออกมาเลยสักหยดหน้าผากของเรียว อากาโนะเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น และร่างกายของเขาดูคล้ายจะเปียกโชกการศึกษาในวัยเด็กของเขาได้สอนให้เขาจงรักภักดีต่อกษัตริย์ของประเทศหมู่เกาะยิ่งชีพยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ใช่คนที่เขาจะสร้างปัญหาด้วยได้อย่างแน่นอนหล
นี่เป็นเพราะทั้งสองคนสมควรแก่คำชมเชย ไม่ว่าจะเป็นแกรี่ ดันเคนหรืออีวอนน์ซาเวียร์แต่สำหรับฮาร์วีย์ ยอร์กแล้ว กลับไม่มีใครสนใจเขาเลยจูน ลีขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นฮาร์วีย์มาถึงวิลล่า จากนั้นเธอก็เดินไปและพูดว่า “ฮาร์วีย์ นายมาทำอะไรที่นี่?”“เราเชิญนายเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “ลุงมาโลนขอให้ผมมา คุณลุงอยู่ที่ไหนครับ? ผมจะไปทักทายเขา”จูนจ้องฮาร์วีย์อย่างหวาดระแวงแล้วพูดด้วยท่าทางเบื่อหน่าย “เขาอยู่ในห้องรับแขกชั้นสอง กำลังคุยเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจกับบุคคลสำคัญสองสามคนจากสาขาของหลงเหมิน“คนพวกนั้นเป็นที่นับหน้าถือตากันในมอร์ดู เพราะเขาไม่ใช่คนที่นายควรจะทำความรู้จักด้วยหรอก“อย่าขึ้นไปเลยจะดีกว่า”ฮาร์วีย์เข้าใจทันที หลังจากขึ้นเป็นหัวหน้าสาขา เขาก็เอ่ยชื่อเคลลี่ มาโลนออกมาดูเหมือนว่าราเชล ฮาร์ดีจะเข้าใจอะไร ๆ ได้เป็นอย่างดี เธอยกระดับความร่วมมือกับเคลลี่ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ฮาร์วีย์รู้สึกยินดีกับเรื่องนี้ไม่น้อยจู่ ๆ จูนก็อารมณ์เสียเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางสงบและผ่อนคลายของฮาร์วีย์จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่การตกแต่งรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ฮาร์วีย์ นายคงไม่เคยได้เข้ามาเหยียบในบ
“โอ้ เฮซี่ ถ้ามีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่าล้านดอลลาร์แล้ว ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นคนดังที่ร่ำรวยแล้วสิ“คนที่เธอคบหาด้วยมีทั้งเราเจ้าชายหรือไม่ก็นายน้อยตระกูลต่าง ๆ“เธอพาคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้นเข้ามาในบ้านได้ยังไง?“ต่อให้เธอไม่กลัวที่จะต้องอับอาย แต่เราก็กลัวว่าคนพวกนี้จะทำลายความสง่างามของเราด้วยกลิ่นโคลนสาปควายของเขาเหมือนกันนี่!”ในขณะนี้มีคนเดินผ่านไปผ่านมาหลายคน พวกเขามีร่างกายที่ดูระหงและใบหน้าที่สวยงามเมื่อมองอย่างใกล้ชิด ทุกคนต่างเป็นเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางซึ่งเพิ่งมีชื่อเสียงในดูรินเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ค่อนข้างหยิ่งผยอง พวกเขาไม่แม้แต่จะสบตากับคนที่พวกเขาคิดว่าต่ำต้อยกว่าตัวเองและในบรรดาเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ มีผู้หญิงสูงประมาณ 5 ฟุต 6 นิ้ว ซึ่งเป็นคนที่มีหน้าตาน่าดึงดูดกำลังเดินไปหาฮาร์วีย์ ยอร์กพร้อมกับเชิดปลายจมูกหาเขา จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ว่า “คุณเป็นเด็กส่งของหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันล่ะ?“ตอนนี้คุณไม่ควรเข้ามาเหยียบในสถานที่หรูหราแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”หลังจากได้ยินคำถามประโยคนั้น เหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นต่างก็ปิดปากของพวก
มิวะ ฟูจิฮาระแสดงความดูถูกเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดขณะที่เธอชี้ไปที่จมูกของฮาร์วีย์ ยอร์ก “พอเขาอยู่ในเมืองเล็ก ๆ อย่างบัควู้ดไม่รอด เขาก็ตัดสินใจมาที่มอร์ดู” มิวะเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา“เขาเกาะครอบครัวของเธอกิน และยังใช้ให้เธอหางานเขาด้วย!“ฉันได้ยินมาว่าเขาอยากจะเข้ามาอาศัยอยู่ในวิลล่าที่ครอบครัวเธอซื้อ!“ฉันยังได้ยินมาว่าเขาหน้าด้านขนาดไหน!”มิวะชี้ไปที่วิลล่าหมายเลข 1 ซึ่งอยู่ไม่ไกล“ทุกคนในมอร์ดูรู้ว่าวิลล่าหลังแรกเป็นของตระกูลลินช์ มันเป็นทรัพย์สินของเบนจามิน ลินช์ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมอร์ดู!“แต่ผู้ชายคนนี้กลับบอกว่าวิลล่าหลังนั้นเป็นของเขางั้นหรอ?“แค่จนเฉย ๆ ก็ไม่เป็นไรหรอก“แต่การที่จนแล้วไม่รู้จักเจียมตัว มันน่าอายกว่ากันเยอะ!”มิวะกำลังชี้ไปที่หน้าของฮาร์วีย์ในขณะที่ด่าทอเขาไปด้วยเหล่าอินฟลูเอนเซอร์รอบตัวเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจหลังจากมองไปที่ฮาร์วีย์พวกเขาเคยพบกับพวกขี้แพ้แบบนี้มามากแล้วในระหว่างการถ่ายทอดสด คนพวกนี้ขอให้พวกเขาเต้นและร้องเพลงหลังจากบริจาคเงินเพียงไม่กี่สตางค์ พวกเขาคิดว่าพวกเขาเป็นใคร?คนขี้แพ้อย่างฮาร์วีย์ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรก
ก่อนที่อีวอนน์ ซาเวียร์จะทันพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฮาร์วีย์ ยอร์กก็ยกมือขึ้นห้ามเธอ จากนั้นเขาก็แสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมาและพูดว่า “อีวอนน์ อย่าโกรธไปเลย“ต่อให้พวกเขาจะพยายามยั่วโมโหผมแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางโกรธคนที่ไม่รู้จักควรนอนปลายเท้าของตัวเองหรอก”'ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า?!'ฝูงชนเงียบกริบหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นดีที่แกรี่ ดันเคนเข้าใจสถานการณ์ เขายังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พูดไม่ออกหากเขายังคงโต้เถียงกับฮาร์วีย์ต่อ มันคงไม่ดีต่อชื่อเสียงของเขา หากฮาร์วีย์ตัดสินใจลากเขาลงไปด้วยในทางกลับกัน มิวะ ฟูจิฮาระเปลี่ยนสีหน้าอย่างลนลานและเลิกคิ้วด้วยความโกรธ เธอไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองอีกแล้ว “ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายว่าใครไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าตัวเอง?!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ไม่ใช่คุณหรอ? ถึงผมจะไม่รู้ว่าชื่อจริงของคุณคืออะไร แต่คุณแนะนำตัวเองด้วยชื่อของชาวประเทศหมู่เกาะ ทั้งที่ความจริงแล้ว คุณเป็นพลเมืองของประเทศ H“พ่อบังเกิดเกล้าของคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณมีพ่ออีกคนอยู่ในประเทศหมู่เกาะด้วย?“ขอบคุณพระเจ้าที่ตอนนี้ประเทศเราไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม ไม่อย่างนั้น คนอย่างคุณจะถูกมองว่าเป็
เฮเซล มาโลนดูค่อนข้างลังเล แม้ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างฮาร์วีย์ ยอร์กจะค่อนข้างน่ารำคาญ แต่เธอก็ยังรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยหลังจากที่เห็นเหตุการณ์บานปลายมาถึงจุดนี้อย่างไรเสีย เธอก็แค่ต้องการไล่ฮาร์วีย์ออกจากมอร์ดูและทำให้เขากลับไปยังที่ที่ถูกที่ควร ไม่ได้คิดที่จะทำลายชีวิตเขา“ฮาร์วีย์ แค่ขอโทษคุณฟูจิฮาระซะ! ถ้าคุณขอโทษเธอ ฉันจะช่วยขอร้องเธออีกแรง!“พรุ่งนี้ฉันจะบอกให้พ่อให้เงินคุณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ ดังนั้นคุณออกไปจากที่นี่เถอะ!“เมืองใหญ่อย่างมอร์ดูไม่เหมาะกับคุณหรอก!”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ ขณะชำเลืองมองเฮเซลและจูน ลี "ให้ผมขอโทษงั้นหรอ? ผมไม่มีคำนั้นอยู่ในพจนานุกรมเสียหน่อย“ถ้าคนต่างชาติปลอม ๆ คนนี้มีอำนาจอะไรอยู่ในมือจริง เธอคงส่งชาวประเทศหมู่เกาะมาจัดการกับผมแล้ว“คุณคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นเพียงเพราะถือวีซ่าต่างประเทศจริง ๆ หรือ?“คนแบบนี้มีคนสนับสนุนคุณด้วยหรอ? ฟังแล้วจะอ้วก!“ผมจะบอกคุณให้เลยนะ พรุ่งนี้ดูรินจะฉีกสัญญากับคุณ วงการบันเทิงของทั้งมอร์ดูจะขึ้นบัญชีดำชื่อของคุณด้วย!“เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นซูเปอร์สตาร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ อย่างน้อยคุณก็ควรมีจุดยืนที่ถูกต้อง!“ห