ก่อนที่อีวอนน์ ซาเวียร์จะทันพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฮาร์วีย์ ยอร์กก็ยกมือขึ้นห้ามเธอ จากนั้นเขาก็แสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมาและพูดว่า “อีวอนน์ อย่าโกรธไปเลย“ต่อให้พวกเขาจะพยายามยั่วโมโหผมแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางโกรธคนที่ไม่รู้จักควรนอนปลายเท้าของตัวเองหรอก”'ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า?!'ฝูงชนเงียบกริบหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นดีที่แกรี่ ดันเคนเข้าใจสถานการณ์ เขายังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พูดไม่ออกหากเขายังคงโต้เถียงกับฮาร์วีย์ต่อ มันคงไม่ดีต่อชื่อเสียงของเขา หากฮาร์วีย์ตัดสินใจลากเขาลงไปด้วยในทางกลับกัน มิวะ ฟูจิฮาระเปลี่ยนสีหน้าอย่างลนลานและเลิกคิ้วด้วยความโกรธ เธอไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองอีกแล้ว “ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายว่าใครไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าตัวเอง?!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ไม่ใช่คุณหรอ? ถึงผมจะไม่รู้ว่าชื่อจริงของคุณคืออะไร แต่คุณแนะนำตัวเองด้วยชื่อของชาวประเทศหมู่เกาะ ทั้งที่ความจริงแล้ว คุณเป็นพลเมืองของประเทศ H“พ่อบังเกิดเกล้าของคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณมีพ่ออีกคนอยู่ในประเทศหมู่เกาะด้วย?“ขอบคุณพระเจ้าที่ตอนนี้ประเทศเราไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม ไม่อย่างนั้น คนอย่างคุณจะถูกมองว่าเป็
เฮเซล มาโลนดูค่อนข้างลังเล แม้ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างฮาร์วีย์ ยอร์กจะค่อนข้างน่ารำคาญ แต่เธอก็ยังรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยหลังจากที่เห็นเหตุการณ์บานปลายมาถึงจุดนี้อย่างไรเสีย เธอก็แค่ต้องการไล่ฮาร์วีย์ออกจากมอร์ดูและทำให้เขากลับไปยังที่ที่ถูกที่ควร ไม่ได้คิดที่จะทำลายชีวิตเขา“ฮาร์วีย์ แค่ขอโทษคุณฟูจิฮาระซะ! ถ้าคุณขอโทษเธอ ฉันจะช่วยขอร้องเธออีกแรง!“พรุ่งนี้ฉันจะบอกให้พ่อให้เงินคุณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ ดังนั้นคุณออกไปจากที่นี่เถอะ!“เมืองใหญ่อย่างมอร์ดูไม่เหมาะกับคุณหรอก!”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ ขณะชำเลืองมองเฮเซลและจูน ลี "ให้ผมขอโทษงั้นหรอ? ผมไม่มีคำนั้นอยู่ในพจนานุกรมเสียหน่อย“ถ้าคนต่างชาติปลอม ๆ คนนี้มีอำนาจอะไรอยู่ในมือจริง เธอคงส่งชาวประเทศหมู่เกาะมาจัดการกับผมแล้ว“คุณคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นเพียงเพราะถือวีซ่าต่างประเทศจริง ๆ หรือ?“คนแบบนี้มีคนสนับสนุนคุณด้วยหรอ? ฟังแล้วจะอ้วก!“ผมจะบอกคุณให้เลยนะ พรุ่งนี้ดูรินจะฉีกสัญญากับคุณ วงการบันเทิงของทั้งมอร์ดูจะขึ้นบัญชีดำชื่อของคุณด้วย!“เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นซูเปอร์สตาร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ อย่างน้อยคุณก็ควรมีจุดยืนที่ถูกต้อง!“ห
“จูน คุณพูดอะไรของคุณ”ใบหน้าของเคลลี่ มาโลนดูเย็นชา“ฮาร์วีย์เป็นหลานชายของผม ถ้าผมไม่ปกป้องเขาในมอร์ดูแล้วใครจะปกป้องล่ะ?”เมื่อเห็นว่าเคลลี่พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างแทนฮาร์วีย์ ยอร์ก มิวะ ฟูจิฮาระและจูน ลีก็มองหน้ากัน "ดี! ครั้งนี้ฉันจะแสดงความเคารพต่อคุณลุงมาโลน!” มิวะพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา“แต่จะไม่มีคราวหน้าอีกแล้ว!”มิวะจึงหันหลังกลับและจากไปในทางกลับกันแกรี่ ดันเคนยิ้มและกอดอกเดินไปด้านข้างแม้ว่าเขาจะตั้งใจทำให้ฮาร์วีย์ลำบาก แต่เขาก็ยังแสดงออร่าความเป็นสุภาพบุรุษออกมา ในตอนนี้มีผู้หญิงล้อมรอบเขาอยู่ไม่น้อย“มานี่สิ ฮาร์วีย์! เดี๋ยวลุงจะแนะนำให้หลานรู้จักคนสักสองสามคน”หลังจากพาฮาร์วีย์ไปรอบ ๆ วิลล่า เคลลี่ก็พาเขาไปที่ชั้นสองเพื่อพบกับพวกระดับสูงสองสามคนจากสาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดูฮาร์วีย์คิดว่าเขาจะบังเอิญเจอคนที่เขารู้จัก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่รู้จักพวกที่ถูกเรียกว่าระดับสูงเลยสักคนราเชล ฮาร์ดี ไอเดน บาวเออร์และคนอื่น ๆ ไม่ได้มาปรากฏตัวที่นี่ในเย็นวันนั้นพวกที่ถูกเรียกว่าระดับสูงไม่รู้ว่าฮาร์วีย์คือใครในไม่ช้าฮาร์วีย์ก็เข้าใจว่าคนเหล่านั้นเป็นเพียงหั
ในขณะนี้เฮเซล มาโลนมองไปที่แกรี่ ดันเคนโดยไม่รู้ตัว“คุณยังเป็นหนึ่งในเยาวชนที่มีพรสวรรค์ระดับแนวหน้าของประเทศ H คุณเองก็คงไม่ได้ต่างอะไรกับหัวหน้าสาขาหลงเหมินคนใหม่ของมอร์ดูนักร้อง“คนได้พบกับหัวหน้าสาขาด้วยตัวเองบ้างหรือยัง?”“ยังเลย” แกรี่ตอบอย่างใจเย็น“ถ้าผมอยากพบเขา ผมจะท้าดวลกับเขาที่สาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดู“แต่ผมกังวลว่าตัวเองอาจดูหมิ่นหลงเหมินมากเกินไป พลั้งเผลอทำร้ายเขาเข้า”แกรี่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ในสายตาของเขา เขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถในระดับแนวหน้าของประเทศ Hหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดูเทียบอะไรกับเขาไม่ได้เลย!เฮเซลและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นตกตะลึง“นายน้อยดันเคน คุณนี่คุณกำลังจะบอกว่าหัวหน้าสาขาคนใหม่เทียบอะไรกับคุณไม่ได้งั้นหรือ?”“พวกคุณลืมไปแล้วหรือว่าจัสติน วอล์คเกอร์ปฏิบัติต่อผมยังไง?”แกรี่ตอบอย่างใจเย็นเฮเซลคล้อยตามในทันทีนั่นเป็นเรื่องจริง จัสติน รองหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดูค่อนข้างยำเกรงต่อแกรี่จากเหตุการณ์นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์สถานะและอำนาจของแกรี่ หลังจากได้ยินเฮเซลพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด สาวกของหลงเหมินก็
“เยี่ยมมาก! ขอบคุณ นายน้อยดันเคน”เฮเซล มาโลนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ ก็ขึ้นสีเช่นกันหากพวกเขาสามารถถ่ายทอดสดในสถานที่ชั้นสูงเช่นนี้ได้ พวกเขาจะทำเงินมากมายจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช้อย่างไรให้หมด!จากนั้นเคลลี่ มาโลนก็พูดต่อด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของเขา“ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจะพาคนไปเพิ่มอีกคนหนึ่งได้หรือเปล่า? หลานชายของผมเอง…”ในทันใดนั้นฮาร์วีย์ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขาไม่คิดว่าเคลลี่จะยังนึกถึงเขาด้วยซ้ำ ฮาร์วีย์หายหน้าแล้วพูดว่า “ผมไม่อยากไปครับ คุณลุงมาโลน”“ไม่อยากไปเหรอ?”แกรี่ ดันเคนมองฮาร์วีย์ในขณะที่หัวเราะเบา ๆ“ตอนที่เฮซี่บอกว่านายชอบขี้โม้ฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะ แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว“ฟังจากน้ำเสียงของนายแล้ว กำลังจะบอกว่าถ้านายคิดที่จะไปงานเลี้ยงนั่น นายก็จะได้รับคำเชิญถูกไหม?“จำไว้นะ ฮาร์วีย์ ฉันจะพาทุกคนไปด้วย ยกเว้นนายคนเดียว“เพราะอย่างนั้นอย่าได้บังอาจแอบอ้างชื่อของฉันเพื่อเข้าไปในงานล่ะ“พวกคุณก็ต้องจำเรื่องนี้ไว้ให้ขึ้นใจ! ถ้าเด็กคนนี้พยายามแอบอ้างชื่อของผมเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะยังไงคุณก็ต้องไล่เขาออกไป!”แกรี่ไม่ลืมที่จะเตือน
เคลลี่มาโลนรู้สึกหมดเรี่ยวแรง และคนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าแปลก ๆ เช่นกันจูน ลีและเฮเซล มาโลนจ้องมองฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างเย้ยหยันมิวะ ฟูจิฮาระและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ ทำถ้าเรากลับพวกเขากำลังมองดูคนงี่เง่า เพราะเขาทำราวกับว่าเพิ่งได้ยินเรื่องตลกร้ายที่สุดในโลกเข้าแกรี่ ดันเคนเอ่ยปากอย่างใจเย็นว่า “ฮาร์วีย์ ไม่ ไม่ ฉันควรเรียกนายว่าคุณยอร์กแทนสินะ นายอาศัยอยู่ในวิลล่าหมายเลข 1 จริงเหรอ?“แน่ใจนะว่าไม่ได้อาศัยอยู่ในป้อมยาม?”แกรี่จำได้ลาง ๆ ว่าเฮเซลบอกว่าฮาร์วีย์เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคิดว่าเขาเหมาะที่จะอยู่ในห้องพักของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้นเคลลี่ดึงสติกลับมาได้ แต่สีหน้าของเขาดูแย่มาก เขารู้สึกผิดหวังมากเพราะไม่อาจพูดให้ฮาร์วีย์เข้าใจความรู้สึกของเขาได้“ลุงบอกหลานกี่ครั้งแล้ว ฮาร์วีย์” เคลลี่พูดด้วยเสียงทุ้ม“หลานต้องอยู่กับความเป็นจริง!“เรื่องบางเรื่องจะพูดออกไปมั่ว ๆ ไม่ได้!“ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกคนที่นี่ล้วนรู้จักกันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น หลานคงได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่อีกแน่!”ฮาร์วีย์รู้สึกหมดคำจะพูด“ผมบอกคุณลุงแล้ว คุณลุงมาโลน ผมอาศัยอยู่ในวิ
ในวินาทีนั้นเคลลี่ มาโลนรู้สึกผิดหวังในตัวฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นอย่างมากเขาดีใจที่ฮาร์วีย์ได้ทำงานในบริษัทดีๆและได้รับโบนัสอีกต่างหากแต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากไปทำงานได้เพียงสองสามวันฮาร์วีย์จะหยิ่งผยองได้ถึงเพียงนี้ เขามีแต่ทำตัวหยิ่งยโสมากขึ้นเพราะเรื่องนี้ในตอนนี้เคลลี่เริ่มเสียใจที่พาฮาร์วีย์มายังมอร์ดูเมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้ว ให้เขาส่งค่าครองชีพไม่กี่ร้อยเหรียญต่อเดือนให้เขาซะยังจะดีกว่าน่าอาย!มันน่าอายเหลือเกิน!หลังจากเห็นท่าทางที่สิ้นหวังของเคลลี่แล้ว ฮาร์วีย์ก็ตัดสินใจที่จะจัดการกับสถานการณ์“ให้ผมบอกความจริงกับคุณลุงเถอะ คุณลุงมาโลน” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงตรงไปตรงมาทุกคนโน้มตัวเข้ามาแทบจะในทันที พวกเขาล้วนอยากจะฟังว่าฮาร์วีย์พูดอะไร“วิลล่าหมายเลข 1 เป็นของผมจริง ๆ นายท่านลินช์ยกมันให้ผมเมื่อสัปดาห์ก่อน และขั้นตอนต่าง ๆ ก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว”“เขายกให้นายเนี่ยนะ?”มิวะ ฟูจิฮาระหัวเราะออกมา“นี่นายกำลังจะบอกฉันว่าเขายกวิลล่ามูลค่าสองร้อยสามสิบเจ็ดล้านดอลลาร์ ให้นายเนี่ยนะ? ดูเหมือนว่า คุณยอร์กจะค่อนข้างมีชื่อเสียงมากทีเดียว!“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น หากเราไม่ไปดูด
“ตอนนี้เรายังไม่รู้ แต่คำสั่งนั่นมาจากมอร์ดู เราสงสัยว่าเป็นฝีมือของซากุระ มิยาโมโตะ "หรืออาจจะ…"“เฮกเตอร์ ทอมป์สัน…”ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตาเล็กน้อยหลังจากได้ยินชื่อนั้นแม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ได้ท้าทายเฮกเตอร์โดยตรง แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้รู้แล้วว่าคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งแค่ไหนดีที่คุโรดะ ทาโร่ถูกกำจัดไปแล้วทำให้เรื่องนี้ยังมีช่องอยู่ ฮาร์วีย์จึงไม่รีบที่จะตอบโต้กลับไปฮาร์วีย์ดูค่อนข้างสนใจ เขาอยากจะเห็นว่าคำสั่งล่าค่าหัวนี้จะทำให้เขาประหลาดใจได้สักกี่น้ำขณะที่ฮาร์วีย์กำลังพยายามแก้ปัญหา ผู้คนก็ซุบซิบกันไม่หยุดหย่อน“วิลล่าหมายเลข 1 ยิ่งใหญ่มาก! คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คงมีเงินใช้ไปอีกสิบชาติ!”“ไม่แปลกใจเลยที่นี่จะเป็นวิลล่าหมายเลข 1 สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนจุดยุทธศาสตร์ มันระเบียงที่น่าจะมองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของชายหาดมอร์ดูได้เลย”“ฉันไม่คิดว่าคน ๆ นึงจะได้เป็นเจ้าของที่นี่ หากไม่ได้เกิดมาพร้อมกับมัน”ฝูงชนต่างเปล่งเสียงแห่งความปวดร้าวออกมาขณะที่พวกเขามองไปที่วิลล่าที่มีระดับเช่นนี้แม้แต่แกรี่ ดันเคนผู้หยิ่งยโสที่สุดยังต้องยอมรับว่าสถานที่นี้เหมาะสมกับสถานะของเขาเ