“ต้องการอะไร?”ฮาร์วีย์ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ราวกับว่าเขากำลังมองแมวหรือสุนัขข้างถนน“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันขอเตือน“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่ออวดว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน!“แต่ฉันมาที่นี่เพื่อบอกถวงสิ่งที่เป็นของฉันคืน!“อย่างน้อยแกจะต้องจ่ายค่าเสียหายของเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอคืนเป็นสิบเท่า ไม่สิ ร้อยเท่า!“ถ้าแกกล้าปฏิเสธ ฉันจะหักขาของแกเดี๋ยวนี้และทำให้แกเป็นอาหารปลา!”เฟร็ดกำลังข่มขู่อย่างมากในตอนนั้นหลังจากที่รู้ว่าแลรี่ได้การสนับสนุนจากอีเลียส หนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู เฟร็ดก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญด้วยการสนับสนุนอันทรงพลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้เจอกับเจ้าชายแห่งมอร์ดูองค์อื่น แม้แต่เฟร็ดก็ยังสามารถทำตามที่ใจต้องการได้เฟร็ดเป็นตัวอย่างที่ดีของชายผู้ต่ำต้อยที่ถูกอำนาจครอบงำดาราหญิงสองสามด้านหลังเฟร็ดกำลังมองฮาร์วีย์ด้วยความสนุกสนานในสายตาของพวกเธอ พวกเธอคิดว่าคนที่กล้าท้าทายแลรี่และทำให้เฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอตกอยู่ในความโกลาหลจะต้องเป็นทายาทผู้มั่งคั่งหรือคนดังที่มีชื่อเสียงมากพวกเธอไม่คิดว่าเด็กหน้าตาธรรมดาคนนี้จะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดถ้าเจอได้เจอ
ฮาร์วีย์หยิบแก้วใบหนึ่งที่จอร์จถือมาให้ จากนั้นก็จิบเล็กน้อยเพื่อความชุ่มคอ หลังจากที่เช็ดฝ่ามือด้วยกระดาษทิชชู่แล้ว เขาก็หรี่ตามองแลรี่“คุณแชมเบอร์ส คุณไม่ทำให้ผิดหวังเลย“ผมคิดว่าคุณจะมาคุกเข่าต่อหน้าผมซะอีก“ไม่คิดเลยว่าคุณจะยังนั่งอยู่นิ่ง ๆ ได้“ดูเหมือนว่าผมคงจะยังทำไม่มากพอ!”ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์ออกมาและส่งข้อความสองสามข้อความระหว่างที่เขากำลังพูดสักพักโทรศัพท์ของแลรี่ก็ดังขึ้นขณะที่ดวงตาของเขากระตุกอย่างรุนแรง ในตอนนั้นข่าวร้ายได้ถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของเขาสีหน้าออกของแลรี่นั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะยังคงไม่ให้เกียรติแม้ในตอนนี้“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ในสายตาของผม คุณเป็นเพียงชายหนุ่มที่ไม่รู้จักความกลัวเพราะความไร้ประสบการณ์ของคุณ คุณไม่รู้ขีดจำกัดของคุณเลย!”หลังจากที่หายใจเข้าลึก ๆ แลรี่ก็ห้ามเฟร็ดและคนอื่น ๆ ที่กำลังจะบ้า จากนั้นเขาก็มองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมในสายตาของแลรี่ ฮาร์วีย์จะต้องจบสิ้นแน่นอนเมื่อเขาเผยไพ่เด็ดของเขาถึงตอนนั้น แลรี่จะทำให้ฮาร์วีย์คุกเข่าและตบหน้าเขาสักสิบครั้งหรือมากกว่านั้น“คุณแชมเบอร์ส คุณไม่คิดว่ามันเด็กเกินไปหน่อย
“พาเทล?”หลังจากที่เห็นตรานั้นแล้ว ฮาร์วีย์ก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ราชวงศ์พาเทลจากดินแดนโกลเดน แซนที่ไม่มีอยู่แล้วงั้นเหรอ?”“ฉลาดมาก!”แลรี่ชูนิ้วโป้งไปทางฮาร์วีย์“ตรานี้เป็นของเจ้าชายแห่งตระกูลพาเทลในมอร์ดู เจ้าชายอีเลียส พาเทล!“เขาเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูด้วย!“เขาบอกให้ผมนำตรามาที่นี่และบอกกับคุณสามอย่าง!“หนึ่ง หยุดการปราบปรามเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอของคุณซะ!“สอง ชดใช้ค่าเสียหายสองเท่า!“และสาม คุกเข่าและขอโทษผม!“เขาจะปล่อยทุกอย่างผ่านไปหากคุณทำตามสามข้อนี้ได้ ไม่อย่างนั้น คุณและคนที่ติดตามคุณจะมีชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!”แลรี่แสดงสีหน้าเย็นชาอย่างมากหลังจากที่เขาพูดจบจะมีสักกี่คนที่มีหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์คอยสนับสนุน?เฟร็ดกุมหน้าตัวเองและพูดว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ในเมื่อแกรู้จักตระกูลพาเทล แกก็คงจะรู้ว่าเจ้าชายพาเทลเป็นคนแบบไหน!“ถามคนข้างหลังแกสิ!“ดูสิว่าพวกเขาจะคิดว่าแกสามารถท้าทายเจ้าชายพาเทลได้หรือไม่!“ไม่มีใครสามารถปกป้องแกจากเรื่องนี้ได้!“ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะยอมแพ้นะ!“ถ้าแกช้าไปแม้แต่นิดเดียว แกจะไม่มีโอกาสยอมแพ้แล้วนะ!”
แลรี่หรี่ตาแล้วอธิบายว่า “จริง ๆ ผมก็ต้องการมากกว่านี้นะ แต่ผมรู้สึกว่าผมควรจะใจกว้างสักหน่อย“ท้ายที่สุดผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณมีเงินมากขนาดนั้นหรือเปล่า“นอกจากนี้คุณยังทำให้เซธขุ่นเคืองด้วย! เขาจะต้องไปหาคุณแน่นอน!“อ๋อ ผมลืมบอกไปเลย คนที่สนับสนุนเซธไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายน้อยเฟจ!“เขาเป็นสมาชิกของตระกูลลินช์ หนึ่งในสิบตระกูลอันดับต้น ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่!”แลรี่โน้มตัวเข้าไปใกล้ฮาร์วีย์ จากนั้นก็พูดเบา ๆ ว่า “ไหนบอกผมสิ คุณจะจบเห่หรือไม่?!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ทิโมธี เฟจเหรอ?”แลรี่นั่งไขว่ห้างและจุดซิการ์ของเขาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ถามอย่างใจเย็นว่า “ทำไม? กลัวเหรอ?“เบนจามินเป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพและสง่างามเมื่อทำธุรกิจ คุณสามารถบอกได้จากนิสัยใจคอของเขา“แต่ทิโมธีเป็นเครื่องบดเนื้อเมื่อเทียบกับเจ้าชายและนายน้อยคนอื่น ๆ คุณคิดว่าคุณจะหยุดความก้าวร้าวของเขาได้จริง ๆ เหรอ?”เฟร็ดและเหล่าดาราหัวเราะด้วยความเย็นชา‘เสแสร้งต่อสิ!’‘คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหน?!’‘พลังที่แกคิดว่าแกมีจะทำให้แกดูเหมือนคนโง่เขลา!’‘เราจะได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาเป็นสิบเท่าหลังจากที่เสียมันไปเพราะแก!’
เซธตัวสั่นจนถึงรองเท้าบู๊ตของเขา เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ผมลืมบอกคุณ“ทิโมธีไม่สามารถหนุนหลังเขาได้แล้ว!“ผมหักแขนขาของเขาเอง“คุณคิดว่าเขาจะยังสามารถช่วยเซธได้จริง ๆ เหรอ?”ข่าวนั้นทำให้คนทั้งวงช็อก!‘อะไรนะ?!’‘เขาหักแขนขาของทิโมธีอย่างนั้นเหรอ?!’‘เป็นไปได้อย่างไร?!’เฟร็ดและคนอื่น ๆ แทบจะอ้าปากค้างจนค้างหลุดจากโครงหน้า! พวกเขามองฮาร์วีย์อย่างเหลือเชื่อพวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ฮาร์วีย์พูด แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นดวงตาของแลรี่กระตุกไม่หยุด“แม้แต่ทิโมธีก็ไม่สามารถหนุนหลังเขาได้ คุณคิดว่าอีเลียส พาเทลจะช่วยอะไรคุณได้จริง ๆ เหรอ?”เคล้ง!ฮาร์วีย์หยิบตราวงตระกูลพาเทลขึ้นมาและหักมันสีหน้าของเฟร็ดและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปอย่างลนลาน จากนั้นพวกเขาก็มองฮาร์วีย์ในขณะที่ยังคงไม่เชื่อคำพูดของเขา พวกเขาต่างปิดปากตนเองและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กรีดร้องสีหน้าของแลรี่เปลี่ยนไปในทันที“ไอ้สารเลว!“กล้าดียังไงถึงได้ทำลายตราของเจ้าชายพาเทล?!”ฮาร์วีย์ปรบมือด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง จากนั้นก็พูดว่า “ไทสัน มีคนต้องสงสัยว่าแบล็กเมล์ฉันเพื่อเงินรวม 3.2 พันล้า
อีเลียสพูดอย่างใจเย็นว่า “แลรี่ ที่นี่ไม่ใช่ตลาดสด คุณไม่มาที่นี่มากเกินไปหน่อยเหรอ?”แน่นอนว่าเขาจะรู้ว่าแลรี่จะไม่มาที่นี่หากปัญหาของเขาได้รับการแก้ไขแล้วแต่ในเมื่อเขามาปรากฏตัวอีก นั่นหมายความว่าเขาพลาดอีกแล้วดวงตาของแลรี่ยังคงกระตุก เขาพูดในขณะที่เกือบจะคุกเข่าว่า “เจ้าชายพาเทล ผมอ่อนแอเกินไป! ผมทำให้คุณต้องอับอาย!”สายตาของอีเลียสเย็นชา แแต่เขาตอบอย่างใจเย็นว่า “คุณสู้เขาไม่ได้เหรอ?”“ใช่ครับ! เขาหักตราของคุณและส่งผมเข้าคุกข้อหาแบล็กเมล!“เขายังรับเงินจากเซธและบอกว่าเขาเป็นคนที่หักแขนขาของทิโมธีเอง”“โอ้?”อีเลียสแสดงท่าทางอยากรู้อยากเห็น“เขาต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจ“แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย“ทิโมธีไม่ได้มาจากหนึ่งในสิบตระกูลอันดับต้น ๆ เขาอวดอำนาจได้เพียงเพราะเบนจามินเป็นพี่เขยของเขา“เบนจามินสนใจเรื่องชื่อเสียงของเขามาก คงจะสมเหตุสมผลถ้าทิโมธีแขนขาหักเพราะเบนจามินไม่ต้องการช่วยให้พี่เขยผู้ไร้ค่าของเขาสร้างปัญหาไปมากกว่านี้“อย่ากลัวเขาเพียงเพราะเรื่องนี้“และอย่าลืมว่าคุณคือตัวแทนของผม”อีเลียสยังคงไม่พอใจแลรี่อยู่บ้าง แต่เขาก็ยังอดทนสอนสองสามเรื่องเพรา
ในที่สุดแลรี่ก็เข้าใจ“เจ้าชายพาเทล ผมได้ยินมาว่าเบนจามิน ลินช์เกือบเสียชีวิตเมื่อวันก่อน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ดูเหมือนว่าเขาจะฟื้นตัวแล้ว“เขาสงสัยว่ามีใครบางคนกำลังจับตามองตำแหน่งของเขาและเขาอาจถูกฆ่าเพราะเรื่องนี้“ดังนั้น เขาจึงได้ดำเนินการหลายอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง“ถ้าฮาร์วีย์เป็นลูกน้องของเขา และโจมตีผู้คนเพื่อขยายอำนาจโดยเฉพาะ…“ทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผล“ท้ายที่สุดเบนจามินก็ฟื้นแล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องการแสดงความสามารถของเขาให้ทุกคนในมอร์ดูเห็น“แต่เขาทำทั้งหมดนี้อย่างกะทันหัน เขาไม่กลัวที่จะติดกับดักตัวเองเลยเหรอ?“เขาทำร้ายคนจำนวนมากอย่างยืดเยื้อ… บางทีเขาอาจไม่กลัวแล้วว่าคนที่โจมตีเขาก่อนหน้านี้จะกลับไปโจมตีเขาอีกครั้ง?”แม้ว่าแลรี่จะค่อนข้างมีอิทธิพลในแวดวงชนชั้นสูง แต่เขาก็ยังห่างไกลจากการกลายเป็นคนสำคัญอันดับต้น ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจเจตนาของเบนจามินได้อีเลียสวางตัวหมากรุกลงและพูดอย่างเฉยเมยว่า “สำหรับเบนจามิน การทำร้ายคนไม่กี่คนไม่ได้มีความหมายอะไรเลย“เป้าหมายของเขาตอนนี้คือการหาคนหรือแม้แต่กลุ่มและขยายบารมีของเขา“ด้วยวิธีนี้คู่ต่อสู้ของเขาจะไม่ทำร้ายผู้
ฮาร์วีย์พยักหน้าและพูดว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ นอกจากนี้อีกฝ่ายจะให้คำอธิบายกับเราในไม่ช้าก็เร็ว“ไม่ต้องนะครับคุณลินช์ เรื่องนี้ผมจัดการเองได้”โยนาส่ายหัสและพูดว่า “ให้ฉันจัดการเถอะค่ะนายน้อยยอร์ก ฉันสัญญาว่าจะไม่มีใครมารบกวนคุณที่โรงพยาบาล…”ปัง!ก่อนที่โยนาจะพูดจบ ประตูห้องวีไอพีก็ถูกเตะและเปิดออกผู้คนนับสิบบุกเข้ามาแลรี่และเฟร็ดนำหน้าเฟร็ดควรจะถูกกักตัวอยู่ การปรากฏตัวของเขาระบุได้ว่าต้องมีปัญหาในระบบแต่ผู้นำที่แท้จริงของกลุ่มในครั้งนี้ไม่ใช่ทั้งแลรี่และเฟร็ด แต่กลับเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะอายุสามสิบต้น ๆเธอสวมเครื่องแบบสีขาว อย่างไรก็ตาม แม้แต่เครื่องแบบที่เป็นทางการนี้ก็แสดงให้เห็นรูปร่างที่โตเต็มวัยของเธอใบหน้าของเธอละเอียดออนมาก ทุกย่างก้าวของเธอแสดงถึงความเย่อหยิ่งและดูถูกเหยียดหยาม“ยอร์ก คุกเข่าซะ!”เฟร็ดตะโกนทันทีที่ประตูเปิดด้านหลังเขามีนักแสดงหญิงซึ่งถูกจับกุมในข้อหาเป็นผู้ค้าอาหารทะเลเมื่อบ่ายวันนี้ พวกเธอผมกระเซิงและดูสกปรก และสีหน้าขมขื่นพวกเธอทำผิดร้ายแรงตั้งแต่เมื่อไหร่?พวกเธอจะต้องได้รับความยุติธรรมจากความคับแค้นใจที่พวกเธอได้รับ!“น่าสน