เซธตัวสั่นจนถึงรองเท้าบู๊ตของเขา เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ผมลืมบอกคุณ“ทิโมธีไม่สามารถหนุนหลังเขาได้แล้ว!“ผมหักแขนขาของเขาเอง“คุณคิดว่าเขาจะยังสามารถช่วยเซธได้จริง ๆ เหรอ?”ข่าวนั้นทำให้คนทั้งวงช็อก!‘อะไรนะ?!’‘เขาหักแขนขาของทิโมธีอย่างนั้นเหรอ?!’‘เป็นไปได้อย่างไร?!’เฟร็ดและคนอื่น ๆ แทบจะอ้าปากค้างจนค้างหลุดจากโครงหน้า! พวกเขามองฮาร์วีย์อย่างเหลือเชื่อพวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ฮาร์วีย์พูด แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นดวงตาของแลรี่กระตุกไม่หยุด“แม้แต่ทิโมธีก็ไม่สามารถหนุนหลังเขาได้ คุณคิดว่าอีเลียส พาเทลจะช่วยอะไรคุณได้จริง ๆ เหรอ?”เคล้ง!ฮาร์วีย์หยิบตราวงตระกูลพาเทลขึ้นมาและหักมันสีหน้าของเฟร็ดและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปอย่างลนลาน จากนั้นพวกเขาก็มองฮาร์วีย์ในขณะที่ยังคงไม่เชื่อคำพูดของเขา พวกเขาต่างปิดปากตนเองและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กรีดร้องสีหน้าของแลรี่เปลี่ยนไปในทันที“ไอ้สารเลว!“กล้าดียังไงถึงได้ทำลายตราของเจ้าชายพาเทล?!”ฮาร์วีย์ปรบมือด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง จากนั้นก็พูดว่า “ไทสัน มีคนต้องสงสัยว่าแบล็กเมล์ฉันเพื่อเงินรวม 3.2 พันล้า
อีเลียสพูดอย่างใจเย็นว่า “แลรี่ ที่นี่ไม่ใช่ตลาดสด คุณไม่มาที่นี่มากเกินไปหน่อยเหรอ?”แน่นอนว่าเขาจะรู้ว่าแลรี่จะไม่มาที่นี่หากปัญหาของเขาได้รับการแก้ไขแล้วแต่ในเมื่อเขามาปรากฏตัวอีก นั่นหมายความว่าเขาพลาดอีกแล้วดวงตาของแลรี่ยังคงกระตุก เขาพูดในขณะที่เกือบจะคุกเข่าว่า “เจ้าชายพาเทล ผมอ่อนแอเกินไป! ผมทำให้คุณต้องอับอาย!”สายตาของอีเลียสเย็นชา แแต่เขาตอบอย่างใจเย็นว่า “คุณสู้เขาไม่ได้เหรอ?”“ใช่ครับ! เขาหักตราของคุณและส่งผมเข้าคุกข้อหาแบล็กเมล!“เขายังรับเงินจากเซธและบอกว่าเขาเป็นคนที่หักแขนขาของทิโมธีเอง”“โอ้?”อีเลียสแสดงท่าทางอยากรู้อยากเห็น“เขาต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจ“แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย“ทิโมธีไม่ได้มาจากหนึ่งในสิบตระกูลอันดับต้น ๆ เขาอวดอำนาจได้เพียงเพราะเบนจามินเป็นพี่เขยของเขา“เบนจามินสนใจเรื่องชื่อเสียงของเขามาก คงจะสมเหตุสมผลถ้าทิโมธีแขนขาหักเพราะเบนจามินไม่ต้องการช่วยให้พี่เขยผู้ไร้ค่าของเขาสร้างปัญหาไปมากกว่านี้“อย่ากลัวเขาเพียงเพราะเรื่องนี้“และอย่าลืมว่าคุณคือตัวแทนของผม”อีเลียสยังคงไม่พอใจแลรี่อยู่บ้าง แต่เขาก็ยังอดทนสอนสองสามเรื่องเพรา
ในที่สุดแลรี่ก็เข้าใจ“เจ้าชายพาเทล ผมได้ยินมาว่าเบนจามิน ลินช์เกือบเสียชีวิตเมื่อวันก่อน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ดูเหมือนว่าเขาจะฟื้นตัวแล้ว“เขาสงสัยว่ามีใครบางคนกำลังจับตามองตำแหน่งของเขาและเขาอาจถูกฆ่าเพราะเรื่องนี้“ดังนั้น เขาจึงได้ดำเนินการหลายอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง“ถ้าฮาร์วีย์เป็นลูกน้องของเขา และโจมตีผู้คนเพื่อขยายอำนาจโดยเฉพาะ…“ทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผล“ท้ายที่สุดเบนจามินก็ฟื้นแล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องการแสดงความสามารถของเขาให้ทุกคนในมอร์ดูเห็น“แต่เขาทำทั้งหมดนี้อย่างกะทันหัน เขาไม่กลัวที่จะติดกับดักตัวเองเลยเหรอ?“เขาทำร้ายคนจำนวนมากอย่างยืดเยื้อ… บางทีเขาอาจไม่กลัวแล้วว่าคนที่โจมตีเขาก่อนหน้านี้จะกลับไปโจมตีเขาอีกครั้ง?”แม้ว่าแลรี่จะค่อนข้างมีอิทธิพลในแวดวงชนชั้นสูง แต่เขาก็ยังห่างไกลจากการกลายเป็นคนสำคัญอันดับต้น ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจเจตนาของเบนจามินได้อีเลียสวางตัวหมากรุกลงและพูดอย่างเฉยเมยว่า “สำหรับเบนจามิน การทำร้ายคนไม่กี่คนไม่ได้มีความหมายอะไรเลย“เป้าหมายของเขาตอนนี้คือการหาคนหรือแม้แต่กลุ่มและขยายบารมีของเขา“ด้วยวิธีนี้คู่ต่อสู้ของเขาจะไม่ทำร้ายผู้
ฮาร์วีย์พยักหน้าและพูดว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ นอกจากนี้อีกฝ่ายจะให้คำอธิบายกับเราในไม่ช้าก็เร็ว“ไม่ต้องนะครับคุณลินช์ เรื่องนี้ผมจัดการเองได้”โยนาส่ายหัสและพูดว่า “ให้ฉันจัดการเถอะค่ะนายน้อยยอร์ก ฉันสัญญาว่าจะไม่มีใครมารบกวนคุณที่โรงพยาบาล…”ปัง!ก่อนที่โยนาจะพูดจบ ประตูห้องวีไอพีก็ถูกเตะและเปิดออกผู้คนนับสิบบุกเข้ามาแลรี่และเฟร็ดนำหน้าเฟร็ดควรจะถูกกักตัวอยู่ การปรากฏตัวของเขาระบุได้ว่าต้องมีปัญหาในระบบแต่ผู้นำที่แท้จริงของกลุ่มในครั้งนี้ไม่ใช่ทั้งแลรี่และเฟร็ด แต่กลับเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะอายุสามสิบต้น ๆเธอสวมเครื่องแบบสีขาว อย่างไรก็ตาม แม้แต่เครื่องแบบที่เป็นทางการนี้ก็แสดงให้เห็นรูปร่างที่โตเต็มวัยของเธอใบหน้าของเธอละเอียดออนมาก ทุกย่างก้าวของเธอแสดงถึงความเย่อหยิ่งและดูถูกเหยียดหยาม“ยอร์ก คุกเข่าซะ!”เฟร็ดตะโกนทันทีที่ประตูเปิดด้านหลังเขามีนักแสดงหญิงซึ่งถูกจับกุมในข้อหาเป็นผู้ค้าอาหารทะเลเมื่อบ่ายวันนี้ พวกเธอผมกระเซิงและดูสกปรก และสีหน้าขมขื่นพวกเธอทำผิดร้ายแรงตั้งแต่เมื่อไหร่?พวกเธอจะต้องได้รับความยุติธรรมจากความคับแค้นใจที่พวกเธอได้รับ!“น่าสน
คำพูดของฮาร์วีย์ทำให้ใบหน้าของแลรี่และเฟร็ดดูอัปลักษณ์ขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องการเหยียบย่ำฮาร์วีย์เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอถึงกระนั้นพวกเขาก็ล้มเหลวทุกครั้งและต้องจบลงด้วยความอัปยศอดสูเสมอ นั่นยิ่งทำให้พวกเขาดูหน้าสังเวชเข้าไปใหญ่“ถ้างั้นนายคือฮาร์วีย์งั้นหรอ?”ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงที่ถูกทุกคนห้อมล้อมก็ค่อย ๆ ก้าวมาข้างหน้าอย่างช้า ๆเสียงรองเท้าส้นสูงของเธอดังก้องกังวานในทุกย่างก้าว สิ่งนั้นยิ่งทำให้ท่าทางหยิ่งยโสและเจ้าเล่ห์ของเธอยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีกฮาร์วีย์หรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วเอ่ยปากถามขึ้น “คุณเป็นใคร?”“นี่คือเอลีซา ฌองจากสถานีตำรวจมอร์ดู!“เธอยังเป็นสมาชิกของตระกูลฌองแห่งมอร์ดูซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลอันดับแรกอีกด้วย!“ฉันขอให้ผู้อำนวยการฌองเพื่อมาทวงความยุติธรรมให้เราเป็นพิเศษ“ฉันอยากรู้นักว่าจะมีตำรวจบ้า ๆ บอ ๆ คนไหนยังคิดที่จะลากฉันไปที่สถานีตำรวจอีกไหม?!”แลรี่พูดอย่างนึกสนุก ฮาร์วีย์มีเส้นสายในสถานีตำรวจแล้วทำไมล่ะ?ด้วยภูมิหลังและอิทธิพลของเอลีซา แม้แต่เจ้าชายแห่งมอร์ดูก็ยังต้องให้ความเคารพเธอหากฮาร์ว
"คำอธิบาย?"ฮาร์วีย์หัวเราะ"ก็ได้ แล้วคุณบอกผมมาสิว่าผมต้องอธิบายอะไรให้คุณฟัง และควรอธิบายยังไง? ผู้อำนวยการฌอง”เอลีซา ฌองจากตระกูลฌองแห่งมอร์ดูดูคล้ายจะมีอำนาจเหนือล้นแต่สำหรับฮาร์วีย์แล้ว เอลีซายังไม่ดีพอที่จะพูดแทนแลรี่เนื่องจากเธอมาจากตระกูลฌองแห่งมอร์ดู ฮาร์วีย์จึงไม่รังเกียจที่จะเหยียบย่ำเธอให้ตาย แน่นอนว่ามันจะช่วยปลุกความโกรธของลูคัสขึ้นมาได้ “จะอธิบายยังไงดีน่ะเหรอ“ในเมื่อนายกล้าถาม ฉันก็จะบอกเอาไว้ให้“ตอนนี้ราคาขึ้นเป็น สี่พันเจ็ดร้อยล้านดอลลาร์แล้ว!“คุกเข่าและอ้อนวอนคุณแชมเบอร์สสามครั้ง!“จัดการนิ้วทั้งสามของนายด้วยตัวเอง!“นายทำทั้งหมดนั้นได้หรือเปล่าล่ะ?”เอลีซามีสีหน้าเฉยเมย “ถ้านายทำไม่ได้ งั้นเรามาใช้เวลาคุยกันเรื่องนี้สักหน่อยดีกว่า”“เราจะได้ข้อสรุปที่น่าพอใจอย่างแน่นอน”ขณะที่เอลิซาพูด เธอก็ดีดนิ้วเป็นสัญญาณ ผู้ชายหลายคนที่เดิมยืนเฝ้าอยู่ข้างหลังเธอก้าวไปข้างหน้าทันที สายตาของพวกเขาเฉียบคมและเปล่งออร่าที่น่าเกรงขามออกมาพวกเขาดูราวกับว่าจะสามารถปราบปรามฮาร์วีย์ได้ด้วยการลงมือและจ้องมองเพียงครั้งเดียวฮาร์วีย์มองพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่ไม่แยแส “ผู
ฮาร์วีย์ยิ้มและกระดิกนิ้วเรียกเฟร็ดเฟร็ดมองอย่างเหยียดหยาม เขาเข้าหาฮาร์วีย์อีกครั้งและตวาดเหว “ทำไม? แกยังอยากที่จะยั่วโมโหฉันและให้ฉันเป็นคนเข้าไปหานั้น?”“มา มา มา! ตีฉันเลย!“มาเลย มาตีฉันสิ!“ถ้าแกไม่กล้าตีฉัน แกมันก็เป็นแค่คนขี้ขลาด! ไอ้สารเลว…”เพี๊ยะ!ก่อนที่เฟร็ดจะพูดจบ ฮาร์วีย์ก็ตบเขาทันที“อ๊าก!” เฟร็ดกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกจากปากและจมูกของเขา เขาถูกส่งให้ลอยไปชนกำแพงก่อนจะล้มลงกับพื้น สภาพดูน่าสมเพชอย่างมากฝูงชนตกใจ ใบหน้าของดาราสาวเหล่านั้นซีดเผือดด้วยความกลัวและความเหลือเชื่อมือของแลรี่ซึ่งกำลังจะจุดซิการ์แข็งทื่อและสั่นอยู่กลางอากาศเล็กน้อยแม้แต่เอลีซา ฌองที่ตอนแรกสงบและผ่อนคลายก็ยังผงะไปเหมือนกันเธอไม่คิดมาก่อนว่าฮาร์วีย์จะกล้าตบเฟร็ดขึ้นมาจริง ๆแถมยังต่อหน้าต่อตาเธออีก?ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นในใจของเธอ เอลิซาผู้ซึ่งจองหองอยู่เสมอรู้สึกราวถูกกับบดขยี้อยู่ใต้เท้าของใครบางคน ไอ้บ้านนอก เวรตะไล… เขากล้าดียังไงถึงมาข้ามหน้าข้ามตาเธอและปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอเป็นหัวหลักหัวตอ?“ไอ้สาร…!”เอลีซาจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสายตาดุดัน ใบหน้าที่งดงามขอ
เมื่อได้เห็นผู้มาเยือนเอลิซาผงะไปครู่หนึ่งวินาทีถัดมา เธอฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งเธอเคยได้ยินจากแลรี่และคนอื่น ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นผู้สนับสนุนฮาร์วีย์ แม้ว่าเธอจะประหลาดใจ แต่เธอก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากกว่าเธอจ้องมองใบหน้าที่สวยงามและอ่อนเยาว์ของโยนาอย่างอิจฉา และพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าใครกันแน่ที่ทำตัวเสแสร้งแบบนั้น?”“ปรากฎว่าเป็นคุณโยนา ลินช์ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสาวสังคมอันดับหนึ่งในแวดวงสังคมชั้นสูงของมอร์ดูนี่เอง!”“คุณอาจเป็นคนดัง คุณลินช์ แต่พูดตรง ๆ คุณก็เป็นแค่เลขามือฉมังของเบนจามิน ลินช์เท่านั้น”“ตรวจดูเอกสาร จัดแผนการเดินทาง แม้กระทั่งเสิร์ฟชาและล้างห้องน้ำ… สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความสามารถพิเศษของคุณ”“พวกงานอย่างเช่นการผดุงความยุติธรรมของกฎหมาย การจับกุมและสอบสวนผู้ต้องสงสัยนั้นไม่อยู่ในภาระหน้าที่ของคุณอย่างแน่นอน!”“คุณเป็นแค่เลขา คุณไม่ได้มีอำนาจเหนือฉัน!”“แต่เห็นแก่เบนจามิน ในวันนี้ฉันจะไม่ถือว่าคุณขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่”“ทีนี้ก็ ได้โปรด ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”แม้ว่าเอลีซาจะรู้ว่าสถานะของโยนานั้นสูงส่ง…แต่เอลีซาก