“คุณไม่ต้องใช้เวลาถึงสามวันด้วยซ้ำอย่างนั้นเหรอ?”พนักงานขายสาวสวยแกว่งขาไปมาในขณะที่ยิ้มจาง ๆ ให้ฮาร์วีย์“คุณบอกว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหาด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวเหมือนครั้งที่แล้วเหรอ?”ฮาร์วีย์แตะหน้าจอโทรศัพท์ของเขาแล้วตอบว่า “ใช่แล้ว ผมต้องการแค่นั้น”พรวด!ทุกคนหัวเราะเบา ๆ หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นในขณะที่จ้องฮาร์วีย์ด้วยความดูถูกทุกคนรู้ข่าวจากวงในแล้วว่าฮาร์วีย์ขอลายเซ็นจากเฮลีย์ได้เพียงเพราะสตีเวน แผนคือการให้ความเคารพเฮเซลด้วยการมอบงานให้ฮาร์วีย์แต่แล้วตัวตลกนี้ก็คิดว่าทั้งหมดเป็นเพราะการกระทำของเขาเองอย่างนั้นเหรอ?ตลก!ในขณะนี้ทุกสายตาที่จ้องมองฮาร์วีย์เต็มไปด้วยความดูถูกพนักงานหญิงทุกคนต่างพากันดูถูกฮาร์วีย์‘เขาเป็นแค่คนจน! เขาคิดว่าตัวเองมีอำนาจในมอร์ดูมากขนาดนั้นในเลยเหรอ?’‘ถ้าไม่ใช่เพราะเฮเซล เขาจะทำอะไรได้สำเร็จบ้าง?’‘ขยะโสโครกไร้ประโยชน์อย่างเขาคิดว่าตัวเองใหญ่โตจริง ๆ!’เฮเซลมองฮาร์วีย์ราวกับว่าเขาทำลายความคาดหวังของเธอโดยสิ้นเชิง“พอได้แล้วฮาร์วีย์! เลิกเล่นได้แล้ว!“เราทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครั้งที่แล้ว!“ทำไมคุณยังจะเสแสร้งอีก
ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังรีบไปที่ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล แลรี่ก็พาเฟร็ดไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่ถูกตบหน้าหลังจากที่ใส่ร้ายซินเธียร์และนั่งลงที่ทางเข้าห้องสวีทของโรงพยาบาลด้วยความไร้ยางอายการปราบปรามของฮาร์วีย์ทำให้เฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอเกือบจะล้มละลายแต่หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู เอเลียส พาเทล แลรี่ก็มีกำลังใจฮึกเหิม!แลรี่ไม่แม้แต่จะสืบประวัติของฮาร์วีย์ก่อนด้วยซ้ำ และนำคนของเขามาเพื่ออวดความแข็งแกร่งของเขาเฟร็ดไม่ได้มีความยิ่งใหญ่แต่อย่างใด แต่ไม่เพียงแต่เขาจะเตะรถเข็นผู้ป่วยเมื่อเขาไปถึงโรงพยาบาลเท่านั้น แต่เขายังไล่ผู้ป่วยออกไปอีกด้วย!เมื่อพวกเขาไปถึงห้องของซินเธียร์ พวกเขายังสั่งให้ฮาร์วีย์มาขอโทษอีกโรงพยาบาลอยู่ในความโกลาหลที่สุด ผู้ป่วยต่างหลบซ่อนตัว ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พวกเขาโอลด์ ไนเนอร์ จอร์จและไทสัน อยู่ในห้องของซินเธียร์โอลด์ ไนเนอร์พร้อมที่จะให้คนของเขาจัดการกับแงรี่และผู้ติดตาม แต่เขายับยั้งตัวเองหลังจากที่ตระหนักว่าพวกเขาเป็นคนมอร์ดูไม่ใช่บัควูด เขาเอนตัวไปหาไทสันและกระซิบว่า “ไทสัน คุณยอร์กขอให้เราเฝ้าซินเธียร์ แล้วดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น
การกระทำของฮาร์วีย์ทำให้เฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอตกอยู่ในความโกลาหลและในฐานะหนึ่งในบุคคลที่ทำให้เกิดเรื่อง เฟร็ดจึงถูกบริษัทสอบสวนและทำให้เขาเกิดความเครียดอย่างมากวันนั้นเขาตามแลรี่ไปกระทืบใครบางคน นั่นคือเหตุผลที่เขาจึงเปล่งอำนาจการที่เฟร็ดสาดน้ำใส่หน้าจอร์จเป็นเพียงการทักทายเท่านั้นยังมีอีกมากที่จะตามมาหลังจากนั้นดาราหญิงสองสามคนที่ตามมาล้วนแสดงสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามฮาร์วีย์ดูถูกแลรี่และเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอ นี่ไม่ใช่สิ่งที่การโดนน้ำไม่กี่แก้วราดหน้าจะแก้ปัญหาได้แลรี่มองสถานการณ์อย่างเมินเฉยในขณะที่นั่งไขว่ห้างและสูบซิการ์ของเขาในสายตาของเขา เขาควรจะแสดงอำนาจเหนือฮาร์วีย์เผื่อว่าผู้คนจะคิดว่าเขาถูกรังแกได้ง่ายทว่า จอร์จไม่โกรธ เขาเช็ดน้ำออกจากหน้าและพูดอย่างใจเย็นว่า “ผู้อำนวยการมิลเลอร์ คุณทำเกินไปแล้ว! คุณไม่รู้หรือว่าเราจะมีโอกาสทำงานร่วมกันได้มากขึ้นถ้าเราเข้ากันได้?”“ใช่! คุณโวยวายที่นี่มาทั้งวันแล้ว! ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่จะไม่โกรธ แต่เขายังเอาน้ำมาให้คุณด้วย! ถ้าคุณจะไม่รับก็ไม่เป็นไร แต่คุณยังสาดมันใส่หน้าเขาอีก! คุณไม่คิดว่ามันแรงไปหน่อยเหรอ?”“จริง! ภ
“ต้องการอะไร?”ฮาร์วีย์ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ราวกับว่าเขากำลังมองแมวหรือสุนัขข้างถนน“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันขอเตือน“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่ออวดว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน!“แต่ฉันมาที่นี่เพื่อบอกถวงสิ่งที่เป็นของฉันคืน!“อย่างน้อยแกจะต้องจ่ายค่าเสียหายของเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอคืนเป็นสิบเท่า ไม่สิ ร้อยเท่า!“ถ้าแกกล้าปฏิเสธ ฉันจะหักขาของแกเดี๋ยวนี้และทำให้แกเป็นอาหารปลา!”เฟร็ดกำลังข่มขู่อย่างมากในตอนนั้นหลังจากที่รู้ว่าแลรี่ได้การสนับสนุนจากอีเลียส หนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู เฟร็ดก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญด้วยการสนับสนุนอันทรงพลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้เจอกับเจ้าชายแห่งมอร์ดูองค์อื่น แม้แต่เฟร็ดก็ยังสามารถทำตามที่ใจต้องการได้เฟร็ดเป็นตัวอย่างที่ดีของชายผู้ต่ำต้อยที่ถูกอำนาจครอบงำดาราหญิงสองสามด้านหลังเฟร็ดกำลังมองฮาร์วีย์ด้วยความสนุกสนานในสายตาของพวกเธอ พวกเธอคิดว่าคนที่กล้าท้าทายแลรี่และทำให้เฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอตกอยู่ในความโกลาหลจะต้องเป็นทายาทผู้มั่งคั่งหรือคนดังที่มีชื่อเสียงมากพวกเธอไม่คิดว่าเด็กหน้าตาธรรมดาคนนี้จะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดถ้าเจอได้เจอ
ฮาร์วีย์หยิบแก้วใบหนึ่งที่จอร์จถือมาให้ จากนั้นก็จิบเล็กน้อยเพื่อความชุ่มคอ หลังจากที่เช็ดฝ่ามือด้วยกระดาษทิชชู่แล้ว เขาก็หรี่ตามองแลรี่“คุณแชมเบอร์ส คุณไม่ทำให้ผิดหวังเลย“ผมคิดว่าคุณจะมาคุกเข่าต่อหน้าผมซะอีก“ไม่คิดเลยว่าคุณจะยังนั่งอยู่นิ่ง ๆ ได้“ดูเหมือนว่าผมคงจะยังทำไม่มากพอ!”ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์ออกมาและส่งข้อความสองสามข้อความระหว่างที่เขากำลังพูดสักพักโทรศัพท์ของแลรี่ก็ดังขึ้นขณะที่ดวงตาของเขากระตุกอย่างรุนแรง ในตอนนั้นข่าวร้ายได้ถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของเขาสีหน้าออกของแลรี่นั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะยังคงไม่ให้เกียรติแม้ในตอนนี้“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ในสายตาของผม คุณเป็นเพียงชายหนุ่มที่ไม่รู้จักความกลัวเพราะความไร้ประสบการณ์ของคุณ คุณไม่รู้ขีดจำกัดของคุณเลย!”หลังจากที่หายใจเข้าลึก ๆ แลรี่ก็ห้ามเฟร็ดและคนอื่น ๆ ที่กำลังจะบ้า จากนั้นเขาก็มองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมในสายตาของแลรี่ ฮาร์วีย์จะต้องจบสิ้นแน่นอนเมื่อเขาเผยไพ่เด็ดของเขาถึงตอนนั้น แลรี่จะทำให้ฮาร์วีย์คุกเข่าและตบหน้าเขาสักสิบครั้งหรือมากกว่านั้น“คุณแชมเบอร์ส คุณไม่คิดว่ามันเด็กเกินไปหน่อย
“พาเทล?”หลังจากที่เห็นตรานั้นแล้ว ฮาร์วีย์ก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ราชวงศ์พาเทลจากดินแดนโกลเดน แซนที่ไม่มีอยู่แล้วงั้นเหรอ?”“ฉลาดมาก!”แลรี่ชูนิ้วโป้งไปทางฮาร์วีย์“ตรานี้เป็นของเจ้าชายแห่งตระกูลพาเทลในมอร์ดู เจ้าชายอีเลียส พาเทล!“เขาเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูด้วย!“เขาบอกให้ผมนำตรามาที่นี่และบอกกับคุณสามอย่าง!“หนึ่ง หยุดการปราบปรามเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอของคุณซะ!“สอง ชดใช้ค่าเสียหายสองเท่า!“และสาม คุกเข่าและขอโทษผม!“เขาจะปล่อยทุกอย่างผ่านไปหากคุณทำตามสามข้อนี้ได้ ไม่อย่างนั้น คุณและคนที่ติดตามคุณจะมีชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!”แลรี่แสดงสีหน้าเย็นชาอย่างมากหลังจากที่เขาพูดจบจะมีสักกี่คนที่มีหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์คอยสนับสนุน?เฟร็ดกุมหน้าตัวเองและพูดว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ในเมื่อแกรู้จักตระกูลพาเทล แกก็คงจะรู้ว่าเจ้าชายพาเทลเป็นคนแบบไหน!“ถามคนข้างหลังแกสิ!“ดูสิว่าพวกเขาจะคิดว่าแกสามารถท้าทายเจ้าชายพาเทลได้หรือไม่!“ไม่มีใครสามารถปกป้องแกจากเรื่องนี้ได้!“ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะยอมแพ้นะ!“ถ้าแกช้าไปแม้แต่นิดเดียว แกจะไม่มีโอกาสยอมแพ้แล้วนะ!”
แลรี่หรี่ตาแล้วอธิบายว่า “จริง ๆ ผมก็ต้องการมากกว่านี้นะ แต่ผมรู้สึกว่าผมควรจะใจกว้างสักหน่อย“ท้ายที่สุดผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณมีเงินมากขนาดนั้นหรือเปล่า“นอกจากนี้คุณยังทำให้เซธขุ่นเคืองด้วย! เขาจะต้องไปหาคุณแน่นอน!“อ๋อ ผมลืมบอกไปเลย คนที่สนับสนุนเซธไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายน้อยเฟจ!“เขาเป็นสมาชิกของตระกูลลินช์ หนึ่งในสิบตระกูลอันดับต้น ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่!”แลรี่โน้มตัวเข้าไปใกล้ฮาร์วีย์ จากนั้นก็พูดเบา ๆ ว่า “ไหนบอกผมสิ คุณจะจบเห่หรือไม่?!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“ทิโมธี เฟจเหรอ?”แลรี่นั่งไขว่ห้างและจุดซิการ์ของเขาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ถามอย่างใจเย็นว่า “ทำไม? กลัวเหรอ?“เบนจามินเป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพและสง่างามเมื่อทำธุรกิจ คุณสามารถบอกได้จากนิสัยใจคอของเขา“แต่ทิโมธีเป็นเครื่องบดเนื้อเมื่อเทียบกับเจ้าชายและนายน้อยคนอื่น ๆ คุณคิดว่าคุณจะหยุดความก้าวร้าวของเขาได้จริง ๆ เหรอ?”เฟร็ดและเหล่าดาราหัวเราะด้วยความเย็นชา‘เสแสร้งต่อสิ!’‘คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหน?!’‘พลังที่แกคิดว่าแกมีจะทำให้แกดูเหมือนคนโง่เขลา!’‘เราจะได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาเป็นสิบเท่าหลังจากที่เสียมันไปเพราะแก!’
เซธตัวสั่นจนถึงรองเท้าบู๊ตของเขา เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ผมลืมบอกคุณ“ทิโมธีไม่สามารถหนุนหลังเขาได้แล้ว!“ผมหักแขนขาของเขาเอง“คุณคิดว่าเขาจะยังสามารถช่วยเซธได้จริง ๆ เหรอ?”ข่าวนั้นทำให้คนทั้งวงช็อก!‘อะไรนะ?!’‘เขาหักแขนขาของทิโมธีอย่างนั้นเหรอ?!’‘เป็นไปได้อย่างไร?!’เฟร็ดและคนอื่น ๆ แทบจะอ้าปากค้างจนค้างหลุดจากโครงหน้า! พวกเขามองฮาร์วีย์อย่างเหลือเชื่อพวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ฮาร์วีย์พูด แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นดวงตาของแลรี่กระตุกไม่หยุด“แม้แต่ทิโมธีก็ไม่สามารถหนุนหลังเขาได้ คุณคิดว่าอีเลียส พาเทลจะช่วยอะไรคุณได้จริง ๆ เหรอ?”เคล้ง!ฮาร์วีย์หยิบตราวงตระกูลพาเทลขึ้นมาและหักมันสีหน้าของเฟร็ดและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปอย่างลนลาน จากนั้นพวกเขาก็มองฮาร์วีย์ในขณะที่ยังคงไม่เชื่อคำพูดของเขา พวกเขาต่างปิดปากตนเองและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กรีดร้องสีหน้าของแลรี่เปลี่ยนไปในทันที“ไอ้สารเลว!“กล้าดียังไงถึงได้ทำลายตราของเจ้าชายพาเทล?!”ฮาร์วีย์ปรบมือด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง จากนั้นก็พูดว่า “ไทสัน มีคนต้องสงสัยว่าแบล็กเมล์ฉันเพื่อเงินรวม 3.2 พันล้า