“คุณล้ำเส้นฉันมากเกินไปแล้ว!”การแสดงออกของอีวอนน์ ซาเวียร์นั้นมืดมนราวกับกลางคืน และใบหน้าของเธอก็ดูน่ากลัว“ฉันล้ำเส้น?”เฟล็ทเชอร์ อีแวนส์ยิ้ม“โถ อีวอนน์ เธอคิดว่าเธอยังคงเป็นคุณหนูซาเวียร์ที่สูงส่งและยิ่งใหญ่อยู่อีกหรือ?”“ฉันจะบอกเธอให้ ตระกูลสมิธจบแล้ว! สถานการณ์ของพวกเขามีแต่จะเลวร้ายลงทุกที!”“แม่ของเธอเองก็อยู่ยังอยู่หลังลูกกรงนั่นต่อไป!”“เธอคิดจริง ๆ หรือว่าตระกูลสมิธจะปล่อยเธอไป ต่อให้ฉันบังคับตัวเองให้ปล่อยเธอไปก็เถอะ!”“หยุดคิดเพ้อเจ้อสักที!”“รับใช้ฉันอย่างเชื่อฟัง แล้วฉันจะได้พูดถึงเธอต่อเจ้าชายได้แง่ดีหน่อย เข้าใจไหม?”เฟลทเชอร์เปล่งออร่าที่แข็งแกร่งและความมั่นใจออกมามาราวกับว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงอีวอนน์ขมวดคิ้ว จากนั้นตอบอย่างใจเย็นว่า “เทอร์รี่ ตระกูลสมิธขอให้คุณจัดการกับฉันเหรอ?”“มีไม่มีก็ไม่เห็นต้องสน”หน้าตาขี้เล่นฉายอยู่บนใบหน้าของ เฟลทเชอร์“สิ่งที่เธอต้องรู้ก็คือเธอกำลังตกที่นั่งลำบาก และฉันก็เป็นคนเดียวที่จะช่วยเธอได้!”“อ้อ ฉันลืมบอกเธอไป สมาชิกตระกูลสมิธหลายคนที่อยู่ข้างเธอถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม”“เธอเป็นคนใจร้ายอีวอนน์ เธอนี่เหม
เฟลทเชอร์ อีแวนส์ยิ้มในขณะที่ดันเมลานี ซาเวียร์ออกไป จากนั้นก็สัมผัสใบหน้าของเขาและมองไปที่ อีวอนน์ ซาเวียร์“อีวอนน์ เธอกล้าตบฉันเหรอ?”“เธอเคยคิดถึงผลที่ตามมาบ้างไหม?”อีวอนน์ตอบอย่างเย็นชาว่า “ฉันตีคุณแล้วจะทำไมล่ะ? คุณเป็นแค่คนรับใช้ ถึงฉันจะทุบตีคุณจนตายก็ไม่มีใครคิดจะช่วยคุณหรอก!”“ฮ่าฮ่าฮ่า! เธอคิดจะทุบตีฉันให้ตายเลยหรือ?”"ต้องยอมรับเลย เธอนี่ฝันกลางวันเก่งจริง ๆ เก่งแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว“ฉันน่ะชอบฝึกม้าป่าให้เชื่องที่สุด”!“เพราะการบังคับคนอื่นถือให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกนี้!”จากนั้นเฟลทเชอร์ก็เอื้อมมือไปบีบใบหน้าของอีวอนน์ในขณะที่กำลังพูด“ถ้าเธอถอยออกไป ฉันจะยัดกระสุนใส่ตาแก่คนนั้น!”ในขณะนี้ เฟลทเชอร์ดุร้ายราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกใบนี้ เข้าควบคุมทุกสิ่งและทำทุกอย่างตามที่เขาพอใจแม้ว่าเจ้านายและเจ้าชายที่มีชื่อเสียงจากมอร์ดูจะปรากฏตัวต่อหน้าเขา พวกเขาก็ดูด้อยกว่าเฟรทเชอร์“ถ้าคุณแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว ผมจะลบตระกูลคุณออกจากสารบบของโลกนี้!”ทันใดนั้นเอง น้ำเสียงเย็นชาก็ดังก้องมาจากด้านหลังร่างกายที่แข็งทื่อของอีวอนน์ผ่อนคลายลง เธอรู้ว่าใครมาที่นี่“แ
อีวอนน์ ซาเวียร์ยืนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสบายใจหลังจากเห็นภาพนั้น‘ซีอีโอยอร์กยังเป็นอย่างที่คิด ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน เขาก็ยังสามารถรับมือกับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ’'เมื่อมีเขาอยู่ใกล้ ๆ แม้แต่ทวยเทพก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้'“คุณไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอ?”ฮาร์วีย์ ยอร์กหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดมืออย่างใจเย็นเขากำลังเดินไปข้างหน้าในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ“หรือคุณไม่เข้าใจที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้?”"แก…"เฟลทเชอร์ อีแวนส์ยังคงกระตุกในขณะที่ถือปืนอยู่ในมือ มีคนมองว่าเขาโหดเหี้ยม แต่เขารู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรเทียบได้กับชายตรงหน้าได้เลยด้วยซ้ำ“เจ้าหนู แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”“ฉันเป็นพ่อบ้านของตระกูลสมิธ ซึ่งเป็นตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศ H เฟล็ทเชอร์ อีแวนส์!”“ถ้าแกทำอะไรกับฉัน แกจะทำให้ตระกูลสมิธขุ่นเคืองด้วย! นั่นหมายความว่าแกกำลังทำให้เจ้าชายสมิธ ขุ่นเคือง! แกจะรับผลที่ตามมาได้เหรอ?!”“ฉันจะบอกนายเอาไว้เลย แม้แต่อีวอนน์ก็ยังกลัวฉัน!”“หากแกไม่มีภูมิหลังหรือความแข็งแกร่งอะไร ก็อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนแบบนี้จะดีกว่า!”“ใน
ฝูงชนตกใจ ผู้ชายบางคนที่สวมสูทอยากจะลุกขึ้น แต่ตอนนั้นพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจในทางกลับกัน อีวอนน์ ซาเวียร์สงบและนิ่งเงียบ เธอรู้ดีว่าคนทรยศจะไม่มีวันรอดพ้นเงื้อมมือของฮาร์วีย์ ยอร์กไปได้ฮันเดลแสดงความชื่นชม เขารู้ว่าชายคนนี้เป็นไพ่ตายที่ใหญ่ที่สุดของอีวอนน์และคอยสนับสนุนเธออยู่ข้างหลัง“แก… ฆ่าคนของฉัน… ต่อหน้าฉันเลยเหรอ?”เฟลทเชอร์ อีแวนส์รู้สึกหมดหวังเมื่อเห็นเมลานี ซาเวียร์เสียชีวิตต่อหน้าเขา เขาเหนี่ยวไกปืนในชั่วพริบตาปัง!ฮาร์วีย์เอียงศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับเสียงลั่นไกและหลบกระสุนอีกนัดอีกครั้งดวงตาของเฟลทเชอร์กระตุกอย่างบ้าคลั่งหลังจากเห็นภาพนั้น เขาต้องการที่จะลั่นไกอีกนัด แต่เขาช้าเกินไปปัง!ฮาร์วีย์คว้าปืนจากมือเขา แล้วเหนี่ยวไกด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกระสุนเจาะทะลุฝ่ามือของเฟลทเชอร์ไป นั่นทำให้เขาต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่เฟลทเชอร์จะทันได้พูดฮาร์วีย์ก็ได้เหนี่ยวไกปืนอีกครั้งปัง!มืออีกข้างของเฟลทเชอร์ก็หมดสภาพเช่นกันมีเลือดหยดไปทั่วหลังจากเห็นภาพนี้แล้ว ฝูงชนต่างก็หนาวสั่นไปถึงกระดูกหลังจากขว้างปืนใส่หน้าเฟลทเชอร์อย่างไม่ตั้งใจแล้ว ฮาร์วีย์
“แล้วการที่คุณป้าถูกขังคุกไปเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”ฮาร์วีย์ ยอร์กขมวดคิ้วอีวอนน์ ซาเวียร์ถอนหายใจ“หลังจากที่ฉันได้รับข่าวว่าแม่ของฉันถูกจับเข้าคุก ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งหน้ากลับมายังมอร์ดูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”“แต่พอฉันเข้าไปในบ้านของตระกูลสมิธ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะจับฉันเป็นตัวประกันก่อนที่ฉันจะมีโอกาสได้ไหวตัวทันด้วยซ้ำ”“คนที่ทำสิ่งนี้คือเทอร์รี่ สมิธและผู้คุ้มกันส่วนตัวของเขา”“เขาบอกว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ แต่ฉันก็ต้องถูกกักตัวไว้ก่อน เพราะฉันอาจขัดขวางการสืบสวนได้!”“นอกจากนี้ ถ้าแม่ของฉันสังหารสมาชิกในตระกูลสมิธจริง ๆ ฉันจะต้องแต่งงานกับหนึ่งในสี่นายน้อยแห่งโวลซิ่ง เฮกเตอร์ ทอมป์สันเพื่อประกันตัวแม่ออกมา“แน่นอนว่า เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเป็นบ้าไปเสียก่อน ลูกพี่ลูกน้องของฉันจึงยังให้อิสระกับฉันอยู่บ้าง”แม้จะมีท่าทีเย็นชาของอีวอนน์ แต่เธอก็ขำกับตัวเองในคำอธิบายของเธอฮาร์วีย์ตอบอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนลูกพี่ลูกน้องของคุณซึ่งเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูจะไม่ยิ่งใหญ่อย่างที่ตำนานกล่าวไว้!”“เขายังต้อ
อีวอนน์ ซาเวียร์ถอนหายใจ เธอคิดเรื่องนี้โดยพิจารณาจากสติปัญญาของเธอแล้ว เธอก็ตอบอย่างใจเย็นว่า “ฉันไม่เคยอยากได้อะไรจากตระกูลสมิธ แม้แต่แม่ของฉันก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้”“ถึงจะเป็นอย่างนั้น บางครั้งคุณก็ยังตกที่นั่งลำลากไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม”ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม“ดูเหมือนจาเดน สมิธ คุณตาของคุณ คนที่รวยที่สุดในกังนัมจะคอยดูแลคุณและแม่ของคุณอยู่นะ”“หากไม่เป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าชายสมิธถึงต้องยอมเปลืองแรงทำสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความสนใจของเขาด้วยล่ะ?”อีวอนน์พยักหน้า“คุณตาของฉันปฏิบัติต่อฉันอย่างดี เขามักจะพูดติดตลกเเรื่องที่ฉันจะเข้ายึดครองตระกูลนี้ด้วยล่ะ”“ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้หรอก นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมุ่งหน้าไปที่เซาท์ไลน์“อีกอย่าง เมื่อเทียบกับความมั่งคั่งและเกียรติยศแล้ว ฉันอยากอยู่เคียงข้างคุณมากกว่า”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างเขินอาย เขาต้องไม่กดดันกับประโยคดังกล่าวเขาไม่รู้ว่าอีวอนน์ตั้งใจพูดออกมาเช่นนั้นรึเปล่า เธอเปลี่ยนเรื่องทันทีและพูดต่อ“หลังจากได้รับข้อความของคุณเมื่อวานนี้ ฉันก็รู้ว่าถ้าฉันไม่มาปรากฏตัวคุณก็จะเป็นฝ่ายปรากฏตัวมาเอง“สถานการณ์ของตระกูลกำลังตกอยู่ในควา
หลังจากจัดการกับปัญหาของอีวอนน์ ซาเวียร์แล้ว ฮาร์วีย์ ยอร์กก็เดินออกจากโรงแรมปรากก็เป็นเวลากลางคืนแล้วเมื่อคนของเบลลามี เบลคถูกส่งมาที่นี่เพื่อปกป้องอีวอนน์แล้ว ฮาร์วีย์จึงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยพวกเขาต้องรอให้ตระกูลสมิธดำเนินการ แล้วจึงค่อยหาโอกาสแก้ไขปัญหาทันทีฮาร์วีย์พร้อมที่จะจัดการกับสถานการณ์ของหลงเหมินสาขามอร์ดูอย่างสมบูรณ์ภายในสามวันข้างหน้าในตอนที่ฮาร์วีย์กำลังคิดว่าจะไปพบคนที่เบลลามี่ส่งมา จู่ ๆ ก็มีใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก เดินเข้ามาหาบุคคลนั้นสวมชุดชาแนลสีดำ แต่ไม่แต่งหน้าเลย รูปลักษณ์ของเธอดูมีเสน่ห์เหลือล้นดวงตาของฮาร์วีย์สว่างขึ้นทันที ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไคท์ วอล์คเกอร์นั่นเองไคท์ดูหงุดหงิดอย่างมากเมื่อเธอเดินมาที่นี่ ดวงตาของเธอสว่างวาบขึ้นทันทีที่เห็นฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ นั่นคุณเหรอ?!”“มาตามหาผมเหรอ? นี่คุณรีบร้อนที่จะมาหาผมขนาดนี้เชียวเหรอ?” ฮาร์วีย์พูดจาเล่นลิ้น“เราไม่ได้เจอกันแค่สองสามวัน คุณรีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณมาที่นี่เพื่อทำหน้าที่ในฐานะแฟนของผมหรือเปล่า?”“งั้นเราไปกินข้าวกันไหม? หรือเราจะไปดูหนังกัน?”“หรืออยากให้ผมไปที่บ้านคุณ
แกรี่ ดันเคนตอบด้วยความเย็นชา “ผมไม่รู้จักผู้บัญชาการคนไหนชื่อเบลคเลย“ผมรู้แค่ว่ามีคนให้เงินผมสิบห้าล้านดอลลาร์เพื่อให้ผมปกป้องคนในมอร์ดู“ใช่คุณรึเปล่า?”หลังจากที่เงียบไปนาน อีวอนน์ ซาเวียร์ก็ตอบว่า “ใช่ ฉันเอง”“ถ้าอย่างนั้นเข้ามาให้ผมดูหน้าหน่อย ผมขอเตือนไว้ก่อนนะ ผมจะไม่ปกป้องคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้า“ผม แกรี่ ดันเคน จะปกป้องเฉพาะคนที่ผมนับถือเท่านั้น”แกรี่วางสายหลังจากที่พูดจบหญิงสาวในบริเวณใกล้เคียงต่างได้ยินบทสนทนาของแกรี่ ด้วยรูปร่างและหน้าตาของเขา ผู้หญิงทุกคนถึงกับประหลาดใจเขาเป็นคนที่เจ้ากี้เจ้าการอย่างมาก!เขาไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านั้น แต่เขายังมีกดขี่คนอื่นอีกด้วย! คนธรรมดาไม่สามารถแม้แต่จะเปรียบเทียบตัวเองกับเขาได้!ผู้หญิงที่สง่างามอายุราว ๆ ยี่สิบหกปีเดินเข้ามาหาแกรี่ แม้ว่าเธอจะสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่าย แต่ทั้งหมดกลับเข้ากันได้อย่างลงตัวแกรี่ไม่สามารถซ่อนความชื่นชมจากสายตาของเขาได้“รุ่นพี่ พวกเราต้องปกป้องใครเหรอ? พวกเขากล้าหยิ่งและทำให้เราต้องนั่งรออยู่ที่นี่นานขนาดนี้เลยเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นชื่อฮานะ เธอเป็นรุ่นน้องของแกรี่แกรี่ตอบด้วยความใจเย