ขณะที่อีวอนน์ ซาเวียร์ยังคุยกับแกรี่ ดันเคนและฮานะ รถ Ferrari 488 สีแดงก็ได้แล่นเข้าสู่เขตหนึ่งในมอร์ดูที่เต็มไปด้วยวิลล่าที่หันหน้าเข้าหาทะเลย่านนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี อาคารต่าง ๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก แม้ว่าอาคารเหล่านี้จะค่อนข้างเก่า แต่ก็ได้รับการดูแลมาเป็นย่างดี เห็นได้ชัดว่าอาคารเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของผู้ที่ค่อนข้างจะชนชั้นสูงผู้คนอาจไม่กล้าแม้แต่จะขับรถเข้าไปในเขตนี้ด้วยซ้ำหากพวกเขาไม่มีรถที่หรูพอหลังจากนั้นไม่กี่นาที รถก็จอดที่หน้าวิลล่าหลังหนึ่ง จากนั้นฮาร์วีย์ ยอร์กและไคท์ วอลค์เกอร์ก็ลงมาจากรถไคท์พาฮาร์วีย์เดินเข้าไปในห้องโถงของวิลล่าการตกแต่งในห้องโถงนั้นวิจิตรงดงามพร้อมด้วยเตาผิงแบบดั้งเดิม ถ่านหินระดับไฮเอนด์กำลังลุกไหม้และปล่อยกลิ่นยางสนอันละเอียดอ่อนทั้งห้องโถงรู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ผลิ หญิงงามเจ็ดคนนั่งอยู่ในที่นั่งของตนผู้หญิงที่นั่งตรงกลางดูเหมือนจะอายุราว ๆ สามสิบ ผิวของเธอดูเรียบเนียน คิ้วของเธอบนเรือนร่างที่น่าหลงใหลเป๊ะราวกับว่ามาจากภาพวาด ภาพนั้นช่างมีเสน่ห์เหลือเกินเธอสวมเสื้อคลุมที่ทำขึ้นเฉพาะในกังนัมขณะที่นั่งไขว้ขาเรียวยาวและอุ้
รอยยิ้มบนใบหน้าของฮาร์วีย์ ยอร์กหายไป เธอมีข้อเสียของแม่เลี้ยงใจร้ายจริง ๆ ฮาร์วีย์อยากจะตบหน้าเธอในตอนนั้นเลยด้วยซ้ำแต่ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร ไคท์ วอลค์เกอร์ก็อธิบายอย่างเย็นชาว่า “ฉันขอแนะนำตัวเขานะคะ“นี่ฮาร์วีย์ แฟนฉัน!“ฉันมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าฉันมีแฟนแล้ว!“เรื่องของลูคัส ฌองและฉันจึงเป็นไปไม่ได้!“คุณยอมแพ้เถอะ!”ฮาร์วีย์มองไคท์ด้วยความสับสน เขาไม่คิดว่าเขาจะต้องพบกับความประหลาดใจหลังจากที่ตัดสินใจว่าจะตามไคท์ที่นี่‘ลูคัสต้องการแต่งงานกับเธอเหรอ?‘น่าสนใจ’“พอได้แล้ว อย่าเสียเวลาลองดีกับฉันหน่อยเลย“ถ้าเธอจะจ้างผู้ชายให้มาแกล้งเป็นแฟนเธอแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะหาคนที่ร่ำรวยกว่านี้“แต่กลับพาคนน่าสมเพชแบบนี้มา คิดว่าฉันตาบอดเหรอ?”แองเจลิน่าพูดตัดไคท์ด้วยความหงุดหงิด“ฉันไม่สนว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นแฟนเธอจริง ๆ หรือไม่!“ยังไงเธอก็จะต้องแต่งงานกับเจ้าขายฌอง!“เขาไปที่โวลซิงตั้งหลายวันเพียงเพื่อจัดการธุระให้พ่อเธอ!“เขาอาจจะกลับมาได้ทุกเมื่อ!“ฉันไม่สนว่าเธอกำลังทำเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อของเธอ หรือทั้งตระกูลวอลค์เกอร์!“กลับเตรียมตัวเดี๋ยวนี้! เมื่อไหร่ที่เจ้าช
คำสบประมาทดังก้องไปทั่วผู้หญิงที่น่าหลงใหลอีกหกคนกำลังหมุนแก้วไวน์ของพวกเธอในขณะที่พวกเธอกดดันฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างสนุกสนาน“อย่างนั้นเหรอ? ตระกูลวอลค์เกอร์แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?“แต่ผมเพิ่งจะตบหน้าจัสตินไปเมื่อวานนี้เอง…“อยากรู้จังว่าสมาชิกครอบครัวจะจัดการกับผมยังไงน้า?” ฮาร์วีย์พูดด้วยความใจเย็นรอยยิ้มบนใบหน้าของแองเจลีน่า จอห์นและคนอื่น ๆ ชะงัก‘เขาตบหน้าจัสตินเหรอ?’ประโยคนั้นเรียบง่ายและกระชับ แต่กลับทำให้แองเจลิน่าและคนอื่น ๆ ตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่ไคท์ วอลค์เกอร์ก็ยังมองฮาร์วีย์ด้วยความงุนงงแล้วจัสติน วอล์กเกอร์คือใคร?เขาเป็นผู้เฒ่าแห่งตระกูลวอล์คเกอร์และหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดู สถานะของเขาสูงส่งและอำนาจของเขาไม่มีที่สิ้นสุด เขาเป็นคนใหญ่โตเลยทีเดียว!แต่ฮาร์วีย์ที่ตบหน้าเขากลับยืนอยู่ตรงนี้โดยไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียว?ช่างเป็นเรื่องตลก!ไม่ใช่แค่จัสติน แม้แต่พี่น้องสิบคนของหลงเหมินที่ติดตามเขามานานหลายปีก็มีความกล้าหาญในการต่อสู้ที่คนธรรมดาไม่สามารถเทียบได้เขาสามารถพล่ามอะไรแบบนี้เพียงเพราะต้องการอวดได้จริง ๆ เหรอ?ตลกสิ้นดี!แองเจลิน่ากลับมา
ไคท์ วอลค์เกอร์ตัวคนเดียวตั้งแต่ที่แม่ของเธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในยุโรปตอนเหนือในฐานะผู้ป่วยติดเตียงที่นอนเป็นผัก และหลังจากที่พ่อของเธอแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นสำหรับคนนอกแล้วไคท์ถูกมองว่าเป็นคนดุร้ายและเย็นชา และเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงของมอร์ดูเพียงแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอทั้งอ่อนแอและบอบบางเมื่อยามค่ำคืนที่เงียบเหงาและอ้างว้าง เธอมักจะหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีใครสักคนเข้ามาคอยปกป้องเธอจากอันตรายจนไคท์คิดว่าคนแบบนั้นไม่มีอยู่จริงเธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะลุกขึ้นมาปกป้องเธอแม้แต่คนที่เย็นชาและไร้ความรู้สึกอย่างไคท์ก็รู้สึกอบอุ่นในขณะนี้“ไอ้สารเลว!”แองเจลีน่า จอห์นยืนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว แมวในอ้อมแขนของเธอกระโดดลงพร้อมกับส่งเสียงร้องเหมียวอย่างดัง“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ดูเหมือนว่าแกจะไม่รู้ซะแล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร!“แกคิดจริง ๆ เหรอว่าตอนนี้แกใหญ่โตมาก? เจ้าโง่!”สายตาของแองเจลิน่าเต็มไปด้วยความเย็นชา หลังจากที่จ้องฮาร์วีย์แล้ว เธอก็ละสายตาไปที่ไคท์“ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย“ตบหน้าไอ้นี่สักสองทีแล้วพามันไปพ้นหน้าฉันซะ!“ไม่อย่างนั้นฉันจะให้การ์ด
ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้ถ่อมตัวแต่ก็ไม่ได้รุกรานเช่นกัน เขากล่าวอย่างใจเย็นว่า “คุณน้า ผมจะคุยกับคุณดี ๆ เป็นครั้งสุดท้ายเพราะเห็นว่าคุณเป็นแม่เลี้ยงของไคท์นะ“ในเมื่อไคท์เป็นผู้หญิง แน่นอนว่าเธอจะต้องตามใจผม ถ้าผมไป เธอจะต้องไปด้วยอยู่แล้ว!”แองเจลีน่า จอห์นขมวดคิ้ว“นี่แกคิดจริง ๆ เหรอว่าแกเก่งมากเพียงเพราะแกสามารถอวดดีต่อหน้าฉันได้?“แกไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครองผู้หญิงที่ดีกว่าแกเป็นพันเท่าหรอก!”แองเจลีน่าหันไปมองหน้าไคท์ด้วยสีหน้าที่เย็นชา“ไคท์ ฉันให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย!“เธอจะต้องแต่งงานกับลูคัส ฌอง!“ไม่อย่างนั้นเธอก็รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร!”ไคท์กัดฟันและตอบว่า “ฉันบอกคุณแล้วนะแม่เลี้ยง! ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับใครนอกจากฮาร์วีย์!”“ในเมื่อเธอเรียกฉันอย่างนั้น นั่นหมายความว่าเธอยอมรับแล้วว่าฉันเป็นเมียหลวงของพ่อเธอ!”แองเจลีน่าเหี้ยมโหดโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้ไคท์“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ฉันจะตัดสินใจเองว่าเธอจะแต่งงานใคร!“ฉันจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย เลิกกับเจ้าชายในฝันของเธอซะ!“ถ้าไม่อย่างนั้นทุกคนจะดูไม่ดีหากลูกน้องของฉันลงมือ!”ฮาร์วีย์ตอบเธออย่างใจเย็นด้วยคำตอบท
ก่อนหน้านี้แองเจลีน่า จอห์นได้รับแจ้งว่าการเป็นอัมพาตที่ร่างกายท่อนล่างของเธอจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิตแต่ถ้าเป็นอย่างที่ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดและเธอจะต้องนอนเป็นผักเปื่อย เธอยอมตายดีกว่า!เมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ แองเจลิน่าก็รู้สึกหวาดกลัวแต่เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีประสบการณ์ ในไม่ช้าเธอก็ขมวดคิ้วขณะที่หันหน้าไปมองไคท์ วอล์คเกอร์“เธอบอกเรื่องนี้กับคนอื่นเหรอ?”แองเจลีน่าส่ายหัวทันทีที่เธอพูดจบ เธอรู้ว่าไคท์ก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เหมือนกันไคท์ชะงักก่อนที่จะส่ายหัว“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเป็นอัมพาตครึ่งตัว?”เมื่อคิดว่าแองเจลีน่าจะนอนเป็นผักเหมือนแม่ของเธอ แต่เป็นแบบที่ไม่โคม่า เธอก็อดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันแองเจลีน่าความตายยังจะดีซะกว่าต้องทนเรื่องนี้! มันคงจะเป็นภาพที่อนาถยิ่ง!สีหน้าของแองเจลิน่าดูมืดมน ในสายตาของเธอ ไม่มีทางที่ฮาร์วีย์จะสามารถพูดลอย ๆ และเดาทุกอย่างได้อย่างถูกต้อง คำอธิบายเพียงอย่างเดียวที่จะสมเหตุสมผลคือเขาได้ยินข้อมูลมามากมายเพียงเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับไคท์แองเจลิน่าชี้ไปที่ฮาร์วีย์และพูดอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าแกจะทำการบ้านมาดีนะ!”“การบ้านเหรอ?” ฮาร์วีย์ตอบด
สีหน้าของแองเจลีน่า จอห์นเยือกเย็นเมื่อเธอมองฮาร์วีย์ ยอร์กตั้งแต่หัวจรดเท้า“ตลก!“แกไม่ใช่หมอฝั่งตะวันออก และไม่ใช่หมอฝั่งตะวันตกด้วยซ้ำ! ดูจากสารรูปแกแล้วฉันพนันได้เลยว่าแกไม่มีความรู้ทางการแพทย์สักนิด!“แต่แกก็ยังกล้ามาพูดไร้สาระถึงที่นี่ราวกับว่าแกรู้ว่าแกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอ?“ฉันขอเตือนแกไว้นะ!“ถึงแม้ว่าสิ่งที่แกพูดจะเป็นความจริง ก็ยังมีหมอที่มีความสามารถมากมายในมอร์ดูที่สามารถรักษาอาการของฉันได้อย่างง่ายดาย แกไม่ต้องห่วงหรอก!”ฮาร์วีย์ตอบอย่างคลุมเครือว่า “เขาพูดกันตั้งแต่สมัยโบราณว่าการแพทย์และศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่ควบคู่กัน“แต่การแพทย์สมัยโบราณและศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับการแพทย์ปัจจุบัน“คุณบาดเจ็บเพราะศิลปะการต่อสู้แบบโบราณ แต่คุณกลับต้องการที่จะรักษามันด้วยการแพทย์ปัจจุบันอย่างนั้นเหรอ?“นี่คุณฝันอยู่รึเปล่า?“ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็รอดูแล้วกัน อีกไม่นานอากาศก็จะหนาวแล้ว คุณจะได้นอนติดเตียงเร็วกว่าที่คุณคาดไว้“เมื่อถึงเวลานั้น ไคท์และผมจะมาเยี่ยมคุณเอง!”ตาของแองเจลีน่ากระตุก แน่นอนว่าเธอจะต้องกลัวว่าอะไรจะเกิด
แองเจลิน่า จอห์นที่ถ่อมตัวโกรธจนหน้าแดงก่ำในอดีตเธอสามารถปล่อยให้อารมณ์ของเธอโลดโผนและทำร้ายใครก็ได้ตามที่เธอต้องการ เหยื่อของเธอไม่มีใครกล้าสู้กลับและได้เรียนรู้ว่าการปล่อยให้แองเจลิน่าได้ทำตามใจชอบของเธอจะเป็นการดีที่สุดเธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าในบรรดาคนอื่น ๆ กลับเป็นคนอย่างฮาร์วีย์จะกล้าดูหมิ่นและตบตีเธอในขณะนี้ ในที่สุดแองเจลิน่าก็ได้เข้าใจถึงความหมายของความโกรธที่สูงตระหง่านหัวใจของเธอเดือดดาลด้วยความปรารถนาที่จะฆ่า เธอร้องลั่น “ฆ่ามัน!”บูม!บอดี้การ์ดเป็นสิบ ๆ คนที่รอคอยคำสั่งอยู่นำอาวุธของพวกเขาออกมาและกระโจนเข้าไปหาฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ผลักไคท์ให้ถอยห่างจากพวกเขาและก้าวไปข้างหน้า ในพริบตา เขาก็ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่าบอดี้การ์ดพวกเขาพยายามที่จะฆ่าเขา แต่ฮาร์วีย์ทำราวกับว่าไม่มีอะไรให้ต้องกลัว เขาจะตบและเตะเบา ๆ เป็นครั้งคราวไม่ว่าจะเป็นการตบหรือการเตะ ทุก ๆ การเคลื่อนไหวของเขาทำให้บอดี้การ์ดปลิวหรือลงไปดิ้นบนพื้นพร้อมกับกุมท้องที่บาดเจ็บของพวกเขาในเวลาไม่ถึงนาที บอดี้การ์ดของครอบครัววอล์คเกอร์ทั้งหมดก็นอนอยู่บนพื้นพร้อมกับการหดตัวจากความเจ็บปวด ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นยืนได้