“แล้วการที่คุณป้าถูกขังคุกไปเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”ฮาร์วีย์ ยอร์กขมวดคิ้วอีวอนน์ ซาเวียร์ถอนหายใจ“หลังจากที่ฉันได้รับข่าวว่าแม่ของฉันถูกจับเข้าคุก ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งหน้ากลับมายังมอร์ดูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”“แต่พอฉันเข้าไปในบ้านของตระกูลสมิธ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะจับฉันเป็นตัวประกันก่อนที่ฉันจะมีโอกาสได้ไหวตัวทันด้วยซ้ำ”“คนที่ทำสิ่งนี้คือเทอร์รี่ สมิธและผู้คุ้มกันส่วนตัวของเขา”“เขาบอกว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ แต่ฉันก็ต้องถูกกักตัวไว้ก่อน เพราะฉันอาจขัดขวางการสืบสวนได้!”“นอกจากนี้ ถ้าแม่ของฉันสังหารสมาชิกในตระกูลสมิธจริง ๆ ฉันจะต้องแต่งงานกับหนึ่งในสี่นายน้อยแห่งโวลซิ่ง เฮกเตอร์ ทอมป์สันเพื่อประกันตัวแม่ออกมา“แน่นอนว่า เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเป็นบ้าไปเสียก่อน ลูกพี่ลูกน้องของฉันจึงยังให้อิสระกับฉันอยู่บ้าง”แม้จะมีท่าทีเย็นชาของอีวอนน์ แต่เธอก็ขำกับตัวเองในคำอธิบายของเธอฮาร์วีย์ตอบอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนลูกพี่ลูกน้องของคุณซึ่งเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูจะไม่ยิ่งใหญ่อย่างที่ตำนานกล่าวไว้!”“เขายังต้อ
อีวอนน์ ซาเวียร์ถอนหายใจ เธอคิดเรื่องนี้โดยพิจารณาจากสติปัญญาของเธอแล้ว เธอก็ตอบอย่างใจเย็นว่า “ฉันไม่เคยอยากได้อะไรจากตระกูลสมิธ แม้แต่แม่ของฉันก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้”“ถึงจะเป็นอย่างนั้น บางครั้งคุณก็ยังตกที่นั่งลำลากไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม”ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม“ดูเหมือนจาเดน สมิธ คุณตาของคุณ คนที่รวยที่สุดในกังนัมจะคอยดูแลคุณและแม่ของคุณอยู่นะ”“หากไม่เป็นเช่นนั้น ทำไมเจ้าชายสมิธถึงต้องยอมเปลืองแรงทำสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความสนใจของเขาด้วยล่ะ?”อีวอนน์พยักหน้า“คุณตาของฉันปฏิบัติต่อฉันอย่างดี เขามักจะพูดติดตลกเเรื่องที่ฉันจะเข้ายึดครองตระกูลนี้ด้วยล่ะ”“ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้หรอก นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมุ่งหน้าไปที่เซาท์ไลน์“อีกอย่าง เมื่อเทียบกับความมั่งคั่งและเกียรติยศแล้ว ฉันอยากอยู่เคียงข้างคุณมากกว่า”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างเขินอาย เขาต้องไม่กดดันกับประโยคดังกล่าวเขาไม่รู้ว่าอีวอนน์ตั้งใจพูดออกมาเช่นนั้นรึเปล่า เธอเปลี่ยนเรื่องทันทีและพูดต่อ“หลังจากได้รับข้อความของคุณเมื่อวานนี้ ฉันก็รู้ว่าถ้าฉันไม่มาปรากฏตัวคุณก็จะเป็นฝ่ายปรากฏตัวมาเอง“สถานการณ์ของตระกูลกำลังตกอยู่ในควา
หลังจากจัดการกับปัญหาของอีวอนน์ ซาเวียร์แล้ว ฮาร์วีย์ ยอร์กก็เดินออกจากโรงแรมปรากก็เป็นเวลากลางคืนแล้วเมื่อคนของเบลลามี เบลคถูกส่งมาที่นี่เพื่อปกป้องอีวอนน์แล้ว ฮาร์วีย์จึงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยพวกเขาต้องรอให้ตระกูลสมิธดำเนินการ แล้วจึงค่อยหาโอกาสแก้ไขปัญหาทันทีฮาร์วีย์พร้อมที่จะจัดการกับสถานการณ์ของหลงเหมินสาขามอร์ดูอย่างสมบูรณ์ภายในสามวันข้างหน้าในตอนที่ฮาร์วีย์กำลังคิดว่าจะไปพบคนที่เบลลามี่ส่งมา จู่ ๆ ก็มีใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก เดินเข้ามาหาบุคคลนั้นสวมชุดชาแนลสีดำ แต่ไม่แต่งหน้าเลย รูปลักษณ์ของเธอดูมีเสน่ห์เหลือล้นดวงตาของฮาร์วีย์สว่างขึ้นทันที ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไคท์ วอล์คเกอร์นั่นเองไคท์ดูหงุดหงิดอย่างมากเมื่อเธอเดินมาที่นี่ ดวงตาของเธอสว่างวาบขึ้นทันทีที่เห็นฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ นั่นคุณเหรอ?!”“มาตามหาผมเหรอ? นี่คุณรีบร้อนที่จะมาหาผมขนาดนี้เชียวเหรอ?” ฮาร์วีย์พูดจาเล่นลิ้น“เราไม่ได้เจอกันแค่สองสามวัน คุณรีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณมาที่นี่เพื่อทำหน้าที่ในฐานะแฟนของผมหรือเปล่า?”“งั้นเราไปกินข้าวกันไหม? หรือเราจะไปดูหนังกัน?”“หรืออยากให้ผมไปที่บ้านคุณ
แกรี่ ดันเคนตอบด้วยความเย็นชา “ผมไม่รู้จักผู้บัญชาการคนไหนชื่อเบลคเลย“ผมรู้แค่ว่ามีคนให้เงินผมสิบห้าล้านดอลลาร์เพื่อให้ผมปกป้องคนในมอร์ดู“ใช่คุณรึเปล่า?”หลังจากที่เงียบไปนาน อีวอนน์ ซาเวียร์ก็ตอบว่า “ใช่ ฉันเอง”“ถ้าอย่างนั้นเข้ามาให้ผมดูหน้าหน่อย ผมขอเตือนไว้ก่อนนะ ผมจะไม่ปกป้องคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้า“ผม แกรี่ ดันเคน จะปกป้องเฉพาะคนที่ผมนับถือเท่านั้น”แกรี่วางสายหลังจากที่พูดจบหญิงสาวในบริเวณใกล้เคียงต่างได้ยินบทสนทนาของแกรี่ ด้วยรูปร่างและหน้าตาของเขา ผู้หญิงทุกคนถึงกับประหลาดใจเขาเป็นคนที่เจ้ากี้เจ้าการอย่างมาก!เขาไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านั้น แต่เขายังมีกดขี่คนอื่นอีกด้วย! คนธรรมดาไม่สามารถแม้แต่จะเปรียบเทียบตัวเองกับเขาได้!ผู้หญิงที่สง่างามอายุราว ๆ ยี่สิบหกปีเดินเข้ามาหาแกรี่ แม้ว่าเธอจะสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่าย แต่ทั้งหมดกลับเข้ากันได้อย่างลงตัวแกรี่ไม่สามารถซ่อนความชื่นชมจากสายตาของเขาได้“รุ่นพี่ พวกเราต้องปกป้องใครเหรอ? พวกเขากล้าหยิ่งและทำให้เราต้องนั่งรออยู่ที่นี่นานขนาดนี้เลยเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นชื่อฮานะ เธอเป็นรุ่นน้องของแกรี่แกรี่ตอบด้วยความใจเย
ขณะที่อีวอนน์ ซาเวียร์ยังคุยกับแกรี่ ดันเคนและฮานะ รถ Ferrari 488 สีแดงก็ได้แล่นเข้าสู่เขตหนึ่งในมอร์ดูที่เต็มไปด้วยวิลล่าที่หันหน้าเข้าหาทะเลย่านนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี อาคารต่าง ๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก แม้ว่าอาคารเหล่านี้จะค่อนข้างเก่า แต่ก็ได้รับการดูแลมาเป็นย่างดี เห็นได้ชัดว่าอาคารเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของผู้ที่ค่อนข้างจะชนชั้นสูงผู้คนอาจไม่กล้าแม้แต่จะขับรถเข้าไปในเขตนี้ด้วยซ้ำหากพวกเขาไม่มีรถที่หรูพอหลังจากนั้นไม่กี่นาที รถก็จอดที่หน้าวิลล่าหลังหนึ่ง จากนั้นฮาร์วีย์ ยอร์กและไคท์ วอลค์เกอร์ก็ลงมาจากรถไคท์พาฮาร์วีย์เดินเข้าไปในห้องโถงของวิลล่าการตกแต่งในห้องโถงนั้นวิจิตรงดงามพร้อมด้วยเตาผิงแบบดั้งเดิม ถ่านหินระดับไฮเอนด์กำลังลุกไหม้และปล่อยกลิ่นยางสนอันละเอียดอ่อนทั้งห้องโถงรู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ผลิ หญิงงามเจ็ดคนนั่งอยู่ในที่นั่งของตนผู้หญิงที่นั่งตรงกลางดูเหมือนจะอายุราว ๆ สามสิบ ผิวของเธอดูเรียบเนียน คิ้วของเธอบนเรือนร่างที่น่าหลงใหลเป๊ะราวกับว่ามาจากภาพวาด ภาพนั้นช่างมีเสน่ห์เหลือเกินเธอสวมเสื้อคลุมที่ทำขึ้นเฉพาะในกังนัมขณะที่นั่งไขว้ขาเรียวยาวและอุ้
รอยยิ้มบนใบหน้าของฮาร์วีย์ ยอร์กหายไป เธอมีข้อเสียของแม่เลี้ยงใจร้ายจริง ๆ ฮาร์วีย์อยากจะตบหน้าเธอในตอนนั้นเลยด้วยซ้ำแต่ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร ไคท์ วอลค์เกอร์ก็อธิบายอย่างเย็นชาว่า “ฉันขอแนะนำตัวเขานะคะ“นี่ฮาร์วีย์ แฟนฉัน!“ฉันมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าฉันมีแฟนแล้ว!“เรื่องของลูคัส ฌองและฉันจึงเป็นไปไม่ได้!“คุณยอมแพ้เถอะ!”ฮาร์วีย์มองไคท์ด้วยความสับสน เขาไม่คิดว่าเขาจะต้องพบกับความประหลาดใจหลังจากที่ตัดสินใจว่าจะตามไคท์ที่นี่‘ลูคัสต้องการแต่งงานกับเธอเหรอ?‘น่าสนใจ’“พอได้แล้ว อย่าเสียเวลาลองดีกับฉันหน่อยเลย“ถ้าเธอจะจ้างผู้ชายให้มาแกล้งเป็นแฟนเธอแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะหาคนที่ร่ำรวยกว่านี้“แต่กลับพาคนน่าสมเพชแบบนี้มา คิดว่าฉันตาบอดเหรอ?”แองเจลิน่าพูดตัดไคท์ด้วยความหงุดหงิด“ฉันไม่สนว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นแฟนเธอจริง ๆ หรือไม่!“ยังไงเธอก็จะต้องแต่งงานกับเจ้าขายฌอง!“เขาไปที่โวลซิงตั้งหลายวันเพียงเพื่อจัดการธุระให้พ่อเธอ!“เขาอาจจะกลับมาได้ทุกเมื่อ!“ฉันไม่สนว่าเธอกำลังทำเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อของเธอ หรือทั้งตระกูลวอลค์เกอร์!“กลับเตรียมตัวเดี๋ยวนี้! เมื่อไหร่ที่เจ้าช
คำสบประมาทดังก้องไปทั่วผู้หญิงที่น่าหลงใหลอีกหกคนกำลังหมุนแก้วไวน์ของพวกเธอในขณะที่พวกเธอกดดันฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างสนุกสนาน“อย่างนั้นเหรอ? ตระกูลวอลค์เกอร์แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?“แต่ผมเพิ่งจะตบหน้าจัสตินไปเมื่อวานนี้เอง…“อยากรู้จังว่าสมาชิกครอบครัวจะจัดการกับผมยังไงน้า?” ฮาร์วีย์พูดด้วยความใจเย็นรอยยิ้มบนใบหน้าของแองเจลีน่า จอห์นและคนอื่น ๆ ชะงัก‘เขาตบหน้าจัสตินเหรอ?’ประโยคนั้นเรียบง่ายและกระชับ แต่กลับทำให้แองเจลิน่าและคนอื่น ๆ ตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่ไคท์ วอลค์เกอร์ก็ยังมองฮาร์วีย์ด้วยความงุนงงแล้วจัสติน วอล์กเกอร์คือใคร?เขาเป็นผู้เฒ่าแห่งตระกูลวอล์คเกอร์และหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดู สถานะของเขาสูงส่งและอำนาจของเขาไม่มีที่สิ้นสุด เขาเป็นคนใหญ่โตเลยทีเดียว!แต่ฮาร์วีย์ที่ตบหน้าเขากลับยืนอยู่ตรงนี้โดยไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่นิดเดียว?ช่างเป็นเรื่องตลก!ไม่ใช่แค่จัสติน แม้แต่พี่น้องสิบคนของหลงเหมินที่ติดตามเขามานานหลายปีก็มีความกล้าหาญในการต่อสู้ที่คนธรรมดาไม่สามารถเทียบได้เขาสามารถพล่ามอะไรแบบนี้เพียงเพราะต้องการอวดได้จริง ๆ เหรอ?ตลกสิ้นดี!แองเจลิน่ากลับมา
ไคท์ วอลค์เกอร์ตัวคนเดียวตั้งแต่ที่แม่ของเธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในยุโรปตอนเหนือในฐานะผู้ป่วยติดเตียงที่นอนเป็นผัก และหลังจากที่พ่อของเธอแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นสำหรับคนนอกแล้วไคท์ถูกมองว่าเป็นคนดุร้ายและเย็นชา และเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงของมอร์ดูเพียงแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอทั้งอ่อนแอและบอบบางเมื่อยามค่ำคืนที่เงียบเหงาและอ้างว้าง เธอมักจะหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีใครสักคนเข้ามาคอยปกป้องเธอจากอันตรายจนไคท์คิดว่าคนแบบนั้นไม่มีอยู่จริงเธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะลุกขึ้นมาปกป้องเธอแม้แต่คนที่เย็นชาและไร้ความรู้สึกอย่างไคท์ก็รู้สึกอบอุ่นในขณะนี้“ไอ้สารเลว!”แองเจลีน่า จอห์นยืนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว แมวในอ้อมแขนของเธอกระโดดลงพร้อมกับส่งเสียงร้องเหมียวอย่างดัง“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ดูเหมือนว่าแกจะไม่รู้ซะแล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร!“แกคิดจริง ๆ เหรอว่าตอนนี้แกใหญ่โตมาก? เจ้าโง่!”สายตาของแองเจลิน่าเต็มไปด้วยความเย็นชา หลังจากที่จ้องฮาร์วีย์แล้ว เธอก็ละสายตาไปที่ไคท์“ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย“ตบหน้าไอ้นี่สักสองทีแล้วพามันไปพ้นหน้าฉันซะ!“ไม่อย่างนั้นฉันจะให้การ์ด