ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดไม่ออกชั่วขณะและไม่รู้จะพูดอะไรต่อเคลลี่ มาโลนรู้สึกอายมากเช่นกัน ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะมีค่ามากน้อยเพียงใด ก็ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงน้ำใจของฮาร์วีย์ แต่มันกลับกลายเป็นเช่นนี้...เขาอายนิดหน่อยและพูดว่า “เอาล่ะ อย่าเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระกันเลย รีบกินเถอะ!”ในทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของฮาร์วีย์สั่น เขาหยิบมันขึ้นมารับสายโดยไม่รู้ตัวและได้ยินเสียงตื่นตระหนกของโยนาลินช์จากปลายสาย “นายน้อยยอร์ก มีบางอย่างเกิดขึ้น รีบมาเร็วเข้า ไม่งั้นฉันจะ…”โทรศัพท์ถูกตัดสายไปก่อนที่โยนาจะทันได้พูดจบ เมื่อฮาร์วีย์โทรกลับไปเขาก็ได้รับเพียงเสียงสัญญาณตอบรับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลลินช์!แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่อยากสนใจความเป็นไปของตระกูลลินช์มากนัก แต่ในตอนนี้เขาก็ยังกังวลเล็กน้อยเรื่องโยนาเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบพูดว่า “ลุงมาโลน มีบางอย่างเกิดขึ้น ผมต้องไปแล้ว ทานอาหารค่ำให้อร่อยนะครับ วันหลังผมจะเชิญไปทานอาหารเย็นด้วยกัน!”จากนั้นเขาก็เพิกเฉยต่อการยื้อของเคลลี่และออกไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ“ฮึ่ม ฉันแค่ตุ๋นเห็ดของเขาและต้มชาผู่เอ๋อ มาทำตัวอย่างนี้ได้ยังไง?”จูน ลี โกรธจนตัวสั
เคลลี่ มาโลนไม่รู้ว่าพ่อตาของเขาจะทำอะไรและตอบโดยไม่รู้ตัวว่า “หลานชายของผมมอบให้…”"หลานชายเหรอ? ดี ดี หลานชายคนนี้ค่อนข้างดีกับเธอนะ!”คุณพ่อลีบีบกากชาเล็กน้อยแล้วเคี้ยวในปาก จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและพูดว่า “นี่คือชาผู่เอ๋อดิบจากโอไฮโอ มีต้นชาเหลืออยู่เพียงสามต้นในบริเวณชายแดน ผลผลิตต่อปีมีไม่ถึงร้อยก้อนด้วยซ้ำ”“ฉันเคยเห็นมันในการประมูลมาก่อน ราคาประมูลเกือบถึงหนึ่งแสนสองหมื่นดอลลาร์ต่อก้อน เด็กที่ให้ชาผู่เอ๋อนี้กับเธอนั้นต้องให้ความเคารพต่อเธอมากเลยล่ะ!”เคลลี่และครอบครัวตกตะลึง "อะไรนะ? ชาผู่เอ๋อดิบ? หนึ่งแสนสองหมื่นดอลลาร์ต่อก้อน?”คุณพ่อลีหัวเราะและกล่าวว่า “ฉันดูไม่ผิดหรอกเคลลี่ ยังไงก็เถอะ เธอต้องให้ชาผู่เอ๋อครึ่งหนึ่งกับฉัน ชาอยู่ไหน? ขอฉันดูหน่อย!"สายตาของเคลลี่จับจ้องไปที่หม้อบนโต๊ะโดยไม่รู้ตัวคุณพ่อลีมองตามสายตาของเคลลี่ไป มุมตาของเขากระตุกในวินาทีต่อมา “ไข่ต้มใบชา? เธอใช้ก้อนชาผู่เอ๋อร์ราคา หนึ่งแสนสองหมื่นดอลลาร์ต่อก้อนมาทำไข่ต้มใบชาเท่านั้นหรือ?!”จูน ลีขมวดคิ้วและพูด “พ่อ หยุดพูดอะไรเลอะเทอะจะได้ไหม? นี่คือของขวัญจากญาติจน ๆ ของเคลลี่ มันจะเป็นชาผู่เอ๋อร์ที่มีรา
เฮเซล มาโลนมองไปที่แม่ล้มตัวลงไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง เธอเพิ่งรู้สึกตัวหลังจากนั้นครู่หนึ่ง“ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นสามีแต่งเข้าบ้านของซีอีโอสาวคนหนึ่งไม่ใช่หรือ? เขาต้องเอาของขวัญพวกนี้มาจากบ้านของอดีตภรรยามาให้เราแน่ ๆ!”“ดังนั้นของพวกนี้จึงเป็นของจริง!”เฮเซลก็เป็นลมในทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องนี้จู่ ๆ ครอบครัวมาโลนก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น***ในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็มาถึงที่คฤหาสน์ตระกูลลินช์ด้วยรถแท็กซี่แล้วขณะนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ท้องฟ้าสลัวและไฟของคฤหาสน์ตระกูลลินช์ก็สว่างขึ้นภายใต้สายลมจากทะเลที่พัดเข้ามา วิลล่าโบราณทั้งหลังดูคล้ายบ้านผีสิงในตำนาน“ความอาฆาตแค้น…”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเขาเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลลินช์แต่เขาไม่ได้พูดอะไร“นายน้อยยอร์ก คุณมาแล้ว!”ฮาร์วีย์กดกริ่ง ในไม่ช้าโยนาลินช์ซึ่งดูกลุ้มใจก็เข้ามาทักทายเขาจากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่สวนหลังบ้าน“ทำไมจู่ ๆ ถึงวางสายไปล่ะ?” ฮาร์วีย์พูดออกไป“แม่บุญธรรมของฉันทำโทรศัพท์ฉันพัง ตอนนี้สถานการณ์ยุ่งเหยิง…” โยนายิ้มอย่างขมขื่นขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป พวกเขาเห็นผู้คุมและผู้คุ้มกันหลายคนรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ในขณะเดียวกัน มีคนมากกว่ายี่สิบคนนอนอยู่บนพื้น กระดูกของพวกเขาถูกหักทั้งหมด บางคนถึงหายใจไม่ได้และมีปัญหาด้านการหายใจอาจกล่าวได้ว่าความทุกข์ระทมได้แพร่กระจายไปทั่วสถานที่และช่างน่าสยดสยองผู้คุ้มกัดมากกว่าหนึ่งโหลปกป้องเบนจามิน ลินช์ไว้ เบญจามินยังคงตะโกนออกไปด้วยใบหน้าซีดเซียว “ห้ามใช้อาวุธร้ายแรง อย่าทำร้ายนายหญิงลินช์!”เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเห็นภรรยาของเขาต้องเจ็บปวดโยนา ลินช์เดินไปอย่างรวดเร็วและกระซิบว่า “พ่อบุญธรรม! นายน้อยยอร์กมาแล้ว!”“น้องยอร์ก!”เบนจามินรีบเข้ามาหาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น เขากระซิบ “ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง! โปรดยกโทษให้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมด้วย!”“ใช่แล้วล่ะ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่คุณพูดไว้เลย ตอนนี้มันเริ่มอยู่เหนือการควบคุมแล้ว!”“ได้โปรดเถอะ น้องยอร์ก ผมขอร้องคุณ โปรดเมตตาและช่วยภรรยาของผมก่อน!”“หลังจากเรื่องนี้สิ้นสุดลง ไม่ว่าคุณจะเอ่ยขออะไร ผมจะไม่ปฏิเสธ ต่อให้คุณต้องการชีวิตของผม ผมก็ให้ได้!”ในตอนนี้เบนจามินนึกเสียใจ ฮาร์วีย์ ยอร์กทำนายสถานการณ์ปัจจุบันของภรรยาเขาได้ตั้งแต่ก่อนเที่ยง ซึ่งได้อธิบายถึงปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอ
ขณะที่ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตา นายหญิงลินช์ที่เห็นฮาร์วีย์เข้าก็ทำท่าราวกับสัตว์ร้ายที่ดูหวาดกลัว จากนั้นเธอก็คว่ำผู้คุ้มกันทุกคนที่ล้อมรอบเธอลงกับพื้นทันทีจากนั้นเธอก็เดินตรงไปหาูผู้คุ้มกันคนหนึ่ง เธอเหวี่ยงหมัดไปทุบเขา"อ๊า!"ผู้คุ้มกันลอยออกไป เขากระอักเลือดออกมาก่อนจะเป็นลมไป ไม่รู้ว่าซี่โครงหักไปกี่ซี่ปัง ปัง ปัง!ในวินาทีหลังจากนั้น ผู้คุ้มกันบางคนก็ลอยออกไปทีละคน และพวกเขาทำได้เพียงหายใจอย่างโรยริน พวกเขาร่วงลงสู่พื้น“เจ้าปีศาจร้าย ฉันขับไล่แกออกไปแล้วนี่ แต่แกยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากร่างของนายหญิงลินช์!”“พวกที่รับผิดชอบด้านอาวุธและการต่อสู้ เรียงแถวเป็นแนวหน้าและเป็นทัพหน้าให้ผม!”“โค่นเธอลง!”ในวินาทีต่อมา ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ก็รีบวิ่งออกมาจากด้านข้างโดยถือดาบไม้ท้อและกระดาษสีเหลืองที่ถูกเผาไหม้อย่างต่อเนื่องหลายแผ่นนายหญิงลินช์รู้สึกราวกับถูกสะกดไว้เล็กน้อยขณะที่ดาบถูกกวัดแกว่งผู้หญิงสองสามคนของคฤหาสน์ลินช์กำลังดูความสนุกจากข้างสนาม พวกเธอต่างพากันโห่ร้องเมื่อเห็นท่านอาจารย์ซิกเลอร์ทำท่าทางราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญจากจักรวาลและดูทรงพลังมาก“ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ไม่มีวัน
ก่อนที่ทิโมธี เฟจจะพูดจบ ในวินาทีต่อมาใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว และปากของเขาก็อ้าค้างเบนจามิน ลินช์และคนอื่น ๆ ก็มองตามไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกันจากนั้นพวกเขาก็เห็นนายหญิงลินช์ซึ่งตอนแรกนั้นแข็งแกร่งและดุร้าย กลับชะงักไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อฮาร์วีย์ ยอร์กเดินไปใกล้ในวินาทีต่อมาเธอก็หันหลังกลับและวิ่งหนี…ทิโมธีตะลึง!โยนา ลินช์ตะลึง!เบนจามินเองก็ตะลึงเช่นกัน!ทุกคนต่างตกตะลึง!แม้ว่าตอนนี้ทั้งเบนจามินและโยนาต่างก็เชื่อว่าฮาร์วีย์จะสามารถแก้ปัญหาได้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดถึงผลลัพธ์ที่แสนวิเศษเช่นนี้ เพียงแค่ก้าวออกไปเขาก็ทำให้นายหญิงลินช์ที่ดุร้ายหวาดกลัวได้ในทันที“คิดจะหนีเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยหรือ?”ฮาร์วีย์ดูเฉยเมยและก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เขาเชื่องช้า แต่กลับสาวเท้าได้ยาวในแต่ละก้าวเดินนายหญิงลินช์ดูเหมือนจะหวาดกลัว เธอยิ่งวิ่งเร็วขึ้นไปอีกทั้งสองมาถึงสวนด้านหลังในชั่วพริบตา“ฮาร์วีย์น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”“แม้แต่ปีศาจก็ยังกลัวเขา?”"เป็นไปไม่ได้ เขาก็แค่ไอ้บ้านนอกคนหนึ่ง เขาจะมีความสามารถเช่นนี้ได้ยังไง?!”ทิโมธีตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเลยว่าพี่สาวที่ทรงพลังมากในปัจจุบัน จะก
ฮาร์วีย์ ยอร์กขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้ในตอนที่เขาอยู่ในสนามรบก่อนหน้านี้เขาก็รู้ว่าชาวประเทศหมู่เกาะมีจิตใจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะซามูไรจากประเทศเกาะ เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขามักจะฆ่าตัวตายมากกว่ายอมจำนนองเมียวจิจากตระกูลสึจิมิคาโดะคนนี้ได้ฆ่าตัวตายหลังจากที่เขาถูกจับได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของฮาร์วีย์หลังจากเฝ้าดูศพอยู่ครู่หนึ่งฮาร์วีย์ก็เดินออกมาพร้อมกับอุ้มนายหญิงลินช์ไว้ในอ้อมแขน จากนั้นเขาก็ส่งเธอให้เบนจามิน ลินช์และพูดว่า “นายหญิงลินช์ถูกคน ๆ นั้นชักใยด้วยมนต์สะกด ตอนนี้ผมได้ลบล้างมนต์สะกดนั้นไปแล้ว แค่หาหมอจ่ายยาให้เธอแล้วเธอก็จะหายดี”“อย่าบอกนายหญิงลินช์ว่าในวันนี้เกิดอะไรขึ้น ผมกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้”"ใช่ ใช่ ใช่!"เบนจามินรู้สึกปิติ จากนั้นเขาก็อุ้มนายหญิงลินช์เข้าไปในห้องและขอให้คนของเขาไปตามหมอมาตอนนี้ฮาร์วีย์ได้แก้ปัญหาใหญ่เสร็จแล้ว ส่วนปัญหาเล็กน้อยที่เหลือเขาจะแก้ได้ด้วยตัวเองขณะนี้ ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของฮาร์วีย์อีกยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ทุกคนเห็นชายชุดดำคนนั้นแล้ว ศพของเขายังอยู่ที่นั่นมองจากมุมนี้แล้วนายหญิงลินช์ไม่เคยถูกวิญญาณ
เมื่อเห็นว่าท่านอาจารย์ซิกเลอร์กำลังจะถูกลากออกไปข้างนอก...จู่ ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์กก็กระซิบว่า “นายท่านลินช์ ทักษะของท่านอาจารย์ซิกเลอร์อาจจะไม่ได้น่าทึ่งอะไรนัก แต่เขาพยายามช่วยจริง ๆ”“ช่วยผมหน่อย ให้เขามีชีวิตรอดต่อไปเถอะ อย่างไรเสียนายหญิงลินช์ก็เพิ่งจะฟื้นตัว เธอต้องทำบุญทำทานเสียหน่อย”“ก็ได้ เอาตามที่คุณว่า น้องยอร์ก!” แม้ว่าเบนจามิน ลินช์จะไม่รู้ว่าเหตุใดฮาร์วีย์จึงช่วยเหลืออาจารย์ซีกเลอร์ แต่เขาก็ไม่สนใจคนไม่สำคัญเช่นเขา“ส่งเขาไปรักษาตัวโรงพยาบาล แล้วอย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก!”“ขอบคุณนายท่านลินช์ ขอบคุณนายน้อยยอร์ก!”ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นและวิงวอนต่อฮาร์วีย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังและยังมีลมหายใจต่อไปได้สำหรับฮาร์วีย์แล้วนั่นอาจเป็นเพียงโยคสั้น ๆ แต่สำหรับเขาแล้ว คำพูดเหล่านั้นได้ช่วยชีวิตเขาไว้“นายน้อยยอร์ก คุณช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะไม่มีวันลืมเลย”หลังจากพูดจบ เขาก็ถูกผู้คุ้มกันพาตัวออกไป พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เขาอยู่เป็นหนามยอกอกที่นี่อีกต่อไปหลังจากที่ท่านอาจารย์ซิกเลอร์หายไป เบนจามินก็เหลือบไปมองทิโมธี เ