เฮเซล มาโลนมองไปที่แม่ล้มตัวลงไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง เธอเพิ่งรู้สึกตัวหลังจากนั้นครู่หนึ่ง“ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นสามีแต่งเข้าบ้านของซีอีโอสาวคนหนึ่งไม่ใช่หรือ? เขาต้องเอาของขวัญพวกนี้มาจากบ้านของอดีตภรรยามาให้เราแน่ ๆ!”“ดังนั้นของพวกนี้จึงเป็นของจริง!”เฮเซลก็เป็นลมในทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องนี้จู่ ๆ ครอบครัวมาโลนก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น***ในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็มาถึงที่คฤหาสน์ตระกูลลินช์ด้วยรถแท็กซี่แล้วขณะนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ท้องฟ้าสลัวและไฟของคฤหาสน์ตระกูลลินช์ก็สว่างขึ้นภายใต้สายลมจากทะเลที่พัดเข้ามา วิลล่าโบราณทั้งหลังดูคล้ายบ้านผีสิงในตำนาน“ความอาฆาตแค้น…”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเขาเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลลินช์แต่เขาไม่ได้พูดอะไร“นายน้อยยอร์ก คุณมาแล้ว!”ฮาร์วีย์กดกริ่ง ในไม่ช้าโยนาลินช์ซึ่งดูกลุ้มใจก็เข้ามาทักทายเขาจากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่สวนหลังบ้าน“ทำไมจู่ ๆ ถึงวางสายไปล่ะ?” ฮาร์วีย์พูดออกไป“แม่บุญธรรมของฉันทำโทรศัพท์ฉันพัง ตอนนี้สถานการณ์ยุ่งเหยิง…” โยนายิ้มอย่างขมขื่นขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป พวกเขาเห็นผู้คุมและผู้คุ้มกันหลายคนรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ในขณะเดียวกัน มีคนมากกว่ายี่สิบคนนอนอยู่บนพื้น กระดูกของพวกเขาถูกหักทั้งหมด บางคนถึงหายใจไม่ได้และมีปัญหาด้านการหายใจอาจกล่าวได้ว่าความทุกข์ระทมได้แพร่กระจายไปทั่วสถานที่และช่างน่าสยดสยองผู้คุ้มกัดมากกว่าหนึ่งโหลปกป้องเบนจามิน ลินช์ไว้ เบญจามินยังคงตะโกนออกไปด้วยใบหน้าซีดเซียว “ห้ามใช้อาวุธร้ายแรง อย่าทำร้ายนายหญิงลินช์!”เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเห็นภรรยาของเขาต้องเจ็บปวดโยนา ลินช์เดินไปอย่างรวดเร็วและกระซิบว่า “พ่อบุญธรรม! นายน้อยยอร์กมาแล้ว!”“น้องยอร์ก!”เบนจามินรีบเข้ามาหาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น เขากระซิบ “ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง! โปรดยกโทษให้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมด้วย!”“ใช่แล้วล่ะ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่คุณพูดไว้เลย ตอนนี้มันเริ่มอยู่เหนือการควบคุมแล้ว!”“ได้โปรดเถอะ น้องยอร์ก ผมขอร้องคุณ โปรดเมตตาและช่วยภรรยาของผมก่อน!”“หลังจากเรื่องนี้สิ้นสุดลง ไม่ว่าคุณจะเอ่ยขออะไร ผมจะไม่ปฏิเสธ ต่อให้คุณต้องการชีวิตของผม ผมก็ให้ได้!”ในตอนนี้เบนจามินนึกเสียใจ ฮาร์วีย์ ยอร์กทำนายสถานการณ์ปัจจุบันของภรรยาเขาได้ตั้งแต่ก่อนเที่ยง ซึ่งได้อธิบายถึงปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอ
ขณะที่ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตา นายหญิงลินช์ที่เห็นฮาร์วีย์เข้าก็ทำท่าราวกับสัตว์ร้ายที่ดูหวาดกลัว จากนั้นเธอก็คว่ำผู้คุ้มกันทุกคนที่ล้อมรอบเธอลงกับพื้นทันทีจากนั้นเธอก็เดินตรงไปหาูผู้คุ้มกันคนหนึ่ง เธอเหวี่ยงหมัดไปทุบเขา"อ๊า!"ผู้คุ้มกันลอยออกไป เขากระอักเลือดออกมาก่อนจะเป็นลมไป ไม่รู้ว่าซี่โครงหักไปกี่ซี่ปัง ปัง ปัง!ในวินาทีหลังจากนั้น ผู้คุ้มกันบางคนก็ลอยออกไปทีละคน และพวกเขาทำได้เพียงหายใจอย่างโรยริน พวกเขาร่วงลงสู่พื้น“เจ้าปีศาจร้าย ฉันขับไล่แกออกไปแล้วนี่ แต่แกยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากร่างของนายหญิงลินช์!”“พวกที่รับผิดชอบด้านอาวุธและการต่อสู้ เรียงแถวเป็นแนวหน้าและเป็นทัพหน้าให้ผม!”“โค่นเธอลง!”ในวินาทีต่อมา ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ก็รีบวิ่งออกมาจากด้านข้างโดยถือดาบไม้ท้อและกระดาษสีเหลืองที่ถูกเผาไหม้อย่างต่อเนื่องหลายแผ่นนายหญิงลินช์รู้สึกราวกับถูกสะกดไว้เล็กน้อยขณะที่ดาบถูกกวัดแกว่งผู้หญิงสองสามคนของคฤหาสน์ลินช์กำลังดูความสนุกจากข้างสนาม พวกเธอต่างพากันโห่ร้องเมื่อเห็นท่านอาจารย์ซิกเลอร์ทำท่าทางราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญจากจักรวาลและดูทรงพลังมาก“ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ไม่มีวัน
ก่อนที่ทิโมธี เฟจจะพูดจบ ในวินาทีต่อมาใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว และปากของเขาก็อ้าค้างเบนจามิน ลินช์และคนอื่น ๆ ก็มองตามไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกันจากนั้นพวกเขาก็เห็นนายหญิงลินช์ซึ่งตอนแรกนั้นแข็งแกร่งและดุร้าย กลับชะงักไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อฮาร์วีย์ ยอร์กเดินไปใกล้ในวินาทีต่อมาเธอก็หันหลังกลับและวิ่งหนี…ทิโมธีตะลึง!โยนา ลินช์ตะลึง!เบนจามินเองก็ตะลึงเช่นกัน!ทุกคนต่างตกตะลึง!แม้ว่าตอนนี้ทั้งเบนจามินและโยนาต่างก็เชื่อว่าฮาร์วีย์จะสามารถแก้ปัญหาได้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดถึงผลลัพธ์ที่แสนวิเศษเช่นนี้ เพียงแค่ก้าวออกไปเขาก็ทำให้นายหญิงลินช์ที่ดุร้ายหวาดกลัวได้ในทันที“คิดจะหนีเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยหรือ?”ฮาร์วีย์ดูเฉยเมยและก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เขาเชื่องช้า แต่กลับสาวเท้าได้ยาวในแต่ละก้าวเดินนายหญิงลินช์ดูเหมือนจะหวาดกลัว เธอยิ่งวิ่งเร็วขึ้นไปอีกทั้งสองมาถึงสวนด้านหลังในชั่วพริบตา“ฮาร์วีย์น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”“แม้แต่ปีศาจก็ยังกลัวเขา?”"เป็นไปไม่ได้ เขาก็แค่ไอ้บ้านนอกคนหนึ่ง เขาจะมีความสามารถเช่นนี้ได้ยังไง?!”ทิโมธีตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเลยว่าพี่สาวที่ทรงพลังมากในปัจจุบัน จะก
ฮาร์วีย์ ยอร์กขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้ในตอนที่เขาอยู่ในสนามรบก่อนหน้านี้เขาก็รู้ว่าชาวประเทศหมู่เกาะมีจิตใจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะซามูไรจากประเทศเกาะ เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขามักจะฆ่าตัวตายมากกว่ายอมจำนนองเมียวจิจากตระกูลสึจิมิคาโดะคนนี้ได้ฆ่าตัวตายหลังจากที่เขาถูกจับได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของฮาร์วีย์หลังจากเฝ้าดูศพอยู่ครู่หนึ่งฮาร์วีย์ก็เดินออกมาพร้อมกับอุ้มนายหญิงลินช์ไว้ในอ้อมแขน จากนั้นเขาก็ส่งเธอให้เบนจามิน ลินช์และพูดว่า “นายหญิงลินช์ถูกคน ๆ นั้นชักใยด้วยมนต์สะกด ตอนนี้ผมได้ลบล้างมนต์สะกดนั้นไปแล้ว แค่หาหมอจ่ายยาให้เธอแล้วเธอก็จะหายดี”“อย่าบอกนายหญิงลินช์ว่าในวันนี้เกิดอะไรขึ้น ผมกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้”"ใช่ ใช่ ใช่!"เบนจามินรู้สึกปิติ จากนั้นเขาก็อุ้มนายหญิงลินช์เข้าไปในห้องและขอให้คนของเขาไปตามหมอมาตอนนี้ฮาร์วีย์ได้แก้ปัญหาใหญ่เสร็จแล้ว ส่วนปัญหาเล็กน้อยที่เหลือเขาจะแก้ได้ด้วยตัวเองขณะนี้ ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของฮาร์วีย์อีกยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ทุกคนเห็นชายชุดดำคนนั้นแล้ว ศพของเขายังอยู่ที่นั่นมองจากมุมนี้แล้วนายหญิงลินช์ไม่เคยถูกวิญญาณ
เมื่อเห็นว่าท่านอาจารย์ซิกเลอร์กำลังจะถูกลากออกไปข้างนอก...จู่ ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์กก็กระซิบว่า “นายท่านลินช์ ทักษะของท่านอาจารย์ซิกเลอร์อาจจะไม่ได้น่าทึ่งอะไรนัก แต่เขาพยายามช่วยจริง ๆ”“ช่วยผมหน่อย ให้เขามีชีวิตรอดต่อไปเถอะ อย่างไรเสียนายหญิงลินช์ก็เพิ่งจะฟื้นตัว เธอต้องทำบุญทำทานเสียหน่อย”“ก็ได้ เอาตามที่คุณว่า น้องยอร์ก!” แม้ว่าเบนจามิน ลินช์จะไม่รู้ว่าเหตุใดฮาร์วีย์จึงช่วยเหลืออาจารย์ซีกเลอร์ แต่เขาก็ไม่สนใจคนไม่สำคัญเช่นเขา“ส่งเขาไปรักษาตัวโรงพยาบาล แล้วอย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก!”“ขอบคุณนายท่านลินช์ ขอบคุณนายน้อยยอร์ก!”ท่านอาจารย์ซิกเลอร์ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นและวิงวอนต่อฮาร์วีย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังและยังมีลมหายใจต่อไปได้สำหรับฮาร์วีย์แล้วนั่นอาจเป็นเพียงโยคสั้น ๆ แต่สำหรับเขาแล้ว คำพูดเหล่านั้นได้ช่วยชีวิตเขาไว้“นายน้อยยอร์ก คุณช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะไม่มีวันลืมเลย”หลังจากพูดจบ เขาก็ถูกผู้คุ้มกันพาตัวออกไป พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เขาอยู่เป็นหนามยอกอกที่นี่อีกต่อไปหลังจากที่ท่านอาจารย์ซิกเลอร์หายไป เบนจามินก็เหลือบไปมองทิโมธี เ
“ดูเหมือนว่านายท่านลินช์จะรู้ว่าตระกูลสึจิมิคาโดะหมายถึงอะไร” ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตาเล็กน้อยเบนจามิน ลินช์สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดช้า ๆ ว่า “ตระกูลสึจิมิคาโดะ เป็นหนึ่งในห้าตระกูลราชวงศ์ของประเทศหมู่เกาะ เป็นห้าตระกูลราชวงศ์ในตำนาน“ทุกวันนี้ตระกูลทั้งห้านี้แทบไม่ปรากฏตัวในโลกนี้ พวกเขาจะปรากฏตัวเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาที่มีปัญหาเท่านั้น ในบรรดาห้าตระกูลนี้ ตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือตระกูลสึจิมิคาโดะ“นี่เป็นเพราะองเมียวจิที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์จากประเทศหมู่เกาะมาจากตระกูลสึจิมิคาโดะ อาเบะ โนะ เซเม”“แต่เรามักจะเดินกันทางใครทางมัน ทำไมพวกเขาถึงมาลงมือกับภรรยาของผม?”ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “นายท่านลินช์ อย่าลืมวิชาหยินหยางที่ผมกำจัดให้คุณไปเมื่อสองสามวันก่อนสิ ตระกูลสึจิมิคาโดะไม่เพียงแต่โจมตีภรรยาของคุณเท่านั้น แต่พวกเขายังวางแผนที่จะฆ่าคุณมาตั้งหลายครั้งอีกด้วย“ชาวประเทศหมู่เกาะจะไม่ทำอะไรโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย พวกเขาจะไม่ทำข้อตกลงที่ขาดทุน ดังนั้นคุณควรคิดให้ดี ๆ ว่าคุณทำให้ชาวประเทศหมู่เกาะขุ่นเคืองเรื่องใดมาก่อนหรือเปล่า?”เบนจามินขมวดคิ้ว และเขาพูดช้า ๆ
เบนจามิน ลินช์ส่งคนไปจัดการกับศพในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเขายังจัดทีมก่อสร้างในวันรุ่งขึ้นและนำรถขุดและรถเจาะกำแพงเข้ามาหลายคันหลังจากฮาร์วีย์ ยอร์กกินอาหารเช้าเสร็จ เขาก็พาเบนจามินและโยนา ลินช์ไปที่ห้องเก็บไวน์ห้องเก็บไวน์นี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมและมีซากสลักหักพังมากมาย มันดูอึมครึมเล็กน้อยแม้ในเวลากลางวันหลังจากตรวจสอบแผนผังสักพัก ฮาร์วีย์ก็ชี้ไปที่ทิศทางบนกำแพงแล้วพูดว่า “ทำลายมันซะ!”แม้ว่าเบนจามินจะสับสนเล็กน้อย แต่เขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของฮาร์วีย์ในไม่ช้า กำแพงหนาครึ่งเมตรถูกทำลายทิ้ง เผยให้เห็นประตูเหล็กสีเข้มด้านใน ซึ่งเป็นผลิตผลของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ฮาร์วีย์ดูเฉยชาหลังจากเห็นฉากนี้ ทว่าเบนจามินกลับรู้สึกตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคาดคิดว่าโครงสร้างดังกล่าวจะถูกซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินนี้“น้องยอร์ก นี่คือ…”ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย “ถ้าผมจำไม่ผิด นี่คือห้องปฏิบัติการทางชีวเคมีที่ประเทศหมู่เกาะจัดตั้งขึ้นที่นี่ในช่วงสงครามตะวันออก”“ข่าวลือท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเท็จ”“เพียงเพราะประเทศหมู่เกาะพ่ายแพ้ในสงครามและออกจากที่นี่ไปอย่างเร่งรีบ ดังนั้นพวกเขาจึงจัด